บทพิสูจน์ที่ยิ่งใหญ่ของ “สมพร ยศ” #

จากบทความ #สโมสร BEC
http://sasana.bectero.com/lasted-news/item/845-%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%88%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E2%80%9C%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%A3-%E0%B8%A2%E0%B8%A8%E2%80%9D

บทพิสูจน์ที่ยิ่งใหญ่ของ “สมพร ยศ”
“ต้น” สมพร ยศ ผู้รักษาประตูจากเมืองกล้วยไข่ กำแพงเพชร เป็นนักเตะในสังกัดของทีม “มังกรไฟ” บีอีซี เทโร ศาสน มาราวๆ 5 ปี เขาเกิดในปี 2536 ซึ่งเป็นปีเดียวกับ “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ โดยในฤดูกาลนี้ ถือเป็นปีแจ้งเกิดของเจ้าตัวอย่างไม่เป็นทางการ หลังได้โอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงรับใช้ต้นสังกัดในฟุตบอลโตโยต้า พรีเมียร์ คัพ เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา และเจ้าตัวก็ไม่ทำให้แฟนๆทีมมังกรไฟผิดหวัง โชว์เซฟจุดโทษช่วยให้ทีมเอาชนะ ซากัน โทสุ ยอดทีมแห่งศึกเจลีก ญี่ปุ่น ในการดวลลูกจุดโทษ คว้าแชมป์รายการนี้มาครองได้สำเร็จเป็นสมัยแรกของสโมสร

ก่อนหน้านี้ “เจ้าต้น” ถูกยืมตัวมาโดยตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่อยู่กับสโมสร ซึ่งปีที่แล้วเขาก็โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมกับทีม “พยัคฆ์ล้านนา” เชียงใหม่ เอฟซี ในศึกยามาฮ่า ลีกวัน โดยในฤดูกาลนี้ เจ้าตัวมีโอกาสได้ขึ้นมาโลดแล่นในทีมชุดใหญ่อย่างเป็นทางการ ถึงแม้จะยังยึดตำแหน่งตัวจริงจาก “เอ้” ทศพร ศรีเรือง นายทวารมือ1ของทีมไม่ได้ แต่เจ้าตัวก็ยังรอโอกาสที่เหมาะสมที่จะลงเฝ้าเสาเป็น 11 คนแรกให้กับทัพมังกรไฟ เหมือนในฟุตบอลโตโยต้า พรีเมียร์ คัพ ที่ได้รับโอกาสเป็นตัวจริง และโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม พิสูจน์ตัวเองได้เป็นอย่างดี

เส้นทางการเล่นฟุตบอลของ สมพร ยศ เริ่มเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่วัยเยาวน์ เจ้าตัวชื่นชอบในตำแหน่งผู้รักษาประตูมาตั้งแต่แรก โดยติดทีมโรงเรียนวัดสุทธิวราราม ลงแข่งขันฟุตบอลนักเรียนให้กับโรงเรียนมาตลอด จนมีชื่อติดทีมนักเรียนไทยชุดชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ในปี 2553 ที่ประเทศเกาหลีใต้ ชุดเดียวกับ ชนินทร์ แซ่เอี๊ยะ,พุทธินันท์ วรรณศรี, นูรูล ศรียานเก็ม, วาณิช ใจแสน, วัชระ บัวทอง
นอกจากนี้ “สมพร ยศ” ก็ถูกเรียกตัวติดทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 19 ปี ชิงแชมป์เอเชีย เมื่อปี 2554-55 ภายใต้การคุมทีมของ “น้าฉ่วย” สมชาย ชวยบุญชุม ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับ “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์, “ตั้ม” ธนบูรณ์ เกษารัตน์, “บาส” พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา, “เก่ง” อดิศร พรหมรัตน์ และ “บอย” จาตุรงค์ พิมพ์คูณ ที่ปัจจุบันก้าวขึ้นมาเป็นขุมกำลังสำคัญของทีม “มังกรไฟ” บีอีซี เทโรศาสน กันทุกคน
“เจ้าต้น” เซ็นสัญญากับสโมสรบีอีซี เทโรศาสน เป็นทีมแรกในอาชีพการค้าแข้ง เจ้าตัวถูกส่งไปฝึกปรือฝีมือกับ “สิงโตทอง” อาร์แบค เอฟซี ในสมัยที่ทีมสิงโตทองยังจับมือเป็นพันธมิตรกับทีมมังกรไฟอยู่ และต้นก็ถูกส่งไปเก็บประสบการณ์กับทีม “พยัคฆ์ล้านนา” เชียงใหม่ เอฟซี และ “ขุนพลนเรศวร” พิษณุโลก ทีเอสวาย เอฟซี ในศึกยามาฮ่า ลีกวัน ซึ่งเจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นตัวหลัก และยึดตำแหน่งตัวจริงของทั้ง 2 ทีม มาโดยตลอด จนสุดท้ายในฤดูกาล 2015 ทีมมังกรไฟ ก็เรียกกลับมาอยู่กับทีมชุดใหญ่อีกครั้ง เป็นนายประตูมือ 2 ต่อจากรุ่นพี่อย่าง “เอ้” ทศพร ศรีเรือง  

และในปีนี้นายประตูชาวกำแพงเพชร ก็ได้รับโอกาสครั้งสำคัญในชีวิต เมื่อมีชื่อติดทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 22ปี ชุดลุยศึกชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23ปี หรือทีมปรีโอลิมปิก เพื่อหา 3 ชาติตัวแทนจากเอเชียไปลุยศึกมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติ อย่าง “โอลิมปิก เกมส์ 2016” ที่ประเทศบราซิล ภายใต้การกุมบังเหียนของยอดกุนซืออย่าง “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อีกด้วย ถือเป็นบทพิสูจน์ที่ยิ่งใหญ่ของเจ้าตัว ที่จะได้รับโอกาสเฝ้าเสาให้กับทีมช้างศึก ชุดโอลิมปิก และอาจะมีโอกาสสอดแทรกขึ้นไปติดทีมชาติชุดใหญ่ก็ได้

ไม่รู้ว่า  “เจ้าต้น” จะได้มีโอกาสเฝ้าเสาเป็นตัวจริงให้กับขุนพล “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ชุดปรีโอลิมปิก หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ เขาชนะใจแฟนบอลทีมมังกรไฟ บีอีซี เทโรศาสน ได้แล้ว และเชื่อว่าถ้าได้รับโอกาส เขาจะต้องพิสูจน์ตัวเองให้ประจักษ์แก่สายตาแฟนบอลทีมชาติไทยได้อย่างแน่นอนในอนาคต  

ชื่อของ “สมพร ยศ” จะอยู่โยงและเป็นขุมกำลังหลักของทีม “มังกรไฟ” บีอีซี เทโรศาน ต่อไปอีกอย่างแน่นอน เหล่ามังกรไฟหมายเลข 12 จะคอยให้กำลังใจ และอยู่เคียงข้างเจ้าตัวต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่