[CR] เดินป่าข้ามปี :จากม่อนทูเล สู่ ม่อนคลุย

ม่อนทูเล ชื่อนี้ผมได้ยินมานานแล้วแต่ยังไม่เคยได้ไปสัมผัสสักครั้ง ม่อนทูเลอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่เมย อ.ท่าสองยาง จังหวัดตาก  การเดินทางต้องใช้การเดินเท้าเพื่อพิชิตยอดดอยทูเล กับระยะทาง 7.5 กิโลเมตร เส้นทางส่วนใหญ่เป็นทางชันสลับทางราบเล็กน้อย (หนักไปทางชัน 90%) มีคนจัดอันดับความถึก(Baffelo Degree)ของมันอยู่ที่ ระดับ 3.5 ซึ่งสูงกว่าภูกระดึง, ภูสอยดาว หรือแม้กระทั้ง ดอยหลวงเชียงดาว

ระดับ Buffalo Degree

          ม่อนคลุย อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่เมยเช่นกัน ม่อนคลุยสามารถเดินทางไปได้ 2 วิธี คือเดินจากม่อนทูเล ตามสันเขากับระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร หรือสามารถเดินทางได้โดยรถยนต์ ลักษณะม่อนคลุยจะคล้ายๆม่อนทูเล แต่จะเป็นพื้นที่โล่งกว่า มองเห็นวิวภูเขาและทะเลหมอกได้จากหน้าเต้นท์โดยไม่ต้องลุกออกมาจากเต้นท์ แต่คนค่อนข้างจะพลุพลาน ในเมื่อรถถึงทำไมต้องเดิน ? ไม่รู้จะเข้าข้างตัวเองเกินไปรึป่าว แต่ผมคิดว่าเสน่ห์ของทริปนี้อยู่ที่การเดินจากม่อนทูเลมาม่อนคลุย นอกจากเราจะได้เห็นวิวสองข้างทางที่สวยงาม มันยังได้มิตรภาพดีๆเกิดขึ้นระหว่างทางด้วย และที่สำคัญสุดมันเอาไว้โอ้อวดคนอื่นได้ว่า guไปมาแล้วววววว

          เราออกเดินทางด้วยรถตู้ 2 คัน ช่วงเทศกาลปีใหม่ รถค่อนข้างเยอะ หลับๆตื่นๆในรถตู้ไปตลอดทาง รถตู้มาจอดที่อบต.ทางสองยางประมาณ 6 โมงเช้า พอมาถึงต่างคนต่างจัดแจงสัมภาระแยกเอาของที่ไม่จำเป็นทิ้งไว้ในรถตู้ แต่งองค์ทรงเครื่องในชุดพร้อมออกรบ ทริปนี้ผมแบกกระเป๋าหนัก 12 กิโล + กระเป๋ากล้องอีก 2 กิโล รวมเบ็ดเสร็จ 14 กิโล (ไม่รู้จะแบบอะไรไปนักหนา นี้จะไปเที่ยวต่างประเทศหรือไปเดินป่ากันแน่ กลับมายังไม่รู้เลยว่า 14 กิโลนี้มันหนักอะไร) หลังจากจัดแจงสัมภาระเสร็จ เราต้องย้ายตัวจากรถตู้มาขึ้นรถกระบะ มุ่งหน้าสู่จุดสตาร์ท

ด้านหลังอบต. ท่าสองยางจะติดแม่น้ำเมย น้ำใสน่าเล่นมาก


          ช่วงแรกของการเดินทางจะเดินผ่านทุ่งนาของชาวบ้าน ซึ่งจะมองเห็นจุดหมายปลายทางของเราอยู่ไกลๆ หลังจากผ่านทุ่งนาของชาวบ้านทางเดินเริ่มชันขึ้น 45 อาศา หลังจากผ่านทางชัน45 องศา ก็พอมีทางราบให้เห็นบ้างให้พอมีกำลังใจ เดินไปได้สักพักจะตัดลงหุบ ซึ่งภายในหุบจะมีแหล่งน้ำธรรมชาติเอาไว้ให้ดื่มดับกระหาย ใครน้ำหมดสามารถเติมได้จาก น้ำธรรมชาติสะอาดปราศจากสารเคมี เราพักกินข้าวกลางวันกันตรงนี้ หลังจากอิ่มอร่อยกับอาหารกลางวันเสร็จ ฝันร้ายของจริงก็เริ่มขึ้น ทางต่อจากนี้ไปถือเป็นของจริงที่ผ่านมาถือว่าซ้อมมือ จากนี้ไปจะเป็นทางชันแบบชันมาก จาก 45 องศาค่อยๆปรับเป็น 60 องศา  จนถึงช่วงสุดท้ายเรียกว่าชันระดับ 80 องศาก็ว่าได้ มีเชือกเอาไว้ให้ปืนขึ้นเป็นระยะๆ

ช่วงแรกของการเดินจะเดินผ่านทุ่งนาของชาวบ้าน


ทางเดินช่วงแรกชันประมาณ 45 องศายังสบายๆ


เราแวะพักกินข้าวกลางวันกันบริเวณแหล่งน้ำธรรมชาติระหว่างทาง


ช่วงท้ายทางชันมาก มีเชือกให้ใช้เกาะดึงตัวขึ้น

          เรามาถึงจุดกางเต้นท์ประมาณ 14.00 น ใช้เวลาเดินเท้า 5 ชั่วโมงถือว่าเร็วพอสมควร ไม่รู้จะรีบเดินไปไหน มาถึงแดดก็ร้อนลูกหาบก็ยังมาไม่ถึง รอไม่นานสมาชิกที่เหลือพร้อมพวกลูกหาบก็มาถึง เราช่วยกันกางเต้นท์ ทำแคมป์กลาง หลังจากนั้นก็ฟรีสไตล์ตัวใครตัวมัน ใครใคร่นอน นอน ใครใคร่กิน กิน ใครมีแรงเหลือเชิญขึ้นจุดชมวิวห่างไปอีก 100 เมตร

กองหินบนม่อนทูเลถือเป็นภาพที่ทุกคนต้องถ่ายเก็บไว้


ข้างบนมีเก้าอี้ที่ อบต.ท่าสองยางทำเอาไว้ให้นั่งถ่ายรูป


ผมเอาของเล่นไปด้วย เลยถือโอกาสสักภาพ


มองเห็นทิวเขาเรียงตัวสลับกันย่างสวยงาม


จากจุดชมวิวสามารถมองเห็นยอดดอยทูเล เสียด้ายที่ไม่ได้ขึ้นไปบนยอด

          ยามเย็นเวลาแสงพระอาทิตย์ตกกระทบผิวหญ้า มองดูเหลืองอร่ามไปทั้งภูเขา เหมือนอยู่ในภูเขาทองคำ หลังจากพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าความเย็นก็เข้ามาเยือน อากาศบนม่อนทูเลเย็นสบายไม่หนาวจนเกินไป แหล่งน้ำด้านบนยังพอมีแม้จะไม่มากนัก แต่ก็พอมีให้ใช้กันอย่างทั่วถึง วันที่เราไปกางเต้นท์มีประมาณ4-5 กลุ่มขึ้นมากางเต้นท์ ก็แยกย้ายกันไปกางเต้นท์ตามจุดต่าง ซึ่งก็ไม่แออัดมากนัก หลังจากชมพระอาทิตย์ตก ก็มาถึงมื้อเย็น มื้อนี้ถือเป็นการฉลองวันสิ้นปีต้อนรับเข้าสู้ปีใหม่ อาหารถูกกำจัดหมดไปอย่างรวดเร็ว

สมาชิกรอชมพระอาทิตย์ตก


ทองฟ้าเป็นใจเปิดให้เราได้เห็นวิวทิวเขา


พระอาทิตย์บนม่อนทูเล

           พอฟ้าเริ่มมืดแสงดาวบนท้องฟ้าเริ่มปรากฎ ดาวบนท้องฟ้าละลานตา กลุ่มดาวน้อยใหญ่เต็มทองฟ้าไปหมด เลยจัดแจงหยิบกล้องตัวโปรด เดินขึ้นจุดชมวิวเล็งหาช้างบนท้องฟ้า แต่เป็นที่น่าเสียด้ายช่วงนี้ช้างขี้อายแอบหนีลงไปกินน้ำ ทำให้ถ่ายมาได้แค่หางช้าง บวกเฆมเจ้ากรรมบังซะเกือบไม่เห็นหางช้าง แต่ก็พอได้ภาพมาบ้าง หลังจากสนุกสนานกับการล่าช้างบนท้องฟ้า ด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินตามควาย แสงไฟในแคมป์ถูกดับลงอยากรวดเร็วเหลือไว้เพียงสมาชิกไม่กี่คนที่รอเคาท์ดาวน์เข้าสู่ปีใหม่

ถ่ายมาได้แค่หางช้าง

          ตีห้าครึ่ง เสียงเรียกดังออกมาจากนอกเต้นท์ "พี่ตื่นรึยังครับ ลุกไปถ่ายดาวกันไหม" ผมลุกขึ้นอย่างสะลึมสะลือ หยิบกล้องตัวที่ถ่ายช้างเมื่อคืน ลุกฝ่าความหนาวออกจากเต้นท์ แสงพระจันทร์สว่างจนแทบไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฉายส่องนำทางขึ้นไปยังจุดชมวิว แม้จะเป็นเวลาตี5 แต่ท้องฟ้าก็ยังคงเต็มไปด้วยแสงดาว ขณะกำลังเก็บภาพแสงดาวตอนเช้า มองไปยังเต้นท์ของคณะอื่น เริ่มมีคนลุกออกมาจากเต้นท์ หยิบไฟฉายเดินมุ่งตรงไปยังยอดดอย มองเห็นแสงไฟทอดยาวเป็นเส้นไปยังยอดทูเล

มีคนเดินขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดดอย ส่วนตัวผมเอาแค่จุดชมวิวก็พอเก็บแรงไว้เดินต่อวันนี้


ภาพดาวตอนเช้า


เสียด้ายเฆมเจ้ากรรมดันบังพระอาทิตย์ เลยไม่ได้เห็นพระอาทิตย์แรกของปี 59 เลย

          หลังจากที่ชมความงามของพระอาทิตย์ขึ้นกับทะเลหมอกกันอย่างจุใจแล้ว เราก็ลงมากำจัดอาหารเช้าให้ราบเรียบ จัดแจงเก็บเต้นท์เก็บของยัดใส่กระเป๋า มองนาฬิกาดูฤกษ์งามยามดี ออกเดินทางไปยังเป้าหมายต่อไปในวันนี้ ม่อนคลุย วันนี้เราต้องเดินไกลกว่าเมื่อวานเล็กน้อย แต่ทางเดินจากง่ายกว่าเดิม เดินตามสันเขาที่เรามองเห็นเมื่อวาน ช่วงแรกของการเดินเป็นทางขึ้นเขาระยะทางไม่ไกลมากนัก จากนั้นก็ตัดลงเขาอย่างเดียวเลย จนมาถึงจุดแวะพักเติมน้ำ เป็นลำธารน้ำใสๆไหลเย็นให้พอล้างหน้าให้ชื้นใจ  จากจุดแวะพัก ทางข้างหน้าไปทางชันระดับ 80 องศาเหมือนช่วงสุดท้ายของเมื่อวาน แต่ระยะทางไม่ไกลมาก แต่เหนื่อยเอากาลเหมือนกัน แต่ขอบอกพอขึ้นมาถึงยอดแล้วถึงกับหายเหนื่อยกันเลยที่เดียว มองเห็นวิวภูเขาทอดยาวเรียงตัวสลับกัน ท้องฟ้าก็ดูเหมือนจะเป็นใจ เฆมแตกกระจายเป็นเส้นเล็กๆเรียงตัวกันอย่างสวยงาม ที่เขาเรียก"ฟ้าระเบิด" ได้เห็นจริงก็วันนี้แหละครับ นอกจากฟ้าระเบิด ไฮไลท์อีกอย่างจะเป็นสันเขาเส้นทางที่เราเดินไปยังม่อนคลุย ระหว่างสองข้างทางมองเห็นภูเขาเรียงตัวสลับกันยาวสุดสายตา ระหว่างทางเราจะมองเห็นสถูปเก่า ชาวบ้านเรียกบริเวณนี้ว่าม่อนปุยหลวง เป็นจุดกางเตนท์แวะพักและสามารถกางเต้นท์ได้

เก็บของเตรียมเดินทางสู่ม่อนคลุย


ลำธารธรรมชาติจุดแวะพักเติมน้ำ


แวะพักชมวิวหลังจากที่เดินขึ้นมาจากลำธาร


ฟ้าระเบิดงามมากๆ


สถูปเก่าบริเวณม่อนปุยหลวง

          เราเดินตามสันเขาตัดลงมาเรื่อยจนมาบรรจบกับถนนลูกรังเส้นที่มาจากม่อนคลุย เราแวะพักกินอาหารกลางวันกันที่นี้ หลังจากสมาชิกที่เหลือมากันครบเราออกเดินทางกันต่อ ตามถนนลูกรังมุ่งหน้าสู่ม่อนคลุย ในที่สุดเราก็มาถึงม่อนคลุย ใช้เวลาไป 6 ชั่วโมง จบสิ้นกันที่กับภาระกิจการเดินป่าข้ามปี ตอนไปนี้รถถึงตลอดไม่ต้องเดินแล้ว

วิวสันเขามาให้ชมกันตลอดทาง


เดินตามสันเขามาเรื่อยๆ


ในที่สุดก็มาเจอกับถนนลูกรัง มุ่งสู่ม่อนคลุย


จากถนนลูกรังเดินอีกไม่ไกลก็มองเห็นจุดหมายของเรา


ในที่สุดก็มาถึงม่อนคลุย

          หลังจากที่เดินกันมาอย่างเหน็ดเหนื่อย โค๊กเย็นๆใส่น้ำแข็ง เป็นอะไรที่สุดยอดที่สุดแล้ว พอมาถึงกันครบก็จัดแจงกางเต้นท์ ทำแคมป์กลาง หลังจากกางเต้นท์เสร็จกิจกรรมต่อมาที่ทุกคนอยากทำ ไม่ใช่การนอนแต่เป็นการอาบน้ำ หลังจากอาบน้ำเสร็จ สมาชิกรวมกลุ่มกันเม้าท์มอยเรื่องทริปต่างๆที่ต่างคนต่างเคยไปมา  นั่งคุยเล่าเรื่องราวประสบการณ์การท่องเที่ยวกันอย่างสนุกสนานรอเวลาชมพระอาทิตย์ตก

วิวบริเวณม่อนคลุย


นั่งรอชมพระอาทิตย์ตกที่ม่อนคลุย


ตัดมาตอนเช้ารอชมพระอาทิตย์ขึ้น มีIron Manบินผ่านด้วย


นั่งรถกระบะลงจากม่อนคลุย กลับสู่เมืองกรุง เข้าสู้ชีวิตการเริ่มต้นทำงานในปี 59


ขอจบรีวิวเพียงเท่านี้ หากมีขอผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
ชื่อสินค้า:   ม่อนทูเล, ม่อนคลุย จ.ตาก
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่