Day 9 : Pyin oo Lwin - Mandalay
ประวัติมัณฑะเลย์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เป็นอดีตเมืองหลวง และเมืองใหญ่อันดับที่สามของพม่ารองจากนครย่างกุ้งและกรุงเนปยีดอ ตั้งอยู่ในภูมิภาคมัณฑะเลย์ ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำอิรวดี ห่างจากย่างกุ้งไปทางทิศเหนือ 716 กิโลเมตร ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1857 โดยพระเจ้ามินดง โดยตั้งชื่อตามภูเขามัณฑะเลย์ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งมีความสูง 775 ฟุต มัณฑะเลย์เป็นเมืองศูนย์กลางการค้าทางตอนเหนือของพม่า และถือเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ รองจากย่างกุ้งและเนปยีดอ นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางทางการค้าที่สำคัญบนเส้นทางการค้าระหว่างอินเดีย กับจีน และรัฐบาลพม่า ยังให้ความสำคัญโดยตั้งนิคมอุตสาหกรรมขึ้นในปี พ.ศ. 2533 ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทเข้ามาดำเนินการประมาณ 1,000 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นโรงงานถลุงเหล็ก และโรงงานผลิตอุปกรณ์เครื่องจักรกล มัณฑะเลย์ ยังเป็นเมืองศูนย์กลางคมนาคม มีทั้งท่าเรือ และท่าอากาศยานนานาชาติมัณฑะเลย์
ตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อจะได้ไปทันรถออกเที่ยวแรก7โมงไปมัณฑะเลย์ หลังจากเก็บของทำทุกอย่างเสร็จแล้วก็เดินออกมา check out เห็นพนักงานนอนอยู่ที่โซฟาและประตูที่พักก็คล้องโซ่กุญแจล็อคไว้อยู่เลยเดินไปปลุกให้เค้ามาเปิดประตูให้ จากนั้นคืนกุญแจถือว่าพิธี check out สิ้นสุด
6.55 น.เดินมาเกือบ 2 กิโลมาขึ้นรถทันรอบแรกอย่างฉิวเฉียดมีผู้โดยสาร 2 คนถ้วน พอถึงเวลาออกเดินทางรับระหว่างทางอีก 3-4 จุด
8.00 น. จอดจุดพักมีร้านค้าร้านอาหารชาวบ้านอยู่หลายร้านให้เวลา20 นาทีจากนั้นคนขับก็เดินมาเก็บค่ารถคนละ 1,500 จั๊ตเท่ากันทั้งพม่าและต่างชาติ
9.00 น. ถึงมัณฑะเลย์เดินทางแค่ 2 ชั่วโมงเองไวกว่าที่บอกตั้ง 1 ชม. แต่รถไม่ได้จอดที่หอนาฬิกากลางเมืองนะครับ จอดตรงไหนไม่รู้บอกไม่ถูกเพราะเค้ามาเรียกให้ลงตรงนี้เลย เดินลงไปก็มีมอไซค์มารออยู่แล้วเลยตกลงราคาเพื่อไปที่พักที่หาไว้แถวหอนาฬิกาที่ราคา 1,500 จั๊ต (ต่อจาก 2,500 จั๊ต คือต่อราคาถ้าไม่ได้ราคา 1,500 จั๊ตก็กะว่าจะเดินมาเอง แต่พอหลังจากเค้าไปส่งที่ที่พักแล้วรู้สึกโชคดีที่เค้ายอมลดราคาให้ ถ้าไม่งั้นบ้าเดินมาเองตายแน่โครตไกลและแดดกับอากาศที่มัณฑะเลย์อย่างระอุอากาศต่างจากพิลอูวินที่เมื่อเช้าหนาว16องศาเอง แต่ตอนนี้อย่างร้อน
10นาทีรถมาจอดที่ ET Hotelตามที่หาข้อมูลไว้ขึ้นไปดูห้องก่อน ซึ่งอยากพักห้องห้องแบบห้องน้ำรวมแต่เต็มเหลือแต่ห้องราคา 20 usd ขึ้นไป เลยขอเข้าไปดูห้องก่อนแล้วค่อยออกไปดูที่อื่นต่อ โดยเดินย้อนมาทางจะไปหอนาฬิกามาอีกนิดเดียวเจออีกที่ที่หาข้อมูลไว้คือที่ Nylon Hotel 2 ขึ้นไปดูห้องและส่วนกลางทุกอย่างใหม่กว่าที่ ET Hotel เยอ่ะเลยเลยตกลงเข้าพักที่นี่เป็นห้องเดี่ยว18 usdห้องน้ำในตัว+แอร์+อาหารเช้า
Nylon มี2ตึกใกล้กันนะครับที่พักคือตึกใหม่
สะอาด ใหม่ กลิ่นหอม มีทั้งแอร์ พัดลม กาน้ำร้อน
สะอาดๆ มีอ่างด้วย ที่สำคัญคือน้ำแรง ชอบๆ
หลังจากนั้นก็ลงมาเตรียมไปเที่ยวต่อ แต่ขอแวะถามราคาตั๋วรถไป Bago (หงสาวดี) ที่เคาท์เตอร์ก่อนซึ่งจะมีรถบัสแอร์ 2 รอบคือ 19.30 น. ราคา 14,000 จั๊ต รอบนี้จะไม่มีรถมารับที่ที่พักต้องเดินทางไปที่ขนส่งเอง กับรอบ 20.30 น.ราคา 16,000 จั๊ต รอบนี้จะมีรถมารับถึงที่พักเวลา 18.30 น. สอบถามค่ารถมอไซค์ไปขนส่งอยู่ที่ 3,000 จั๊ต คิดว่าน่าจะเอาที่รอบหลังแต่ออกไปข้างนอกก่อนกลับมาค่อยจอง เสร็จแล้วเดินออกมาเจอโรงแรมข้างๆกันลองไปสอบถามค่ารถไปBago ปรากฏว่าเค้ามีแค่รอบ 19.30 น. ราคา 12,000 จั๊ตแต่ต้องเดินทางไปที่ขนส่งเองต่างกับที่พักนิดหน่อย เลยตัดสินใจว่าคงจองที่ที่พักไปเลยเพราะว่าเวลาเดินทางอยู่หลังจาก check out ไปแล้วจะได้ขอฝากกระเป๋าด้วยเลย พอได้ข้อมูลครบแล้วก็เดินไปที่ตลาด Zegjo เป็นตลาดสดคล้ายๆกันกับตลาดสดในเมืองต่างๆของพม่าที่ไปมา
แวะกินโมฮิงก่าในตลาดราคา 500 จั๊ต
แล้วเดินดูตลาดเล่นๆจนเห็นรถสองแถวจอดอยู่เลยลองไปสอบถามหารถที่จะไปสะพานอูเบ็งเพราะข้อมูลที่หามาจะมีรถสองแถวสาย 8 ไปสะพานอูเบ็งเดินไปอย่างงๆสื่อสารกับเค้าก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเลยเอารูปสะพานอูเบ็งให้เค้าดูเค้านึกว่าผมจะไปตอนนี้เลยพี่แกคอยจะโบกรถสาย8ให้ แล้วรถดันทะลึ่งมาพอดีแกโบกให้เสร็จเลยต้องรีบส่ายหน้าแทบหลุดบอกว่ายังไม่ได้ไปพร้อมกับขอบคุณพี่เค้า เป็นอันว่าเดี๋ยวบ่ายแก่ๆจะมาขึ้นรถตรงกลางตลาดนี่แหล่ะ เสร็จแล้วก็เดินกลับไปที่พักต่อเพราะต้องกลับไปแบตฯกล้องที่ชาร์จไว้+เอาผ้าลงมาให้ที่พักซัก และให้ที่พักหาคนขับมอไซค์พาไปส่งที่พระราชวังมัณฑะเลย์ด้วยตกลงกันที่ราคา 2,000 จั๊ต ทีแรกจะเดินไปเองเพราะดูจากgoogle mapน่าจะพอเดินไหวแต่ดูจากอากาศแล้วขอขึ้นมอไซค์ไปดีกว่า จากนั้นขึ้นรถเดินทางต่อจนถึงพระราชวังมัณฑะเลย์รู้สึกดีใจมากเพราะคิดถูกที่ไม่เดินมาเก็บแรงไว้เที่ยวดีที่สุด 5555(ตามแพลนเดิมจะเดินมาจากที่พักเพราะดูในแผนที่ม้นดูใกล้กัน)
ประวัติพระราชวังมัณฑะเลย์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พระเจ้ามินดงทรงสร้างเมืองมัณฑะเลย์ขึ้นในปี ค.ศ. 1857 (พ.ศ. 2400 ตรงกับรัชกาลที่ 4 ของไทย) ตามพุทธทำนายที่เล่าสืบต่อกันมาว่า...ครั้งหนึ่งสมเด็จพระบรมศาสดาได้เสด็จมายังเขามัณฑะเลย์พร้อมกับพระอานนท์ ทรงพยากรณ์ว่า หลังพุทธปรินิพพาน 2,400 ปี จะมีการสร้างราชธานีขึ้นเป็นศูนย์กลางการศึกษาพุทธศาสนาที่เชิงเขาแห่งนี้ พุทธทำนายปรากฏเป็นจริงในปี 1861 เมื่อพระเจ้ามินดงทรงชิงราชบัลลังก์จากพระเชษฐาต่างพระมารดา พระนามว่าพระเจ้าปะกั่นมิน และโปรดให้ย้ายราชธานีพร้อมราษฎรกว่า 150,000 คน จากเมืองอมรปุระ ไปยังมัณฑะเลย์ซึ่งอยู่ห่างออกไป 20 กิโลเมตร ทรงสร้างพระราชวังที่ประทับขึ้นที่เชิงเขามัณฑะเลย์ และสถาปนาให้เป็น “เมืองทอง” แห่งการเผยแพร่พระพุทธศาสนาขึ้น
หลังสิ้นแผ่นดินพระเจ้ามินดงในปี 1878 พระเจ้าตี่ป่อกับพระนางสุภายาลัดทรงขึ้นครองบัลลังก์ต่อ เมืองมัณฑะเลย์ที่เคยรุ่งเรืองในสมัยพระเจ้ามินดงปกครองต้องประสบกับชะตากรรมอันเศร้าสะเทือนขวัญและถือเป็นมิคสัญญียุคของพม่าโดยแท้ เมื่อสองพระองค์ทรงเข่นฆ่าญาติมิตรมากมายเพื่อป้องกันมิให้ก่อการกบฏ ครั้นยังซ้ำร้ายเกิดโรคระบาด ก็โปรดฯ ให้ประหารข้าราชบริพารและชาวต่างชาติเพื่อบรรเทาเหตุร้ายตามคำแนะนำของบรรดาโหราจารย์ ความอำมหิตของทั้งสองพระองค์ รวมทั้งการที่ทรงโปรดฝรั่งเศสเป็นพิเศษ ทำให้อังกฤษไม่พอใจ จึงยึดผนวกพม่าเข้าเป็นอาณานิคมในปี ค.ศ. 1885 พระเจ้าตี่ป่อและพระนางสุภายาลัดถูกเชิญเสด็จออกนอกประเทศ ไปประทับที่อินเดียจนสิ้นพระชนม์ที่นั่น มัณฑะเลย์ถูกลดฐานะลงเป็นแค่เมืองอาณานิคมที่อังกฤษตั้งชื่อให้ใหม่ว่าฟอร์ตดัฟเฟอริน (แต่ไม่มีใครเรียก)
ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1945 (พ.ศ. 2488 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2) พระราชวังหลวงซึ่งสร้างด้วยไม้สักเกือบทั้งหลัง ถูกกองทัพอังกฤษได้ระดมยิงพระนครซึ่งมีทหารญี่ปุ่นกับพม่าคอยต้านรับศึกอยู่เพียงหยิบมือเดียว เมื่อการสู้รบยุติลง พระราชวังทองแห่งนี้กลายเป็นเถ้าถ่าน มีเพียงคูน้ำและกำแพงเมืองที่เหลือรอด แต่ทางการได้สร้างพระราชวังขึ้นมาใหม่เป็นบางส่วนแต่ก็มิได้สวยงามเท่าของเดิม
พอถึงหน้าพระราชวังฯ เดินไปทางด้ายซ้ายจะมีป้อมขายตั๋วอยู่หน้าประตูทางเข้าวัง เสียค่าตั๋ว 10,000 จั๊ต
ป้อมขายตั๋ว
เดินเข้าประตูมา 50 เมตรจะมีจักรยานจอดเยอ่ะๆตรงนี้จะเป็นร้านเช่าจักรยานราคา 1,000 จั๊ต แนะนำว่าเช่าเลยครับคุ้มมากเพราะเดินไปลึกเอาเรื่องอยู่ ถึงพระราชวังฯแล้วด้านหน้าจะมีร้านอาหารและร้านกาแฟอยู่เราสามารถจะจอดรถบริเวณนี้หรือจะเอาไปจอดที่ด้านในวังก็ได้ครับ
[CR] ทิ้งเนคไทไปแบกเป้ ตะลอนเดี่ยวเที่ยวพม่า 8 เมือง 14 วัน ( ตอนที่5 Mandalay )
ตอนที่2 @ Bagan http://ppantip.com/topic/34647018
ตอนที่3 @ Inle http://ppantip.com/topic/34650584
ตอนที่4 @ Pyin Oo Lwin http://ppantip.com/topic/34662264
ตอนที่5 @ Mandalay-Mingun http://ppantip.com/topic/34669587
ตอนที่6 @ Bago-Kyaikh tiyo http://ppantip.com/topic/34674190
ตอนที่7 @ Yangon http://ppantip.com/topic/34678106
คุยกันในนี้ได้นะครับ https://www.facebook.com/NotesfromBackpacker/
Day 9 : Pyin oo Lwin - Mandalay
ประวัติมัณฑะเลย์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อจะได้ไปทันรถออกเที่ยวแรก7โมงไปมัณฑะเลย์ หลังจากเก็บของทำทุกอย่างเสร็จแล้วก็เดินออกมา check out เห็นพนักงานนอนอยู่ที่โซฟาและประตูที่พักก็คล้องโซ่กุญแจล็อคไว้อยู่เลยเดินไปปลุกให้เค้ามาเปิดประตูให้ จากนั้นคืนกุญแจถือว่าพิธี check out สิ้นสุด
6.55 น.เดินมาเกือบ 2 กิโลมาขึ้นรถทันรอบแรกอย่างฉิวเฉียดมีผู้โดยสาร 2 คนถ้วน พอถึงเวลาออกเดินทางรับระหว่างทางอีก 3-4 จุด
8.00 น. จอดจุดพักมีร้านค้าร้านอาหารชาวบ้านอยู่หลายร้านให้เวลา20 นาทีจากนั้นคนขับก็เดินมาเก็บค่ารถคนละ 1,500 จั๊ตเท่ากันทั้งพม่าและต่างชาติ
9.00 น. ถึงมัณฑะเลย์เดินทางแค่ 2 ชั่วโมงเองไวกว่าที่บอกตั้ง 1 ชม. แต่รถไม่ได้จอดที่หอนาฬิกากลางเมืองนะครับ จอดตรงไหนไม่รู้บอกไม่ถูกเพราะเค้ามาเรียกให้ลงตรงนี้เลย เดินลงไปก็มีมอไซค์มารออยู่แล้วเลยตกลงราคาเพื่อไปที่พักที่หาไว้แถวหอนาฬิกาที่ราคา 1,500 จั๊ต (ต่อจาก 2,500 จั๊ต คือต่อราคาถ้าไม่ได้ราคา 1,500 จั๊ตก็กะว่าจะเดินมาเอง แต่พอหลังจากเค้าไปส่งที่ที่พักแล้วรู้สึกโชคดีที่เค้ายอมลดราคาให้ ถ้าไม่งั้นบ้าเดินมาเองตายแน่โครตไกลและแดดกับอากาศที่มัณฑะเลย์อย่างระอุอากาศต่างจากพิลอูวินที่เมื่อเช้าหนาว16องศาเอง แต่ตอนนี้อย่างร้อน
10นาทีรถมาจอดที่ ET Hotelตามที่หาข้อมูลไว้ขึ้นไปดูห้องก่อน ซึ่งอยากพักห้องห้องแบบห้องน้ำรวมแต่เต็มเหลือแต่ห้องราคา 20 usd ขึ้นไป เลยขอเข้าไปดูห้องก่อนแล้วค่อยออกไปดูที่อื่นต่อ โดยเดินย้อนมาทางจะไปหอนาฬิกามาอีกนิดเดียวเจออีกที่ที่หาข้อมูลไว้คือที่ Nylon Hotel 2 ขึ้นไปดูห้องและส่วนกลางทุกอย่างใหม่กว่าที่ ET Hotel เยอ่ะเลยเลยตกลงเข้าพักที่นี่เป็นห้องเดี่ยว18 usdห้องน้ำในตัว+แอร์+อาหารเช้า
Nylon มี2ตึกใกล้กันนะครับที่พักคือตึกใหม่
สะอาดๆ มีอ่างด้วย ที่สำคัญคือน้ำแรง ชอบๆ
หลังจากนั้นก็ลงมาเตรียมไปเที่ยวต่อ แต่ขอแวะถามราคาตั๋วรถไป Bago (หงสาวดี) ที่เคาท์เตอร์ก่อนซึ่งจะมีรถบัสแอร์ 2 รอบคือ 19.30 น. ราคา 14,000 จั๊ต รอบนี้จะไม่มีรถมารับที่ที่พักต้องเดินทางไปที่ขนส่งเอง กับรอบ 20.30 น.ราคา 16,000 จั๊ต รอบนี้จะมีรถมารับถึงที่พักเวลา 18.30 น. สอบถามค่ารถมอไซค์ไปขนส่งอยู่ที่ 3,000 จั๊ต คิดว่าน่าจะเอาที่รอบหลังแต่ออกไปข้างนอกก่อนกลับมาค่อยจอง เสร็จแล้วเดินออกมาเจอโรงแรมข้างๆกันลองไปสอบถามค่ารถไปBago ปรากฏว่าเค้ามีแค่รอบ 19.30 น. ราคา 12,000 จั๊ตแต่ต้องเดินทางไปที่ขนส่งเองต่างกับที่พักนิดหน่อย เลยตัดสินใจว่าคงจองที่ที่พักไปเลยเพราะว่าเวลาเดินทางอยู่หลังจาก check out ไปแล้วจะได้ขอฝากกระเป๋าด้วยเลย พอได้ข้อมูลครบแล้วก็เดินไปที่ตลาด Zegjo เป็นตลาดสดคล้ายๆกันกับตลาดสดในเมืองต่างๆของพม่าที่ไปมา
แวะกินโมฮิงก่าในตลาดราคา 500 จั๊ต
แล้วเดินดูตลาดเล่นๆจนเห็นรถสองแถวจอดอยู่เลยลองไปสอบถามหารถที่จะไปสะพานอูเบ็งเพราะข้อมูลที่หามาจะมีรถสองแถวสาย 8 ไปสะพานอูเบ็งเดินไปอย่างงๆสื่อสารกับเค้าก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเลยเอารูปสะพานอูเบ็งให้เค้าดูเค้านึกว่าผมจะไปตอนนี้เลยพี่แกคอยจะโบกรถสาย8ให้ แล้วรถดันทะลึ่งมาพอดีแกโบกให้เสร็จเลยต้องรีบส่ายหน้าแทบหลุดบอกว่ายังไม่ได้ไปพร้อมกับขอบคุณพี่เค้า เป็นอันว่าเดี๋ยวบ่ายแก่ๆจะมาขึ้นรถตรงกลางตลาดนี่แหล่ะ เสร็จแล้วก็เดินกลับไปที่พักต่อเพราะต้องกลับไปแบตฯกล้องที่ชาร์จไว้+เอาผ้าลงมาให้ที่พักซัก และให้ที่พักหาคนขับมอไซค์พาไปส่งที่พระราชวังมัณฑะเลย์ด้วยตกลงกันที่ราคา 2,000 จั๊ต ทีแรกจะเดินไปเองเพราะดูจากgoogle mapน่าจะพอเดินไหวแต่ดูจากอากาศแล้วขอขึ้นมอไซค์ไปดีกว่า จากนั้นขึ้นรถเดินทางต่อจนถึงพระราชวังมัณฑะเลย์รู้สึกดีใจมากเพราะคิดถูกที่ไม่เดินมาเก็บแรงไว้เที่ยวดีที่สุด 5555(ตามแพลนเดิมจะเดินมาจากที่พักเพราะดูในแผนที่ม้นดูใกล้กัน)
ประวัติพระราชวังมัณฑะเลย์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พอถึงหน้าพระราชวังฯ เดินไปทางด้ายซ้ายจะมีป้อมขายตั๋วอยู่หน้าประตูทางเข้าวัง เสียค่าตั๋ว 10,000 จั๊ต
ป้อมขายตั๋ว
เดินเข้าประตูมา 50 เมตรจะมีจักรยานจอดเยอ่ะๆตรงนี้จะเป็นร้านเช่าจักรยานราคา 1,000 จั๊ต แนะนำว่าเช่าเลยครับคุ้มมากเพราะเดินไปลึกเอาเรื่องอยู่ ถึงพระราชวังฯแล้วด้านหน้าจะมีร้านอาหารและร้านกาแฟอยู่เราสามารถจะจอดรถบริเวณนี้หรือจะเอาไปจอดที่ด้านในวังก็ได้ครับ
จุดเช่ารถจักรยาน
ปืนใหญ่หน้าบันไดขึ้นวัง
ป้อมชมวิว