EPG ราคานี้ ... "ไม่ขึ้น ก็ลง"
"หงี่ นั่ง เทียน" ศิษย์เอกแห่งสำนักคิดปัวโรต์ เตือน! EPG เตรียมเหวี่ยงแรง
หงี่ นั่ง เทียน ออกบทวิเคราะห์แจ้งเตือนต่อนักลงทุนถึงความเคลื่อนไหวของผู้บริหาร EPG ภายหลังราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นกว่า 50% ใน 2 เดือน
โดยได้กล่าวถึงความคืบหน้าประเด็นการเพิ่ม Free Float ในตลาดหุ้น ซึ่งแต่เดิมเชื่อว่าจะใช้วิธีขายแบบจำเพาะเจาะจงให้กองทุน แทนการขายในตลาดหลัก
อย่างไรก็ตาม เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ผู้บริหารคนสำคัญมีการโอนหุ้นออกไปยังนอมินีในสัดส่วนใกล้เคียงกัน คล้ายกับกรณีอันอื้อฉาวของ SIRI เมื่อไม่กี่ปีก่อน ที่ผู้บริหารโอนหุ้นออกคนละ 100 ล้านหุ้น ก่อนราคาหุ้นถูกกระหน่ำขายจนร่วงจากดอยสู่ใต้พิภพ
อ่านเกม! มาแนวนี้ อาจโอนออกเพื่อส่งต่อให้แก๊งขว้างหุ้นเพื่อทำราคาหลังเพิ่ง Road Show สำเร็จ หรือกรณีเลวร้าย นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการระบายของ!
หงี่ นั่ง เทียน ระบุ EPG ไม่เหมาะกับเม่าหรือมือใหม่ แม้จะยังเชื่อว่าเป้า 20 บาทปีนี้ไม่ไกลเกินเอื้อม แต่เป็นห่วงสุขภาพหัวใจของผู้ถือหุ้นรายย่อย
หากทนแรงเหวี่ยงไม่ได้ หากไร้ซึ่งศรัทธา ระวังหุ้นจะหลุดมือ
หากไม่เข้าใจเกม หากไม่เข้าใจหุ้น ระวังจะดอยยาว
ฟันธง!!! EPG ราคานี้ ไม่ขึ้น ก็ลง
อัพเดทสถานการณ์ราคาน้ำมันโลก
จากบทวิเคราะห์ของ World Bank ซึ่งศึกษาถึงปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาน้ำมัน พบว่า Supply Side มีอิทธิพลเหนือกว่า Demand Side (อ้างอิง
http://www.worldbank.org/content/dam/Worldbank/Research/PRN01_Mar2015_Oil_Prices.pdf)
อธิบายสถานการณ์ของราคาน้ำมันขณะนี้ได้อย่างชัดเจน จากเดิมที่เคยเชื่อว่า Shale Gas/Oil จะเริ่มชะลอการผลิตเมื่อราคาน้ำมันดิบต่ำกว่า 60 USD/Barrel แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น ปัจจุบัน OPEC ยังตัดสินใจไม่ลดกำลังการผลิตลง (เพื่อต้องการรักษาส่วนแบ่งการตลาด)
ในขณะที่ฝั่งอเมริกาเอง ผู้ผลิตก็ยังลดต้นทุนการขุด Shale Gas/Oil ลงได้อย่างต่อเนื่อง และการแก้ไขสัญญาให้ส่งออกน้ำมันได้ ทำให้ยังมีการผลิตน้ำมันเพิ่ม โดยถึงแม้ว่าจะมี Rig ที่หยุดเจาะไปแล้วกว่าครึ่ง (เทียบกับปี 2015) แต่ยอดรวมของการผลิตพลังงานกลับไม่ลดลง ล่าสุดสต็อกน้ำมันที่ Cushing รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็น Center ของการซื้อขายน้ำมัน มีปริมาณสต็อกน้ำมันเพิ่มสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และใกล้จะเกินขีดจำกัดของการเก็บ
เมื่อ Supply Side ยังเป็นแบบนี้ อีกทั้ง Demand Side จากจีนก็มีปัญหา เป็นไปได้ว่าราคาน้ำมันดิบอาจร่วงลงถึง 20 USD/Barrel ในปีนี้!!!
หงี่ นั่ง เทียน ย้ำ! สถานการณ์ดังกล่าว จะสร้างผลดีต่อ EPG
โดยแม้ว่ากำไรในปี 2558-2559 ของ EPG จะเพิ่ม (GPM เพิ่ม จากเหตุผลด้านต้นทุนประมาณ 4-5%) จาก Spread ของราคาเม็ดพลาสติกที่ต่ำลงอย่างรวดเร็ว ในลักษณะ One-time Gain
แต่สถานการณ์นี้ จะสร้างโอกาสให้ EPG ได้เข้าซื้อกิจการของบริษัทที่เป็นต้นน้ำ ซึ่งทำให้เกิดความได้เปรียบเชิงการแข่งขันที่ยั่งยืน
เป็นไปได้ว่าในปี 2559 นอกจากการ M&A บริษัทผลิตอะไหล่รถยนตร์จากจีน (เพื่อเพิ่มช่องทางจำหน่าย) แล้ว จะมี Big Surprise!!! คือ การซื้อกิจการของธุรกิจที่เป็นต้นน้ำอีกหนึ่งบริษัท
จากสถานการณ์ราคาน้ำมันล่าสุด จึงคงคำแนะนำให้ "ซื้อ" โดยไม่เกี่ยงราคา ที่ราคาเป้าหมายเดิม 20 บาท ในปี 2559
---------- วิเคราะห์ EPG หุ้นมงคลแห่งปี ราคานี้ยังซื้อได้หรือไม่ ? ----------
"หงี่ นั่ง เทียน" ศิษย์เอกแห่งสำนักคิดปัวโรต์ เตือน! EPG เตรียมเหวี่ยงแรง
หงี่ นั่ง เทียน ออกบทวิเคราะห์แจ้งเตือนต่อนักลงทุนถึงความเคลื่อนไหวของผู้บริหาร EPG ภายหลังราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นกว่า 50% ใน 2 เดือน
โดยได้กล่าวถึงความคืบหน้าประเด็นการเพิ่ม Free Float ในตลาดหุ้น ซึ่งแต่เดิมเชื่อว่าจะใช้วิธีขายแบบจำเพาะเจาะจงให้กองทุน แทนการขายในตลาดหลัก
อย่างไรก็ตาม เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ผู้บริหารคนสำคัญมีการโอนหุ้นออกไปยังนอมินีในสัดส่วนใกล้เคียงกัน คล้ายกับกรณีอันอื้อฉาวของ SIRI เมื่อไม่กี่ปีก่อน ที่ผู้บริหารโอนหุ้นออกคนละ 100 ล้านหุ้น ก่อนราคาหุ้นถูกกระหน่ำขายจนร่วงจากดอยสู่ใต้พิภพ
อ่านเกม! มาแนวนี้ อาจโอนออกเพื่อส่งต่อให้แก๊งขว้างหุ้นเพื่อทำราคาหลังเพิ่ง Road Show สำเร็จ หรือกรณีเลวร้าย นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการระบายของ!
หงี่ นั่ง เทียน ระบุ EPG ไม่เหมาะกับเม่าหรือมือใหม่ แม้จะยังเชื่อว่าเป้า 20 บาทปีนี้ไม่ไกลเกินเอื้อม แต่เป็นห่วงสุขภาพหัวใจของผู้ถือหุ้นรายย่อย
หากทนแรงเหวี่ยงไม่ได้ หากไร้ซึ่งศรัทธา ระวังหุ้นจะหลุดมือ
หากไม่เข้าใจเกม หากไม่เข้าใจหุ้น ระวังจะดอยยาว
ฟันธง!!! EPG ราคานี้ ไม่ขึ้น ก็ลง
อัพเดทสถานการณ์ราคาน้ำมันโลก
จากบทวิเคราะห์ของ World Bank ซึ่งศึกษาถึงปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาน้ำมัน พบว่า Supply Side มีอิทธิพลเหนือกว่า Demand Side (อ้างอิง http://www.worldbank.org/content/dam/Worldbank/Research/PRN01_Mar2015_Oil_Prices.pdf)
อธิบายสถานการณ์ของราคาน้ำมันขณะนี้ได้อย่างชัดเจน จากเดิมที่เคยเชื่อว่า Shale Gas/Oil จะเริ่มชะลอการผลิตเมื่อราคาน้ำมันดิบต่ำกว่า 60 USD/Barrel แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น ปัจจุบัน OPEC ยังตัดสินใจไม่ลดกำลังการผลิตลง (เพื่อต้องการรักษาส่วนแบ่งการตลาด)
ในขณะที่ฝั่งอเมริกาเอง ผู้ผลิตก็ยังลดต้นทุนการขุด Shale Gas/Oil ลงได้อย่างต่อเนื่อง และการแก้ไขสัญญาให้ส่งออกน้ำมันได้ ทำให้ยังมีการผลิตน้ำมันเพิ่ม โดยถึงแม้ว่าจะมี Rig ที่หยุดเจาะไปแล้วกว่าครึ่ง (เทียบกับปี 2015) แต่ยอดรวมของการผลิตพลังงานกลับไม่ลดลง ล่าสุดสต็อกน้ำมันที่ Cushing รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็น Center ของการซื้อขายน้ำมัน มีปริมาณสต็อกน้ำมันเพิ่มสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และใกล้จะเกินขีดจำกัดของการเก็บ
เมื่อ Supply Side ยังเป็นแบบนี้ อีกทั้ง Demand Side จากจีนก็มีปัญหา เป็นไปได้ว่าราคาน้ำมันดิบอาจร่วงลงถึง 20 USD/Barrel ในปีนี้!!!
หงี่ นั่ง เทียน ย้ำ! สถานการณ์ดังกล่าว จะสร้างผลดีต่อ EPG
โดยแม้ว่ากำไรในปี 2558-2559 ของ EPG จะเพิ่ม (GPM เพิ่ม จากเหตุผลด้านต้นทุนประมาณ 4-5%) จาก Spread ของราคาเม็ดพลาสติกที่ต่ำลงอย่างรวดเร็ว ในลักษณะ One-time Gain
แต่สถานการณ์นี้ จะสร้างโอกาสให้ EPG ได้เข้าซื้อกิจการของบริษัทที่เป็นต้นน้ำ ซึ่งทำให้เกิดความได้เปรียบเชิงการแข่งขันที่ยั่งยืน
เป็นไปได้ว่าในปี 2559 นอกจากการ M&A บริษัทผลิตอะไหล่รถยนตร์จากจีน (เพื่อเพิ่มช่องทางจำหน่าย) แล้ว จะมี Big Surprise!!! คือ การซื้อกิจการของธุรกิจที่เป็นต้นน้ำอีกหนึ่งบริษัท
จากสถานการณ์ราคาน้ำมันล่าสุด จึงคงคำแนะนำให้ "ซื้อ" โดยไม่เกี่ยงราคา ที่ราคาเป้าหมายเดิม 20 บาท ในปี 2559