BGVC SCOOP: เจาะลึกดาวตบ “อุ๊” จุฑารัตน์ มูลตรีพิลา กับบทบาท นิติกรสาวสุดมั่น

กระทู้สนทนา



BGVC SCOOP: เจาะลึกดาวตบ “อุ๊” จุฑารัตน์ มูลตรีพิลา กับบทบาท นิติกรสาวสุดมั่น

“วอลเลย์บอลอาชีพ” ถือเป็นอาชีพหลักสำหรับนักกีฬาผู้มีใจรักกีฬาวอลเลย์บอล บางคนทุ่มเทอย่างเต็มที่ โดยใช้ร่างกายของตัวเองทุ่มเทกับกีฬาชนิดนี้ เพื่อหาเงินรายได้มาเลี้ยงดูครอบครัวให้อยู่กันอย่างสุขสบาย นักกีฬาบางคน นอกจากเล่นวอลเลย์บอลเลี้ยงชีพแล้ว ยังหางานเสริมหลังเล่นกีฬา เพื่อหารายได้เพิ่มและเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เหมือนกับเรื่องราวของนักตบลูกยางสาวสุดมั่น “อุ๊” จุฑารัตน์ มูลตรีพิลา ดาวตบประจำทีม “เดอะแรบบิทวีเมน” ที่เราจะไปเจาะลึกให้เห็นชีวิตอีกด้านของเธอ นอกเหนือจากการเล่นวอลเลย์บอล นั่นคือ การเป็นพนักงานของบริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด(มหาชน)



-พูดถึงการเข้ามาทำงานเป็นพนักงานบริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน)

มองถึงอนาคตค่ะ คือถ้าเราไม่ได้เล่นกีฬา แต่ถ้าเราได้ทำงาน เรายังมีประสบการณ์ที่ยังไปหางานทำได้ในอนาคต แต่ถ้าเล่นกีฬาอย่างเดียว ไม่มีประสบการณ์ในการทำงานเลย เมื่ออายุมากขึ้นจะมีที่ไหนรับเราเข้าทำงาน คือเราซ้อมกลางวัน เราซ้อมเพียงแค่ครั้งเดียวแล้วช่วงเวลาว่าง เราควรทำอะไร นอนอยู่บ้านก็คงไม่ใช่ มันเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์



-ทำตำแหน่งอะไร? และทำอะไรบ้าง?

คือเราเรียนจบปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต มาทำงานบริษัท บางกอกกล๊าส ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกฏหมาย หรือเรียกว่า นิติกร เนื่องจากว่าเราจบกฏหมายมาโดยตรงจึงได้มาทำในส่วนตรงนี้ งานหลักๆ ของฝ่ายกฏหมายจะเป็นการตรวจเช็คสัญญาหลายๆ อย่างของทางบริษัททั้งหมด มันเป็นงานท้าทายอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งมันไม่เหมือนกับตอนเรียนอยู่เลย แต่เราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ด้วยกันได้


-ตั้งแต่ทำงานเป็นพนักงานบริษัท ได้ประสบการณ์อะไรบ้าง?

จากที่ทำงานมากว่า 2 ปี ทำให้ได้รู้ว่าการเรียน กับการทำงานมันต่างกัน  ทำให้เกิดความท้าทายว่าเราเรียนมาแล้ว เราจะนำมาใช้จริงและจะทำได้หรือไม่ ซึ่งทำให้เรากดดัน เพราะงานที่ทำมันเกี่ยวข้องกับเงินจำนวนมาก ถ้าตรวจเช็คสัญญาแล้วเกิดข้อผิดพลาดอาจเกิดความเสียหาย ซึ่งเราอยู่ในส่วนตรงนี้ เราต้องตรวจดูให้ดีค่ะ



-ระหว่างนักกีฬาวอลเลย์บอล กับพนักงานบริษัท อาชีพไหนคืออาชีพหลัก?

สำหรับตัวเราเอง เราเล่นกีฬาอาชีพ กีฬามันก็ต้องเป็นอาชีพหลัก ส่วนการทำงานเหมือนเป็นรายได้เสริม เป็นการหาประสบการณ์มากขึ้นค่ะ ซึ่งรายได้หลักจะอยู่กับกีฬามากกว่า แต่ถ้าวันหนึ่งเราเลือกที่จะหยุดเล่นกีฬา การทำงานบริษัทจะช่วยเราได้ เพราะมันเป็นอาชีพที่มั่นคง ยิ่งถ้าเราได้เป็นพนักงานประจำ  สวัสดิการอื่นๆ จะตามมา เราถือว่าเป็นอาชีพที่มีเกียรติ เพราะเป็นงานเฉพาะด้าน มั่นคง และสามารถต่อยอดได้อีกหลายอย่าง



-ต้องทำงานและเล่นวอลเลย์บอลไปด้วย มีวิธีแบ่งเวลายังไง?

บางกอกกล๊าส จะมีตารางแบ่งเวลาไว้ให้ และบริษัทจะให้สิทธิ์กับนักกีฬาด้วย ทำให้การซ้อมกับการทำงานเวลาไม่ซ้อนกัน เราสามารถจัดการแบ่งเวลาได้ ซึ่งทางสโมสรเองก็เข้าใจในจุดนี้ เพราะเขามองถึงอนาคตหลังจากการเลิกเล่นวอลเลย์บอลด้วย นอกจากนี้เวลาที่เราได้รับบาดเจ็บ ทางสโมสรมีการรักษาอย่างดี และช่วยเหลือเราเต็มที่ การที่สโมสรแต่น้อยที่สโมสรรับนักกีฬาเข้าทำงานมันเป็นผลดีในเรื่องของความมั่นคงในอนาคต และความก้าวหน้าในการงานด้วยค่ะ



-หลังจากนี้อนาคตของตัวเองไว้ยังไง?

ถ้าเลิกเล่น หากสโมสรให้โอกาสเข้ามาทำหน้าที่ผู้ช่วยหรือสตาฟฟ์ในทีมงานก็ยินดีค่ะ เพราะวอลเลย์บอลเป็นกีฬาที่เรารัก ไม่อยากทิ้งมันไป เราอยากสร้างและสอนเด็กเยาวชนในสิ่งที่เราเคยได้รับมาตลอดเวลาที่อยู่ในวงการนี้ เราอยากให้เด็กได้พัฒนาก้าวไปข้างหน้ากับประสบการณ์ของเรา เพราะเรามีทุกวันนี้ได้ก็เพราะวอลเลย์บอล ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน บ้าน รถ ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ พ่อแม่ ซึ่งเรามีทุกอย่างสบายได้ก็เพราะ วอลเลย์บอล



-นอกจากนี้ทำอาชีพเสริมอะไรอีกบ้าง?

เรามองว่าอาชีพเสริม ไม่ว่าใครก็ทำได้ การค้าขาย ถือเป็นอาชีพเสริมอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นในเวลาว่างทางอินเตอร์เน็ตหรือ ออนไลน์ทุกอย่าง ถ้าเราสามารถทำได้ก็ทำ อย่างเช่นทุกสิ้นเดือนเราจะนำของมาขาย ที่บริษัท หรือเปิดขายของในอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่งด้วยค่ะ



-ทำหลายอย่างแบบนี้เหนื่อยบ้างไหม?

เราทำเพื่อคนที่อยู่ข้างหลังได้สบาย แน่นอนว่าทุกสิ่งที่เราทำ เราเหนื่อยอยู่แล้ว แต่เราต้องอดทนเพื่อวันข้างหน้า เพราะเราตั้งเป้าหมายว่าจะต้องมีบ้าน มีรถ มีเงินเก็บ มีธุรกิจ ที่เป็นของเรา แต่ถ้าเรายังมัวแต่หาเงินแล้วกินเที่ยว ทำอะไรตามใจและเราไม่รู้จักเก็บออม ไม่เปลี่ยนให้มันกลายเป็นทรัพย์สิน เมื่อแก่ตัวไปเราต้องดิ้นรนหนักกว่าเดิม แต่ถ้าตอนนี้เรารู้จักวางแผนชีวิต มีการลงมือทำ เชื่อว่าในอนาคตเราจะสบายค่ะ



-อยากบอกอะไรกับแฟนคลับ ที่ยกให้ “อุ๊” จุฑารัตน์ มูลตรีพิลา เป็นแรงบันดาลใจ?

อยากให้ช่วยติดตามผลงานทางด้านวอลเลย์บอลของ อุ๊ ด้วยนะคะ ถ้าใครอยากนำเรื่องราวเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจในการก้าวไปประสบความสำเร็จ อุ๊ ขอเป็นกำลังใจให้อีกหนึ่งทาง คนเรามีเป้าหมาย มีจุดหมาย เราตั้งมั่น ตั้งใจทำสิ่งนั้นให้มันเต็มที่ความสำเร็จในชีวิตจะตามมาเองค่ะ



และนี่เป็นเรื่องราวอีกด้านของ “อุ๊” จุฑารัตน์ มูลตรีพิลา หลังได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เพื่อวางรางฐานสร้างอนาคต และที่สำคัญเธอไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่เธอยังมองไปยังคนข้างหลัง คือ พ่อ กับ แม่ และครอบครัวของเธอ ติดตามและเป็นกำลังใจให้เธอคนนี้กันต่อไปด้วยนะค่ะ

เรื่อง - เจนจิรา แซ่จิว
ภาพ - สิรภพ คุณโชติ

ต้นทางจาก http://www.bangkokglassvc.com/bgvcnews.php?lan=th&newid=1875

หมายเหตุ  ในบทความต้นทางมีบทความภาคภาษาอังกฤษด้วยแต่เนื่องจากตัวอักษรเกินจึงไม่ได้คัดลอกมาลงในกระทู้ด้วยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่