คนสมัยผมนี่  ถ้ารถเสียยังไงก็ต้องเอาเข้ามาหลบข้างทางให้ได้
จะเข็น หรือ ทำยังไงก็ได้ ให้หลบพ้นทางไปก่อน
ยกเว้นว่าจนปัญญาที่จะเอาเข้าข้างทางจริงๆ  เช่นช่วงล่างหลุด ล้อหลุด เบรคตาย

วันนี้เจอแบบจะๆอีกราย
ผมไปนั่งร้านก๋วยเตี๋ยว  เจอรถกระบะวิ่งมาเลนขวาสุดแล้วจอดตายทิ้งรถมันอยู่ตรงนั้น
ผมเห็นก็นั่งด่ามันให้คนข้างๆฟัง  ว่ามันทำแบบนี้  มันเป็นตัวก่อเรื่องสร้างปัญหาให้กับคนอื่น
เริ่มแรก  รถก็ติดกันวุ่นวาย  เพราะตรงนั้นมันใกล้ไฟแดงกลับรถ
คนที่วิ่งมาขวาเพื่อจะมารอไฟแดง  ก็ต้องมาหลบไอ้นี่คันเดียว
ผมซดก๋วยเตี๋ยวหมดไปได้แค่ครึ่งชาม   ได้ยินเสียงดังโคร้ม
รถบรรทุก ซัด กับรถเก๋งไปเรียบร้อย
เหตุการณ์คือ รถบรรทุกวิ่งขวามาจะกลับรถ  พอมาเจอไอ้นี่ก็ไปไม่ได้ก็ต้องเลี้ยวเข้ามาซ้าย
รถบรรทุกโผล่หัวออกมาแล้ว แต่รถเก๋งไม่ยอมหยุด  ก็ซัดกันซะ
หลังจากซัดกันแล้ว  ทั้งรถบรรทุก กับรถเก๋ง  ก็ช่วยกันมาเข็นไอ้ตัวปัญหาไปหลบข้างทาง
สังคมถนนตรงนั้นถึงกลับมาสงบสุข

อันที่จริงรถเสียแบบนี้ขับไปคนเดียว  ก็เอาเข้าข้างทางได้ง่าย
เพราะถนนตรงนี้มันเอียงค่อนข้างเยอะ  ต่อให้เครื่องไม่ติด
ก็เปิดไฟเลี้ยวแล้วค่อยๆให้รถมันไหลเข้ามาหลบข้างทางได้
ผมก็คอยดูไอ้คันนี้มันอยู่  ถ้ามันคิดจะเข็นหลบ  ผมก็จะวิ่งไปช่วยมันเข็น
แต่นี่มันจอดรถทิ้งไว้อย่างนั้นไม่คิดจะหลบอะไรเลย
ครั้นจะไปจุ่นจ้าน  เดี๋ยวมันพูดไม่ดีใส่  เดี๋ยวก็จะเป็นเรื่องอีก

สมัยเกือบ 20 ปี ที่แล้ว เคยขับรถไปปั้มครัทช์รั่วอยู่เลนขวาสุด ตรงช่วงเลยหน้าเมเจอร์ไปหน่อย
ปั้มครัทช์รั่ว  ก็หมายความว่า หมดสิทธิ์เหยียบครัทช์เข้าเกียร์ได้เลย
แต่ผมก็ดันเกียร์เอา จนประคองเข้าไปจอดในปั้มตรงแถวนั้นได้
หรือต่อให้ใช้วิธีนี้ไม่ได้  ก็เข็นเอาคนเดียวก็ได้  มันไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย
เพราะขนาดเข็นติดเครื่อง  ผมยังเข็นคนเดียวมันนับไม่ถ้วนแล้ว