ต้องออกตัวว่าทริปนี้ 3 คืน 4 วัน มีกิจกรรมมากมายที่อยากเล่าสู่กัน
จขกท.จึงขอแบ่งกระทู้เป็นตอนๆ เพื่อให้ได้ติดตามกันอย่างต่อเนื่องนะคะ
และภาพถ่ายอาจไม่สวยสดใสนักเพราะใช้กล้องดิจิตอลพื้นๆธรรมดาๆไม่มีการตกแต่งเพิ่มเติม
ตอนที่ 1 : ล่องทะเลอาหรับ ดูโลมา ส่องปะการัง
เมื่อน้องสาวซึ่งไปตั้งรกรากอยู่ที่ต่างประเทศและกลับมาเยี่ยมบ้านในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ชวนไปเที่ยวย่ำทะเลทรายที่เมืองมัสกัตประเทศโอมาน แรกทีเดียวเราไม่อยากไปไกลขนาดนั้น ถ้าแค่ทะเลทรายนี่แถวเวียดนามใกล้บ้านเราก็มีไม่ร้อนมากด้วย แต่น้องสาวบอกว่ามันไม่ได้ฟิลล์ อยากไปขี่อูฐย่ำทะเลทรายของจริงมากกว่า และไปช่วงต้นปีอากาศเย็นกำลังดี ที่สำคัญจะเป็นสปอนเซอร์ให้ด้วยก็เลยไม่อยากขัดศรัทธา
เดินทางไปกันเองสองศรีพี่น้องแบบไม่ง้อทัวร์ตามสไตล์ของ จขกท. กับ TG.507 ในเวลา 14.10 น. แต่ไปแวะรับผู้โดยสารที่การาจีก่อนเดินทางต่อโดยไม่ได้ลงจากเครื่อง ใช้เวลาเดินทางรวมกับ Stopover ที่การาจีแล้วเกือบ 8 ชั่วโมง ซึ่งเวลาท้องถิ่นที่มัสกัตช้ากว่าเมืองไทย 4 ชั่วโมง
ท้องฟ้าเหนือเมืองมัสกัต (ภาพไม่ชัดนักเพราะถ่ายด้วยกล้องมือถือ ก่อนที่จะมีเสียงประกาศว่าห้ามถ่ายภาพเหนือดินแดนโอมาน)
ผ่านเข้าเขต ต.ม.มองหาตู้ทำวีซ่า 0n Arrival ตามที่หาข้อมูลมาก็ไม่เห็น สอบถามเจ้าหน้าที่ก็ชี้ไปที่เคาน์เตอร์แลกเงินด้านข้าง เราก็ยังยืนยันว่าเพื่อนบอกว่ามีเครื่องออกวีซ่าอัตโนมัติ(กลัวโดนชาร์ทค่าธรรมเนียม) เจ้าหน้าที่ทำหน้าล้อเลียนแล้วบอกว่า ผมเป็น Immigrationนะ คุณจะเชื่อผมหรือเชื่อเพื่อนคุณพร้อมเดินนำไปที่เคาน์เตอร์ เราเลยต้องยอมเดินตามในใจก็คิดว่า เอาน่าค่าธรรมเนียมคงไม่เท่าไหร่ ดีกว่าเสียเวลา แต่ผลปรากฏว่าไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมอะไรอีก เจ้าหน้าที่ถามว่าจะอยู่กี่วัน เราแจ้งว่า 5 วัน ก็เสียแค่ 5 OMR.ต่อวีซ่าไม่เกิน 10 วัน
ได้ใบเสร็จแล้วไปต่อแถวเข้ารับการตรวจลงตรา จนท.ไม่ถามอะไรสักคำ อุตส่าห์เตรียมเอกสารใบจองโรงแรมกับตั๋วกลับไว้เผื่อขอดูแต่ก็ไม่พูดไร สงสัยประเมินด้วยสายตาก็รู้ว่าคุณป้าสองคนนี่คงไม่ทำมาหากินแถวนี้แน่จึงปั๊มตูมๆแล้วบอกยินดีต้อนรับ
ขณะรออยู่ในคิวจึงเพิ่งสังเกตเห็นว่ามีคนไทยมาทำงานที่นี่มากพอสมควร สำหรับคนที่เคยอยู่ก่อนแล้วกลับไปเยี่ยมบ้านกลับมาก็ต่อแถวได้เลย ส่วนคนใหม่ๆจะมีนายหน้ามารอรับแล้วพาเข้าไปในส่วนถ่ายรูปทำบัตรคล้าย ID Card กันเป็นกลุ่มๆ มองสบตาพวกเขาแล้วสะท้อนใจ ไม่รู้ว่าต้องเสียค่านายหน้า เบี้ยบ้ายรายทางมากันแล้วเท่าไหร่ ต้องจากบ้านจากคนที่รักมาเพื่อหาเงินและต้องเก็บเงินกันอีกนานแค่ไหนกว่าครอบครัวจะสุขสบายดังที่หวัง
[CR] ...โอมาน ไม่ได้มีแค่..ทะเล กับ ทราย
จขกท.จึงขอแบ่งกระทู้เป็นตอนๆ เพื่อให้ได้ติดตามกันอย่างต่อเนื่องนะคะ
และภาพถ่ายอาจไม่สวยสดใสนักเพราะใช้กล้องดิจิตอลพื้นๆธรรมดาๆไม่มีการตกแต่งเพิ่มเติม
ตอนที่ 1 : ล่องทะเลอาหรับ ดูโลมา ส่องปะการัง
เมื่อน้องสาวซึ่งไปตั้งรกรากอยู่ที่ต่างประเทศและกลับมาเยี่ยมบ้านในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ชวนไปเที่ยวย่ำทะเลทรายที่เมืองมัสกัตประเทศโอมาน แรกทีเดียวเราไม่อยากไปไกลขนาดนั้น ถ้าแค่ทะเลทรายนี่แถวเวียดนามใกล้บ้านเราก็มีไม่ร้อนมากด้วย แต่น้องสาวบอกว่ามันไม่ได้ฟิลล์ อยากไปขี่อูฐย่ำทะเลทรายของจริงมากกว่า และไปช่วงต้นปีอากาศเย็นกำลังดี ที่สำคัญจะเป็นสปอนเซอร์ให้ด้วยก็เลยไม่อยากขัดศรัทธา
เดินทางไปกันเองสองศรีพี่น้องแบบไม่ง้อทัวร์ตามสไตล์ของ จขกท. กับ TG.507 ในเวลา 14.10 น. แต่ไปแวะรับผู้โดยสารที่การาจีก่อนเดินทางต่อโดยไม่ได้ลงจากเครื่อง ใช้เวลาเดินทางรวมกับ Stopover ที่การาจีแล้วเกือบ 8 ชั่วโมง ซึ่งเวลาท้องถิ่นที่มัสกัตช้ากว่าเมืองไทย 4 ชั่วโมง
ท้องฟ้าเหนือเมืองมัสกัต (ภาพไม่ชัดนักเพราะถ่ายด้วยกล้องมือถือ ก่อนที่จะมีเสียงประกาศว่าห้ามถ่ายภาพเหนือดินแดนโอมาน)
ผ่านเข้าเขต ต.ม.มองหาตู้ทำวีซ่า 0n Arrival ตามที่หาข้อมูลมาก็ไม่เห็น สอบถามเจ้าหน้าที่ก็ชี้ไปที่เคาน์เตอร์แลกเงินด้านข้าง เราก็ยังยืนยันว่าเพื่อนบอกว่ามีเครื่องออกวีซ่าอัตโนมัติ(กลัวโดนชาร์ทค่าธรรมเนียม) เจ้าหน้าที่ทำหน้าล้อเลียนแล้วบอกว่า ผมเป็น Immigrationนะ คุณจะเชื่อผมหรือเชื่อเพื่อนคุณพร้อมเดินนำไปที่เคาน์เตอร์ เราเลยต้องยอมเดินตามในใจก็คิดว่า เอาน่าค่าธรรมเนียมคงไม่เท่าไหร่ ดีกว่าเสียเวลา แต่ผลปรากฏว่าไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมอะไรอีก เจ้าหน้าที่ถามว่าจะอยู่กี่วัน เราแจ้งว่า 5 วัน ก็เสียแค่ 5 OMR.ต่อวีซ่าไม่เกิน 10 วัน
ได้ใบเสร็จแล้วไปต่อแถวเข้ารับการตรวจลงตรา จนท.ไม่ถามอะไรสักคำ อุตส่าห์เตรียมเอกสารใบจองโรงแรมกับตั๋วกลับไว้เผื่อขอดูแต่ก็ไม่พูดไร สงสัยประเมินด้วยสายตาก็รู้ว่าคุณป้าสองคนนี่คงไม่ทำมาหากินแถวนี้แน่จึงปั๊มตูมๆแล้วบอกยินดีต้อนรับ
ขณะรออยู่ในคิวจึงเพิ่งสังเกตเห็นว่ามีคนไทยมาทำงานที่นี่มากพอสมควร สำหรับคนที่เคยอยู่ก่อนแล้วกลับไปเยี่ยมบ้านกลับมาก็ต่อแถวได้เลย ส่วนคนใหม่ๆจะมีนายหน้ามารอรับแล้วพาเข้าไปในส่วนถ่ายรูปทำบัตรคล้าย ID Card กันเป็นกลุ่มๆ มองสบตาพวกเขาแล้วสะท้อนใจ ไม่รู้ว่าต้องเสียค่านายหน้า เบี้ยบ้ายรายทางมากันแล้วเท่าไหร่ ต้องจากบ้านจากคนที่รักมาเพื่อหาเงินและต้องเก็บเงินกันอีกนานแค่ไหนกว่าครอบครัวจะสุขสบายดังที่หวัง