เที่ยวไทยหรือเที่ยวนอก?
หลายคนคงเคยเจอคำถามนี้บ้าง ส่วนคำตอบนั้นก็แล้วแต่รสนิยมของคนๆ นั้นครับ ซึ่งปัจจุบันการท่องเที่ยวเมืองไทยก็อินเทรนด์กับเขาเหมือนกัน หลายๆ แห่งมีการเทียบเคียงกับสถานที่ระดับโลกในต่างประเทศ แต่หากถามว่าล่าสุดต้องที่ไหน? ขอบอกเลยสั้นๆ เลยครับว่า 'ภูเขาไฟฟูจิเมืองไทย' แค่ชื่อก็ยิ่งใหญ่แล้ว! ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใหม่แกะกล่องของจังหวัดเลย อยู่ที่บ้านผาหวาย ตำบลป่วนพุ อำเภอหนองหิน หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า 'ภูป่าเปาะ' ครับ
ผมลองกะจากสายตาจากภูป่าเปาะน่าจะราวๆ 5 กม. ภูเขาที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้านั้นลักษณะรูปทรงคล้ายๆ สมกับชื่อฟูจิประเทศญี่ปุ่นจริงๆ และรับกับมุมองศาลาดเอียงได้อย่างเหมาะเจาะและสวยงาม
หากถามว่า 'เรียกชื่อฟูจิมาตั้งแต่แรกเลยเหรอ?' ตอบได้เลยว่าไม่ใช่ครับ จริงๆ ภูเขาลูกนี้มีชื่อว่า 'ภูหอหรือภูก้นถ้วย' อยู่ในอีกอำเภอหนึ่งคือภูหลวง ภายใต้การดูแลของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูค้อ - ภูกระแต โดยชาวบ้านที่มาหาพื้นที่ปลูกข้าวโพดบนภูป่าเปาะนี้ บังเอิญไปเห็นภูหอที่เห็นเด่นเป็นสง่าอยู่แต่ไกล จึงพาผู้ใหญ่บ้านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขึ้นมาสำรวจ ปรากฎว่าหลายคนที่เคยไปเที่ยวแดนอุทิศอุทัยต่างลงความเห็นว่า 'นี่แหละ…ภูเขาไฟฟูจิของไทยเรา'
ภูป่าเปาะมีจุดชมวิวมากถึง 4 จุด เดินถึงกันได้สบายๆ ครับ เพราะมีระยะทางรวมราว 700 เมตร และทุกจุดสามารถเห็นฟูจิได้
จุดที่ 1 : โอฮาโยะ…ฟูจิ
โอฮาโยะ ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่าสวัสดี จุดแรกนี้จึงมีลานชมวิวที่ยื่นออกไปจากหน้าผา ประดับประดาด้วยดอกบัวตองเหลืองสด รับกับภาพฉากหลังฟูจิเมืองไทยอย่างประทับใจ
จุดที่ 2 : นี่แหละ...ภูป่าเปาะ
เป็นการยืนยันว่าเรามาภึงฟูจิเมืองไทยแล้ว เพราะมีป้ายภูป่าเปาะที่โดดเด่นและสวยงาม ที่สำคัญอย่าลืมนั่งชิงช้าแกว่งชิลล์ๆ ดูวิวสวยๆ ไปด้วยนะครับ
จุดที่ 3 : ลานลอยฟ้า…สองฝั่งวิว
นอกจากจะเห็นฟูจิแล้ว เรายังเห็นเส้นทางคดเคี้ยวระหว่างทางที่สวยงามของภูป่าเปาะด้วย แถมด้วยวิวภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกๆ นับสิบให้ดูกันเพลินๆ เลยครับ
จุดที่ 4 : 360 องศา…Check-In ฟูจิเมืองไทย
ต้องออกแรงเดินขึ้นเขาเบาๆ ประมาณ 200 เมตร แต่คุ้มค่าครับ เพราะด้านบนคือวิว 360 องศารอบด้านที่ไม่เพียงเห็นแต่ฟูจิ แต่ยังรวมไปถึงภูกระดึง ภูหลวง และภูเรือด้วย ที่สำคัญยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก บนระดับความสูงที่สุดของภูนี้กับพิกัด 900 เมตรครับ
อีกหนึ่งเสน่ห์ของการขึ้นภูป่าเปาะคือ ‘รถอีแต๊ก’ โดยชาวบ้านดัดแปลงจากรถการเกษตรให้กลายมาเป็นรถโดยสารของนักท่องเที่ยว นั่งได้มากที่สุดถึง 8 คนเลยครับ (ค่าบริการไป - กลับคนละ 60 บาท…คนเดียวรถก็ออกนะครับ) เสียงแต๊กๆๆ ของเครื่องยนต์บวกกับแรงเหวี่ยงแบบโยกหัวเบาๆ ช่างเข้ากับวิวทิวเขาสองข้างทางที่ธรรมชาติบรรจงสร้างขึ้นมาในสไตล์แดนซามูไรจริงๆ
ฟูจิเมืองเลยตอกย้ำให้ทุกคนรู้อีกครั้งครับว่า เมืองไทยยังมีที่ท่องเที่ยวสวยๆ อีกมาก ตราบเท่าที่คนไทยเราจะแสวงหาและจินตนาการกันได้ เชื่อผมเถอะว่าสำหรับเมืองไทยคงไม่หมดเท่านี้แน่ๆ แต่ตอนนี้รีบแพ็คกระเป๋ากันครับ
‘แล้วไปฟูจิ…ที่ไม่ไกลเลย’
Go to :
จาก กทม. มุ่งหน้าจังหวัดสระบุรี เลี้ยวขวาเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) เมื่อถึงเขื่อนลำตะคองและอำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ให้เลี้ยวซ้ายเข้าเส้นทาง 201 เพื่อไปจังหวัดชัยภูมิ พอถึงอำเภอภูเขียวจะต่อด้วยอำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น จากนั้นมุ่งหน้าสู่อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย และถึงอำเภอหนองหินให้เลี้ยวซ้ายไปอีกประมาณ 20 กม. ก็จะถึง “ภูป่าเปาะ” รวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 550 กม.
Contact & Camping :
• ททท. สำนักงานเลย 042-812-812 / 042-811-405
• ชมรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ภูป่าเปาะ (สามารถพักแรมบนภูป่าเปาะได้ครับ) 086-221-8924 / 089 – 764 -6829 / 088-030-2397
• เฮือนราชสีห์ 086-2218924 / 083-6645268
• โฮมสเตย์บ้านพญาวัน 086-2218924 / 083-6645268
[CR] ฟู จิ เ มื อ ง ไ ท ย - - ไ ม่ ไ ก ล เ ล ย
เที่ยวไทยหรือเที่ยวนอก?
หลายคนคงเคยเจอคำถามนี้บ้าง ส่วนคำตอบนั้นก็แล้วแต่รสนิยมของคนๆ นั้นครับ ซึ่งปัจจุบันการท่องเที่ยวเมืองไทยก็อินเทรนด์กับเขาเหมือนกัน หลายๆ แห่งมีการเทียบเคียงกับสถานที่ระดับโลกในต่างประเทศ แต่หากถามว่าล่าสุดต้องที่ไหน? ขอบอกเลยสั้นๆ เลยครับว่า 'ภูเขาไฟฟูจิเมืองไทย' แค่ชื่อก็ยิ่งใหญ่แล้ว! ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใหม่แกะกล่องของจังหวัดเลย อยู่ที่บ้านผาหวาย ตำบลป่วนพุ อำเภอหนองหิน หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า 'ภูป่าเปาะ' ครับ
ผมลองกะจากสายตาจากภูป่าเปาะน่าจะราวๆ 5 กม. ภูเขาที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้านั้นลักษณะรูปทรงคล้ายๆ สมกับชื่อฟูจิประเทศญี่ปุ่นจริงๆ และรับกับมุมองศาลาดเอียงได้อย่างเหมาะเจาะและสวยงาม
หากถามว่า 'เรียกชื่อฟูจิมาตั้งแต่แรกเลยเหรอ?' ตอบได้เลยว่าไม่ใช่ครับ จริงๆ ภูเขาลูกนี้มีชื่อว่า 'ภูหอหรือภูก้นถ้วย' อยู่ในอีกอำเภอหนึ่งคือภูหลวง ภายใต้การดูแลของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูค้อ - ภูกระแต โดยชาวบ้านที่มาหาพื้นที่ปลูกข้าวโพดบนภูป่าเปาะนี้ บังเอิญไปเห็นภูหอที่เห็นเด่นเป็นสง่าอยู่แต่ไกล จึงพาผู้ใหญ่บ้านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขึ้นมาสำรวจ ปรากฎว่าหลายคนที่เคยไปเที่ยวแดนอุทิศอุทัยต่างลงความเห็นว่า 'นี่แหละ…ภูเขาไฟฟูจิของไทยเรา'
ภูป่าเปาะมีจุดชมวิวมากถึง 4 จุด เดินถึงกันได้สบายๆ ครับ เพราะมีระยะทางรวมราว 700 เมตร และทุกจุดสามารถเห็นฟูจิได้
จุดที่ 1 : โอฮาโยะ…ฟูจิ
โอฮาโยะ ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่าสวัสดี จุดแรกนี้จึงมีลานชมวิวที่ยื่นออกไปจากหน้าผา ประดับประดาด้วยดอกบัวตองเหลืองสด รับกับภาพฉากหลังฟูจิเมืองไทยอย่างประทับใจ
จุดที่ 2 : นี่แหละ...ภูป่าเปาะ
เป็นการยืนยันว่าเรามาภึงฟูจิเมืองไทยแล้ว เพราะมีป้ายภูป่าเปาะที่โดดเด่นและสวยงาม ที่สำคัญอย่าลืมนั่งชิงช้าแกว่งชิลล์ๆ ดูวิวสวยๆ ไปด้วยนะครับ
จุดที่ 3 : ลานลอยฟ้า…สองฝั่งวิว
นอกจากจะเห็นฟูจิแล้ว เรายังเห็นเส้นทางคดเคี้ยวระหว่างทางที่สวยงามของภูป่าเปาะด้วย แถมด้วยวิวภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกๆ นับสิบให้ดูกันเพลินๆ เลยครับ
จุดที่ 4 : 360 องศา…Check-In ฟูจิเมืองไทย
ต้องออกแรงเดินขึ้นเขาเบาๆ ประมาณ 200 เมตร แต่คุ้มค่าครับ เพราะด้านบนคือวิว 360 องศารอบด้านที่ไม่เพียงเห็นแต่ฟูจิ แต่ยังรวมไปถึงภูกระดึง ภูหลวง และภูเรือด้วย ที่สำคัญยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก บนระดับความสูงที่สุดของภูนี้กับพิกัด 900 เมตรครับ
อีกหนึ่งเสน่ห์ของการขึ้นภูป่าเปาะคือ ‘รถอีแต๊ก’ โดยชาวบ้านดัดแปลงจากรถการเกษตรให้กลายมาเป็นรถโดยสารของนักท่องเที่ยว นั่งได้มากที่สุดถึง 8 คนเลยครับ (ค่าบริการไป - กลับคนละ 60 บาท…คนเดียวรถก็ออกนะครับ) เสียงแต๊กๆๆ ของเครื่องยนต์บวกกับแรงเหวี่ยงแบบโยกหัวเบาๆ ช่างเข้ากับวิวทิวเขาสองข้างทางที่ธรรมชาติบรรจงสร้างขึ้นมาในสไตล์แดนซามูไรจริงๆ
ฟูจิเมืองเลยตอกย้ำให้ทุกคนรู้อีกครั้งครับว่า เมืองไทยยังมีที่ท่องเที่ยวสวยๆ อีกมาก ตราบเท่าที่คนไทยเราจะแสวงหาและจินตนาการกันได้ เชื่อผมเถอะว่าสำหรับเมืองไทยคงไม่หมดเท่านี้แน่ๆ แต่ตอนนี้รีบแพ็คกระเป๋ากันครับ
‘แล้วไปฟูจิ…ที่ไม่ไกลเลย’
Go to :
จาก กทม. มุ่งหน้าจังหวัดสระบุรี เลี้ยวขวาเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) เมื่อถึงเขื่อนลำตะคองและอำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ให้เลี้ยวซ้ายเข้าเส้นทาง 201 เพื่อไปจังหวัดชัยภูมิ พอถึงอำเภอภูเขียวจะต่อด้วยอำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น จากนั้นมุ่งหน้าสู่อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย และถึงอำเภอหนองหินให้เลี้ยวซ้ายไปอีกประมาณ 20 กม. ก็จะถึง “ภูป่าเปาะ” รวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 550 กม.
Contact & Camping :
• ททท. สำนักงานเลย 042-812-812 / 042-811-405
• ชมรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ภูป่าเปาะ (สามารถพักแรมบนภูป่าเปาะได้ครับ) 086-221-8924 / 089 – 764 -6829 / 088-030-2397
• เฮือนราชสีห์ 086-2218924 / 083-6645268
• โฮมสเตย์บ้านพญาวัน 086-2218924 / 083-6645268