.... การโพสต์ข้อความบนอินเตอร์เน็ตต้องเตือนตัวเองเสมอว่า กำลังยืนอยู่หน้าประตูคุก ....

กระทู้คำถาม
มีบทความเตือนใจดีๆมาฝากครับ...

กฎหมายหมิ่นประมาท และ กฎหมายคอมพิวเตอร์ 2550
ใครที่นั่งหน้าจอคอมพ์ชอบโพสต์ข้อความบนอินเตอร์เน็ต  ควรต้องรู้กฎหมายประดับตัวพอสมควร เพราะถ้ามีเรื่องขึ้นมา จะไปอ้างว่าไม่รู้กฎหมาย  ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือศาลท่านไม่รับฟังทั้งสิ้น

การโพสต์ข้อความบนอินเตอร์เน็ตต้องระมัดระวังให้มาก  และเตือนตัวเองเสมอว่า กำลังยืนอยู่หน้าประตูคุก   เพราะถ้าไปโพสต์ข้อความหมิ่นประมาทบุคคลอื่นเข้า  ผู้เสียหายสามารถแจ้งความดำเนินคดี หรือฟ้องร้องต่อศาลดำเนินคดีอาญาได้

การดำเนินดคีกับผู้กระทำผิดหมิ่นประมาทคนอื่นนั้นไม่ยาก  เพราะนอกจากมีกฎหมายอาญามาตรา 328 ระบุความผิดแล้ว  ก็ยังมีกฎหมายคอมพิวเตอร์ ปี 2550 สนับสนุนอีกแรง  ทำให้สาวถึงตัวผู้กระทำผิดได้อย่างง่ายดาย   คือ รู้ข้อความหมิ่นประมาท  รู้ตัวผู้กระทำผิด  รู้สถานที่ที่กระทำความผิด  รู้หมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ในการกระทำความผิด  รู้เวลาและคาบเวลาที่กระทำความผิด ฯลฯ...ทุกอย่างชัดเจนหมด  ดิ้นไม่หลุด !!

ผู้กระทำความผิดหมิ่นประมาทบุคคลอื่น  หรือกระทำความผิดอาญาอื่นๆบนอินเตอร์เน็ตสามารถถูกจับกุม หรือถูกฟ้องร้องดำเนินตดีได้อย่างง่ายดายที่สุด...ตรงนี้จึงขอเตือนทุกท่านได้โปรดระมัดให้จงหนัก..!!

วันนี้มีความรู้เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับกฎหมายหมิ่นประมาทและกฎหมายคอมพิวเตอร์ 2550 มาฝากกัน  เพื่อจะได้ไม่มือไวใจไว ขาดความยั้งคิด  กระทำผิดกฎหมาย โพสต์ข้อความหมิ่นประมาทคนอื่นเข้า     การหมิ่นประมาทผู้อื่นบนอินเตอร์เน็ต  ไม่ต่างอะไรกับการหมิ่นประมาทผู้อื่นบนหน้าหนังสือพิมพ์ เพราะใช้ตัวบทกฎหมายอาญามาตรา 328 เดียวกัน  แต่การหมิ่นประมาทบนอินเตอร์เน็ตจะมีกฎหมายคอมพิวเตอร์ 2550 สมทบเข้ามา เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสาวถึงผู้กระทำผิดได้ถูกตัวถูกคน

คดีหมิ่นประมาท เจ้าทุกข์หรือผู้เสียหายสามารถดำเนินการได้สองทาง  คือ แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ  หรือดำเนินคดีเองด้วยการตั้งทนายฟ้องร้องต่อศาล

ในการแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ตำรวจจะมีหมายเรียกผู้กระทำผิดหรือผู้ถูกกล่าวหามาพบ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา  ถ้าไม่มา  ตำรวจก็จะออกหมายจับ   ขั้นตอนตำรวจนี้อยู่ในชั้นสอบสวน  

เมื่อการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเสร็จ  ก็จะส่งสำนวนไปอัยการเพื่อดำเนินการฟ้องร้อง  จากอัยการ คดีก็จะขึ้นสู่ศาล   ทุกขั้นตอนของคดี คือ ชั้นสอบสวน  ชั้นอัยการ และชั้นศาล   ผู้กระทำผิด หรือผู้ถูกกล่าวหา จะต้องประกันตัวทุกขั้นตอน

แต่โดยมาก เจ้าทุกข์หรือผู้เสียหายในคดีหมิ่นประมาทมักจะให้ทนายดำเนินการฟ้องร้องเอง เพราะค่อนข้างยืดหยุ่น และมีลูกเล่นลูกชนมากกว่า !!
หากเจ้าทุกข์ผู้เสียหายจะแจ้งความ ก็มักเป็นการแจ้งความเพื่อยืดอายุคดี  ผลของการแจ้งความ  อายุความคดีหมิ่นประมาทจะยืดออกไป จาก 3 เดือนกลายเป็น 5 ปึ!!  
การฟ้องร้องคดีหมื่นประมาทในทางอาญา  ถ้าฝ่ายผู้เสียหายได้ทนายมือดีทำงานให้  มีลูกเล่นลูกชนมาก   จำเลยจะ"โคตะระ"เหนื่อย  และอาจเกิดอาการประสาท"แด๊ก"เอาง่ายๆ  เพราะเห็นประตูคุกเปิดอ้ารำไร...!!
ผู้เสียหายในคดีหมิ่นประมาท  นอกจากจะสามารถฟ้องร้องผู้กระทำผิดในทางอาญาแล้ว ก็ยังสามารถฟ้องร้องทางแพ่ง  เรียกค่าเสียหายได้อีกโสดหนึ่งด้วย

การฟ้องแพ่งพ่วงเข้ามา  ก็คงคล้ายการ "ขายเบียร์แถมเหล้า" ได้กำไรอีกต่อ  บางคดีผู้เสียหายมีต้นทุนทางชื่อเสียงและธุรกิจสูง  ก็จะฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นร้อยล้าน !!  

ในการดำเนินคดีหมิ่นประมาทบนหน้าหนังสือพิมพ์และบนอินเตอร์เน็ตในทางอาญา  สามารถทำได้ทั่วประเทศ เพราะสื่อทั้งสองชนิดนี้แพร่ไปทั่วประเทศ  การฟ้องร้องดำเนินคดีจึงสามารถทำได้ตั้งแต่เหนือสุดยันใต้สุดของประเทศไทย
จะฟ้องที่เชียงราย ที่ปัตตานี หรือที่นราธิวาส..ย่อมได้ทั้งนั้น !!


ถ้าเขียนข้อความหมิ่นประมาทหลายครั้งหลายหน ก็ถือเป็นการกระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระ  สามารถนำไปแยกฟ้องได้  อาจจะฟ้องเหนือสุดที่เชียงรายแห่งหนึ่ง  ใต้สุดที่ปัตตานีหรือนราธิวาสแห่งหนึ่ง  และภาคอีสานที่อุบลฯอีกแห่งหนึ่ง   เรียกว่า ฟ้องครบทั่วทุกภาค
ที่สุดสนุกก็คือ  การฟ้องใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั่นแหละ   ระเบิดและกระสุนปืนสงครามแถวนั้นชุกชุม   ทหารตำรวจที่ว่าแน่ๆยังผวา...ไม่มีใครอยากถูกย้ายไปที่นั่น !!
ถ้าผู้กระทำผิดถูกฟ้องต่างกรรมต่างวาระ...ต้นเดือนขึ้นศาลภาคใต้  กลางเดือนขึ้นศาลภาคเหนือ  และปลายเดือนขึ้นศาลภาคอิสาน...มีช่วงว่างเวลาสับหลีกเพียงแค่ 10 วัน
จำเลยรวย...รวยคดี !! เดือนๆไม่ต้องทำมาหากินอะไร  เอาแต่เดินตามตูดทนายขึ้นศาลลูกเดียว!!


การฟ้องร้องดำเนินคดีอาญาหมิ่นประมาท  จำเลยต้องไปศาลทุกนัด   แต่โจทก์ไม่จำเป็นต้องไปทุกนัด ทนายจะทำหน้าที่แทน  บางครั้งทนายโจทก์ก็ดัน"ป่วย"ขึ้นมาซะอีก   จำเลยจึงเดินทางไปฟรี หรือไปเก้อ !!  เสียค่าเดินทาง  เสียค่าที่พัก  เสียเวลาทำมาหากิน
และอาจถึงขั้นเสียประสาท !!  ถ้าหากโจทก์ผู้เสียหายไม่ยอมความ  ประสงค์จะดำเนินคดีถึงที่สุด  งานนี้ถ้าโจทก์ผู้เสียหายได้ทนายมือดีทำงานให้   จำเลยที่หมิ่นประมาทเขา  ก็จะตกอยู่ในฐานะล่อแหลม ยืนพิงประตูคุกอยู่ครับ !!
ในการฟ้องร้องดำเนินคดีอาญาต่อผู้กระทำผิดหมิ่นประมาทใส่ความคนอื่นบนหนังสือพิมพ์ อันเป็นสื่อสาธารณะ จะใช้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328
ส่วนการหมิ่นประมาทบนอินเตอร์เน็ต นอกจากจะใช้มาตรา 328 นี้แล้ว  ก็ยังใช้กฎหมายคอมพิวเตอร์2550 พ่วงเข้ามาอีกฉบับ  เพื่อ"ล็อกเป้า" ผู้กระทำความผิด ให้ดิ้นไม่หลุด!!
ครับ...ถูกตัว!! ถูกคน!! หนีไม่พ้น !! และปฏิเสธไม่ได้ !!
สื่อหนังสือพิมพ์เป็นแค่กระดาษเปื้อนหมึกธรรมดาๆ  ข้อความหรือภาพหมิ่นประมาทปรากฏอยู่บนหน้ากระดาษชัดเจนโทนโท่  ไม่มีอะไรซับซ้อนในการนำสืบ
แต่บนจอคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตมันซับซ้อนกว่า   ข้อความหรือภาพหมิ่นประมาทจะถูกแพร่ออกไปชนิดไร้พรมแดน   เกี่ยวข้องกับระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตจากต้นทางถึงปลายทาง  โดยที่ข้อความหรือภาพหมิ่นประมาทนั้นแพร่ไปทั่วโลกและทั่วเมืองไทย

มาดูประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328 กันก่อน  กฎหมายมาตรานี้กล่าวไว้ว่า...
มาตรา 328 ถ้าความผิดฐานหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณา ด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษรที่ ทำให้ปรากฏด้วยวิธีใด ๆ แผ่นเสียง หรือสิ่งบันทึกเสียง บันทึกภาพ หรือบันทึกอักษร กระทำโดยการกระจายเสียง หรือการกระจายภาพ หรือโดยกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกินสองปีและปรับไม่เกินสองแสนบาท
ดังนั้น การเขียนหรือโพสต์ข้อความหมิ่นประมาทบุคคลอื่นบนอินเตอร์เน็ต  ล้วนเข้าข่ายกฎหมายอาญามาตรา 328 นี้ทั้งนั้น  นี่เป็นข้อแรก

ข้อต่อมาที่เราควรต้องรู้ก็คือ  อินเตอร์เน็ตเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ แพร่ไปทั่วโลกและทั่วประเทศไทย  แต่เพราะผลของการบังคับใช้กฎหมายคอมพิวเตอร์ 2550  ยังผลให้การโพสต์ข้อความหมิ่นประมาทจากต้นทางถึงปลายทาง สามารถย้อนรอยสาวถึงตัวผู้กระทำผิดได้ ชนิดดิ้นไม่หลุด !!  
กฎหมายคอมพิวเตอร์ 2550 มาตรา 26 กล่าวไว้ว่า... ผู้ให้บริการต้องเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้ไม่น้อยกว่าเก้าสิบวัน นับแต่วันที่ข้อมูลนั้นเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่ในกรณีจำเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งให้ผู้ให้บริการผู้ใดเก็บรักษา ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้เกินเก้าสิบวันแต่ไม่เกินหนึ่งปี เป็นกรณีพิเศษ เฉพาะรายและเฉพาะคราวก็ได้

ผู้ ให้บริการจะต้องเก็บรักษาข้อมูลของผู้ใช้บริการเท่าที่จำเป็น เพื่อให้สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการนับตั้งแต่เริ่มใช้บริการ และต้องเก็บรักษาไว้เป็นเวลาไม่น้อยกว่าเก้าสิบวัน นับตั้งแต่การใช้บริการสิ้นสุดลง<p> </p>ความในวรรคหนึ่งจะใช้กับผู้ให้บริการประเภทใด อย่างไร และเมื่อใด ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา....

กฎหมายคอมพิวเตอร์ 2550 มาตรา 26 บังคับให้"ผู้ให้บริการ"คอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นทางยันปลายทาง จะต้องบันทึกและรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่าtraffic data ไว้ทั้งหมด  

และ traffic data นี่แหละครับ จะสาวถึงตัวผู้กระผิด !!    

"ผู้ให้บริการ" ตามนัยยะกฎหมายคอมพิวเตอร์ ครอบคลุมกว้างขวางมาก ได้แก่ บรรดา ISPทั้งหมด  หน่วยงานรัฐบาลหรือเอกชนทุกแห่งที่จัดตั้งและให้บริการเครือข่าย Internet ทั้งที่ใช้สายเคเบิ้ล และไร้สาย  

หน่วยงานราชการ  บริษัทห้างร้านเอกชน  องค์การต่างๆ  ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่  สถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า  ภัตตาคาร  ร้านคาเฟ่  สนามบิน ฯลฯ ที่มีเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เข้าข่าย "ผู้ให้บริการ"ทั้งสิ้น  
สรุปง่ายๆก็คือ  ที่ไหนมีเครือข่ายอินเตอร์เน็ต กฎหมายคอมพิวเตอร์ถือเป็น"ผู้ให้บริการ"มีหน้าที่ต้องบันทึกและเก็บรักษา traffic data ไว้ทั้งหมด มิฉะนั้นจะมีความผิดตามกฎหมาย  

กฎหมายคอมพิวเตอร์บังคับให้"ผู้ให้บริการ" ต้องเก็บ traffic data อย่างน้อย 3 เดือน หรือสามารถยืดออกไปเป็น 1 ปี ถ้าหากเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหน้าที่มีคำสั่ง
traffic data จะระบุต้นทางและปลายทางข้อมูล  หมายเลขโทรศัพท์  IP address  การเข้าออกของข้อมูล  ปริมาณข้อมูล  ระยะเวลาเริ่มต้น ระยะเวลาสิ้นสุด  วันเวลาเข้าออกอินเตอร์เน็ต  ฯลฯ    

ดังนั้น คนเล่นอินเตอร์เน็ต ถ้าไปกระทำผิดโพสต์ข้อความหมิ่นประมาทคนอื่น หรือกระทำความผิดอื่นๆเข้า   ก็สามารถจะถูกจับกุมดำเนินคดี หรือถูกฟ้องร้องได้เสมอ  เพราะสามารถย้อนรอยหาตัวผู้กระทำผิด จากผลของกฎหมายคอมพิวเตอร์ 2550 นั่นเอง

ขอย้ำอีกครั้ง...ผู้กระทำผิดจะถูก"ล็อกเป้า"ชนิด... ถูกตัว!! ถูกคน!! หนีไม่พ้น !! และปฏิเสธไม่ได้ !!
คุกเมืองไทยทุกวันนี้ นักโทษอยู่กันหนาแน่น แทบจะล้น  คุกหลายๆแห่งเวลานอน ขยับตัวแทบไม่ได้ เพราะนอนห่างกันไม่ถึงคืบ !!

ใครเล่นอินเตอร์เน็ตชอบโพสต์ข้อความต่างๆ  ไม่อยากนอนคุก อยากนอนสบายๆที่บ้าน  ก็ต้องเตือนตัวเองตลอดเวลา อย่ามือไวใจไว  โพสต์ข้อความหมิ่นประมาทคนอื่น หรือกระทำผิดกฎหมายใดๆทั้งสิ้น  มิฉะนั้น "คุก"จะถามหาครับ !!  

หวังว่าข้อเขียนนี้ คงจะเป็นประโยชน์แก่นักโพสต์ข้อความบนเน็ตทั้งหลายโดยทั่วกัน
      ● Skyhawk

https://th-th.facebook.com/notes/204918493004049/
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
ความคิดเห็นที่ 8
ระมัดระวัง  เตือนสติทุกคนครับ  
ไม่ใช่ว่าตอนนี้ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วจะทำต่อไป  แต่อย่าให้รอได้อยู่ในกรง แล้วมาเสียใจเลย
อย่าไปละเมิดความเป็นส่วนตัวใคร  เป็นใครก็ไม่ยอมทั้งนั้น
การฟ้องหมิ่นประมาท หากรู้ภายในสามเดือนฟ้องได้เลย  แต่ถ้าไม่รู้ อายุความ 5 ปี  เพราะฉะนั้นมีสติกันทุกฝ่ายครับ
natera

-----------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณที่เพิ่มข้อมูลครับ เกี่ยวกับอายุความผมขอเพิ่มข้อมูลจากบทความครับ...

การแจ้งความเพื่อยืดอายุคดี  ผลของการแจ้งความ  อายุความคดีหมิ่นประมาทจะยืดออกไป จาก 3 เดือนกลายเป็น 5 ปึ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
เตือนสมาชิกทุกท่านแหละครับ  เป็นห่วง...
บางทีเล่นอะไรเลยเถิดโดยไม่รู้กฎหมายแล้วความซวยจะมาเยือนเอานะครับ

อยากให้ราชดำเนินเป็นบอร์ดที่แลกเปลี่ยนกันที่เนื้อหาทางการเมืองมากกว่าจะด่ากันไปด่ากันมา
บางคนลามปามไปเรื่องครอบครัว เรื่องส่วนตัว... ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดี... ผิดกฎหมายทั้งนั้นครับ...
ความคิดเห็นที่ 1
รู้ก่อนไม่โดนจับ ตำรวจเอาจริงปราบคนทำผิดบนโลกออนไลน์

ปอท. (กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี) เรียงออกมาให้เห็นถึง 10 พฤติกรรมที่ผิดและไม่สมควร อาจจะเสี่ยงโดนปรับและจำคุก มาเตือนกันจริงจังค่ะ

1. Upload รูปลามก อนาจาร ไม่ว่าจะรูปตัวเองหรือรูปคนอื่นในสากลโลก อันนี้...คุกเน้นๆ ได้ถึงห้าปี หรือปรับได้ถึงหนึ่งแสนบาท หรืออาจจะทั้งจำทั้งปรับ...ภาพส่วนตัวก็เก็บไว้แบบส่วนตัวดีกว่า

2. ตั้งตัวเป็นเจ้ากรมข่าวลือ คนที่ชอบปล่อยข่าวให้บ้านเมืองเกิดความชุลมุนวุ่นวาย ไม่สงบสุข หรือพวกสร้างเรตติ้ง สร้างกระแสนั่นแหละค่ะ มีโอกาสได้ไปนอนคิดทบทวนพฤติกรรมตัวเองอย่างเงียบๆในคุกได้ถึงห้าปี หรือปรับถึงหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับเลย

3. พวกเซียนโฟโต้ช็อป ที่ชอบใช้วิทยายุทธเฉพาะตัว ตัดต่อภาพคนโน้นคนนี้ ไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่ง ภาพวิดีโอ แล้วนำมาเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต ทำให้เจ้าของภาพเสียหาย อับอาย ถ้าถูกฟ้องขึ้นมาอาจต้องไปสงบสติอารมณ์ในคุกได้ถึงสามปี หรือเจอปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

4. แอบ Save ขโมยข้อมูลของคนอื่น แล้วเอาไปใช้เพื่อเป็นประโยชน์กับตัวเอง เพื่อการหากำไรหรือนำไปใช้กลั่นแกล้งคนอื่น ถ้าถูกจับได้มีหวังถูกดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ รวมทั้งตามกฎหมายลิขสิทธิ์ และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์แน่นอน

5. พวกแต่งเติม พวกชอบใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น กุเรื่องต่างๆ นานา ให้คนอื่นเสียหาย อับอาย ขายหน้า นี่ก็ติดคุกได้ถึงห้าปีปรับได้ถึงหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

6. เห็นไฟล์งานของคนอื่นไม่ได้ ชอบไปลบ ไปเพิ่ม แก้ไขเนื้อหาในไฟล์นั้น เห็นเป็นเรื่องตลก หรือจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ แต่สุดท้ายเกิดความเสียหายแก่เจ้าของไฟล์นั้น แบบนี้เจอคุกได้ถึงห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

7. มีความอยากรู้อยากเห็นสูง เรื่องชาวบ้านคืองานของเรา ชอบแอบเอา ID หรือ Password ผู้อื่นไปแอบดูข้อมูลต่างๆ นานาของบุคคลอื่น แบบนี้เจอฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายแน่ มีสิทธิ์เจอทั้งจำคุกทั้งปรับแลกกับความอยากรู้อยากเห็นกันไปเลย

8. ชอบส่งอีเมลลูกโซ่โดยไม่บอกที่มา ประเภทว่าถ้าไม่ทำตาม ไม่ส่งต่อ ชีวิตท่านจะต้องตกทุกข์ได้ยาก เจอแต่สิ่งที่ไม่ดี การส่งอีเมลโฆษณาขายของต่างๆ นานาที่ผู้รับไม่ต้องการ สร้างความน่าเบื่อหน่าย สุดแสนรำคาญแก่ผู้ได้รับ อันเนี้ยเจอประจำเลย คิดว่าหลายๆ คนคงคุ้นเคย แต่ถ้าใครเป็นคนชอบทำเพื่อแกล้งเพื่อน อันนี้ต้องระวังนะคะ มีความผิดตามกฎหมาย!!! นอกจากจะถูกสาปแช่งจากผู้รับแล้ว ถ้าถูกจับได้ จัดไปถึงหนึ่งแสนบาทเชียว!!!

9. ทำเหมือนตัวเองเป็นนักข่าว ประมานว่าชอบตั้งสำนักข่าวเป็นของตัวเอง เจออะไรทั้งใน Line, Facebook , Twitter เป็นขอกดแชร์ กดโดนใจไว้ก่อน เรื่องจริงไม่จริงไม่เคยคิด ไม่เช็ก ไม่ตรวจสอบ ซึ่งถ้าเกิดดันไปส่งต่อข้อความที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็บทลงโทษคือคุกพอๆ กับคนเริ่มเขียนข้อความเหล่านั้นแหละ รับโทษไปด้วยกันเชียวนะ

10. อันนี้สำคัญมากนะคะ ยิ่งตอนนี้มีการจับกุมคนมาดำเนินคดีข้อหาข้อนี้มากเลยทีเดียว การโพสต์ข้อความที่เป็นการหมิ่นเบื้องสูง รวมถึงการแชร์ การไลค์ หรือทำเว็บไซต์หมิ่นสถาบันเบื้องสูงซึ่งเป็นที่เคารพของเราคนไทยทุกๆ คน ให้ได้รับความเสื่อมเสียแห่งเกียรติยศ อันมีผลกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรและถือเป็นความผิดร้ายแรงทั้งกฎหมายอาญา และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุกสูงสุดได้ถึงสิบห้าปี

http://www.thairath.co.th/content/538344
ความคิดเห็นที่ 8
ระมัดระวัง  เตือนสติทุกคนครับ  

ไม่ใช่ว่าตอนนี้ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วจะทำต่อไป  แต่อย่าให้รอได้อยู่ในกรง แล้วมาเสียใจเลย

อย่าไปละเมิดความเป็นส่วนตัวใคร  เป็นใครก็ไม่ยอมทั้งนั้น

การฟ้องหมิ่นประมาท หากรู้ภายในสามเดือนฟ้องได้เลย  แต่ถ้าไม่รู้ อายุความ 5 ปี  เพราะฉะนั้นมีสติกันทุกฝ่ายครับ
ความคิดเห็นที่ 21
#20
อยากด่าใคร ด่าว่าอะไร ก็ตามใจคุณเลยครับ
เอาที่สบายใจ...

ผมแค่มาเตือนในแง่กฎหมายเท่านั้น...

หากคุณคิดว่าด่า ใครแล้วไม่ผิด และหากเขาเอาเรื่อง จะแจ้งความ หรือฟ้องเอง...
คุณก็ยกแนวความคิดของคุณไปสู้ในชั้นศาลได้เลยครับ...
ความคิดเห็นที่ 9
ยังไม่เห็นพวกเป็นหน้าเสื่อให้เพื่อนแปะรูปเลย แพเะเต็มๆ (ถ้าโดน)555
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่