ใคร ๆ ก็พูดฮิตจนติดปากว่า "ไปเสม็ด เสร็จทุกราย"
เป็นอะไรที่ตื่นเต้นมากค่ะ คิดตลอดทางว่า เหยยยย ฉันจะเสร็จจริงใช่มะ?
555 ไม่ค่ะเราจะไม่ติดเรท ทั้ง ๆ ที่เราหื่นมาก ๆ 555
เกิดมาครั้งนึงขอท้าให้ทุกท่านลองไป สัมผัสบรรยากาศแสนชิว ขุนเขา หาดทราย และน้ำทะเลใสบ้าง ขุ่นบ้าง หลากหลายอารมณ์ค่ะ บางหาดคลื่นลมแรงมากหาดคึกครื้นเต็มไปด้วยผู้คน และสีสันของบานาน่าโบทกับห่วงยาง อีกทั้งพาราชูตหลากสีที่ล่องลอยบนท้องฟ้า และในเวลาเดียวกันของอีกหาด น้ำทะเลกลับใสแจ๋ว สงบนิ่ง คนเล่นน้ำแบบชิว ๆ มีฝูงปลาเล็ก ๆ ว่ายเข้าหาแบบชินกับผู้คน สามารถเอามือโอบตัวมันเบา ๆ ได้อย่างสบาย ๆ นอกจากหลัก ๆ เวลาคนไปทะเลก็เล่นน้ำทะเลเป็นหลักแล้ว กระทู้นี้จะรวบรวมกิจกรรมสนุก ๆ บนเกาะแห่งนี้ ให้เพื่อน ๆ ฟินไปกับเรา และการเดินทางที่ง่ายแสนง่ายทำให้สวรรค์แห่งนี้มันใกล้แค่เอื้อมเหลือเกินค่ะ
#จะไม่แบ่งตามลำดับนะคะ เพราะอาจมีการแทรกอาหารไปในระหว่างการทำกิจกรรม การเดินทางครั้งนี้ใช้เวลา 3 วัน 2 คืนนะคะ
ปล.กระทู้แรกในชีวิตนะคะ ฮิ้ๆ ๆ ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ล่วงหน้าเลยค่ะ
เริ่มจากการเดินทาง
เราออกจากบางแสนค่ะ มุ่งหน้าไปบ้านเพ จังหวัดระยองค่ะ
ค่ารถตู้ คนละ 200 บาทนะคะ ระหว่างทางเราก็ถามพี่รถตู้ค่ะ ว่าไปเกาะเสม็ดไปยังไง ขึ้นเรื่อที่ไหน เป็นทางลัดนอกเหนือจากการอ่านรีวิวพันทิพมาเป็นข้อมูลเบื้องต้นแล้วค่ะ และแล้วพี่รถตู้ก็พาเราไปส่งที่ ท่าเรืออะไรซักอย่างเหมือนเค้าโคกันนะคะ จากนั้นก็มีเซลขายตั๋วเรือข้ามฟากมาต้อนรับ พร้อมแนะนำเที่ยวเรือ และราคาค่ะ เรือมีออกทุก ชม. แต่ตอนนั้นด้วยความที่พี่เซลพูดเร็วมาก 555 เราเลยตกลงไปค่ะ เน้นง่าย ๆ ด้วยราคา
ตั๋วเรือข้ามฟาก 90 บาท จ้าาาซื้อจ้าาาทั้งไปทั้งกลับ 555 เราไปลงที่อ่าววงเดือนนะคะ เพราะจองที่พักที่นั่น จากนั้นพี่เซลก็พาเรานั่งรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างไปที่ "ท่าเรือนวลทิพย์" (ถ้าเพื่อน ๆ สามารถลงที่ท่าเรือนวลทิพย์ได้ น่าจะได้ราคาที่ถูกกว่า 90 บาทค่ะ)
ใช้เวลาประมาณ 30 นาที พอถึงเกาะเสม็ด อ่าววงเดือน เรือจะจอดห่างจะหาดทราย และส่งเราทุกคนไปยังโป๊ะเล็ก ๆ ค่ะ สำหรับตั๋วเราที่เราซื้อ 90 บาทนั้นรวมค่า โป๊ะเรียบร้อยค่ะ พอขึ้นเกาะมาเท้าแตะทรายปุ๊บ! จะมีเจ้าหน้าที่อุทยานมารอเก็บ
ค่าเข้าอุทยาน 40 บาท ค่ะ
ถึงเกาะแล้วก็ต้องเป็นเรื่องของที่พัก
สำหรับที่พักเราจองผ่าน agoda ค่ะ ง่ายและสะดวกดีค่ะ ไปถึงเราก็เดินไปประมาณ 15.5 ก้าว เราก็ถึงที่พักเลยค่ะ 555 เราจองที่ "
Seahorse Bungalow 2" ห้องมาตรฐาน ได้ใน
ราคาคืนละ 1,150 บาท ห้องกระทัดรัดมากค่ะ แต่น่ารักดี สีสันสดใส สะอาดดีค่ะ แต่น้ำน่าจะประสบปัญหาขุ่นหน่อย ๆ เพราะบนเกาะเน๊อะ แต่พอได้ค่ะในราคานี้โอเคเลย เพราะ
มีอาหารเช้าให้ด้วยค่ะ จะเป็นชุด breakfast หรือข้าวผัด หรือชุดโยเกิร์ต ก็ได้ค่ะ และเลือกเครื่องดื่มได้อีก 1 อย่าง น้องจะแนะนำเราเองน่ารักมาก อาหารเช้าโอเคเลยค่ะอร่อย และดูสะอาด อีกอย่าง คือลงมาก็เป็นร้านอาหารของทางบังกะโลเลยค่ะ แล้วก็เป็นหาดทรายเลย บรรยากาศดีมาก
ภาพนี้รวบรวมมาจากเว็บ agoda นะคะ สภาพห้องจริงแบบนี้ทุกประการ 555
แต่สำหรับวันแรกที่เราไปถึงเก็บสัมภาระ แล้วพักก่อนค่ะ และลงมาเดือนเล่นที่อ่าววงเดือนแหละค่ะหาที่เช่า
มอเตอร์ไซต์ถูก ๆ ที่เจอถูกคือ ที่ "วงเดือนวิวล่า" ในราคา 400 บาท แต่ก่อนหน้านั้นคือเราได้เช่าที่บังกะโลเราไปแล้วค่ะเพื่อความสะดวกในการคืน แพงกว่า 100 บาทค่ะ 500 นั่นเอง 555
และเรานั่งทานข้าวที่ร้าน Seahorse เนี่ยแหละค่ะ วันแรกของ่าย ๆ ก่อน กับข้าว 2 อย่าง พร้อมข้าวเปล่า 2 จาน น้ำ 1 ขวด น้ำแข็ง 2 ในราคา 500 กว่าบาทค่ะ อ๊ะ ๆ แต่ว่า เนื่องด้วยเราพักที่บังกะโลเค้าค่ะเลยได้ส่วนลด 10 % 555 มื้อแรก 450 บาท (ถ้าสั่งอย่างอื่นก็ราคาต่างกันไปนะคะ มีตั้งแต่ 100 บาทค่ะ)
หน้าตาอาหารประมาณนี้ค่ะ อร่อยค่ะ ^^
ระหว่างทานข้าวเราก็ถามเจ้าของ Seahorse ค่ะ ใจดีและน่ารักมากกกก เราถามเกี่ยวกับตกหมึกค่ะ เชิบ ๆ กิจกรรมแรกกกกกกกของทริปนี้ ตื่นเต้นมาก 555
กิจกรรมแรกค่ะ "ตกหมึก" ค้าาา ครั้งแรกค่ะตื่นเต้น ๆ
จากที่เคยอ่านเค้าว่ากันว่าเป็นกิจกรรมที่น่าเบื่อมากกกก 555 แต่เราไปถึงแล้วค่ะ ยิ่งเบื่อแค่ไหนก็ยิ่งชวนให้อยากลอง!!! 555 พี่เจ้าของที่พักเลยจัดการติดต่อให้เราค่ะ
คนละ 500 บาท ตั้งแต่เวลา 6 โมงเย็น-เที่ยงคืน ค่ะ พอทานข้าวเสร็จ ก็ได้เวลาค่ะ มีรถกระบะเขียวแปร๊ดดดด มารับถึงที่พักเลยค่ะ นอกจากเราแล้วเค้าจะแวะรับลูกทัวร์ตกหมึกตามที่พักต่าง ๆ ค่ะ มีทั้งคนไทย ผรั่ง คนจีน เกาหลี หนุกหนานค่ะ 555 ทุกคนตื่นเต้น เค้าจะพาเราไปส่งลงเรือที่ ท่าเรือหน้าด่านค่ะ เราจะไปกับเรือตกหมึกและพี่ชาวประมงสุดหล่อมากความสามารถอีก 1 คนค่ะ เรียกว่า everything in 1 ค่ะ พี่เค้าทำทุกอย่างค่ะ ทั้งคนขับเรือ คนนำตกหมึก ที่สำคัญเค้าคนนี้แหละค่ะ จะเป็นพ่อครัวของเราด้วย 555 คุ้มมากค่ะพี่
พร้อมเดินทางแล้วค่ะ!!!
ด้วยความที่ข้างล้างคนเยอะและบวกกับกลิ่นบุหรี่ของนักท่องเที่ยว เราเลยขอพี่ชาวประมงสุดหล่อขึ้นไปชั้น 2 ของเรือ พอเรือออกเราก็ค้นพบว่าเราถูกหวยในทริปนี้และ 555 อร๊ายยยย!!! คือ ฟินค่ะ เรานอนบนเปลผ้าใบบนดาดฟ้าของเรือ มองไปบนท้องฟ้า ด้วยท้องฟ้าที่มืดสนิท ทำให้ดวงดาวหลากหลายขนาดแข่งกันเปล่งประกายในตัวเองออกมาอวดโฉมเรา มันเป็นภาพที่น่าจดจำมากจริง ๆ ค่ะ ยิ่งบวกด้วยเสียงคลื่นเบา ๆ ลมพัดอ่อน ๆ มันยิ่งฟินค่ะ แนะนำให้พกเสื้อแขนยาวไปด้วยนะคะ อากาศค่อนข้างเย็นค่ะ มีเคล็ดลับนะคะ ผู้หญิงไม่ต้องพกค่ะ ไปหนาว ๆ นั่นแหละ ทำปากสั่น ๆ เข้าไว้ เด๋วผู้ชายจะถอดเสื้อมาห่มที่ไหล่เราเองค่ะ ตึง ๆ !!! ตื่นค่ะนั่นในละคร 555 เอาไปค่ะเอาไป เพราะโอกาสโดนเอ็ดมากกว่าค่ะ 555
นี่เป็นไฟของเรือนะคะ ไฟเขียว ๆ เรือแล้นไปซักพัก ซัก 20 นาที ก็หยุดกลางทะเลค่ะ จากนั้นก็กางไม้ไผ่ใหญ่ และยาว ที่มีหลอดไฟติด จากนั้นก็แจกอุปกรณ์ค่ะ เป็นขวดพลาสติกม้วนด้วยเส้นเอ็นพร้อมติดเบ็ดปลอม ให้กับเรา เราถามด้วยความตื่นเต้นค่ะว่า พี่คะ ๆ เราต้องปล่อยเชือกไปยาวประมาณเท่าไหร่ พี่ชาวประมงสุดหล่อ หันมายิ้ม ๆ แล้วบอกว่า ประมาณ 17 วา เหยยย!!! ชวยกันคิดใหญ่ 1 วา = 2 เมตร ก็จะได้ 17x2=34 เมตร ป๊าดดดด!!! ยาวแท้ จากนั้นเราก็ปล่อยเอ็นค่ะ จนหมดยังไม่ได้เลยค่ะ 34 เมตร T_T "กระตุกเข้า ๆ ๆ ๆ" เสียงของพี่ชาวประมง จ้ากระตุกจ้า จนแขนล้าละ 2 ชม. ได้ 555
แต่ระหว่างนั้น พี่ชาวประมงก็กับข้าวอยู่ท้ายเรือ แล้วก็ยกมาให้เราทาน มีข้าวต้มไก่ หม้อใหญ่ใช้ได้ และตบด้วย ผลไม้เป็นแตงโมกับสับปะรด จัดได้น่ากิน ไม่เชื่อสายตาว่าพี่เค้าจะทำอะไรแบบนี้ได้ ตอนนั้นลูกทัวร์ทั้งหมดก็แบบต้องคิดเหมือนกันแน่ ๆ ว่า "500 กูมีแค่นี้สินะ กูต้องกลับตัวเปล่าสินะ หมึกกูก็ไม่เห็นสินะ" T_T ทันใดนั้นไฟทั้งเรือก็ดับ ฟุบ!!! มืดตึบ แล้วค่อย ๆ มีแสงไฟสีขาวเปิดก่อนในตอนแรก สักพัก ก็ค่อย ๆ เปิดไฟสีแดงสดตาม เสียงร้องดังลั่นเรือ "โอ้โหหหหหหหหหหหหหหหหหหหห" ภาพที่เห็นคือ
ภาพด้านบนนี้ถ่ายจากดาดฟ้านะคะ และแล้วที่ทำมาทั้งหมด ทั้งนั่งนับ 17 วานั่น ทั้งกระตุก ๆ ๆ ๆ พี่ชายยยยย อำฉันหรอออ ต่อจากนี้ขอลงภาพรัว ๆ เลยแล้วกันค่ะว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง มันเด็ดจริง ๆ วินาทีนี้พูดได้คำเดียว "นี่ 500 เองหรอ" 555 ออกจากมุมดาร์กของชีวิตเลยค่ะ
แอร๊ยยยยย!!! ขนาดเขียนกระทู้อยู่ ยังนึกถึงความรู้สึกตอนนั้นได้เลยค่ะ ปลาหมึกขึ้นมาเล่นไฟยุบยับ จากนั้นตะข่ายถูกปล่อยจากเรือ ฝับ!!! ได้หมึกขนาดกำลังกินขึ้นมาเยอะมาก มีขนาดใกล้เคียงกันตามภาพค่ะ หลายคนอาจมองว่ามันเล็ก เราเช่นกัน ที่ไหนได้พวกมันซ่อนไข่อยู่เต็มท้องไปหมดค่ะ ระหว่างที่พี่ชาวประมงทำเราสามารถเข้าไปช่วยได้ค่ะ สนุกอีกแบบ จากนั้นก็ย่างได้เรื่อย ๆ เลยค่ะ จนกว่าจะหนำใจเลย หากอยากกินสดก็ได้นะคะ มีน้ำแข็งให้กินเย็น ๆ หวานอร่อยอีกแบบค่ะ ลืมบอกไปว่าบนเรือมีน้ำดื่มให้ด้วยนะคะ และมีห้องน้ำพร้อม เค้าให้เวลาพอสมควรในการยัดหมึก ต้องบอกงั้น 555 พอห้าทุ่มครึ่งเค้าก็พาเรากลับเข้าฝั่งค่ะ จะมีรถกระบะเขียนมารอรับไปส่งที่พักเราค่ะ โอ๊ยยยย ฟิน อยากไปอีก
นอนค่ะนอน หมดวันที่ 1 555
#พิมพ์ไปพิมพ์มา จะครบ 10000 อักษรแล้วค่ะ แล้วก็ เที่ยงคืน 20 แล้ว พักไว้ก่อนนะคะ 555
[CR] [CR]รีวิว-ไปเสม็ด เสร็จจริง ๆ อุ๊ปส์!!! รวบรวมกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดบนเกาะเสม็ด (ฺBy Meng&Meng)
เป็นอะไรที่ตื่นเต้นมากค่ะ คิดตลอดทางว่า เหยยยย ฉันจะเสร็จจริงใช่มะ?
555 ไม่ค่ะเราจะไม่ติดเรท ทั้ง ๆ ที่เราหื่นมาก ๆ 555
เกิดมาครั้งนึงขอท้าให้ทุกท่านลองไป สัมผัสบรรยากาศแสนชิว ขุนเขา หาดทราย และน้ำทะเลใสบ้าง ขุ่นบ้าง หลากหลายอารมณ์ค่ะ บางหาดคลื่นลมแรงมากหาดคึกครื้นเต็มไปด้วยผู้คน และสีสันของบานาน่าโบทกับห่วงยาง อีกทั้งพาราชูตหลากสีที่ล่องลอยบนท้องฟ้า และในเวลาเดียวกันของอีกหาด น้ำทะเลกลับใสแจ๋ว สงบนิ่ง คนเล่นน้ำแบบชิว ๆ มีฝูงปลาเล็ก ๆ ว่ายเข้าหาแบบชินกับผู้คน สามารถเอามือโอบตัวมันเบา ๆ ได้อย่างสบาย ๆ นอกจากหลัก ๆ เวลาคนไปทะเลก็เล่นน้ำทะเลเป็นหลักแล้ว กระทู้นี้จะรวบรวมกิจกรรมสนุก ๆ บนเกาะแห่งนี้ ให้เพื่อน ๆ ฟินไปกับเรา และการเดินทางที่ง่ายแสนง่ายทำให้สวรรค์แห่งนี้มันใกล้แค่เอื้อมเหลือเกินค่ะ
1. การเดินทางไปเกาะเสม็ด
2. ที่พัก และ ยานพาหนะ
3. กิจกรรมกลางคืน "ตกหมึก"
4. อาหาร เครื่องดื่มตามที่ได้ลิ้มลอง
5. กิจกรรมดำน้ำดูปะการัง นั่งเรือเที่ยวรอบเกาะ
6. ชมอาทิตย์อัสดง
7. ชมควงกระบองไฟ
ปล.กระทู้แรกในชีวิตนะคะ ฮิ้ๆ ๆ ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ล่วงหน้าเลยค่ะ
เริ่มจากการเดินทาง
เราออกจากบางแสนค่ะ มุ่งหน้าไปบ้านเพ จังหวัดระยองค่ะ ค่ารถตู้ คนละ 200 บาทนะคะ ระหว่างทางเราก็ถามพี่รถตู้ค่ะ ว่าไปเกาะเสม็ดไปยังไง ขึ้นเรื่อที่ไหน เป็นทางลัดนอกเหนือจากการอ่านรีวิวพันทิพมาเป็นข้อมูลเบื้องต้นแล้วค่ะ และแล้วพี่รถตู้ก็พาเราไปส่งที่ ท่าเรืออะไรซักอย่างเหมือนเค้าโคกันนะคะ จากนั้นก็มีเซลขายตั๋วเรือข้ามฟากมาต้อนรับ พร้อมแนะนำเที่ยวเรือ และราคาค่ะ เรือมีออกทุก ชม. แต่ตอนนั้นด้วยความที่พี่เซลพูดเร็วมาก 555 เราเลยตกลงไปค่ะ เน้นง่าย ๆ ด้วยราคาตั๋วเรือข้ามฟาก 90 บาท จ้าาาซื้อจ้าาาทั้งไปทั้งกลับ 555 เราไปลงที่อ่าววงเดือนนะคะ เพราะจองที่พักที่นั่น จากนั้นพี่เซลก็พาเรานั่งรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างไปที่ "ท่าเรือนวลทิพย์" (ถ้าเพื่อน ๆ สามารถลงที่ท่าเรือนวลทิพย์ได้ น่าจะได้ราคาที่ถูกกว่า 90 บาทค่ะ)
ใช้เวลาประมาณ 30 นาที พอถึงเกาะเสม็ด อ่าววงเดือน เรือจะจอดห่างจะหาดทราย และส่งเราทุกคนไปยังโป๊ะเล็ก ๆ ค่ะ สำหรับตั๋วเราที่เราซื้อ 90 บาทนั้นรวมค่า โป๊ะเรียบร้อยค่ะ พอขึ้นเกาะมาเท้าแตะทรายปุ๊บ! จะมีเจ้าหน้าที่อุทยานมารอเก็บ ค่าเข้าอุทยาน 40 บาท ค่ะ
ถึงเกาะแล้วก็ต้องเป็นเรื่องของที่พัก
สำหรับที่พักเราจองผ่าน agoda ค่ะ ง่ายและสะดวกดีค่ะ ไปถึงเราก็เดินไปประมาณ 15.5 ก้าว เราก็ถึงที่พักเลยค่ะ 555 เราจองที่ "Seahorse Bungalow 2" ห้องมาตรฐาน ได้ใน ราคาคืนละ 1,150 บาท ห้องกระทัดรัดมากค่ะ แต่น่ารักดี สีสันสดใส สะอาดดีค่ะ แต่น้ำน่าจะประสบปัญหาขุ่นหน่อย ๆ เพราะบนเกาะเน๊อะ แต่พอได้ค่ะในราคานี้โอเคเลย เพราะมีอาหารเช้าให้ด้วยค่ะ จะเป็นชุด breakfast หรือข้าวผัด หรือชุดโยเกิร์ต ก็ได้ค่ะ และเลือกเครื่องดื่มได้อีก 1 อย่าง น้องจะแนะนำเราเองน่ารักมาก อาหารเช้าโอเคเลยค่ะอร่อย และดูสะอาด อีกอย่าง คือลงมาก็เป็นร้านอาหารของทางบังกะโลเลยค่ะ แล้วก็เป็นหาดทรายเลย บรรยากาศดีมาก
แต่สำหรับวันแรกที่เราไปถึงเก็บสัมภาระ แล้วพักก่อนค่ะ และลงมาเดือนเล่นที่อ่าววงเดือนแหละค่ะหาที่เช่า มอเตอร์ไซต์ถูก ๆ ที่เจอถูกคือ ที่ "วงเดือนวิวล่า" ในราคา 400 บาท แต่ก่อนหน้านั้นคือเราได้เช่าที่บังกะโลเราไปแล้วค่ะเพื่อความสะดวกในการคืน แพงกว่า 100 บาทค่ะ 500 นั่นเอง 555
และเรานั่งทานข้าวที่ร้าน Seahorse เนี่ยแหละค่ะ วันแรกของ่าย ๆ ก่อน กับข้าว 2 อย่าง พร้อมข้าวเปล่า 2 จาน น้ำ 1 ขวด น้ำแข็ง 2 ในราคา 500 กว่าบาทค่ะ อ๊ะ ๆ แต่ว่า เนื่องด้วยเราพักที่บังกะโลเค้าค่ะเลยได้ส่วนลด 10 % 555 มื้อแรก 450 บาท (ถ้าสั่งอย่างอื่นก็ราคาต่างกันไปนะคะ มีตั้งแต่ 100 บาทค่ะ)
ระหว่างทานข้าวเราก็ถามเจ้าของ Seahorse ค่ะ ใจดีและน่ารักมากกกก เราถามเกี่ยวกับตกหมึกค่ะ เชิบ ๆ กิจกรรมแรกกกกกกกของทริปนี้ ตื่นเต้นมาก 555
กิจกรรมแรกค่ะ "ตกหมึก" ค้าาา ครั้งแรกค่ะตื่นเต้น ๆ
จากที่เคยอ่านเค้าว่ากันว่าเป็นกิจกรรมที่น่าเบื่อมากกกก 555 แต่เราไปถึงแล้วค่ะ ยิ่งเบื่อแค่ไหนก็ยิ่งชวนให้อยากลอง!!! 555 พี่เจ้าของที่พักเลยจัดการติดต่อให้เราค่ะ คนละ 500 บาท ตั้งแต่เวลา 6 โมงเย็น-เที่ยงคืน ค่ะ พอทานข้าวเสร็จ ก็ได้เวลาค่ะ มีรถกระบะเขียวแปร๊ดดดด มารับถึงที่พักเลยค่ะ นอกจากเราแล้วเค้าจะแวะรับลูกทัวร์ตกหมึกตามที่พักต่าง ๆ ค่ะ มีทั้งคนไทย ผรั่ง คนจีน เกาหลี หนุกหนานค่ะ 555 ทุกคนตื่นเต้น เค้าจะพาเราไปส่งลงเรือที่ ท่าเรือหน้าด่านค่ะ เราจะไปกับเรือตกหมึกและพี่ชาวประมงสุดหล่อมากความสามารถอีก 1 คนค่ะ เรียกว่า everything in 1 ค่ะ พี่เค้าทำทุกอย่างค่ะ ทั้งคนขับเรือ คนนำตกหมึก ที่สำคัญเค้าคนนี้แหละค่ะ จะเป็นพ่อครัวของเราด้วย 555 คุ้มมากค่ะพี่
ด้วยความที่ข้างล้างคนเยอะและบวกกับกลิ่นบุหรี่ของนักท่องเที่ยว เราเลยขอพี่ชาวประมงสุดหล่อขึ้นไปชั้น 2 ของเรือ พอเรือออกเราก็ค้นพบว่าเราถูกหวยในทริปนี้และ 555 อร๊ายยยย!!! คือ ฟินค่ะ เรานอนบนเปลผ้าใบบนดาดฟ้าของเรือ มองไปบนท้องฟ้า ด้วยท้องฟ้าที่มืดสนิท ทำให้ดวงดาวหลากหลายขนาดแข่งกันเปล่งประกายในตัวเองออกมาอวดโฉมเรา มันเป็นภาพที่น่าจดจำมากจริง ๆ ค่ะ ยิ่งบวกด้วยเสียงคลื่นเบา ๆ ลมพัดอ่อน ๆ มันยิ่งฟินค่ะ แนะนำให้พกเสื้อแขนยาวไปด้วยนะคะ อากาศค่อนข้างเย็นค่ะ มีเคล็ดลับนะคะ ผู้หญิงไม่ต้องพกค่ะ ไปหนาว ๆ นั่นแหละ ทำปากสั่น ๆ เข้าไว้ เด๋วผู้ชายจะถอดเสื้อมาห่มที่ไหล่เราเองค่ะ ตึง ๆ !!! ตื่นค่ะนั่นในละคร 555 เอาไปค่ะเอาไป เพราะโอกาสโดนเอ็ดมากกว่าค่ะ 555
นี่เป็นไฟของเรือนะคะ ไฟเขียว ๆ เรือแล้นไปซักพัก ซัก 20 นาที ก็หยุดกลางทะเลค่ะ จากนั้นก็กางไม้ไผ่ใหญ่ และยาว ที่มีหลอดไฟติด จากนั้นก็แจกอุปกรณ์ค่ะ เป็นขวดพลาสติกม้วนด้วยเส้นเอ็นพร้อมติดเบ็ดปลอม ให้กับเรา เราถามด้วยความตื่นเต้นค่ะว่า พี่คะ ๆ เราต้องปล่อยเชือกไปยาวประมาณเท่าไหร่ พี่ชาวประมงสุดหล่อ หันมายิ้ม ๆ แล้วบอกว่า ประมาณ 17 วา เหยยย!!! ชวยกันคิดใหญ่ 1 วา = 2 เมตร ก็จะได้ 17x2=34 เมตร ป๊าดดดด!!! ยาวแท้ จากนั้นเราก็ปล่อยเอ็นค่ะ จนหมดยังไม่ได้เลยค่ะ 34 เมตร T_T "กระตุกเข้า ๆ ๆ ๆ" เสียงของพี่ชาวประมง จ้ากระตุกจ้า จนแขนล้าละ 2 ชม. ได้ 555
แต่ระหว่างนั้น พี่ชาวประมงก็กับข้าวอยู่ท้ายเรือ แล้วก็ยกมาให้เราทาน มีข้าวต้มไก่ หม้อใหญ่ใช้ได้ และตบด้วย ผลไม้เป็นแตงโมกับสับปะรด จัดได้น่ากิน ไม่เชื่อสายตาว่าพี่เค้าจะทำอะไรแบบนี้ได้ ตอนนั้นลูกทัวร์ทั้งหมดก็แบบต้องคิดเหมือนกันแน่ ๆ ว่า "500 กูมีแค่นี้สินะ กูต้องกลับตัวเปล่าสินะ หมึกกูก็ไม่เห็นสินะ" T_T ทันใดนั้นไฟทั้งเรือก็ดับ ฟุบ!!! มืดตึบ แล้วค่อย ๆ มีแสงไฟสีขาวเปิดก่อนในตอนแรก สักพัก ก็ค่อย ๆ เปิดไฟสีแดงสดตาม เสียงร้องดังลั่นเรือ "โอ้โหหหหหหหหหหหหหหหหหหหห" ภาพที่เห็นคือ
ภาพด้านบนนี้ถ่ายจากดาดฟ้านะคะ และแล้วที่ทำมาทั้งหมด ทั้งนั่งนับ 17 วานั่น ทั้งกระตุก ๆ ๆ ๆ พี่ชายยยยย อำฉันหรอออ ต่อจากนี้ขอลงภาพรัว ๆ เลยแล้วกันค่ะว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง มันเด็ดจริง ๆ วินาทีนี้พูดได้คำเดียว "นี่ 500 เองหรอ" 555 ออกจากมุมดาร์กของชีวิตเลยค่ะ
แอร๊ยยยยย!!! ขนาดเขียนกระทู้อยู่ ยังนึกถึงความรู้สึกตอนนั้นได้เลยค่ะ ปลาหมึกขึ้นมาเล่นไฟยุบยับ จากนั้นตะข่ายถูกปล่อยจากเรือ ฝับ!!! ได้หมึกขนาดกำลังกินขึ้นมาเยอะมาก มีขนาดใกล้เคียงกันตามภาพค่ะ หลายคนอาจมองว่ามันเล็ก เราเช่นกัน ที่ไหนได้พวกมันซ่อนไข่อยู่เต็มท้องไปหมดค่ะ ระหว่างที่พี่ชาวประมงทำเราสามารถเข้าไปช่วยได้ค่ะ สนุกอีกแบบ จากนั้นก็ย่างได้เรื่อย ๆ เลยค่ะ จนกว่าจะหนำใจเลย หากอยากกินสดก็ได้นะคะ มีน้ำแข็งให้กินเย็น ๆ หวานอร่อยอีกแบบค่ะ ลืมบอกไปว่าบนเรือมีน้ำดื่มให้ด้วยนะคะ และมีห้องน้ำพร้อม เค้าให้เวลาพอสมควรในการยัดหมึก ต้องบอกงั้น 555 พอห้าทุ่มครึ่งเค้าก็พาเรากลับเข้าฝั่งค่ะ จะมีรถกระบะเขียนมารอรับไปส่งที่พักเราค่ะ โอ๊ยยยย ฟิน อยากไปอีก
นอนค่ะนอน หมดวันที่ 1 555
#พิมพ์ไปพิมพ์มา จะครบ 10000 อักษรแล้วค่ะ แล้วก็ เที่ยงคืน 20 แล้ว พักไว้ก่อนนะคะ 555
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น