[CR] รีวิว The 5th Wave อุบัติการณ์ล้างโลก ฉบับคนเคยอ่านหนังสือแล้ว

ไปดู The 5th Wave มาแบ้วววว





เอาล่ะๆ รู้ใช่มั้ยว่ามันเป็นหนังที่ดัดแปลงมาจากหนังสือขายของ Rick Yancey

หนังสือหน้าตาเป็นแบบนี้ มีแปลเป็นไทยเรียบร้อย


.
ถ้าคุณเป็นแฟนหนังสือมาก่อน คุณอาจจะพอใจกับหนังในดัดแปลงออกมาพอสมควร แต่ถ้าจู่ๆ คุณไปดู คุณอาจจะงงๆ ว่าเอ้ะ มันอะไรยังไง เรื่องเนือยไปไหม นี่มันทไวไลท์ฉบับเอเลี่ยนหรือเปล่า เอ้ะ หนังเรื่องนี้ไซไฟทั้งเรื่องแบบ 2012 หรือเปล่า
.
ขอตอบแบบนี้แล้วกัน เรื่องนี้มันเน้นตัวเรื่อง แต่ไม่เน้นไซไฟ มันเน้นความสัมพันธ์ของคนหลังการยึดครองของเอเลี่ยนมากกว่า ถ้าคุณชอบไซไฟแบบทรานส์ฟอเมอร์ส ก็อย่าไปดู
.
ในฐานะที่เราเป็นอย่างแรก คือคนที่อ่านหนังสือ รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว แต่ก้อยังอยากไปดู เรามีความเห็นว่า... เฮ้ย หนุกว่ะ ผิดคาด ชอบอ่ะ เราติดตามตลอดเรื่อง ไม่หลับเลยล่ะ ทั้งๆ ที่แฟนข้างๆ เราแทบจะหลับไปแล้ว อาจจะแล้วแต่คนละมั้ง ฮ่าๆ
.
เราชอบที่หนังเก็บรายละเอียดในหนังสือได้ดีมาก แทบเก็บได้ทั้งหมดและเรียงเป็นทามไลน์ออกมาได้เข้าใจดี คล้ายๆ กับในหนังสือเลยล่ะ รายละเอียดหลายๆ อย่างก็บ่งบอกว่าทีมงานทำการบ้านมาค่อนข้างดีทีเดียว ไม่เหมือนหนังฮอลลีวูดบางเรื่องที่เอาแต่ชื่อหนังสือมา แต่เนื้อหาข้างในที่ยังกะหนังคนละม้วน
.
แต่ทั้งนี้ก็ไม่ใช่ว่าหนังเรื่องนี้จะดีงามอย่างไร้ที่ติไปซะทีเดียว
.
สรุป หนังทำออกมาได้ดีไหม?
.
ถ้าว่าตามเนื้อผ้า เต็ม 5 เราคงให้ 3
.
แต่ในแง่ความรู้สึกเอ็นจอยด์ในการดู เต็ม 5 เราให้ 4
.
หัก 1 คะแนนเพราะไม่เน้นเรื่องที่ควรเน้น (สารสำคัญจากในหนังสือ) กับเปลี่ยนรายละเอียดบางตอนที่ไม่ควรเปลี่ยนจากในหนังสือ
.
ต่อไปนี้จะสปอยล์ล่ะนะ
ใครไม่อยากเสียอรรถรสในการดูก็อย่ากดลงมาข้างล่างล่ะ

เตือนละนะ
.
.
.
.
.
.
.
(สปอยล์)
.
.

.
เรารู้สึกเสียดาย ที่หนังไม่ค่อยเน้นแมจเส็จของคนเขียนเท่าไหร่ นั่นก็คือ "การจะทำลายมนุษย์ ก็คือการทำลายมนุษยธรรมในตัวพวกเขา" ถึงแม้จะมีการเอ่ยถึงแมจเส็จนี้ แต่ตัวหนังยังทำได้ไม่ถึงเท่าที่ควร ซีนที่ควรมี ก็ดันตัด เช่นฉากตายของแม่แคสซี่ ผู้ซึ่งตายอย่างทรมานด้วยไวรัสที่กำลังระบาด แต่อย่างว่าละ ถ้าไม่ตัดมันคงจะนานไป
.
สิ่งที่ควรพูดถึง อย่างเช่น ความโกรธแค้นของ เบน แพริช หนึ่งในตัวละครเอกของเรื่อง เราไม่รู้สึกถึงความเคียดแค้นอาฆาตของเบนเลย เบนที่ต้องเสียน้องสาวไปในระหว่างการยึดครอง และตัวเองวิ่งหนีอย่างช่วยไม่ได้ จึงเกิดปมที่ทำให้คิดว่าตัวเองเป็นคนขี้ขลาด และ "วอช" เอเลี่ยนจำแลงในร่างมนุษย์ก็มาปลุกสงครามในจิตใจของเบนออกมา ทำให้เบนอยากเป็นทหาร เพื่อแก้แค้นให้ชีวิตของน้องสาวที่ต้องเสียไปนี่แหละ
.
น่าเสียดายมากๆ ที่ต้องตัดออกไป
.
ตอนที่ให้กดปุ่มสีแดง ในหนังสือที่มันเอามนุษย์จริงๆ มาให้ผู้รอดชีวิตกดปุ่มนะคะ แต่ในหนังนี่เหมือนจะสื่อว่า คนในกระจกเป็นแค่ภาพโฮโลแกรมด์เฉยๆ คือพวกที่กดๆ ไปมือไม่ได้เปื่อนเลือดจริงๆ ว่างั้น ซึ่งเราว่ามันทำให้แมสเสจดูอ่อนลงไปอีก แทนที่จะทำตามหนังสือ ให้คนที่ตาย เป็นมนุษย์จริงๆ มันจะสื่อออกมามีพลังมากกว่าที่จะบอกว่า มือพวกเขาไม่ได้เปื้อนเลือดนะ พวกเขายังมีมนุษยธรรมอยู่ มันไม่ใช่อ่ะ การกดปุ่มสีแดง มันคือการเลือกที่จะปลิดชีวิต เหมือนการให้เลือกว่าจะยอมเสียความเป็นมนุษย์ไป หรือจะอยู่รอดและเลือกที่จะล้างแค้น มันสร้างปมในใจของตัวละครจริงๆ เมื่อพวกเขารับรู้ว่า ตัวเองฆ่าเพื่อนมนุษย์ด้วยกันไป
.
แถมอีผู้พันวอช ก็หลอกคนดูไม่ได้ คนยิ้มเดาออกหมดว่ามันเป็นเอเลี่ยนมาตั้งแต่แรก... อันนี้เดาง่ายมากกก จะว่าไปก็เดาออกตั้งแต่ในหนังสือแล้วล่ะ

.
ส่วนเอแวน วอร์คเกอร์... เอแวน พระเอกของเรื่อง! ! นอกจากความพยายามที่จะรักษาความเป็นมนุษย์ของผู้รอดชีวิตที่เหลือ ในหนังสือจะมีความสับสนของเอแวน ที่ไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นเอเลี่ยนหรือมนุษย์กันแน่ เห้อ แต่ขนาดในหนังสือยังสื่อออกมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย ในหนังก็คง... อนาถไปตามๆ กัน
.
สุดท้าย การสละชีพของเอแวน... ขอบคุณมาก นอกจากหนังจะทำให้เหมือนแคสซี่หลอกใช้เอแวนแล้ว ยังเหมือนทำให้แคสซี่ดูยังมีใจให้อีตาซอมบี้อีกต่างหาก หนังยิ้มทำให้การ "เสียสละ" ของเอแวนเหมือนกับศูนย์เปล่า เหมือนตายไปเฉยๆ เหมือนตัวประกอบที่เข้ามาในฉาก และตายหายไปอย่างแทบไม่น่าจดจำ ทั้งๆ ที่ในหนังสือ เอแวนมีความสำคัญมากพอสมควร ให้ตายเถอะ

โอเคค่ะ เวิ่นเสร็จละ ใครไปดูแล้วก็มาแบ่งปันกันได้น้า เราเปิดรับทุกความคิดเห็นจ้า
ชื่อสินค้า:   The 5th Wave
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่