ตั้งใจมาแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับสายตาให้เพื่อน ๆ ครับ สืบเนื่องจากตอนอายุ 40 ปี เกิดปัญหาดูหนังที่บ้านห่างจอทีวีประมาณ 3 เมตรครึ่ง พอดูจบเรื่องตาจะเบลอ เดินไปไหนก็เกิดอาการงง ๆ ก็เลยไปปรึกษาจักษุแพทย์ ปรากฏว่าจักษุแพทย์ก็บอกว่าคุณเป็นคนมีสายตายาวแต่กำเนิด แต่ที่มาแสดงอาการตอนอายุ 40 เนื่องจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงตอนสูงอายุ (แก่นั่นแหละ) ก็ให้ค่าต่าง ๆ มาเพื่อไปตัดแว่นใส่ ได้ค่าประมาณ ระยะใกล้ +150 ระยะไกล +75 ไม่มีเอียง ทั้งตาซ้ายและขวาเลย ก็ไม่รอช้ารีบไปตัดแว่นใส่เลย ก็ตัดเป็น +100 เพราะร้านแว่นบอกมาให้ใส่ประมาณนี้ ก็มาใส่ทำงาน (คอมพิวเตอร์) และใส่เดินทั่วไป ปรากฏว่า ก็พอโอเค มองใกล้ก็ชัดขึ้น แต่มองไกล เดิน ๆ แล้วเวียนหัวหน่อย ๆ ก็เลย ไปตัดร้านใหม่ เขาก็ตัดมาให้ (ตอนนั้นไม่รู้ว่า +เท่าใหร่) ก็โอเลย เป็นแว่นที่เยี่ยมมากตัดมาแล้วผมใส่ทำงาน ใส่ดูหนัง ใส่ทำกิจกรรมได้ดีมาก ๆ ไม่ปวดหัวล่ะ แต่หลังจากนั้นไม่นาน ก็เริ่มรู้ตัวว่า แหมเวลาทำงานละเอียด ๆ มองไม่เห็นอ่ะ ก็เลยไปหาร้านแว่นใหม่ (อย่าลืมว่าผมเพิ่งจะเคยตัดแว่นตอนอายุ 40 นะครับ ความรู้เรื่องแว่นน้อยมาก)ก็บอกร้านแว่นว่า ใส่แว่นอันนี้ดีมาก เจ๋งเลยแต่ทำงานใกล้ ๆ พวกขันน๊อตเล็ก ๆ หรือดูแผ่นวงจรไม่เห็น เขาก็เลยวัดค่าให้ก็ปรากฏว่าเป็นแว่น +75 เหมาะแค่การใช้งานประจำวัน แต่ไม่เหมาะสำหรับมองใกล้ (ความรู้เพิ่มเติมคือ ต้องมีแว่นสำหรับมองใกล้อีกอันล่ะ)ก็เลยตัดแว่นอันใหม่ +150 ไว้ทำงานระยะใกล้ ๆ ทีนี้ก็เริ่มยุ่ง ต้องพกแว่นเพิ่มอีกอัน ก็เลยไปร้านแว่นอีก (แต่ละร้านไม่ซ้ากันเลยนะครับ) เขาก็แนะนำมาอีก เอาแว่นแบบพิเศษไป เป็นเลนส์มองได้ทั้งใกล้และไกล(ไม่ใช่โปรเกรสซีพนะ) เหมาะสำหรับเรามาก พอทำเสร็จโอย ทิ้งเลย เวียนหัวมาก ภาพชัดเป็นระยะ ๆ ต้องควบคุมการมองดีๆ หนักไปทางเบลอทั้งภาพ ชัดเฉพาะจุดที่เราต้องการมอง โดยใช้วิธีเงยหน้าหรือส่ายหน้าเอา โอยเสียเงินฟรี ๆ (จากความอ่อนประสบการณ์ด้านแว่นไงครับ) ก็เลยไปตัดใหม่อีกอัน เป็นแบบเลนส์ที่มีเลนส์เล็ก ๆ อีกอันไว้มองใกล้ (เลนส์เจาะ) ก็ใช้ได้ดีเลยครับ เป็นเลนส์ +75 ใหญ่ และช่องเล็ก ๆ +150 แต่เลนส์อันนี้แหละที่เป็นจุดทำให้เลิกใส่แว่นเลยครับ เพราะหลังจากใช้ไปนาน ๆ ปรากฏว่า สายตาเริ่มหนักขึ้น ไม่ใส่แว่น จะเบลอมาก ตาเริ่มเหล่ ๆ เพราะเวลามองจอมือถือก็ต้องเหลือบตามองในช่องเล็ก ๆ อ่านหนังสือก็ต้องคอยมองผ่านช่องเล็ก ๆ รำคาญตามาก เลยค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำเลสิก มิรอช้า ติดต่อแพทย์ที่ทำเลสิกทันที แพทย์บอกทันทีเลยว่า คุณน่าจะมาทำนานแล้ว เนื่องจากสายตายาวแต่กำเนิดแก้ได้โดยวิธีทำเลสิก มากกว่าคนสายตาสั้นเสียอีก คุณจะกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้หลังจากทำเสร็จได้เลย
ก็เอาเลยครับ ทำอย่างแพงสุด 1 แสนบาท (กลัวตาบอดครับ บอกแล้วอ่อนประสบการณ์มาก) ผลสุดท้ายตอนอยู่ในห้อง ปรากฏว่าหมอบอกว่าต้องใช้วิธีเดิมนะ ราคาถูกลงเหลือ 5หมื่นบาท ยังแอบดีใจ แต่ด้วยความโชคร้ายดันจ่ายเงินไปก่อน เจ้าของสถานที่ไม่คืนเงินให้ สรุปเสียเงินฟรี 5 หมื่นครับ (ช่างมันเถอะ โง่เองไปจ่ายก่อน)หมอโกรธแทนเรา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ล่ะ สรุปคือ หมอบอกว่าทำแบบใหนก็เหมือนกัน ที่สุดก็อยู่ที่ฝีมือหมอ เพราะเครื่องมือธรรมดาก็ทำได้สบาย ๆ ปลอดภัยเช่นกัน
หลังทำลงจากเตียงพร้อมที่ปิดตา 2 ข้าง เบลอ ๆ กลับมาบ้านก็ใช้ชีวิตได้ปรกติครับ แค่ยังเบลอ ๆ หมอเขาตัด +75 ออกไป ทำให้สายตาระยะไกล ไม่ต้องใส่แว่นแล้ว ส่วนสายตาสูงอายุที่มองระยะใกล้ ยังเหลืออยู่ประมาณ +75 ก็ไม่ได้มีปัญหาละครับ หลังทำนี่กลายเป็นคนสายตาสั้นไปเลยครับ มองได้แค่ 3-4 เมตร มองไกลไม่ชัดเลย ก็เลยไปหาหมออีกรอบ หมอก็บอกว่าให้อดทน สมองกำลังปรับระยะใหม่การมองใหม่ (จะต่างกับคนสายตาสั้นออกจะชัดขึ้นหลังลงจากเตียงหมอทันทีครับ) ในใจคิดซวยล่ะ จากสายตายาว กลายเป็นคนสายตาสั้นล่ะก็ได้แต่รอตามที่หมอบอกแหละครับ ตอนนั้นดูจอมือถือชัดมาก สรุปคือเขาปรับสายตาให้เราเป็น -25 ถึง -50 ทั้ง 2 ตาเลยครับ หลังจากนั้นไม่นาน 1 เดือน 2 เดือน 3 เดือน ก็เป็นตามที่หมอบอกเลย ค่อย ๆ มองได้ไกลขึ้นเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาเลยพอครบ 3 เดือนสายตาก็เริ่มนิ่งล่ะครับ ชัดทุกโฟกัสล่ะ ไม่ปวดหัวหลังจ้องทีวีนาน ๆ แล้ว แต่จอมือถือก็เริ่มตัวเล็กไปหน่อยล่ะ 555+ สรุปตัด +75 ออกไป ชีวิตมีสุขมาก ส่วนการมองไกล้ ก็เป็นไปตามอายุครับ ก็ไปตัดแว่น +100 และ +150 ไว้ทำงานละเอียด ๆ ครับ
สรุปคือ
1 ตัดแว่นไปหลายหมื่นครับ (เลนส์ดี กรอบดี) ถ้ารู้แต่แรกว่าทำเลสิกแล้วหายสนิท คงไม่เสียเวลาไปใส่แว่นอยู่ 2-3 ปี เสียเงินเสียทองไปฟรี ๆ
2 สายตายาว กับสายตาสูงอายุ เป็นคนละเรื่องกันนะครับ สายตาสูงอายุ คือสายตาที่มองใกล้ในระยะไม่เกิน 0-1 เมตรไม่ชัดแก้ได้โดยวิธีใส่แว่นสายตายาวครับ เลยเข้าใจกันผิด ๆ ว่าเป็นสายตายาวครับ คนสายตาสั้นก็จะเจอปัญหาสายตาสูงอายุได้เหมือนกันครับ แต่โชคดีที่แค่กระดกแว่นขึ้น การที่สายตาสั้นจะทำให้ชดเชยมองใกล้ๆ ได้ชัดขึ้นทันทีครับ
3 ถ้ารู้ตัวว่ามีค่าสายตา แล้ว ปรึกษาจักษุแพทย์แล้วทำเลสิกได้ผลดี ก็รีบทำเถอะครับ ถ้ากลัวไม่หล่อไม่สวยหลังถอดแว่นก็ใส่แว่นหลอกเอาดีกว่านะครับ ชีวิตมันดีกว่าตอนใส่แว่นสายแตาแน่นอนครับ (หมอที่ทำให้ผมฝีมือดีมาก ๆ ตอนทำเห็นชัด ๆ เลยว่าเขาเปิดตาเราเหมือนบานหน้าต่างเลยครับ แล้วก็ยิงเลเซอร์ใส่มีกลิ่นเหม็นไหม้ด้วย)
4 คนมีสายตายาวทุกโฟกัสแบบผม (หรือยาวแต่กำเนิด) ตัดสินใจทำเลสิกไปเลยครับ จะได้กลับมาใช้ชีวิตได้ปรกติเหมือนเดิมครับ อย่าไปเสียเวลาทดลองตัดแว่นผิดถูกแบบผมอีกเลยครับ เสียดายเงินมาก ๆ ครับ
5 ตอนนี้ผมทำมา 3 ปีแล้ว มองไกลชัดมาก มองใกล้เริ่มหนักขึ้นไปตามอายุครับ ทำงานละเอียด ๆ ต้องใส่แว่น +100 ถึง +150 ซึ่งหลังสุดไปวัดค่าสายตาสูงอายุคือ +220 แต่เชื่อเหอะถ้าใครไปวัดมาได้แค่ประมาณนี้ ให้ใส่ +150 ก็เพียงพอแล้วครับ เพราะถ้าไปตัดแว่น +220 เพื่อมองใกลัตามที่คุณวัดค่าได้ คุณจะปวดหัวเวลามองสลับไปสลับมาระหว่างไกลมาก ๆ ครับ +150 ก็ทำงานได้แล้วครับ เพราะ +220 มันเหมาะมองแค่ระยะ 0-30 เซนต์เท่านั้นครับ พอคุณมองไกลไปแค่ 75 เซ็นต์คุณก็เบลอแล้ว ทำงานไม่ได้ครับ แนะนำให้ลองแว่นราคาถูกที่แบบกะดินใส่เอาเลย ถูกใจเบอร์ใหน เช่น 0.75 หรือ 1.0 ก็ค่อยไปร้านแว่นบอกเขาให้เอาแว่น +75 หรือ +100 มาให้คูณลองดู ถ้าคุณทำงานหรืออ่านหนังสือในระยะ 20-75 เซ็นติเมตรแล้วชัด ก็โอเลยครับ ไม่จำเป็นต้องไปตัด +220 ตามที่วัดได้นะครับ
ทุกอย่างเกิดจากประสบการณ์นะครับ อาจไม่ถูกต้องตามหลักการแพทย์เพราะผมไม่รู้ด้านนี้เลยนะครับ ถ้าท่านไดมีความรู้จะช่วยเขียนเป็นวิทยาทานก็เชิญเลยนะครับ ขออภัยมาใน ณ ที่นี้ด้วยครับ
แชร์ประสบการณ์สายตายาวแต่กำเนิดครับ
ก็เอาเลยครับ ทำอย่างแพงสุด 1 แสนบาท (กลัวตาบอดครับ บอกแล้วอ่อนประสบการณ์มาก) ผลสุดท้ายตอนอยู่ในห้อง ปรากฏว่าหมอบอกว่าต้องใช้วิธีเดิมนะ ราคาถูกลงเหลือ 5หมื่นบาท ยังแอบดีใจ แต่ด้วยความโชคร้ายดันจ่ายเงินไปก่อน เจ้าของสถานที่ไม่คืนเงินให้ สรุปเสียเงินฟรี 5 หมื่นครับ (ช่างมันเถอะ โง่เองไปจ่ายก่อน)หมอโกรธแทนเรา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ล่ะ สรุปคือ หมอบอกว่าทำแบบใหนก็เหมือนกัน ที่สุดก็อยู่ที่ฝีมือหมอ เพราะเครื่องมือธรรมดาก็ทำได้สบาย ๆ ปลอดภัยเช่นกัน
หลังทำลงจากเตียงพร้อมที่ปิดตา 2 ข้าง เบลอ ๆ กลับมาบ้านก็ใช้ชีวิตได้ปรกติครับ แค่ยังเบลอ ๆ หมอเขาตัด +75 ออกไป ทำให้สายตาระยะไกล ไม่ต้องใส่แว่นแล้ว ส่วนสายตาสูงอายุที่มองระยะใกล้ ยังเหลืออยู่ประมาณ +75 ก็ไม่ได้มีปัญหาละครับ หลังทำนี่กลายเป็นคนสายตาสั้นไปเลยครับ มองได้แค่ 3-4 เมตร มองไกลไม่ชัดเลย ก็เลยไปหาหมออีกรอบ หมอก็บอกว่าให้อดทน สมองกำลังปรับระยะใหม่การมองใหม่ (จะต่างกับคนสายตาสั้นออกจะชัดขึ้นหลังลงจากเตียงหมอทันทีครับ) ในใจคิดซวยล่ะ จากสายตายาว กลายเป็นคนสายตาสั้นล่ะก็ได้แต่รอตามที่หมอบอกแหละครับ ตอนนั้นดูจอมือถือชัดมาก สรุปคือเขาปรับสายตาให้เราเป็น -25 ถึง -50 ทั้ง 2 ตาเลยครับ หลังจากนั้นไม่นาน 1 เดือน 2 เดือน 3 เดือน ก็เป็นตามที่หมอบอกเลย ค่อย ๆ มองได้ไกลขึ้นเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาเลยพอครบ 3 เดือนสายตาก็เริ่มนิ่งล่ะครับ ชัดทุกโฟกัสล่ะ ไม่ปวดหัวหลังจ้องทีวีนาน ๆ แล้ว แต่จอมือถือก็เริ่มตัวเล็กไปหน่อยล่ะ 555+ สรุปตัด +75 ออกไป ชีวิตมีสุขมาก ส่วนการมองไกล้ ก็เป็นไปตามอายุครับ ก็ไปตัดแว่น +100 และ +150 ไว้ทำงานละเอียด ๆ ครับ
สรุปคือ
1 ตัดแว่นไปหลายหมื่นครับ (เลนส์ดี กรอบดี) ถ้ารู้แต่แรกว่าทำเลสิกแล้วหายสนิท คงไม่เสียเวลาไปใส่แว่นอยู่ 2-3 ปี เสียเงินเสียทองไปฟรี ๆ
2 สายตายาว กับสายตาสูงอายุ เป็นคนละเรื่องกันนะครับ สายตาสูงอายุ คือสายตาที่มองใกล้ในระยะไม่เกิน 0-1 เมตรไม่ชัดแก้ได้โดยวิธีใส่แว่นสายตายาวครับ เลยเข้าใจกันผิด ๆ ว่าเป็นสายตายาวครับ คนสายตาสั้นก็จะเจอปัญหาสายตาสูงอายุได้เหมือนกันครับ แต่โชคดีที่แค่กระดกแว่นขึ้น การที่สายตาสั้นจะทำให้ชดเชยมองใกล้ๆ ได้ชัดขึ้นทันทีครับ
3 ถ้ารู้ตัวว่ามีค่าสายตา แล้ว ปรึกษาจักษุแพทย์แล้วทำเลสิกได้ผลดี ก็รีบทำเถอะครับ ถ้ากลัวไม่หล่อไม่สวยหลังถอดแว่นก็ใส่แว่นหลอกเอาดีกว่านะครับ ชีวิตมันดีกว่าตอนใส่แว่นสายแตาแน่นอนครับ (หมอที่ทำให้ผมฝีมือดีมาก ๆ ตอนทำเห็นชัด ๆ เลยว่าเขาเปิดตาเราเหมือนบานหน้าต่างเลยครับ แล้วก็ยิงเลเซอร์ใส่มีกลิ่นเหม็นไหม้ด้วย)
4 คนมีสายตายาวทุกโฟกัสแบบผม (หรือยาวแต่กำเนิด) ตัดสินใจทำเลสิกไปเลยครับ จะได้กลับมาใช้ชีวิตได้ปรกติเหมือนเดิมครับ อย่าไปเสียเวลาทดลองตัดแว่นผิดถูกแบบผมอีกเลยครับ เสียดายเงินมาก ๆ ครับ
5 ตอนนี้ผมทำมา 3 ปีแล้ว มองไกลชัดมาก มองใกล้เริ่มหนักขึ้นไปตามอายุครับ ทำงานละเอียด ๆ ต้องใส่แว่น +100 ถึง +150 ซึ่งหลังสุดไปวัดค่าสายตาสูงอายุคือ +220 แต่เชื่อเหอะถ้าใครไปวัดมาได้แค่ประมาณนี้ ให้ใส่ +150 ก็เพียงพอแล้วครับ เพราะถ้าไปตัดแว่น +220 เพื่อมองใกลัตามที่คุณวัดค่าได้ คุณจะปวดหัวเวลามองสลับไปสลับมาระหว่างไกลมาก ๆ ครับ +150 ก็ทำงานได้แล้วครับ เพราะ +220 มันเหมาะมองแค่ระยะ 0-30 เซนต์เท่านั้นครับ พอคุณมองไกลไปแค่ 75 เซ็นต์คุณก็เบลอแล้ว ทำงานไม่ได้ครับ แนะนำให้ลองแว่นราคาถูกที่แบบกะดินใส่เอาเลย ถูกใจเบอร์ใหน เช่น 0.75 หรือ 1.0 ก็ค่อยไปร้านแว่นบอกเขาให้เอาแว่น +75 หรือ +100 มาให้คูณลองดู ถ้าคุณทำงานหรืออ่านหนังสือในระยะ 20-75 เซ็นติเมตรแล้วชัด ก็โอเลยครับ ไม่จำเป็นต้องไปตัด +220 ตามที่วัดได้นะครับ
ทุกอย่างเกิดจากประสบการณ์นะครับ อาจไม่ถูกต้องตามหลักการแพทย์เพราะผมไม่รู้ด้านนี้เลยนะครับ ถ้าท่านไดมีความรู้จะช่วยเขียนเป็นวิทยาทานก็เชิญเลยนะครับ ขออภัยมาใน ณ ที่นี้ด้วยครับ