ซีเอ็นเอ็น เผยแพร่สกู๊ปอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในจีน ที่มีสตูดิโอใหญ่ยักษ์ระดับโลกในเมืองเหิงเตี้ยน ที่นี่เป็นเมืองสตูดิโอที่มีทั้งภาพยนตร์และละครมาใช้พื้นที่ในการถ่ายทำตลอดทั้งปีจำนวนมาก แต่บรรดาละครและภาพยนตร์เหล่านั้นเกือบทั้งหมดยังคงเป็นเรื่องพีเรียดหรือย้อนยุค
ส่วนมากเป็นฉากหมู่บ้านในยุคราชวงศ์ชิง ฉากเมืองในฮ่องกงในช่วงยุค 40 และถึงกับสร้างเมืองปักกิ่งในอดีตขึ้นมาทั้งเมือง
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ในจีนถือว่าใหญ่มากและใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ โดยข้อมูลจากบริษัทที่ปรึกษาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ของอาเซียน ระบุว่า ในปี 2015 ภาพยนตร์จีนสร้างรายได้จากการทำภาพยนตร์มากกว่า 4 พันล้านดอลล์ เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าเกือบ 70%
นายซาง ปู้ ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวจีน กล่าวกับ ซีเอ็นเอ็น ขณะทำงานภาพยนตร์ชิ้นล่าสุดในสตูดิโอเมืองเหิงเตี้ยนว่า สภาพเศรษฐกิจดีขึ้นและผู้คนร่ำรวยขึ้น พวกเขาจึงใช้จ่ายเงินกับความบันเทิงมากขึ้นไปด้วย
นายซาง ซึ่งทำงานเป็นผู้กำกับภาพยนตร์จีนมานานถึง 20 ปี กล่าวว่า อุตสาหกรรมหนังจีนกำลังจะไปสู่ระดับโลก
ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ที่ผ่านมา ดาเลียน แวนดา กรุ๊ป บริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนที่ทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์และความบันเทิง ได้เข้าซื้อหุ้นบริษัทเลเจนเดรี พิกเจอร์ส ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้เงินทุนหนังในฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์อย่างเช่น จูลาสสิก เวิลด์ โดยการซื้อหุ้นครั้งนี้ทำให้แวนดา กรุ๊ป เข้าไปมีส่วนร่วมในการบริหารด้วย
ทั้งนี้ นายหวาง เจี้ยนหลิน ประธานบริษัทแวนดา กรุ๊ป ประกาศว่า ดีลดังกล่าวมีมูลค่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ และการเข้าไปมีส่วนบริหารนี้จะเปิดทางให้ผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์จีนได้เผยแพร่งานสู่ผู้ชมนานาชาติมากขึ้น
นอกจากนี้แวนด้า กรุ๊ป ยังเป็นเจ้าของโรงภาพยนตร์ เอเอ็มซี เชนโรงหนังที่มีขนาดใหญ่อันดับสองของสหรัฐฯ ซึ่งคอนเน็กชั่นทางธุรกิจนี้จะช่วยให้ภาพยนตร์จีนได้ออกไปสู่ผู้ชมในวงกว้างมากขึ้น
นายหวาง กล่าวอีกว่า ขณะนี้หนังจีนไม่ได้ทำรายได้ในอเมริกามากนัก และถ้าอยากให้ทำรายได้มากขึ้นก็ต้องหาช่องทางในการสร้างผู้ชมหนังจีนที่เป็นชาวอเมริกันมากขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตามรัฐบาลปักกิ่งจำกัดจำนวนภาพยนตร์ต่างประเทศที่นำมาฉายในจีนเป็นรายปี โดยภาพยนตร์ต่างประเทศเหล่านี้สร้างรายได้ประมาณ 2.5 พันล้าน ในปี 2015 และมีเพียง 3 เรื่องที่ติดอันดับท็อปเท็น โดยหนึ่งในหนึ่งคือเรื่อง Fast and Furious 7, Avengers : Age of Ultron และ Jurassic World
นายซาง ปู้ ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวจีน กล่าวว่า ฮอลลีวูดเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ยักษ์แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นที่หนึ่งไปตลอด
อย่างไรก็ตาม โจทย์ที่จีนจะต้องทำเพื่อแข่งกับฮอลลีวูดคือการส่งออกภาพยนตร์จำนวนมากขึ้นออกไปสู่ตลาดโลก และดูเหมือนว่า ดีลที่บริษัทยักษ์ใหญ่จีนเพิ่งทำสำเร็จเมื่อวันที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมาจะเป็นจุดเริ่มต้นนั้น
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1452752781
http://edition.cnn.com/2016/01/12/asia/china-movies-take-on-hollywood/index.html
"หนังจีน"โตพรวด จะตีตลาด "ฮอลลีวูด" ได้หรือไม่ ?
ส่วนมากเป็นฉากหมู่บ้านในยุคราชวงศ์ชิง ฉากเมืองในฮ่องกงในช่วงยุค 40 และถึงกับสร้างเมืองปักกิ่งในอดีตขึ้นมาทั้งเมือง
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ในจีนถือว่าใหญ่มากและใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ โดยข้อมูลจากบริษัทที่ปรึกษาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ของอาเซียน ระบุว่า ในปี 2015 ภาพยนตร์จีนสร้างรายได้จากการทำภาพยนตร์มากกว่า 4 พันล้านดอลล์ เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าเกือบ 70%
นายซาง ปู้ ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวจีน กล่าวกับ ซีเอ็นเอ็น ขณะทำงานภาพยนตร์ชิ้นล่าสุดในสตูดิโอเมืองเหิงเตี้ยนว่า สภาพเศรษฐกิจดีขึ้นและผู้คนร่ำรวยขึ้น พวกเขาจึงใช้จ่ายเงินกับความบันเทิงมากขึ้นไปด้วย
นายซาง ซึ่งทำงานเป็นผู้กำกับภาพยนตร์จีนมานานถึง 20 ปี กล่าวว่า อุตสาหกรรมหนังจีนกำลังจะไปสู่ระดับโลก
ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ที่ผ่านมา ดาเลียน แวนดา กรุ๊ป บริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนที่ทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์และความบันเทิง ได้เข้าซื้อหุ้นบริษัทเลเจนเดรี พิกเจอร์ส ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้เงินทุนหนังในฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์อย่างเช่น จูลาสสิก เวิลด์ โดยการซื้อหุ้นครั้งนี้ทำให้แวนดา กรุ๊ป เข้าไปมีส่วนร่วมในการบริหารด้วย
ทั้งนี้ นายหวาง เจี้ยนหลิน ประธานบริษัทแวนดา กรุ๊ป ประกาศว่า ดีลดังกล่าวมีมูลค่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ และการเข้าไปมีส่วนบริหารนี้จะเปิดทางให้ผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์จีนได้เผยแพร่งานสู่ผู้ชมนานาชาติมากขึ้น
นอกจากนี้แวนด้า กรุ๊ป ยังเป็นเจ้าของโรงภาพยนตร์ เอเอ็มซี เชนโรงหนังที่มีขนาดใหญ่อันดับสองของสหรัฐฯ ซึ่งคอนเน็กชั่นทางธุรกิจนี้จะช่วยให้ภาพยนตร์จีนได้ออกไปสู่ผู้ชมในวงกว้างมากขึ้น
นายหวาง กล่าวอีกว่า ขณะนี้หนังจีนไม่ได้ทำรายได้ในอเมริกามากนัก และถ้าอยากให้ทำรายได้มากขึ้นก็ต้องหาช่องทางในการสร้างผู้ชมหนังจีนที่เป็นชาวอเมริกันมากขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตามรัฐบาลปักกิ่งจำกัดจำนวนภาพยนตร์ต่างประเทศที่นำมาฉายในจีนเป็นรายปี โดยภาพยนตร์ต่างประเทศเหล่านี้สร้างรายได้ประมาณ 2.5 พันล้าน ในปี 2015 และมีเพียง 3 เรื่องที่ติดอันดับท็อปเท็น โดยหนึ่งในหนึ่งคือเรื่อง Fast and Furious 7, Avengers : Age of Ultron และ Jurassic World
นายซาง ปู้ ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวจีน กล่าวว่า ฮอลลีวูดเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ยักษ์แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นที่หนึ่งไปตลอด
อย่างไรก็ตาม โจทย์ที่จีนจะต้องทำเพื่อแข่งกับฮอลลีวูดคือการส่งออกภาพยนตร์จำนวนมากขึ้นออกไปสู่ตลาดโลก และดูเหมือนว่า ดีลที่บริษัทยักษ์ใหญ่จีนเพิ่งทำสำเร็จเมื่อวันที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมาจะเป็นจุดเริ่มต้นนั้น
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1452752781
http://edition.cnn.com/2016/01/12/asia/china-movies-take-on-hollywood/index.html