เรียกได้ว่า
“NET IDOL” (เน็ตไอดอล) เป็นคำศัพท์ที่คนส่วนใหญ่ คุ้นหู-ติดปาก-ชินตา กันดีอยู่แล้ว ซึ่งโดยทั่วไป “NET IDOL” (เน็ตไอดอล) จะเป็นคำที่ถูกนำมาใช้เรียกบุคคลผู้มีชื่อเสียงในสังคมออนไลน์, กูรูผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ที่คนทั่วไปรู้จักในวงกว้างและให้การยอมรับ หรือบุคคลที่ถูกกล่าวขานเป็นประจำในโลกอินเทอร์เน็ต
เซเลบ ดารา คนดัง มากมาย ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ มีหลายคนที่เติบโตโด่งดังภายในชั่วเวลาเพียงข้ามคืน เพราะได้รับกระแสผลักดันจากสังคมออนไลน์ หรือ Social Network ซึ่งจัดได้ว่าเป็นสื่อกระแสหลักของสังคมในปัจจุบันเลยก็ว่าได้ ดังนั้นคำว่า “NET IDOL” (เน็ตไอดอล) จึงถูกยกให้เป็นมงกุฎไปโดยปริยาย กลายเป็นสรรพนาม ตำแหน่งและหน้าตาในสังคม ที่เปิดโอกาสให้คนมองเห็นช่องทางการเข้าสู่วงการบันเทิง และการมีตัวตนในสายตาผู้อื่นไม่ได้ยากอีกต่อไป
“ทว่าในข้อดีของ “สังคมออนไลน์” ก็มีเนื้อร้ายอยู่เช่นกัน”
เมื่อสังคมให้คุณค่า ... ปรากฏการณ์ “NET IDOL” (เน็ตไอดอล) จึงก่อตัวขึ้น และมีทีท่าว่าจะลุกลามอย่างรวดเร็ว ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปเนื้อร้ายที่เกาะกระแส “NET IDOL” (เน็ตไอดอล) ดูเหมือนว่าจะทำงานผิดเจตนารมณ์ของความหมายที่แท้จริง เพราะคำว่า “IDOL : ไอดอล” หมายถึงคนหรือสิ่งที่ได้รับความชื่นชมหรือคลั่งไคล้อย่างมาก หรือจะเรียกว่า Hero (ฮีโร่) ก็ไม่ผิดนัก
ดังนั้นเมื่อมีคำว่า “ชื่นชม” , “คลั่งไคล้” หรือ “ฮีโร่” แล้ว ทำไมคำว่า “NET IDOL” (เน็ตไอดอล) กลับถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกไม่ควรเท่าไหร่นัก เช่น การโชว์สัดส่วนทรวดทรงองเอว, การด่าทอ และการโจมตี เป็นต้น เพียงเพื่อการยอมรับจากสังคมด้วยการกด Like ใน Facebook, ยอด Follower ใน Instagram หรือ จำนวน Subscriber ใน YouTube ขณะที่ก็เข้าใจได้ว่าเป็นเสรีภาพส่วนบุคคล ที่จะนำพาให้ทุกคนในสังคมเพิกเฉยชินชา โดยมองเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครในสังคมเค้าก็ทำกัน สุดท้ายแล้วคำว่า “IDOL – ไอดอล” คู่ควรกับมนุษย์แบบไหนกันแน่?
จขกท. เกริ่นกันมาซะยาวเหยียด ... ปรับอารมณ์จากคำถามที่เหมือนจะสาระมาสนุกเฮฮากันดีกว่าค่ะ จริงๆ กระทู้นี้มีแรงจูงใจมาจากคลิปนี้ที่เพื่อนส่งมาให้ในช่วงวันหยุดปีใหม่
ซึ่งเป็นคลิปของรายการ “Music Idol” ที่เฟ้นหานักร้องเสียงดี อารมณ์คงประมาณเดียวกับรายการ The Star (เดอะสตาร์) ของบ้านเรา โดยในคลิปนี้เป็นคลิป นรอบออดิชั่นที่เด็กสาวมาร้องเพลงในชื่อว่า “Unfulfit” อันจะต้องยอมรับเลยว่าเสียงของนักร้องคนนี้นั้นดีจริง แต่อาจจะติดปัญหาเรื่องภาษาอยู่นิดหน่อยเท่านั้น รับรองว่าฟังจบแล้วเจ้าของเพลงอย่าง Rihanna ต้องมีสตั๊นท์แน่นอน
ฟังจบแล้ว กราบทุกท่านอย่าเพิ่งดราม่าหรือด่า จขกท. เลยที่เอาเรื่องน่าอายของชาวบ้านมาแชร์ต่อ เพราะเอาจริงๆแล้ว พวกเพลงสากลหรือเพลงภาษาต่างชาติ จขกท. เองก็ถนัดและเชี่ยวชาญในการดำน้ำแบบนี้เช่นกัน ซึ่งด้วยเนื้อเสียงและความมั่วของ จขกท. นั้น บอกตรงๆว่า ใจยังไม่กล้าพอที่จะไปร้องให้คนอื่นฟังเท่าไหร่ กลัวคนฟังจะขนลุกในความมั่วและอึ้งในพลังเสียงแหบค่ะ ฮ่าๆๆ มันยังไม่จบเพราะเมื่อมีคลิปแรกมากระตุ้น จนเราติดคำว่า Unfulfit ไปแล้ว คลิปถัดไปจึงตามมา ความสนุกเฮฮาจึงเริ่มขึ้น ทว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องตลกแค่เพียงอย่างเดียว ...
เมื่อพบว่าหลายคนที่เข้ามาประกวดในรายการเหล่านี้ เพื่อร้องเพลงและสุดท้ายกลายเป็นเรื่องขำขันของสังคม กลับสะท้อนให้เห็นว่าพวกเขานั้นมีความกล้าหาญ และความหวัง ที่หอบหิ้วมาพร้อมกับความพยายามด้วยหัวใจที่ยิ่งใหญ่ ที่พูดถึงแล้วทำให้นึกถึงคำคมในหนังเรื่องหนึ่งที่ว่า ...
“บางครั้ง ... บุคคลที่เราไม่เคยคาดคิด ก็ทำในสิ่งที่ผู้คนไม่คาดฝัน”
- The imitation game -[/code]
จขกท. มีความแนวคิดที่ว่าทุกอย่างบนโลกใบนี้ ทุกเรื่องราว ทุกคำพูดและทุกการกระทำ มีนัยยะมากกว่าหนึ่งด้านเสมอ ผลพวงที่จะเกิดขึ้นต่อไปเป็นดั่ง Butterfly Effect หรือทฤษฎี
“ผีเสื้อขยับปีก” บนแนวคิดที่ว่า
“เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว”
และในบางครั้งบางสิ่งก็มีความย้อนแย้ง บางคราวก็เต็มไปด้วยหลากหลายอารมณ์ ในเวลาเดียวกันก็เกิดเรื่องราวมากมาย ที่มัน ไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญ แต่กลายเป็นความ “ประจวบเหมาะ” เพราะ ณ ขณะที่ จขกท. เสิร์ชหาคลิปเพื่อตอบสนองความสนุกสนานของตัวเองเฉยๆ กลับพบความหมายที่สร้างแรงบันดาลใจในความรู้สึกที่ลึกลงไป จึงทำให้อยากมาแบ่งปันแง่คิดดีๆให้ทุกท่าน ต้อนรับปีใหม่ในปี 2016 นี้ ผ่าน
10 บุคคลผู้เป็นที่สุดของที่สุดในเหล่าผู้เข้าประกวดจากรายการ “The American Idol”
1. ลิ้นคือที่สุด - James Lewis
คำคม : “Would u like to me sing something else?” อยากให้ผมร้องเพลงอื่นให้ฟังไหม
แง่คิด : เป็นคำพูดที่แสดงให้เห็นถึงความพยายาม และรู้จักใช้โอกาสให้เต็มที่
2. คิดบวกที่สุด - William James Hung
คำคม : "I already gave my best, I have no regret at all" ผมทำดีที่สุดแล้ว และผมไม่เสียใจอะไรเลย
แง่คิดที่น่าสนใจ : เมื่อทำทุกสิ่งอย่างเต็มความสามารถแล้ว ก็ไม่มีอะไรให้ต้องเสียดาย หรือเสียใจอีกต่อไป
3. แปลกที่สุด Steven Thoen
คำคม : “Yes, sir. I like competition .ใช่ครับ ผมชอบการแข่งขัน”
แง่คิดที่น่าสนใจ : มีจุดยืน ชัดเจน และมีความมั่นใจในสิ่งที่ตนเองทำลงไป
4.
จริตจะก้านที่สุด Keith Beukelaer
คำคม :
Randy: "Keith, it was horrific, man. When you said you're interesting and unique, you said it mouthful. Oh my god"
Simon: "Keith, you got to hear you self to believe it. There's nobody on this planet who sings like you, really."
Keith: "You got to be kidding me."
Simon: "I'm being absolutely serious. Are you serious?"
Keith: "I don't think I'm the best singer in the world but, hey, I'm a good singer."
Randy: "What else do you love to do?"
Keith: "Well, I like to dance."
Randy: "Just...maybe...you know, get into dancing."
Keith: "Alright"
Keith Beukelaer: "Well, I like to dance.ฉันรักการเต้น"
แง่คิดที่น่าสนใจ : รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองรักที่จะทำคืออะไร มีเป้าหมาย มีความฝัน และกล้าที่จะลองสักตั้งอย่างตั้งใจ
5. เซ็กซี่ที่สุด Ty Hemmerling
คำคม : Can I get a hug? ขอกอดสักครั้งจะได้ไหม
แง่คิดที่น่าสนใจ : มีความหวัง ... แค่กอดสักครั้งก็ยังดี
6. เงียบที่สุด Weston Lee Smith
คำคม : “………………….... I'm sorry ผมขอโทษ”
แง่คิดที่น่าสนใจ : ความเงียบคือคำตอบ ... และไม่อายที่จะขอโทษ
7. จิตที่สุด Mary Roach
คำคม : Simon: "And why are you here?"
Mary: "I'm here because I want to be the next American Idol and I want to make it to Hollywood. And it's been my all time dream for a long time to become a big famous singer and performer. And this is just one way to do it if I make it."
แง่คิดที่น่าสนใจ : ไม่ลืมที่จะมีความฝัน
8. น่ากลัวที่สุด Rhonetta Johnson
คำคม : "I’m Gooooood ฉันนั้นดีเลิศ"
แง่คิดที่น่าสนใจ : อย่าคิดว่าตัวเองดีที่สุด ฟังเสียงคนอื่นบ้าง อย่าหลงตัวเองจนเกินไป และไปเอาความเข้าใจผิดๆนี้มาจากไหนกัน?
9. เล่นใหญ่ที่สุด Ashley Sullivan
คำคม : "I can do it! ฉันทำได้!"
แง่คิดที่น่าสนใจ : เชื่อมั่นว่า “ฉันทำได้!” และกล้าที่จะโต้แย้งในความไม่ชอบธรรม
10. น่ารักที่สุด Kelley Kime
คำคม : " … and I was really good ฉันดีจริงๆ "
แง่คิดที่น่าสนใจ : พ่อแม่ทุกคนไม่ได้เป็นไอดอลเสมอไป แต่วันใดที่พ่อแม่เป็นแบบอย่างที่ดี (จริงๆ) วันนั้นไม่ใช่เพียงแค่ไอดอล ... หากแต่จะเป็นฮีโร่ เป็นความหวัง เป็นกำลังใจ และเป็นความรักอันยิ่งใหญ่ตลอดกาล
ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 10 ท่าน คงไม่อาจคาดคิดมาก่อนว่า นอกเหนือจากความตั้งใจของการโชว์ ซึ่งสามารถจุดไฟบันดาลใจของผู้ชมแล้ว คำพูดเล็กๆ หรือทัศนคติน่ารักๆ บางอย่างของพวกเค้า ก็สามารถทำให้พวกเค้ากลายเป็น ‘ไอดอล’ ของชีวิตใครบางคนที่กำลังจ้องจอสี่เหลี่ยมอยู่ได้อย่างไม่อาจรู้ตัว หรือนี่อาจจะเป็นความหมายที่แท้จริงของชื่อรายการ
“America Idol” ก็เป็นได้
สังคมออนไลน์จะมีแนวโน้มเป็นอย่างไรต่อไปถ้าเราทุกคนปล่อยให้ความเป็น “เน็ตไอดอล” เป็นเพียงความ “โด่งดัง” เป็นเสมือนธงที่ถูกปักและฟูมฟัก และกลับกลายเป็นเจตนารมณ์ คำชื่นชมใน “สังคมออนไลน์” กำลังทำอะไรกับความรู้สึกของมนุษย์อยู่งั้นหรือ? ทว่ามันก็ไม่ใช่ปัญหาที่เราต้องมานั่งถกเถียง เพราะทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้มีเพียงด้านเดียว แต่สิ่งสำคัญของชีวิตที่เราควรขบคิดต่างหากว่า
แท้จริงแล้ว ... อะไรกันแน่คือสิ่งที่ชีวิตมนุษย์ต้องการ
*** ขอบคุณ คุณสีซอให้ใครฟัง สำหรับข้อความภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง และกำลังใจให้เขียนกระทู้ดีๆต่อไปค่ะ
10 ที่สุดของความ แปลก แหวก บ้า ที่โคตรจะฮาได้อีก แต่พอดูแล้วกลับเห็นแนวคิดและแง่มุมดีๆที่มีในรายการ"American Idol"
เซเลบ ดารา คนดัง มากมาย ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ มีหลายคนที่เติบโตโด่งดังภายในชั่วเวลาเพียงข้ามคืน เพราะได้รับกระแสผลักดันจากสังคมออนไลน์ หรือ Social Network ซึ่งจัดได้ว่าเป็นสื่อกระแสหลักของสังคมในปัจจุบันเลยก็ว่าได้ ดังนั้นคำว่า “NET IDOL” (เน็ตไอดอล) จึงถูกยกให้เป็นมงกุฎไปโดยปริยาย กลายเป็นสรรพนาม ตำแหน่งและหน้าตาในสังคม ที่เปิดโอกาสให้คนมองเห็นช่องทางการเข้าสู่วงการบันเทิง และการมีตัวตนในสายตาผู้อื่นไม่ได้ยากอีกต่อไป
เมื่อสังคมให้คุณค่า ... ปรากฏการณ์ “NET IDOL” (เน็ตไอดอล) จึงก่อตัวขึ้น และมีทีท่าว่าจะลุกลามอย่างรวดเร็ว ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปเนื้อร้ายที่เกาะกระแส “NET IDOL” (เน็ตไอดอล) ดูเหมือนว่าจะทำงานผิดเจตนารมณ์ของความหมายที่แท้จริง เพราะคำว่า “IDOL : ไอดอล” หมายถึงคนหรือสิ่งที่ได้รับความชื่นชมหรือคลั่งไคล้อย่างมาก หรือจะเรียกว่า Hero (ฮีโร่) ก็ไม่ผิดนัก
ดังนั้นเมื่อมีคำว่า “ชื่นชม” , “คลั่งไคล้” หรือ “ฮีโร่” แล้ว ทำไมคำว่า “NET IDOL” (เน็ตไอดอล) กลับถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกไม่ควรเท่าไหร่นัก เช่น การโชว์สัดส่วนทรวดทรงองเอว, การด่าทอ และการโจมตี เป็นต้น เพียงเพื่อการยอมรับจากสังคมด้วยการกด Like ใน Facebook, ยอด Follower ใน Instagram หรือ จำนวน Subscriber ใน YouTube ขณะที่ก็เข้าใจได้ว่าเป็นเสรีภาพส่วนบุคคล ที่จะนำพาให้ทุกคนในสังคมเพิกเฉยชินชา โดยมองเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครในสังคมเค้าก็ทำกัน สุดท้ายแล้วคำว่า “IDOL – ไอดอล” คู่ควรกับมนุษย์แบบไหนกันแน่?
จขกท. เกริ่นกันมาซะยาวเหยียด ... ปรับอารมณ์จากคำถามที่เหมือนจะสาระมาสนุกเฮฮากันดีกว่าค่ะ จริงๆ กระทู้นี้มีแรงจูงใจมาจากคลิปนี้ที่เพื่อนส่งมาให้ในช่วงวันหยุดปีใหม่
ซึ่งเป็นคลิปของรายการ “Music Idol” ที่เฟ้นหานักร้องเสียงดี อารมณ์คงประมาณเดียวกับรายการ The Star (เดอะสตาร์) ของบ้านเรา โดยในคลิปนี้เป็นคลิป นรอบออดิชั่นที่เด็กสาวมาร้องเพลงในชื่อว่า “Unfulfit” อันจะต้องยอมรับเลยว่าเสียงของนักร้องคนนี้นั้นดีจริง แต่อาจจะติดปัญหาเรื่องภาษาอยู่นิดหน่อยเท่านั้น รับรองว่าฟังจบแล้วเจ้าของเพลงอย่าง Rihanna ต้องมีสตั๊นท์แน่นอน
ฟังจบแล้ว กราบทุกท่านอย่าเพิ่งดราม่าหรือด่า จขกท. เลยที่เอาเรื่องน่าอายของชาวบ้านมาแชร์ต่อ เพราะเอาจริงๆแล้ว พวกเพลงสากลหรือเพลงภาษาต่างชาติ จขกท. เองก็ถนัดและเชี่ยวชาญในการดำน้ำแบบนี้เช่นกัน ซึ่งด้วยเนื้อเสียงและความมั่วของ จขกท. นั้น บอกตรงๆว่า ใจยังไม่กล้าพอที่จะไปร้องให้คนอื่นฟังเท่าไหร่ กลัวคนฟังจะขนลุกในความมั่วและอึ้งในพลังเสียงแหบค่ะ ฮ่าๆๆ มันยังไม่จบเพราะเมื่อมีคลิปแรกมากระตุ้น จนเราติดคำว่า Unfulfit ไปแล้ว คลิปถัดไปจึงตามมา ความสนุกเฮฮาจึงเริ่มขึ้น ทว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องตลกแค่เพียงอย่างเดียว ...
เมื่อพบว่าหลายคนที่เข้ามาประกวดในรายการเหล่านี้ เพื่อร้องเพลงและสุดท้ายกลายเป็นเรื่องขำขันของสังคม กลับสะท้อนให้เห็นว่าพวกเขานั้นมีความกล้าหาญ และความหวัง ที่หอบหิ้วมาพร้อมกับความพยายามด้วยหัวใจที่ยิ่งใหญ่ ที่พูดถึงแล้วทำให้นึกถึงคำคมในหนังเรื่องหนึ่งที่ว่า ...
- The imitation game -[/code]
จขกท. มีความแนวคิดที่ว่าทุกอย่างบนโลกใบนี้ ทุกเรื่องราว ทุกคำพูดและทุกการกระทำ มีนัยยะมากกว่าหนึ่งด้านเสมอ ผลพวงที่จะเกิดขึ้นต่อไปเป็นดั่ง Butterfly Effect หรือทฤษฎี “ผีเสื้อขยับปีก” บนแนวคิดที่ว่า “เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว”
และในบางครั้งบางสิ่งก็มีความย้อนแย้ง บางคราวก็เต็มไปด้วยหลากหลายอารมณ์ ในเวลาเดียวกันก็เกิดเรื่องราวมากมาย ที่มัน ไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญ แต่กลายเป็นความ “ประจวบเหมาะ” เพราะ ณ ขณะที่ จขกท. เสิร์ชหาคลิปเพื่อตอบสนองความสนุกสนานของตัวเองเฉยๆ กลับพบความหมายที่สร้างแรงบันดาลใจในความรู้สึกที่ลึกลงไป จึงทำให้อยากมาแบ่งปันแง่คิดดีๆให้ทุกท่าน ต้อนรับปีใหม่ในปี 2016 นี้ ผ่าน
คำคม : “Would u like to me sing something else?” อยากให้ผมร้องเพลงอื่นให้ฟังไหม
คำคม : "I already gave my best, I have no regret at all" ผมทำดีที่สุดแล้ว และผมไม่เสียใจอะไรเลย
แง่คิดที่น่าสนใจ : เมื่อทำทุกสิ่งอย่างเต็มความสามารถแล้ว ก็ไม่มีอะไรให้ต้องเสียดาย หรือเสียใจอีกต่อไป
คำคม : “Yes, sir. I like competition .ใช่ครับ ผมชอบการแข่งขัน”
แง่คิดที่น่าสนใจ : มีจุดยืน ชัดเจน และมีความมั่นใจในสิ่งที่ตนเองทำลงไป
คำคม :
Simon: "Keith, you got to hear you self to believe it. There's nobody on this planet who sings like you, really."
Keith: "You got to be kidding me."
Simon: "I'm being absolutely serious. Are you serious?"
Keith: "I don't think I'm the best singer in the world but, hey, I'm a good singer."
Randy: "What else do you love to do?"
Keith: "Well, I like to dance."
Randy: "Just...maybe...you know, get into dancing."
Keith: "Alright"
Keith Beukelaer: "Well, I like to dance.ฉันรักการเต้น"
แง่คิดที่น่าสนใจ : รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองรักที่จะทำคืออะไร มีเป้าหมาย มีความฝัน และกล้าที่จะลองสักตั้งอย่างตั้งใจ
คำคม : Can I get a hug? ขอกอดสักครั้งจะได้ไหม
แง่คิดที่น่าสนใจ : มีความหวัง ... แค่กอดสักครั้งก็ยังดี
คำคม : “………………….... I'm sorry ผมขอโทษ”
แง่คิดที่น่าสนใจ : ความเงียบคือคำตอบ ... และไม่อายที่จะขอโทษ
คำคม : Simon: "And why are you here?"
Mary: "I'm here because I want to be the next American Idol and I want to make it to Hollywood. And it's been my all time dream for a long time to become a big famous singer and performer. And this is just one way to do it if I make it."
แง่คิดที่น่าสนใจ : ไม่ลืมที่จะมีความฝัน
คำคม : "I’m Gooooood ฉันนั้นดีเลิศ"
แง่คิดที่น่าสนใจ : อย่าคิดว่าตัวเองดีที่สุด ฟังเสียงคนอื่นบ้าง อย่าหลงตัวเองจนเกินไป และไปเอาความเข้าใจผิดๆนี้มาจากไหนกัน?
คำคม : "I can do it! ฉันทำได้!"
แง่คิดที่น่าสนใจ : เชื่อมั่นว่า “ฉันทำได้!” และกล้าที่จะโต้แย้งในความไม่ชอบธรรม
คำคม : " … and I was really good ฉันดีจริงๆ "
แง่คิดที่น่าสนใจ : พ่อแม่ทุกคนไม่ได้เป็นไอดอลเสมอไป แต่วันใดที่พ่อแม่เป็นแบบอย่างที่ดี (จริงๆ) วันนั้นไม่ใช่เพียงแค่ไอดอล ... หากแต่จะเป็นฮีโร่ เป็นความหวัง เป็นกำลังใจ และเป็นความรักอันยิ่งใหญ่ตลอดกาล
ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 10 ท่าน คงไม่อาจคาดคิดมาก่อนว่า นอกเหนือจากความตั้งใจของการโชว์ ซึ่งสามารถจุดไฟบันดาลใจของผู้ชมแล้ว คำพูดเล็กๆ หรือทัศนคติน่ารักๆ บางอย่างของพวกเค้า ก็สามารถทำให้พวกเค้ากลายเป็น ‘ไอดอล’ ของชีวิตใครบางคนที่กำลังจ้องจอสี่เหลี่ยมอยู่ได้อย่างไม่อาจรู้ตัว หรือนี่อาจจะเป็นความหมายที่แท้จริงของชื่อรายการ “America Idol” ก็เป็นได้
สังคมออนไลน์จะมีแนวโน้มเป็นอย่างไรต่อไปถ้าเราทุกคนปล่อยให้ความเป็น “เน็ตไอดอล” เป็นเพียงความ “โด่งดัง” เป็นเสมือนธงที่ถูกปักและฟูมฟัก และกลับกลายเป็นเจตนารมณ์ คำชื่นชมใน “สังคมออนไลน์” กำลังทำอะไรกับความรู้สึกของมนุษย์อยู่งั้นหรือ? ทว่ามันก็ไม่ใช่ปัญหาที่เราต้องมานั่งถกเถียง เพราะทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้มีเพียงด้านเดียว แต่สิ่งสำคัญของชีวิตที่เราควรขบคิดต่างหากว่า
แท้จริงแล้ว ... อะไรกันแน่คือสิ่งที่ชีวิตมนุษย์ต้องการ