▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ภาพยนตร์ต่างประเทศ
ภาพถ่าย
บันทึกนักเดินทาง
ประเทศญี่ปุ่น
Our Little Sister (ภาพยนตร์)
[CR] ตามรอย Our Little Sister "ไดอารี่ จากหมู่บ้านเล็กๆริมทะเล" (สปอยล์เนื้อหา)
สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิพอีกครั้ง วันนี้ลุงหมอจะมาพาเพื่อนๆไปเที่ยวตามรอยภาพยนตร์ Our little sister
ภาพยนตร์เรื่องนี้ สร้างมาจากการ์ตูน Umimachi Diary ซึ่งเนื้อเรื่องและสถานที่ถ่ายทำเกือบทั้งหมดอยู่ในเมือง Kamakura
หากคำว่า "บ้าน" คือความสุขที่ต้องประกอบไปด้วย พ่อ แม่ ลูก อยู่กันพร้อมหน้าแล้วละก็
หนังที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขเรื่องนี้เริ่มต้น และ จบลงด้วยงานศพและการจากลา ในครอบครัวที่มีกันแค่พี่น้องสี่คน
การจากไปของใครบางคน อาจเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งใหม่ในชีวิต
เช่นเดียวกับ ชิสึจัง การเสียพ่อไป ทำให้ชิซึได้พบกับพี่สาวต่างแม่ทั้งสามคน ในงานศพพ่อ
ซาจิ พี่สาวคนโต ซึ่งเป็นคนที่ดูแลน้องๆแทนพ่อ(ที่ไปมีภรรยาใหม่) และแม่ที่ออกจากบ้านไปแบบไม่มีสาเหตุ
รับรู้ได้ถึงความยากลำบากที่น้องสาวคนเล็กต่างแม่คนนี้กำลังเผชิญ
และยังพอจะรู้ว่าที่ผ่านมาน้องสาวคนนี้ได้เป็นคนดูแลและอยู่กับพ่อจนวาระสุดท้าย
จึงได้เอ่ยปากชวน เด็กผู้หญิงที่มีเลือดเนื้อเชื้อไขร่วมกันเพียงครึ่งหนึ่ง ทั้งที่เพิ่งพบกันเพียงครั้งแรกไปอยู่ด้วยกันที่ "บ้าน"
ยินดีต้อนรับสู่ "บ้าน" ของเรา
บ้านที่พ่อจากไปเพื่อมีครอบครัวใหม่
บ้านที่แม่ทิ้งเอาไว้ให้เด็กอยู่กันลำพัง โดยมี พี่สาวคนโต ทำหน้าที่ทั้งเป็นหัวหน้าครอบครัว เหมือนกับที่น้องๆตั้งฉายาให้ว่าเป็น "เจ้เจ้าของหอ"
เสน่ห์ของคามาคุระ อยู่ที่ "บ้านเก่า" เป็นบ้านไม้เก่าแก่ที่ย้งอนุรักษ์และมีคนอยู่อาศัยจริง
การเดินทางสัญจรในเมืองนี้ คือ รถราง
เป็นรถรางเก่าแก่ประจำเมือง ที่วิ่งลัดเลาะเรียบริมทะเล ชื่อว่า Enoden Electric Railway
และ ชิสึจังเมื่อมาอยู่ที่นี่ ก็ต้องวิ่งจากบ้านไปขึ้นรถไฟไปโรงเรียน ที่สถานีรถไฟ
สถานีรถไฟประจำหมู่บ้านนี้ชื่อว่า Gokurakuji
บางทีก็มีโยชิโนะจังพี่สาวคนรองที่พากันสาย เพราะมัวแต่รบกับเจ้เจ้าของหอ และต้องมาคอยรถที่สถานีด้วยกัน
บางครั้งก็ได้ใช้เป็นที่ระบาย ปรับทุกข์กับ เพื่อนสนิท
หลายๆฉากที่ประทับใจเกิดขึ้นที่สถานีรถไฟ เช่นตอนที่ซาจิมาส่งแม่ที่สถานีรถไฟ แม้ว่าจะเพิ่งทะเลาะกัน
แต่ความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูก ถูกเชื่อมโยง ผ่าน "เหล้าบ๊วย" ในขวดเก่าๆที่ถูกดองไว้ตั้งแต่สมัยคุณยาย
กลางหมู่บ้านมีสะพานสีแดงเหนือทางรถไฟ ที่ใครเดินผ่านก็ต้องหยุดทอดอาลัยแวะมอง รถไฟวิ่งลอดอุโมงค์
ตรงนี้เป็นที่นั่งหลบฝน ตอนที่ชิสึจังเตะฟุตบอลกลับมา ก่อนที่จะวิ่งกลับบ้านไปอาบน้ำเป่าพัดลมอ้าซ่าจนโดนดุ
คามาคุระเป็นเมืองชายทะเล แม้ชายหาดจะไม่ได้สวยงามมากนัก แต่มันก็ถูกใช้เป็นที่พักผ่อน เดินเล่น ตามประสาครอบครัว
ตรงนี้เป็นถนนที่เด็กๆใส่ชุดยูกาตะ พากันเดินลงไปชมดอกไม้ไฟ ในงานประจำปีช่วงฤดูร้อน
หนังของโครีเอดะ มักเล่าเรื่องผ่านฤดูกาล เรื่องนี้ก็เช่นกัน มีทั้งฤดูใบไม้ร่วง และฤดูใบไม้ผลิที่สวยงามให้ชม
ฉากที่ทำให้ผู้ชมประทับมากๆฉากหนึ่งก็คือ ตอนที่ฟูตะพาชิสึจังซ้อนรถจักรยาน ผ่านอุโมงค์ซากุระ
ซึ่งฉากนี้ถ่ายทำกันบริเวณ สวน Genjiyama ที่ Kita-kamakura
ลุงหมอไปฤดูใบไม้เปลี่ยนสี จึงไม่เห็นอุโมงค์ซากุระ มีแต่เมเปิลสีเหลือง ส้ม แดง ให้ชม
ใครมีโอกาสมาเที่ยว Kamakura ควรจะเผื่อเวลามีเที่ยวที่ Kita-kamakura ด้วย ที่นี่มีวัดสวยๆหลายแห่ง
วัดที่ลุงหมอชอบที่สุดคือวัด Meigetsuin วัดที่มีหน้าต่างแบบเซนรูปวงกลมเป็นสัญญลักษณ์
นอกจากฤดูใบไม้ผลิ กับ ใบไม้ร่วงแล้ว ที่คามาคุระยังมีชื่อเสียงในฤดูฝน เมื่อดอก Hydrangea จะเบ่งบานสวยงามตามวัดและสถานที่ต่าง
ภาพจาก อินเทอร์เน็ต
ถ้ามาฤดูใบไม้ร่วงแบบลุงหมอก็จะเห็นแต่ต้น ไร้ใบ ไร้ดอก แบบนี้
สิ่งห้ามพลาดสำหรับ คนที่ตั้งใจมาเที่ยวคามาคุระ คือการ เดินเขา
เส้นทางเดินง่าย เดินได้ทุกเพศ ทุกวัย
ลุงหมอเดินตามเด็กๆจาก Genjiyama park ไปลงที่วัดพระใหญ่ Daibutsu
ได้เห็นหมู่บ้านและทะเลจากมุมสูง
ในเรื่องนี้มีหลายฉากเกิดขึ้นในวัด ทั้งงานทำบุญครบรอบให้คุณยาย และงานศพของคุณป้าเจ้าของร้านปลาทอดที่เอ็นดูเด็กๆทุกคนเหมือนลูกสาว
ไม่เว้นแม้แต่ชิสึจังน้องคนเล็ก ที่เพิ่งได้พบกันไม่กี่ครั้ง
มิตรภาพที่งดงามระหว่าง คุณป้าร้านปลาทอด กับคุณลุงที่เปิดร้านขายขนมปังหน้าปลาชิราสึ
บางครั้งการดูแลเอาใจใส่กัน อาจจะไม่จำเป็นต้องมาจากคนที่มีสายเลือดหรือครอบครัวเดียวกัน
มาถึงคามาคุระแล้วก็ต้องลองชิม ข้าวหน้าปลาชิราสึ(ปลาข้าวสาร) มีหลายแบบให้เลือกชิม
ร้านขนมปังของคุณลุง ถ่ายทำที่ร้าน muffin beach อยู่ใกล้กับสถานี Zushi ที่นี่มีดราฟท์เบียร์รสเด็ด ของโปรดของโยจจัง
แม้หนังจะจบด้วยความเศร้า กับงานศพและความตาย แต่เป็นความตายที่งดงาม
ก่อนที่คุณป้าร้านปลาทอดจะเสียชีวิต ได้พูดประโยคหนึ่งไว้ เป็นประโยคเดียวกับที่พ่อพูดกับชิสึจังก่อนที่จะจากไปเช่นกัน
"แม้เวลาในชีวิตของฉันจะเหลือไม่มาก แต่ฉันก็มีความสุขที่ยังได้มองเห็นสิ่งที่สวยงาม(วันที่ดอกซากุระผลิบานในฤดูใบไม้ผลิ)"
ขอขอบคุณข้อมูลการตามรอยภาพยนต์เรื่อง Our little sister จาก
HouseRAMA https://www.facebook.com/houseRCA/?fref=ts
และ สะกดรอยหนัง https://www.facebook.com/sakodroyfilm/?fref=ts
ไว้ ณ ที่นี
เพื่อนๆที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว รักการเดินทาง สามารถติดตามลุงหมอได้ในเพจน่ารักของคนอยากพักร้อน
https://www.facebook.com/pages/ลุงหมอขอพักร้อน/760679240696775
ขอบคุณมากครับ