ก่อนอื่นผมต้องออกตัวก่อนว่าผมประทับใจกับการบริการของสาขานี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เปิดบริการและใช้บริการสาขานี้มาโดยตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งผมไปขึงเอ็นที่สาขานี้อีกครั้ง แล้วพนักงานที่ประจำอยู่ที่สาขานี้ก็เปลี่ยนหน้าไป(ไม่ใช่คนเดิมที่เคยเจอประจำ) การบริการ+คำพูดถือว่าดี เพราะเป็นผู้ใหญ่และใส่ใจการบริการ(ดูจากการพูดจา) ผมขึงเอ็น26lbs ซึ่งเป็นน้ำหนักขึงประจำของผม ผมได้ทิ้งไม้ไว้แล้วกลับมาเอาเพราะคิวยาวมากเมื่อขึงเสร็จผมได้เชคความเรียบร้อยแต่ก็เอะใจว่ามันเบี้ยวรึปล่าว ผจก.ก็อวยพนง.ขึงเอ็นใหญ่ว่า"เนี่ยนะคะ น้องเค้าเพิ่งขึงเอ็นได้เลยนะค่ะ แต่ยังไม่ชำนาญเท่าไรเลยต้องใช้เวลานานหน่อยเพราะนักกีฬาเค้าขึ้นสูงอะค่ะ ขอโทษทีนะคะที่ต้องรอนานหน่อย" ผมก็บอกว่าไม่เป็นไร กอรปกับผมคิดว่าผมคิดไปเองเลยจ่ายเงินแล้วออกจากร้าน แต่พอเดินมาสักพักผมไม่อยากเชื่อสายตาเลยนำออกมาดูอีกครั้ง พร้อมกับถามเพื่อนที่ไปด้วยว่าคิดเห็นอย่างไร เพื่อนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าเบี้ยว ผมจึงเดินกลับไปที่ร้านแล้วบอกผจก.คนนั้นว่า
ผม: พี่ครับ เหมือนเฟรมมันจะเบี้ยวๆหน่อยอะครับ ตรงนี้
ผจก: ไหนค่ะ ตรงไหน
ผม: นี่ครับ  ตรงนี้(ผมชี้จุดที่เบี้ยวให้ดู)
ผจก: อ่อ แป้บนึงนะคะ
พร้อมกับนำไม้ผมไปให้พนักงานที่ขึงเอ็นดู
พนง.ขึงเอ็น: ไม่เบี้ยวนะคะ
แต่ผมก็ยังยืนยันตรงนั้นว่าเบี่ยวจริงๆ
ผจก.: แล้วน้องจะให้ทำยังไงค่ะ (พูดเชิงเหวี่ยงนิดๆ)
ตอนนั้นผมเริ่มโมโห ว่าทำไมร้านไม่รับผิดชอบหน่อย แนะนำให้ผมขึงใหม่ก็ได้ผมยินดีแต่นี่มาเหวี่ยงใส่ผม ทันใดนั้นมีนักกีฬาที่นำไม้มาขึงไว้ก่อนหน้านั้นมาพอดี พนง.ขึงเอ็นเลยจะให้นักกีฬามาดูไม้ผม ซึ่งตอนที่เดินเข้ามานั้นทักทายกันสนิทสนมมาก ผมเลยคิดว่าถ้าเขาดูอย่างไรก็ต้องบอกว่าไม่เบี้ยว ถึงแม้ว่ามันจะเบี้ยว เขาต้องรักษาหน้าตากันอย่างแน่นอนตามธรรมเนียมคนไทย ผมเลยไม่เสี่ยงกับเหตุการณ์นี้ที่จะเกิดขึ้น
ผม: อ่องั้นไม่เป็นไรครับ
แล้วเดินออกจากร้านมาตัดเอ็นทิ้งให้หมด

ผมเลยอยากทราบความเห็นกับชาวห้องแบดครับ ว่าแบบนี้ทางร้านควรจะรับผิดชอบอย่างไร เพื่อใช้เป็นการต่อรองในอนาคตครับ