Day 2 @ Bagan
3.50 น. ถึงขนส่งที่Baganลงจากรถมาสะลึมสะลือเหมือนละเมอลงรถพอเท้าแตะพื้นก็เจอกลุ่มคนขับรถทั้ง Taxi , มอไซค์พ่วงข้าง เป็นสิบคนมาล้อมผู้โดยสารที่ไม่มีรถมารับไปที่พัก ซึ่งผมก็คือหนึ่งในนั้นรู้สึกป๊อปมีคนมารุมกรี๊ด คิดอีกทีเหมือนโดนซอมบี้มารุมล้อมเหมือนกันนะ 555 จากที่ฟังข้อเสนอระหว่างถูกรุมล้อมเค้าเสนอราคามาที่ มอไซค์พ่วงข้าง 5,000 จั๊ด ส่วน Taxi เสนอมาที่ 5 usd(แพงกว่าประมาณ40บาท)
หลังจากเดินแหวกแหกกลุ่มออกมาได้ขอมานั่ง restart สติ ก่อนว่าจะเอาอย่างไงต่อ เปิดสมุดที่จดข้อมูลมาเพื่อหาข้อมูลค่ารถไปที่พักที่หาไว้ แต่พอหลังจากตูดแตะเก้าอี้ได้ไม่ถึง 10 วิ ก็มีคนขับมอไซค์มาประกบติดพร้อมยิ้มสังหารอยู่ใกล้ๆ เลยบอกว่าขอเวลาผมคิดแป็บนึง เค้าเลยถอยออกไปห่างให้สบายใจจำนวน 1 ก้าวถ้วน (ช่วยได้เยอ่ะเลยนะคร้าาาาบ) สักพักเค้าก็มาเสนอราคาที่ 5,000 จั๊ตเท่าเดิมเลยต่อขอที่ 3,000 เค้ายันราคาที่ 4,000 เลยบอกไปว่าราคาไม่ค่อยต่างกับแท็กซี่เลยแถมแท็กซี่นั่งสบายกว่าอีก เลยโดนการบลั๊ฟจากคนขับมอไซค์ประมาณว่า ถ้าไปนั่งแท็กซี่จริงๆไม่ใช่ 5 usd หรอกอาจจะโดนเก็บ8,000 จั๊ตด้วย ขึ้นของเค้าดีกว่า แหน่ะ......เอางี้เลยหรอ
หลังจากจบคำพูดของคนขับมอไซค์ผมเลยเดินออกมาข้างนอกจะลองไปต่อราคา Taxi ที่จอดอยู่เพื่อได้ราคาลงอีกนิดแต่ก็ได้ราคาเดิมที่ 5 usd งั้นก็เลยเอาตามนี้ ระหว่างเดินไปขึ้นรถไปเจอคนเอเซียอีกคนนึงเดินเอ๋อๆมา ผมเลยแกล้งถามว่ากำลังหารถไปโซนเดียวกับที่ผมจะไปหาที่พักหรือเปล่า คำตอบที่ได้เล่นเอาสบายใจเลย คือเค้าจะไปที่พักแถวโซนเดียวที่ผมจะไปพอดีเลยเสนอให้มาคันเดียวกันมาแชร์ค่ารถกัน “Yesss” คือคำตอบที่สบายหูมากๆในตอนนั้น
หลังจากขึ้นรถมาก็เลยคุยกันนิดหน่อยสรุปว่าคนเอเชียคนนี้มาจากแคนาดาชื่อฮิวอี้ น่าจะเป็นรุ่นน้าผมได้แกบอกว่ามาครั้งที่ 2ละที่นี่มาตั้งแต่ตั๋วเข้าชมเมืองราคา10usd ตอนนี้ราคา20usd(ซึ่งเก็บตอนไหนผมจำไม่ได้ลืมจริงๆ แต่คิดว่าน่าจะเก็บตอนที่ขึ้นแท็กซี่ไปนี่แหล่ะคงจอดให้จ่ายสักที่ แต่ลืม ^^ )
มาได้สักพักรถก็มาจอดที่หน้าที่พักที่ผมหาข้อมูลไว้คือที่ Eden motel ตอนจ่ายเงินฮิวอี้ให้ผมจ่ายแค่ 2 usd เพราะเค้าอยู่ไกลกว่าเค้าขอจ่ายที่ 3 usdสบายตัวเลย 55555 สำหรับที่Bagan มีที่พักหลักๆ 3 โซนคือ Old Bagan , New Bagan และ Nyaung U ซึ่งที่ผมพักจะอยู่โซน Nyaung U จะเป็นโซนที่เป็นที่พักของBackpacker มีร้านค้าเยอ่ะ และใกล้ตลาดสด ของกินหาง่ายมาก
4.30 น. ถึงที่พักคนขับรถไปเรียกพนักงานให้ซึ่งพนักงานก็นอนติดประตูนั่นแหล่ะนอนรอเผื่อลูกค้ามาcheck in เนื่องจากเวลายังทันสำหรับนั่งรถม้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้นเลยติดต่อให้ที่พักหาคนขับรถม้าให้ได้ราคาแบบทั้งวันที่ 25,000 จั๊ต ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นยันพระอาทิตย์ตก ตอนติดต่อให้หารถม้าให้ก็บอกเค้าไปว่าขอราคาถูกๆนะครับทริปนี้ผมจัดหนัก 14 วันผมกลัวตังค์หมดก่อนนะครับ นะนะนะนะ ไม่รู้ว่าราคาที่ได้ 25,000 จั๊ตนี่มันถูกหรือเปล่าแต่คิดว่าไม่นะ555สักพักเอากระเป๋าเป้ขึ้นไปเก็บที่ห้องชั้นบนสุด(ชั้น3มั้ง)เป็นห้องดอร์ม คือเอามาฝากวางไว้ก่อนระหว่างรอห้องเดี่ยวcheck out ออกตอนเที่ยง
ห้องดอร์ม ราคาประมาณ 8-10 usd นี่แหล่ะจำไม่ได้เป็นห้องน้ำรวมครับ
5.30 น. รถม้ามารับพร้อมลุยคนขับที่ได้วันนี้ชื่อ ทุนรื่อ(ไม่รู้เรียกถูกหรือเปล่าเพราะแกพูดไปเคี้ยวหมากไปฟังยากกว่าปกติอีก)ส่วนม้าผู้นำพาชื่อ Ramboอายุ 6 ขวบ เท่าที่ถามแล้วน่าจะเป็นชื่อตั้งใหม่ๆสดๆร้อนๆของม้าตัวนี้เลย เพราะตอนถามทุนรื่อว่าม้าชื่ออะไร แกนึกนานมาก 5555 ระหว่างทางที่นั่งรถม้ามาดาวบนท้องฟ้าสวยมากกก
5.50 น. ถึงเจดีย์บูเรทีทางเข้าเป็นทราย เจอฝรั่ง2สาวขี่จักรยานไฟฟ้ามาพอดี ทุนรื่อเลยเตือนให้ขี่ระวังเพราะพื้นทรายจะทำให้รถล้มเอาได้ หลังจากเตีอนเสร็จรถม้าวิ่งไปไม่ถึง 20 เมตร ล้มทันที เห็นม่ะบอกไม่เชื่อ สักพักก็ถึงเจดีย์บูเรทีอีกจุดที่ชมพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งวันนี้ผมถึงคนแรกเลย มืดตึ๊บมากๆต้องใช้ไฟฉายส่องตอนขึ้น แต่ขึ้นสบายๆไม่สูงมากน่าจะประมาณตึก 5 ชั้น จากนั้นก็เริ่มมีคนมาเป็นระยะและก็เจอกลุ่มคนไทยมาด้วยกันเป็นกลุ่มเลยและเจอพี่ผู้หญิงอีกคนมาจากไทยคนเดียวคุยกันสักพักรู้ว่าแกอยู่พรุ่งนี้อีกวันเลยนัดกันเช่า E-bike ไปดูเจดีย์อีกเส้นทางนึง เพราะเส้นทางที่รถม้าจะพาไปจะเหมือนกัน มันยังเหลืออีกเส้นทางนึงที่ต้องขี่รถไปเอง สักพักไม่นานเริ่มมีแสงแรกของวันออกมา ฉากหลังเป็นเจดีย์องค์ด้านหน้า สวยงาม
6.40 น. Balloon ที่รอคอยเริ่มลอยมาจากพื้นซึ่งวันนี้นับได้ 22 ลูก ไม่รู้ว่าปกติจะมีกันกี่ลูกแต่เท่าที่เห็นก็ชอบละ มากันครบเลยทั้งแสงแรก,เจดีย์,บอลลูน
7.30 น. ลงจากเจดีย์ขึ้นรถม้าเดินทางต่อแต่ระหว่างทาง ทุนรื่อถามว่าจะให้ไปต่อหรือจะให้ไปส่งที่ที่พักก่อนเพื่อพักทานข้าวเช้า เลยเลือกอย่างหลังแล้วนัดให้มารับอีกทีตอน 9.30 น.
เจ้า Rambo พาเที่ยวครับ
7.50 น. ถึงที่พักมานอนพักที่ห้องดอร์มซึ่งไม่มีลูกค้าพักอยู่เลย สบายยย หลับไปสักพักก็ตื่นมาอาบน้ำ เป็นน้ำแรกหลังจากอาบครั้งล่าสุดจากไทยหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วเดินออกจากที่พักไปหาอะไรกินให้ท้องอุ่นๆก่อน ไปเจอร้านขายกาแฟคนนั่งเย่อะดีน่าจะอร่อยเลยสั่งกาแฟร้อนมากินกับซาโมซ่า(แป้งห่อไส้พวกมันฝรั่ง,หอม,เครื่องเทศแล้วเอาไปทอด) เคี้ยวซาโมซ่าไปซดกาแฟตามไปล้างคอ โอ้ยย ฟิน ราคาก็แสนถูก ค่ากาแฟร้อน500 จั๊ตซาโมซ่าชิ้นละ 100 จั๊ต จัดไป 2ชิ้นก็ 200 จั๊ต รวมมื้อนี้ 700 จั๊ต(20บาท)
เสร็จแล้วเดินไปที่ตลาดเช้าเพื่อหาซื้อลองยี(โสร่ง) อันนี้ลืมซื้อมาจากตอนไปตลาดโบโจ๊กที่ย่างกุ้ง เลยทำใจได้เลยว่าโดนราคาแพงแน่ๆ ซึ่งต้องซื้อเพราะกลัวว่าเวลาเข้าไปเจดีย์แล้วเค้าจะไม่ให้เข้าเพราะใส่กางเกงขาสั้นมา สรุปได้ลองยีที่ตลาดที่ราคา6,000 จั๊ต ที่รู้ว่าแพงมากเพราะตอนเอาไปลองใส่ที่ที่พักพอพนักงานรู้ว่าได้มาราคานี้ทำปากร้องว่า โอ้ววววววว นั่นไงโดนหละ 555
ที่พักชื่อ Eden Motel3 ครับ
[CR] ทิ้งเนคไทไปแบกเป้ ตะลอนเดี่ยวเที่ยวพม่า 8 เมือง 14 วัน (ตอนที่2 @ Bagan)
ตอนที่1 http://ppantip.com/topic/34643185
ตอนที่2 @ Bagan http://ppantip.com/topic/34647018
ตอนที่3 @ Inle http://ppantip.com/topic/34650584
ตอนที่4 @ Pyin Oo Lwin http://ppantip.com/topic/34662264
ตอนที่5 @ Mandalay-Mingun http://ppantip.com/topic/34669587
ตอนที่6 @ Bago-Kyaikh tiyo http://ppantip.com/topic/34674190
ตอนที่7 @ Yangon http://ppantip.com/topic/34678106
คุยกันในนี้ได้นะครับ https://www.facebook.com/NotesfromBackpacker/
พุกามได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งทะเลเจดีย์ หรือ ดินแดนแห่งเจดีย์สี่พันองค์ เพราะในสมัยรุ่งเรืองเคยมีเจดีย์มากมายถึง 4,446 องค์ ปัจจุบันเหลือแค่เพียง 2,217 องค์ เจดีย์แห่งแรกของพุกามคือ เจดีย์ชเวสิกองสร้างโดยพระเจ้าอโนรธามังช่อ ปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรพุกาม โดยธรรมเนียมการสร้างเจดีย์เจดีย์องค์ใหญ่สุดจะเป็นเจดีย์ที่กษัตริย์ทรงสร้าง และองค์ที่มีขนาดเล็กถัดมา เป็นการสร้างโดยเหล่าขุนนาง อำมาตย์ ลดหลั่นลงมาตามบรรดาศักดิ์ในรัชสมัยพระเจ้าจานสิตา กษัตริย์องค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์พุกาม เป็นสมัยที่พระพุทธศาสนาจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด มอญที่อยู่ยังหงสาวดีทาง ตอนใต้ ได้ทำสงครามชนะพุกามและครอบครองดินแดนของพุกามไว้ได้ พระองค์จึงรวบรวมชาวพม่าและชาวมอญบางส่วนตีโต้คืน จึงสามารถยึดพุกามกลับมาไว้ได้พุกามเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุดทางด้านศิลปวิทยาการในสมัยพระเจ้าอลองสิธู ใน พ.ศ.1687 พระองค์ได้โปรดให้สร้างเจดีย์ชื่อ "ตะเบียงนิว" (แปลว่า เจดีย์แห่งความรู้) ซึ่งเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในพุกามไว้ด้วย
กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์พุกาม คือ พระเจ้านรสีหบดี สร้างเจดีย์องค์สุดท้ายแห่งพุกามเสร็จเมื่อปี พ.ศ.1819 และเมื่อสร้างเจดีย์องค์นี้เสร็จ ได้มีผู้ทำนายว่า อาณาจักรพุกามจะถึงกาลอวสาน ซึ่งต่อมาก็เป็นจริงดังนั้น เมื่อกองทัพมองโกลยกทัพเข้ามาบุกในปี พ.ศ.1827 และพุกามถึงคราวล่มสลายในปี พ.ศ.1830 รวมระยะเวลาแล้ว 243 ปี มีกษัตริย์อยู่ทั้งหมดทั้งสิ้น 11 พระองค์
3.50 น. ถึงขนส่งที่Baganลงจากรถมาสะลึมสะลือเหมือนละเมอลงรถพอเท้าแตะพื้นก็เจอกลุ่มคนขับรถทั้ง Taxi , มอไซค์พ่วงข้าง เป็นสิบคนมาล้อมผู้โดยสารที่ไม่มีรถมารับไปที่พัก ซึ่งผมก็คือหนึ่งในนั้นรู้สึกป๊อปมีคนมารุมกรี๊ด คิดอีกทีเหมือนโดนซอมบี้มารุมล้อมเหมือนกันนะ 555 จากที่ฟังข้อเสนอระหว่างถูกรุมล้อมเค้าเสนอราคามาที่ มอไซค์พ่วงข้าง 5,000 จั๊ด ส่วน Taxi เสนอมาที่ 5 usd(แพงกว่าประมาณ40บาท)
หลังจากเดินแหวกแหกกลุ่มออกมาได้ขอมานั่ง restart สติ ก่อนว่าจะเอาอย่างไงต่อ เปิดสมุดที่จดข้อมูลมาเพื่อหาข้อมูลค่ารถไปที่พักที่หาไว้ แต่พอหลังจากตูดแตะเก้าอี้ได้ไม่ถึง 10 วิ ก็มีคนขับมอไซค์มาประกบติดพร้อมยิ้มสังหารอยู่ใกล้ๆ เลยบอกว่าขอเวลาผมคิดแป็บนึง เค้าเลยถอยออกไปห่างให้สบายใจจำนวน 1 ก้าวถ้วน (ช่วยได้เยอ่ะเลยนะคร้าาาาบ) สักพักเค้าก็มาเสนอราคาที่ 5,000 จั๊ตเท่าเดิมเลยต่อขอที่ 3,000 เค้ายันราคาที่ 4,000 เลยบอกไปว่าราคาไม่ค่อยต่างกับแท็กซี่เลยแถมแท็กซี่นั่งสบายกว่าอีก เลยโดนการบลั๊ฟจากคนขับมอไซค์ประมาณว่า ถ้าไปนั่งแท็กซี่จริงๆไม่ใช่ 5 usd หรอกอาจจะโดนเก็บ8,000 จั๊ตด้วย ขึ้นของเค้าดีกว่า แหน่ะ......เอางี้เลยหรอ
หลังจากจบคำพูดของคนขับมอไซค์ผมเลยเดินออกมาข้างนอกจะลองไปต่อราคา Taxi ที่จอดอยู่เพื่อได้ราคาลงอีกนิดแต่ก็ได้ราคาเดิมที่ 5 usd งั้นก็เลยเอาตามนี้ ระหว่างเดินไปขึ้นรถไปเจอคนเอเซียอีกคนนึงเดินเอ๋อๆมา ผมเลยแกล้งถามว่ากำลังหารถไปโซนเดียวกับที่ผมจะไปหาที่พักหรือเปล่า คำตอบที่ได้เล่นเอาสบายใจเลย คือเค้าจะไปที่พักแถวโซนเดียวที่ผมจะไปพอดีเลยเสนอให้มาคันเดียวกันมาแชร์ค่ารถกัน “Yesss” คือคำตอบที่สบายหูมากๆในตอนนั้น
หลังจากขึ้นรถมาก็เลยคุยกันนิดหน่อยสรุปว่าคนเอเชียคนนี้มาจากแคนาดาชื่อฮิวอี้ น่าจะเป็นรุ่นน้าผมได้แกบอกว่ามาครั้งที่ 2ละที่นี่มาตั้งแต่ตั๋วเข้าชมเมืองราคา10usd ตอนนี้ราคา20usd(ซึ่งเก็บตอนไหนผมจำไม่ได้ลืมจริงๆ แต่คิดว่าน่าจะเก็บตอนที่ขึ้นแท็กซี่ไปนี่แหล่ะคงจอดให้จ่ายสักที่ แต่ลืม ^^ )
มาได้สักพักรถก็มาจอดที่หน้าที่พักที่ผมหาข้อมูลไว้คือที่ Eden motel ตอนจ่ายเงินฮิวอี้ให้ผมจ่ายแค่ 2 usd เพราะเค้าอยู่ไกลกว่าเค้าขอจ่ายที่ 3 usdสบายตัวเลย 55555 สำหรับที่Bagan มีที่พักหลักๆ 3 โซนคือ Old Bagan , New Bagan และ Nyaung U ซึ่งที่ผมพักจะอยู่โซน Nyaung U จะเป็นโซนที่เป็นที่พักของBackpacker มีร้านค้าเยอ่ะ และใกล้ตลาดสด ของกินหาง่ายมาก
4.30 น. ถึงที่พักคนขับรถไปเรียกพนักงานให้ซึ่งพนักงานก็นอนติดประตูนั่นแหล่ะนอนรอเผื่อลูกค้ามาcheck in เนื่องจากเวลายังทันสำหรับนั่งรถม้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้นเลยติดต่อให้ที่พักหาคนขับรถม้าให้ได้ราคาแบบทั้งวันที่ 25,000 จั๊ต ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นยันพระอาทิตย์ตก ตอนติดต่อให้หารถม้าให้ก็บอกเค้าไปว่าขอราคาถูกๆนะครับทริปนี้ผมจัดหนัก 14 วันผมกลัวตังค์หมดก่อนนะครับ นะนะนะนะ ไม่รู้ว่าราคาที่ได้ 25,000 จั๊ตนี่มันถูกหรือเปล่าแต่คิดว่าไม่นะ555สักพักเอากระเป๋าเป้ขึ้นไปเก็บที่ห้องชั้นบนสุด(ชั้น3มั้ง)เป็นห้องดอร์ม คือเอามาฝากวางไว้ก่อนระหว่างรอห้องเดี่ยวcheck out ออกตอนเที่ยง
ห้องดอร์ม ราคาประมาณ 8-10 usd นี่แหล่ะจำไม่ได้เป็นห้องน้ำรวมครับ
5.30 น. รถม้ามารับพร้อมลุยคนขับที่ได้วันนี้ชื่อ ทุนรื่อ(ไม่รู้เรียกถูกหรือเปล่าเพราะแกพูดไปเคี้ยวหมากไปฟังยากกว่าปกติอีก)ส่วนม้าผู้นำพาชื่อ Ramboอายุ 6 ขวบ เท่าที่ถามแล้วน่าจะเป็นชื่อตั้งใหม่ๆสดๆร้อนๆของม้าตัวนี้เลย เพราะตอนถามทุนรื่อว่าม้าชื่ออะไร แกนึกนานมาก 5555 ระหว่างทางที่นั่งรถม้ามาดาวบนท้องฟ้าสวยมากกก
5.50 น. ถึงเจดีย์บูเรทีทางเข้าเป็นทราย เจอฝรั่ง2สาวขี่จักรยานไฟฟ้ามาพอดี ทุนรื่อเลยเตือนให้ขี่ระวังเพราะพื้นทรายจะทำให้รถล้มเอาได้ หลังจากเตีอนเสร็จรถม้าวิ่งไปไม่ถึง 20 เมตร ล้มทันที เห็นม่ะบอกไม่เชื่อ สักพักก็ถึงเจดีย์บูเรทีอีกจุดที่ชมพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งวันนี้ผมถึงคนแรกเลย มืดตึ๊บมากๆต้องใช้ไฟฉายส่องตอนขึ้น แต่ขึ้นสบายๆไม่สูงมากน่าจะประมาณตึก 5 ชั้น จากนั้นก็เริ่มมีคนมาเป็นระยะและก็เจอกลุ่มคนไทยมาด้วยกันเป็นกลุ่มเลยและเจอพี่ผู้หญิงอีกคนมาจากไทยคนเดียวคุยกันสักพักรู้ว่าแกอยู่พรุ่งนี้อีกวันเลยนัดกันเช่า E-bike ไปดูเจดีย์อีกเส้นทางนึง เพราะเส้นทางที่รถม้าจะพาไปจะเหมือนกัน มันยังเหลืออีกเส้นทางนึงที่ต้องขี่รถไปเอง สักพักไม่นานเริ่มมีแสงแรกของวันออกมา ฉากหลังเป็นเจดีย์องค์ด้านหน้า สวยงาม
6.40 น. Balloon ที่รอคอยเริ่มลอยมาจากพื้นซึ่งวันนี้นับได้ 22 ลูก ไม่รู้ว่าปกติจะมีกันกี่ลูกแต่เท่าที่เห็นก็ชอบละ มากันครบเลยทั้งแสงแรก,เจดีย์,บอลลูน
7.30 น. ลงจากเจดีย์ขึ้นรถม้าเดินทางต่อแต่ระหว่างทาง ทุนรื่อถามว่าจะให้ไปต่อหรือจะให้ไปส่งที่ที่พักก่อนเพื่อพักทานข้าวเช้า เลยเลือกอย่างหลังแล้วนัดให้มารับอีกทีตอน 9.30 น.
เจ้า Rambo พาเที่ยวครับ
7.50 น. ถึงที่พักมานอนพักที่ห้องดอร์มซึ่งไม่มีลูกค้าพักอยู่เลย สบายยย หลับไปสักพักก็ตื่นมาอาบน้ำ เป็นน้ำแรกหลังจากอาบครั้งล่าสุดจากไทยหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วเดินออกจากที่พักไปหาอะไรกินให้ท้องอุ่นๆก่อน ไปเจอร้านขายกาแฟคนนั่งเย่อะดีน่าจะอร่อยเลยสั่งกาแฟร้อนมากินกับซาโมซ่า(แป้งห่อไส้พวกมันฝรั่ง,หอม,เครื่องเทศแล้วเอาไปทอด) เคี้ยวซาโมซ่าไปซดกาแฟตามไปล้างคอ โอ้ยย ฟิน ราคาก็แสนถูก ค่ากาแฟร้อน500 จั๊ตซาโมซ่าชิ้นละ 100 จั๊ต จัดไป 2ชิ้นก็ 200 จั๊ต รวมมื้อนี้ 700 จั๊ต(20บาท)
เสร็จแล้วเดินไปที่ตลาดเช้าเพื่อหาซื้อลองยี(โสร่ง) อันนี้ลืมซื้อมาจากตอนไปตลาดโบโจ๊กที่ย่างกุ้ง เลยทำใจได้เลยว่าโดนราคาแพงแน่ๆ ซึ่งต้องซื้อเพราะกลัวว่าเวลาเข้าไปเจดีย์แล้วเค้าจะไม่ให้เข้าเพราะใส่กางเกงขาสั้นมา สรุปได้ลองยีที่ตลาดที่ราคา6,000 จั๊ต ที่รู้ว่าแพงมากเพราะตอนเอาไปลองใส่ที่ที่พักพอพนักงานรู้ว่าได้มาราคานี้ทำปากร้องว่า โอ้ววววววว นั่นไงโดนหละ 555
ที่พักชื่อ Eden Motel3 ครับ