เราอยากรู้ว่าคนเราสามารถอยู่คนเดียวได้ไหม เนื่องจาก เจอเพื่อนที่เห็นแต่ประโยชน์จากเรา เห็นแต่ตัวเอง คิดตามความคิดของคนส่วนมาก เราเป็นคนมีที่เป็นหาเรื่องเพื่อนบ่อยๆ จนบางทีทำให้ที่บ้านเป็นกังวลมาก
ด้วยการที่ระแวกแถวบ้านเราไม่มีเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับเราสักเท่าไหร่. ทำให้วันๆเราเป็นเด็กที่อยู่กับคอมเป็นส่วนใหญ่. มีเพื่อนก็อยู่ในโลกเกมออนไลน์ซึ่งไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน. ในช่วงประถมหลังจากกลับจากโรงเรียน ก็จะอยู่กับเกมออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ ทำให้เราไม่มีเพื่อนสนิท จากที่ร.ร.เลย.
พอเข้าสู่ช่วงมัธยมต้นมีกิจกรรมต่างๆมากขึ้นที่ต้องทำร่วมกับเพื่อนๆ. ทำให้เราต้องปรับตัวเพื่อเข้าหาเพื่อน ไปเที่ยวกับเพื่อนเป็นครั้งคราว จนเรามีเพื่อนสนิท. แต่เข้ามาก็หวังแต่ประโยชน์กับเรา. เมื่อเราไม่สามารถมีประโยชน์สำหรับเค้าก็ถูกตีตัวออกห่าง จนทำให้เรารู้ว่าเพื่อนไม่ได้หวังดีเหมือนนิยายเสมอไป
พอเข้าสู่ช่วงม.ปลาย. (เราเป็นเด็กที่สนิทกับผู้ใหญ่ง่าย. ด้วยที่โรงเรียนและบ้านของเรานั้นชอบสอนให้มีมารยาท ต่อผู้ใหญ่เสมอ). เราสนิทกับคุณครู. เพราะเราชอบที่จะคุยกับผู้ใหญ่ มากกว่าที่คุยในเรื่องแบบเด็กๆ หรือสิ่งที่ในรุ่นนี้สนใจ ด้วยเหตุนี้หรือไม่. ที่ทำให้เพื่อนเราหมั่นไส้ชอบกัดเราบ่อยๆ. ว่าสนิทไม่ใช่หรอ. ในหลายเรื่อง. จนบางทีเป็นเหตุให้ถูกเกียจจากกลุ่มบางกลุ่ม. และเรื่องไม่ดีต่างๆของเราที่ทั้งจริงที่ถูกเพิ่มระดับ หรือไม่จริงถูกกระจายในห้องเพื่อนๆต่างก็อันตี้เรา. เพื่อนที่เราคบอยู่ เวลามีสิ่งไม่ชอบ.ในการกระทำของเรา. พวกเค้าจะไม่บอกเรา. จนเก็บไว้ในใจกัน จนมันสะสมมากๆ. แล้วถีบตัวออกห่างจากเรา. เพียงเหตุผลที่ว่า เราทำตัวที่สนิทสนมเกินไปใช่ หรือ??? การที่เราเล่นแบบที่คนอื่นเล่น. พวกเพื่อนๆเราโมโหใส่เรา. แต่เวลาที่เพื่อนคนอื่นเล่นกับเพื่อนเราต่างเฉยๆ. เราเลยอยากรู้ว่า. เพื่อนดีๆมันมีจริงไหม??? เราเริ่มรู้สึกไม่เชื่อในคำว่า เพื่อน แล้ว. มาเป็นเพื่อนกัน. เพียงเพราะประโยชน์. หรือเพียงเพราะตามส่วนใหญ่
เพื่อนดีๆ ยังมีอยู่หรอ???
ด้วยการที่ระแวกแถวบ้านเราไม่มีเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับเราสักเท่าไหร่. ทำให้วันๆเราเป็นเด็กที่อยู่กับคอมเป็นส่วนใหญ่. มีเพื่อนก็อยู่ในโลกเกมออนไลน์ซึ่งไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน. ในช่วงประถมหลังจากกลับจากโรงเรียน ก็จะอยู่กับเกมออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ ทำให้เราไม่มีเพื่อนสนิท จากที่ร.ร.เลย.
พอเข้าสู่ช่วงมัธยมต้นมีกิจกรรมต่างๆมากขึ้นที่ต้องทำร่วมกับเพื่อนๆ. ทำให้เราต้องปรับตัวเพื่อเข้าหาเพื่อน ไปเที่ยวกับเพื่อนเป็นครั้งคราว จนเรามีเพื่อนสนิท. แต่เข้ามาก็หวังแต่ประโยชน์กับเรา. เมื่อเราไม่สามารถมีประโยชน์สำหรับเค้าก็ถูกตีตัวออกห่าง จนทำให้เรารู้ว่าเพื่อนไม่ได้หวังดีเหมือนนิยายเสมอไป
พอเข้าสู่ช่วงม.ปลาย. (เราเป็นเด็กที่สนิทกับผู้ใหญ่ง่าย. ด้วยที่โรงเรียนและบ้านของเรานั้นชอบสอนให้มีมารยาท ต่อผู้ใหญ่เสมอ). เราสนิทกับคุณครู. เพราะเราชอบที่จะคุยกับผู้ใหญ่ มากกว่าที่คุยในเรื่องแบบเด็กๆ หรือสิ่งที่ในรุ่นนี้สนใจ ด้วยเหตุนี้หรือไม่. ที่ทำให้เพื่อนเราหมั่นไส้ชอบกัดเราบ่อยๆ. ว่าสนิทไม่ใช่หรอ. ในหลายเรื่อง. จนบางทีเป็นเหตุให้ถูกเกียจจากกลุ่มบางกลุ่ม. และเรื่องไม่ดีต่างๆของเราที่ทั้งจริงที่ถูกเพิ่มระดับ หรือไม่จริงถูกกระจายในห้องเพื่อนๆต่างก็อันตี้เรา. เพื่อนที่เราคบอยู่ เวลามีสิ่งไม่ชอบ.ในการกระทำของเรา. พวกเค้าจะไม่บอกเรา. จนเก็บไว้ในใจกัน จนมันสะสมมากๆ. แล้วถีบตัวออกห่างจากเรา. เพียงเหตุผลที่ว่า เราทำตัวที่สนิทสนมเกินไปใช่ หรือ??? การที่เราเล่นแบบที่คนอื่นเล่น. พวกเพื่อนๆเราโมโหใส่เรา. แต่เวลาที่เพื่อนคนอื่นเล่นกับเพื่อนเราต่างเฉยๆ. เราเลยอยากรู้ว่า. เพื่อนดีๆมันมีจริงไหม??? เราเริ่มรู้สึกไม่เชื่อในคำว่า เพื่อน แล้ว. มาเป็นเพื่อนกัน. เพียงเพราะประโยชน์. หรือเพียงเพราะตามส่วนใหญ่