[ศึกชิงลิขสิทธิ์บอลไทย] ไทยรัฐทีวี VS เกราะเพชร 7 สี วัดกันหมัดต่อหมัดในการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดบอลไทยไปบริหารจัดการ

ต้องยอมรับว่าบอลไทยยุคนี้มีมูลค่าที่สูงมาก ใครได้ลิทสิทธิ์ไป เปรียบเสมือนได้ทองคำ ไม่ว่ารายการของชุดเล็ก ไปถึงชุดใหญ่
จะเห็นได้ว่า 5-6 ปี ที่ผ่านมา ไทยลีกบ้านเรามูลค่าลิทสิทธิ์ถ่ายทอดสด พุ่งไปถึง 4 พันกว่าล้านบาท บิ๊กเนมหลายๆ วงการ ไม่ว่าจะเป็นวงการธุรกิจ นักการเมือง แม้แต่ดารา เข้ามาจับตลาดบอลไทย เพราะฟุตบอลคือกีฬามหานิยมของคนทั้งประเทศ 60 กว่าล้านคน ถือว่าเป็นตลาด Mass ที่ใหญ่ สปอนเซอร์ธุรกิจรายใหญ่ให้ความสนใจเข้ามาสนับสนุน เพราะเป็นช่องทางการขยายการตลาดของฐานลูกค้าที่ไปได้อย่างรวดเร็ว
ทีนี้มาดูกันว่าใครที่ได้ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดบอลไทยไปแล้ว ช่องไหนจะบริหารดีกว่ากัน
ในที่นี้ ขอวัดกัน 2 เจ้า ที่เห็นชัดในการแย่งกันซื้อลิขสิทธิ์บอลรายการทีมชาติไทย ไปทำการบริหารจัดการถ่ายทอดสด เจ้าไหนดีด้อยอย่างไร มาดูกัน

1.เรื่องเวลา ความจุใจอรรถรสในการชม
ต้องยอมรับว่าไทยรัฐ คือ เจ้าแรกที่กล้าเล่นเรื่องเวลา ปรับผังเวลารายการ มีการดำเนินรายการวิเคราะห์ก่อนเกม ถึง 30 นาที นำไฮไลท์ บรรยากาศสดในสนามมาอัพเดทกับแฟนบอล รวมถึงหลังเกม ก็ไม่ตัดบท ยังตามไล่เก็บทุกบรรยากาศ ทุกรายละเอียดของเกมการแข่งขันได้อย่างอิ่มเอมจุใจแฟนบอลสุดๆ จุดแข็งจุดนี้ทำให้ช่อง 7 ตายสนิท เพราะฝั่งบอร์ดช่อง 7 ยังให้น้ำหนักกับรายการผังรายการหลัก ละครต่างๆ อยู่ จุดนี้ทำให้มีข้อจำกัดเรื่องเวลา ทุกอย่างต้องกระชับ ฟิกเวลา โผล่มาตอนร้องเพลงชาติ แล้วตัดจบตอนเป่าหมดเวลา โค้ช และนักเตะยังไม่ทันจับมือกันทั่วก็ตัดเข้ารายการปกติทันที เวลาเป็นเงินเป็นทอง ถ้าย้อนไปสมัยถ่ายทอดสดยุคเก่า ยิ่งแล้วใหญ่ ระหว่างถ่ายทอดสด จะใช้วิธีเปิดโฆษณาระหว่างทุ่ม เตะออก แล้วให้ภาพสดเล่นย่อในมุมกรอบเล็กๆ แทน รีเพลไม่ได้ดู บางทียิงเข้าไปแล้วตัดมาภาพเต็มก็ไม่ได้อารมณ์การเชียร์แล้ว ซึ่งกระแสมันแรง ช่อง 7 พักหลังเลยไม่ทำย่อแบบนั้นอีก ไม่อย่างนั้นอาจเจอกระแสรุมแน่นอน

2.เทคโนโลยีมุมกล้องการถ่ายทอดสด
อันนี้ขอให้เครดิตช่อง 7 เป็นไพโอเนี่ยร์ ผู้บุกเบิกเทคโนโลยีมุมกล้องถ่ายทอดระดับบอลยุโรป ซุปเปอร์สโลโมชั่น หลายมุมกล้อง ซึ่งทำได้ดีมากในซูซูกิคัพ การตัดต่อภาพจังหวะถือว่าโปร ทำได้ดีมาก จนทำให้เป็นตัวอย่างให้หลายช่องที่ถ่ายทอดสดฉุกคิดที่จะต้องนำมาใช้ ถือว่าเป็นผู้บุกเบิกพัฒนาการถ่ายทอดสดวงการทีวีบ้านเรา เพราะหลังจากนั้นไทยรัฐก็ได้นำมาใช้อย่างจริงจัง และไทยลีกทรูก็เริ่มนำซุปเปอร์สโลเริ่มมาใช้ครั้งหลังๆ บ้างแล้ว

3.กราฟิตี้ CG ข้อมูลวิเคราะห์ ก่อน-ระหว่าง-หลังเกม
ข้อนี้ช่อง 7 ก็ตายสนิทเช่นเคย กราฟิก CG ข้อมูล First Team ข้อมูลนักเตะเฉพาะบุคคล ไทยรัฐมีลูกเล่นที่น่าสนใจ รวมถึงกราฟิควิเคราะห์กลยุทธ์ทั้ง ก่อนเกม พักครึ่ง และหลังอีก ให้ได้ดูเพิ่มอรรถรสในการชมบอลอย่างยิ่ง ข้อมูลถือว่าแน่น ข้อมูลใหม่มีเยอะกว่าช่อง 7 ซึ่งช่อง 7 ไม่สามารถทำแบบนั้นได้ เพราะจำกัดเรื่องเวลา+สปอนเซอร์ เป็นหลัก และช่อง 7 มักจะเป็นข้อมูลเก่าๆ ตามสไตล์คนดำเนินรายการ วนไปวนมา

4.Live Streaming Online +ไฮไลท์ ช่องทางสำหรับแฟนบอลยุคสมาร์ทโฟน
ไทยรัฐก็ชนะอีกเช่นเคย เพราะฉลาดที่จะเพิ่มช่องทางให้แฟนบอลได้รับชม แฟนบอลหลายคนบางครั้งอาจกำลังเดินทาง ทำงาน ทำโอ ไม่สะดวกที่จะนั่งดูที่หน้าจอ แต่ยังมีช่องทาง Youtube Channel Official ของไทยรัฐเข้ามาช่วยตรงนี้ได้ดี เพราะระบบสตรีมมิ่งของ Youtube ถือว่าดีมาก แม้เน็ตความเร็วต่ำ ติด Fup ก็สามารถที่จะดูได้ รวมถึงแอพ หรือเว็บของไทยรัฐก็สามารถดูได้เช่นกัน ซึ่งช่องทางตรงนี้ ช่อง 7 ก็โดนฆ่าเช่นกัน เพราะจะหวังเพิ่ง บักก้าบู สตรีม กระตุกบ่อยจนเสียอารมณ์ ซึ่งช่อง 7 ไม่ทำสตรีม ผ่านช่อง Youtube Channel Official ตัวเอง

5.ผู้ร่วมรายการ และ  การพากย์
ถือว่าสูสีกันมาก โดนวิจารย์จากประแสแฟนบอลพอสมควร ทั้งสองเจ้า แต่ไทยรัฐขี่มานิดๆ เรื่องการรับฟังกระแสแฟนบอล เพราะทุกครั้งที่แฟนบอลติงเรื่องการพูดการพากย์ นัดต่อมาก็มักจะเอามาปรับปรุงตัวเอง แต่ช่อง 7 ก็ยังหนักแน่นในอุดมการณ์ของการพากย์ของตัวเองเช่นเดิม
ซึ่งข้อนี้ต้องยอมรับว่า 2 เจ้า ไทยรัฐ และ 7 สี ต้องหลีกทางให้ทีมพากย์ทรู เพราะทรูคืออันดับหนึ่งเรื่องนี้ ต้องยอมจริงๆ



แฟนช่อง 7 ลองหาจุดแข็งของช่อง 7 ในการถ่ายทอดสดบอลไทยมาค้านเจ้าของกระทู้หน่อย ถ้ามี เพื่อความเป็นกลาง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่