แค่หนึ่งความคิดเห็น ไม่อยากทะเลาะ แค่หนึ่งมุมมองครับ
     มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มี ๒๑ คณะวิชา ๑ วิทยาลัย มีนักศึกษาเยอะ ถ้าได้เกียรติยมคณะละ ๒๐-๓๐  คน ก็ไม่น่าแปลก ไปรับปริญญาบัตรของ ม.เกษตร ปีที่ผ่านมา คณะวิทยาศาสตร์คณะเดียว ก็มีเยอะมากครับ เหมือนลิงค์ข้างบน อดีตจำนวนนักศึกษาแต่ละคณะมีน้อย ก็มีคนเรียนเก่งน้อย แต่ปัจจุบัน มีนักศึกษาเยอะครับ วิศว มช.มีนักศึกษา รู้สึกประมาณชั้นปีละเกือบ ๘๐๐ นะครับ ถ้าจะมีเกียรติยมซัก ๔๐ คนก็ไม่แปลกครับ อย่าเอาอดีตมาเปรียบปัจจุบันครับ ในอดีตตอนที่ผมเรียนมีสาขาละ ๔๐-๕๐ คน ก็มีเกียรตินิยม ๑-๒ คน ปัจจุบันนักศึกษาเยอะครับ  
     การมีมากขึ้นไม่น่าจะใช่เพื่อชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยแน่นอนครับ แต่นักศึกษาสามารถค้นคว้าข้อมูลได้เร็วขึ้นมากกว่า ตอนผมเรียนจะรายงานหน้าห้องใช้สไลค์ ต้องส่งสไลค์มาล้างที่แล็ปของโกดักที่ กทม.ครับ ใช้เวลาเกือบครึ่งเดือนกว่าจะทำโปรเจคเสร็จ สังคมและสิ่งแวดล้อมทางเทคโนโลยีเปลี่ยนไปครับ ทำให้การเรียนรู้ได้ดีขึ้น แต่ทำงานเก่งหรือไม่เป็นอีกเรื่อง
     ถ้าไม่ถูกใจขออภัยครับ

เอาละครับ มาลองคิดง่ายๆ ว่า มช ตัดเกรดตามการกระจายตัวแบบปรกติ
เกรด A คือ 2sigma
          B+ คือ 1sigma
          B  คือ mean
จะพบว่า จะมีนักศึกษาที่ได้เกรดเกิน 3.5 เข้ามาตรฐานแบบอันดับหนึ่ง คือ 15.8% ของทั้งหมด เอาแค่ระดับปริญาตรีเลยนะครับ 5445 คน จะมีคนเกรดเกิน 3.5 ถึง 860 คน  ซึ่งเลขจริงๆ เป็น 600 คนเท่านั้น น้อยกว่าครึ่งทีเดียว ส่วนที่บอกว่าอยากได้เกียรตินิยมให้ลองคิดง่ายๆ ครับ
เอาเฉพาะ ป ตรี เลยนะครับ จาก 5445 คน ได้รับเกียรตินิยม (600+678)/5445=0.23  ประมาณ 20% เท่านั้น หนึ่งในห้าเท่านั้นนะครับ
  
ดังนั้น ไม่แปลกหรอกครับ ผมว่าที่น่าสนใจ ควรจะไปดูว่า จำนวณคนที่เข้าศึกษาตอนแรก จริงๆ มีกี่คน
แล้วเหลือรับปริญญาจริงๆ กี่คนมากกว่าครับ

แพทย์รามา ก็มีข่าวได้เกียรตินิยมกันเกือบยกรุ่นเลยนะ

ทุกวันนี้สื่อการเรียนการสอนหลายๆ แห่งเริ่มทันสมัย
แถมยังได้ Google มาช่วยให้สืบค้นข้อมูลต่างๆ
รวมถึง งานวิจัยต่างๆ ก็มีให้ค้นคว้ามากมาย ทั้งตำราและในเว็บไซต์
มีวิดีโอเลคเชอร์จำนวนมากในออนไลน์ที่ให้เข้าไปศึกษาฟรี

ยุคนี้ต้องบอกว่าใครเรียนแล้วได้เกรดต่ำกว่า 3.0
มีปัญหาอย่างเดียวครับ "ขี้เกียจอ่านหนังสือ"

ผิดกับนักเรียนรุ่นพี่สมัยก่อน จะหาแหล่งความรู้ทั้งทีแสนจะลำบาก