เปรียบเทียบข้อมูลก่อนซื้อ
สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนเลยว่ากระทู้นี้เป็นการรีวิวกระทู้แรก หากมีการผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า เรื่องมีอยู่ว่า เป็นคนขี้เกียดค่ะ โดยเฉพาะกับการทำงานบ้านทุกชนิด เนื่องจากว่าตัวเองเป็นมนุษย์เงินเดือนค่ะ ออกจากบ้านแต่เช้า กลับบ้านมาก็ค่ำ เสาร์-อาทิตย์ ก็ต้องซักผ้า รีดผ้า ถูบ้าน บางทีก็ทำกับข้าวอีก ขอบอกว่าเพลียยยย มากค่ะ อยากมีเวลานั่งเล่น นอนเล่น ชอปปิ้งลั้ลลา
ละเผอิญวันนึง ไปเที่ยวบ้านเพื่อน ละเห็นนางมีตัวอะไรกลมๆ แบนๆ อยู่ที่พื้น ซักไซร้นางละก็ได้คำตอบว่ามัน คือ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น จ้า ซึ่งด้วยความไฮโซของนาง นางบอกของนางยี่ห้อ irobot รุ่น Roomba 880 (ตัวท๊อป) ส่วนราคาก็ไม่เท่าไหร่เอ๊งงง 3x,xxxx บาทค่า (แล้วแต่โปรโมชั่น) ไหนๆ เครื่องวางอยู่ตรงหน้า เลยขอทดลองใช้สักหน่อย ปรากฎว่าชอบมากค่ะ คิดในใจเลยว่า เห้ยยย ถ้ามีเจ้าตัวนี้แล้วเราก็คงจะไม่ต้องมานั่งหลังขดหลังแข็งกวาดบ้านเองอีกต่อไปแล้วสินะ เย้!!
แต่เดี๋ยวก่อน.... เอ๊ะ 30,000 บาท สำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเรานี่ไม่น้อยเลยนะเนี่ยยย (ยิ่งผู้หญิงยุคนี้อย่างเราๆ 30,000 = กระเป๋าแบรนด์เนมหนึ่งใบเลยนะเออออ) กรี๊สสส!!
คิดได้ดังนั้น ก็เริ่มเลยค่ะ นั่งหาข้อมูลอย่างบ้าคลั่ง ทั้ง VDO ทั้งอ่านรีวิวเมืองนอก
https://youtu.be/bu5f7wEISUA
เอาเป็นว่าสวมวิญญาณนักวิชการได้เลย เปรียบเทียบราคาและคุณภาพทุกเจ้าทุกยี่ห้อ และแล้วก็คัดจนเหลืออยู่ 2 ตัว ที่ยังลังเลว่าจะเลือกตัวไหนดี นั่นก็คือ irobot รุ่น Roomba 880 แบรนด์ดังจากฝั่งอเมริกา และ iClebo รุ่น ARTE แบรนด์จากเกาหลี (ราคาอยู่ที่ประมาณ 19,XXX บาท) ที่อาจจะยังไม่ค่อยมีคนรู้จักในไทยมากนัก จากข้อมูลที่หาสรุปได้ว่า
(เอา ICLEBO ขึ้นก่อนไหม ? )
iClebo รุ่น ARTE มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่เด่นๆ เลย คือ
1. ระบบ Vision Mapping System คือ ที่เครื่องจะมีกล้องแต่ไม่ได้ไว้ถ่ายวีดีโอบริเวณห้องนะคะ แต่เจ้ากล้องเนี้ยจะแสกนพื้นที่ประมวลผล แล้ววางแผนการเดินทำความสะอาด ซึ่งจะไม่เดินซ้ำจุดที่เคยทำความสะอาดแล้วทำให้ประหยัดเวลา ไม่เดินมั่วไป มั่วมา ทำเสร็จ 1 ห้อง สามารถเดินต่อไปยังห้องถัดไปเพื่อทำความสะอาดต่อได้เลย
2. แบตเตอรี่ทำงานได้ประมาน 120 นาที (ไม่พบข้อมูลว่าทำต่อเนื่องได้กี่ห้อง)
3. มีอุปกรณ์เสริมสำหรับถูพื้นไปในตัว คือ ผ้าถู Ultra Micro Fiber สามารถถูเปียกหรือแห้งก็ได้ (เค้าเคลมมาว่าอย่างนี้)
irobot รุ่น Roomba 880 มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่เด่นๆ เลย คือ
1. แบตเตอรี่ทำงานต่อเนื่องได้นาน 200 กว่านาที ทำงานต่อเนื่องได้สูงสุด 3 ห้อง
2. ระบบ AERO FORCE ที่ใช้แปรงยางคู่หมุนเข้าหากัน ทำงานควบคู่กับพลังดูดฝุ่นแรงสูง (เค้าเคลมว่างั้นนะ) ที่ออกแบบมาพิเศษลิขสิทธิเฉพาะ irobot
3. ระบบ ANTI-TANGLE ป้องกันให้เครื่องไปติดกับสายไฟหรือ สายอะไรก็ตามที่หุ่นยนต์เดินผ่าน
ถ้าใครนึกไปออกลองดูวีดีโอพวกนี้คู่กันก็ได้คะ จะได้เห็นภาพมากขึ้นนะคะ
(ใส่ link youtube ที่ เปรียบเทียบการทำงาน ICLEBO กับ แบรนด์อื่นๆ ซัก 2 วีดีโอ)
ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบแล้ว (ได้ไปดูของจริงทั้ง 2 รุ่นที่ห้างเพื่อประกอบการตัดสินใจด้วย) จึงตัดสินใจซื้อ iClebo รุ่น ARTE มาค่ะ เหตุผลที่ตัดสินใจซื้อรุ่นนี้เลย ก็คือ
- ระบบ Vision Mapping System ของเค้ามันดูเป็นการทำงานที่ฉลาดมากจริงๆ แถมทำงานต่อเนื่องจากห้องแรกไปยังห้องที่ 2 ได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริม ใดๆ
ความเห็น : พอลองใช้แล้วมันก็วิ่งเป็นเส้นตรงๆ แบบดูมี pattern วิ่งดูแล้วฉลาดสมกับเป็นสินค้าแดนโสม เกาหลี จริงๆ innovation นี่ต้องให้เค้าเลยคะ
- แบตเตอรี่เป็นแบบ Lithium-ion ที่มีอายุการใช้งานนาน (ของ irobot เค้าว่าเป็น นิกเกิ้ล) อีกทั้งสายชาร์จยังเป็นแบบคอมพิวเตอร์ Laptop ที่จะมี adapter ตรงกลาง แบบนี้ ทำให้ชาร์จแบตได้เร็วมาก แค่ 2 ชม. แบตก็เต็มแล้ว
- ความเห็น : ชอบตรงที่พอวิ่งทำความสะอาดจนหมดห้องแล้ว มันก็กลับแท่นชาร์จเอง แล้วเรามี 2 ห้องนอน มันก็วิ่งจนครบเลย แบตเตอรี่ก็ยังเหลือนะคะ
- สามารถดูดฝุ่นและถูพื้นได้ในตัวเดียว ในราคาไม่เกิน 2 หมื่น แต่อีกเจ้าต้องซื้อแยก ซึ่งถ้าซื้อ 2 ตัวราคาก็คงไม่ต่ำกว่า 4 หมื่น (ราคานี้ซื้อ iclebo ได้ 2 ตัวเลยนะ เหอๆ)
- ความเห็น : ครั้งแรกที่ใช้ไป 10 นาที เปิดกล่องเก็บฝุ่นมาก็เห็นฝุ่น และ เศษผมอยู่นะคะ ใช้แล้วก็รู้เลยว่าห้องของเราไม่ได้สะอาดอย่างที่คิด อาจจะเป็นเพราะว่าเจ้าiclebo มันวิ่งไปในบริเวณที่เราไม่เคยทำความสะอาด เช่น ใต้เตียง ใต้ตู้
ตอนนี้ จขกท ก็เลยได้สอยเจ้าตัว iClebo ARTE มาเป็นที่เรียบร้อย และได้ทดลองใช้ไปบ้างแล้ว เท่าที่ใช้ไป 2 – 3 ครั้ง ก็ถือว่าประทับใจเลยทีเดียว แต่คิดว่าคงต้องลองใช้อีกสักระยะ ว่าจะพบข้อบกพร่องหรือปัญหาอะไรรึเปล่า แล้วจะมารายงานให้ทราบอีกทีนะค้า
ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบนะค่า ปล.ขอยืมของแฟนเขียนรีวิวนะคะ ^^
[CR] รีวิว เครื่องช่วยชีวิตที่แสนยุ่ง สำหรับคนยุคใหม่ กับหุ่นยนต์ดูดฝุ่น iCLEBO
สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนเลยว่ากระทู้นี้เป็นการรีวิวกระทู้แรก หากมีการผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า เรื่องมีอยู่ว่า เป็นคนขี้เกียดค่ะ โดยเฉพาะกับการทำงานบ้านทุกชนิด เนื่องจากว่าตัวเองเป็นมนุษย์เงินเดือนค่ะ ออกจากบ้านแต่เช้า กลับบ้านมาก็ค่ำ เสาร์-อาทิตย์ ก็ต้องซักผ้า รีดผ้า ถูบ้าน บางทีก็ทำกับข้าวอีก ขอบอกว่าเพลียยยย มากค่ะ อยากมีเวลานั่งเล่น นอนเล่น ชอปปิ้งลั้ลลา
ละเผอิญวันนึง ไปเที่ยวบ้านเพื่อน ละเห็นนางมีตัวอะไรกลมๆ แบนๆ อยู่ที่พื้น ซักไซร้นางละก็ได้คำตอบว่ามัน คือ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น จ้า ซึ่งด้วยความไฮโซของนาง นางบอกของนางยี่ห้อ irobot รุ่น Roomba 880 (ตัวท๊อป) ส่วนราคาก็ไม่เท่าไหร่เอ๊งงง 3x,xxxx บาทค่า (แล้วแต่โปรโมชั่น) ไหนๆ เครื่องวางอยู่ตรงหน้า เลยขอทดลองใช้สักหน่อย ปรากฎว่าชอบมากค่ะ คิดในใจเลยว่า เห้ยยย ถ้ามีเจ้าตัวนี้แล้วเราก็คงจะไม่ต้องมานั่งหลังขดหลังแข็งกวาดบ้านเองอีกต่อไปแล้วสินะ เย้!!
แต่เดี๋ยวก่อน.... เอ๊ะ 30,000 บาท สำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเรานี่ไม่น้อยเลยนะเนี่ยยย (ยิ่งผู้หญิงยุคนี้อย่างเราๆ 30,000 = กระเป๋าแบรนด์เนมหนึ่งใบเลยนะเออออ) กรี๊สสส!!
คิดได้ดังนั้น ก็เริ่มเลยค่ะ นั่งหาข้อมูลอย่างบ้าคลั่ง ทั้ง VDO ทั้งอ่านรีวิวเมืองนอก
https://youtu.be/bu5f7wEISUA
เอาเป็นว่าสวมวิญญาณนักวิชการได้เลย เปรียบเทียบราคาและคุณภาพทุกเจ้าทุกยี่ห้อ และแล้วก็คัดจนเหลืออยู่ 2 ตัว ที่ยังลังเลว่าจะเลือกตัวไหนดี นั่นก็คือ irobot รุ่น Roomba 880 แบรนด์ดังจากฝั่งอเมริกา และ iClebo รุ่น ARTE แบรนด์จากเกาหลี (ราคาอยู่ที่ประมาณ 19,XXX บาท) ที่อาจจะยังไม่ค่อยมีคนรู้จักในไทยมากนัก จากข้อมูลที่หาสรุปได้ว่า
(เอา ICLEBO ขึ้นก่อนไหม ? )
iClebo รุ่น ARTE มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่เด่นๆ เลย คือ
1. ระบบ Vision Mapping System คือ ที่เครื่องจะมีกล้องแต่ไม่ได้ไว้ถ่ายวีดีโอบริเวณห้องนะคะ แต่เจ้ากล้องเนี้ยจะแสกนพื้นที่ประมวลผล แล้ววางแผนการเดินทำความสะอาด ซึ่งจะไม่เดินซ้ำจุดที่เคยทำความสะอาดแล้วทำให้ประหยัดเวลา ไม่เดินมั่วไป มั่วมา ทำเสร็จ 1 ห้อง สามารถเดินต่อไปยังห้องถัดไปเพื่อทำความสะอาดต่อได้เลย
2. แบตเตอรี่ทำงานได้ประมาน 120 นาที (ไม่พบข้อมูลว่าทำต่อเนื่องได้กี่ห้อง)
3. มีอุปกรณ์เสริมสำหรับถูพื้นไปในตัว คือ ผ้าถู Ultra Micro Fiber สามารถถูเปียกหรือแห้งก็ได้ (เค้าเคลมมาว่าอย่างนี้)
irobot รุ่น Roomba 880 มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่เด่นๆ เลย คือ
1. แบตเตอรี่ทำงานต่อเนื่องได้นาน 200 กว่านาที ทำงานต่อเนื่องได้สูงสุด 3 ห้อง
2. ระบบ AERO FORCE ที่ใช้แปรงยางคู่หมุนเข้าหากัน ทำงานควบคู่กับพลังดูดฝุ่นแรงสูง (เค้าเคลมว่างั้นนะ) ที่ออกแบบมาพิเศษลิขสิทธิเฉพาะ irobot
3. ระบบ ANTI-TANGLE ป้องกันให้เครื่องไปติดกับสายไฟหรือ สายอะไรก็ตามที่หุ่นยนต์เดินผ่าน
ถ้าใครนึกไปออกลองดูวีดีโอพวกนี้คู่กันก็ได้คะ จะได้เห็นภาพมากขึ้นนะคะ
(ใส่ link youtube ที่ เปรียบเทียบการทำงาน ICLEBO กับ แบรนด์อื่นๆ ซัก 2 วีดีโอ)
ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบแล้ว (ได้ไปดูของจริงทั้ง 2 รุ่นที่ห้างเพื่อประกอบการตัดสินใจด้วย) จึงตัดสินใจซื้อ iClebo รุ่น ARTE มาค่ะ เหตุผลที่ตัดสินใจซื้อรุ่นนี้เลย ก็คือ
- ระบบ Vision Mapping System ของเค้ามันดูเป็นการทำงานที่ฉลาดมากจริงๆ แถมทำงานต่อเนื่องจากห้องแรกไปยังห้องที่ 2 ได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริม ใดๆ
ความเห็น : พอลองใช้แล้วมันก็วิ่งเป็นเส้นตรงๆ แบบดูมี pattern วิ่งดูแล้วฉลาดสมกับเป็นสินค้าแดนโสม เกาหลี จริงๆ innovation นี่ต้องให้เค้าเลยคะ
- แบตเตอรี่เป็นแบบ Lithium-ion ที่มีอายุการใช้งานนาน (ของ irobot เค้าว่าเป็น นิกเกิ้ล) อีกทั้งสายชาร์จยังเป็นแบบคอมพิวเตอร์ Laptop ที่จะมี adapter ตรงกลาง แบบนี้ ทำให้ชาร์จแบตได้เร็วมาก แค่ 2 ชม. แบตก็เต็มแล้ว
- ความเห็น : ชอบตรงที่พอวิ่งทำความสะอาดจนหมดห้องแล้ว มันก็กลับแท่นชาร์จเอง แล้วเรามี 2 ห้องนอน มันก็วิ่งจนครบเลย แบตเตอรี่ก็ยังเหลือนะคะ
- สามารถดูดฝุ่นและถูพื้นได้ในตัวเดียว ในราคาไม่เกิน 2 หมื่น แต่อีกเจ้าต้องซื้อแยก ซึ่งถ้าซื้อ 2 ตัวราคาก็คงไม่ต่ำกว่า 4 หมื่น (ราคานี้ซื้อ iclebo ได้ 2 ตัวเลยนะ เหอๆ)
- ความเห็น : ครั้งแรกที่ใช้ไป 10 นาที เปิดกล่องเก็บฝุ่นมาก็เห็นฝุ่น และ เศษผมอยู่นะคะ ใช้แล้วก็รู้เลยว่าห้องของเราไม่ได้สะอาดอย่างที่คิด อาจจะเป็นเพราะว่าเจ้าiclebo มันวิ่งไปในบริเวณที่เราไม่เคยทำความสะอาด เช่น ใต้เตียง ใต้ตู้
ตอนนี้ จขกท ก็เลยได้สอยเจ้าตัว iClebo ARTE มาเป็นที่เรียบร้อย และได้ทดลองใช้ไปบ้างแล้ว เท่าที่ใช้ไป 2 – 3 ครั้ง ก็ถือว่าประทับใจเลยทีเดียว แต่คิดว่าคงต้องลองใช้อีกสักระยะ ว่าจะพบข้อบกพร่องหรือปัญหาอะไรรึเปล่า แล้วจะมารายงานให้ทราบอีกทีนะค้า
ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบนะค่า ปล.ขอยืมของแฟนเขียนรีวิวนะคะ ^^