คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 32
เป็นสิ่งที่เราสงสัยมาตลอด
สำหรับเรา ความรักบังคับไม่ได้ กำหนดไม่ได้ในสามสิ่ง
- กำหนดให้รัก
- กำหนดให้ไม่รัก บังคับให้เลิกรัก
- กำหนดให้รักอยู่ตลอดไป
เราได้แต่วางรากฐานและกำหนดจุดเริ่มต้นเพื่อสร้าง จุดรักษาเพื่อไม่ให้หมดรัก หรือเลิกรัก
เรารู้สึกเสมอว่า สำหรับเรา ไม่ใช่รักใครก็ได้ ที่บังเอิญเจอ
การบังคับให้ตัวเองรักใคร มันเป็นไปไม่ได้เลย
แต่พื้นฐานความพอใจ (ซึ่งสำหรับเรา คือความดีและคุณสมบัติที่ดี ) จะเอื้ออำนวยให้เรารักคนๆนั้นได้
แล้วในทางกลับกัน เราก็บังคับให้เลิกรักไม่ได้ และ กำหนดให้รักไปตลอดก็ไม่ได้
ถ้าความรักบังคับได้
- รักคนที่ความดีเท่านั้น ทุกคนคงรักพระสายปฏิบัติหมด แต่นี่คนดีแสนดีไปรักคนเลวทำไม
- รักคนหน้าตาดีเท่านั้น ณเดชน์คงมีภรรยาห้าแสนคน
- เจอคนเป็นร้อยพัน คนจีบเป็นสิบ ทำไมต้องรักคนคนนี้ล่ะ
- อกหักทำไม ก็บังคับให้เลิกรักสิ
- ทุกคนอยากเป็นคนดี อยากมีความสุขสงบ อยากใจเดียวมีรักแท้ ใครบ้างอยากมีปัญหาชีวิต
- ความไม่รู้จักพอ อาจจะเกี่ยวนะ แต่ถ้าไม่มีคนอื่นแล้วหมดรักไปเฉยๆล่ะ จะอธิบายยังไง
เราจึงคิดว่า หัวใจคนและความรักเป็นอะไรที่น่ากลัว ซับซ้อน และ ยากที่จะเข้าใจ
เราที่เป็นเจ้าของหัวใจ บังคับตัวเองได้จริงๆเหรอ? เราไม่เชื่ออย่างนั้นเลย
ดังนั้น การระวังรักษาให้เครือ่งหล่อเลี้ยงความรักคงอยู่จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก
การเปิดโอกาสตัวเองให้มีความรักกับบุคคลที่สาม ก็เป็นเรื่องอันตราย อย่าไว้ใจหัวใจตัวเองและอย่าไว้ใจคนอื่น
แต่ถ้าทำทุกอย่างแล้วความรักมันยังเหือดหายไปได้
เราคิดว่าคงเป็นเรื่องของเวรกรรมจริงๆแล้วล่ะ
สำหรับเรา ความรักบังคับไม่ได้ กำหนดไม่ได้ในสามสิ่ง
- กำหนดให้รัก
- กำหนดให้ไม่รัก บังคับให้เลิกรัก
- กำหนดให้รักอยู่ตลอดไป
เราได้แต่วางรากฐานและกำหนดจุดเริ่มต้นเพื่อสร้าง จุดรักษาเพื่อไม่ให้หมดรัก หรือเลิกรัก
เรารู้สึกเสมอว่า สำหรับเรา ไม่ใช่รักใครก็ได้ ที่บังเอิญเจอ
การบังคับให้ตัวเองรักใคร มันเป็นไปไม่ได้เลย
แต่พื้นฐานความพอใจ (ซึ่งสำหรับเรา คือความดีและคุณสมบัติที่ดี ) จะเอื้ออำนวยให้เรารักคนๆนั้นได้
แล้วในทางกลับกัน เราก็บังคับให้เลิกรักไม่ได้ และ กำหนดให้รักไปตลอดก็ไม่ได้
ถ้าความรักบังคับได้
- รักคนที่ความดีเท่านั้น ทุกคนคงรักพระสายปฏิบัติหมด แต่นี่คนดีแสนดีไปรักคนเลวทำไม
- รักคนหน้าตาดีเท่านั้น ณเดชน์คงมีภรรยาห้าแสนคน
- เจอคนเป็นร้อยพัน คนจีบเป็นสิบ ทำไมต้องรักคนคนนี้ล่ะ
- อกหักทำไม ก็บังคับให้เลิกรักสิ
- ทุกคนอยากเป็นคนดี อยากมีความสุขสงบ อยากใจเดียวมีรักแท้ ใครบ้างอยากมีปัญหาชีวิต
- ความไม่รู้จักพอ อาจจะเกี่ยวนะ แต่ถ้าไม่มีคนอื่นแล้วหมดรักไปเฉยๆล่ะ จะอธิบายยังไง
เราจึงคิดว่า หัวใจคนและความรักเป็นอะไรที่น่ากลัว ซับซ้อน และ ยากที่จะเข้าใจ
เราที่เป็นเจ้าของหัวใจ บังคับตัวเองได้จริงๆเหรอ? เราไม่เชื่ออย่างนั้นเลย
ดังนั้น การระวังรักษาให้เครือ่งหล่อเลี้ยงความรักคงอยู่จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก
การเปิดโอกาสตัวเองให้มีความรักกับบุคคลที่สาม ก็เป็นเรื่องอันตราย อย่าไว้ใจหัวใจตัวเองและอย่าไว้ใจคนอื่น
แต่ถ้าทำทุกอย่างแล้วความรักมันยังเหือดหายไปได้
เราคิดว่าคงเป็นเรื่องของเวรกรรมจริงๆแล้วล่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ความเชื่อของผมนั้น ความรัก ไม่ใช่สิ่งยั่งยืนมั่นคงถาวรอะไรเลย
เมียผมก็โกรธผมบ่อยมาก เดินผิดจังหวะก็โกรธแล้ว ๕๕๕
พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า คนเราที่มาคบหากันเนี่ย ส่วนหนึ่งก็เกิดจากบุญทำกรรมแต่งแต่ปางก่อนหลายชาติมาแล้ว
(นั่นหมายถึงว่า คนที่เคยๆกับเรานั้น มีนับไม่ถ้วนเลยทีเดียว)
อีกประการหนึ่ง ก็เกิดจากความดีในชาติปัจจุบันที่มีให้กัน
ส่วนเรื่องรักๆเลิกๆ มันเรื่องปกติของมนุษย์ขี้เหม็นครับ
เมียผมก็โกรธผมบ่อยมาก เดินผิดจังหวะก็โกรธแล้ว ๕๕๕
พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า คนเราที่มาคบหากันเนี่ย ส่วนหนึ่งก็เกิดจากบุญทำกรรมแต่งแต่ปางก่อนหลายชาติมาแล้ว
(นั่นหมายถึงว่า คนที่เคยๆกับเรานั้น มีนับไม่ถ้วนเลยทีเดียว)
อีกประการหนึ่ง ก็เกิดจากความดีในชาติปัจจุบันที่มีให้กัน
ส่วนเรื่องรักๆเลิกๆ มันเรื่องปกติของมนุษย์ขี้เหม็นครับ
ความคิดเห็นที่ 7
เป็นกรรม เป็นการกระทำที่ 2 คนทำร่วมกัน ตอนร่วมชีวิตกันนี่แระครับ
ความรักมันต้องประคอบกันเอาเอง คู่ใครคู่มัน หากยังเติมความใส่ใจกันแระกันอยู่มันก็ไม่หมดหรอก
ถ้าปล่อยให้วันๆฝ่านไป ไม่คุยไม่ใส่ใจ มันก็มีแต่จะแห้งเหี่ยว อยู่กันอย่างเบื่อๆก็รอวันแยกจากกัน
ส่วนคำว่า วาสนา มันเป้นแค่คำ จับนี่โยงนั้นพิสูจน์อะไรไม่ได้จริงๆสำหรับพุทธอย่างผม
อะไรที่คลุมเครือไม่แจ้ง ผมก็ไม่เอามาคิดให้งมงาย ไม่ได้ประโยชน์
ความรักมันต้องประคอบกันเอาเอง คู่ใครคู่มัน หากยังเติมความใส่ใจกันแระกันอยู่มันก็ไม่หมดหรอก
ถ้าปล่อยให้วันๆฝ่านไป ไม่คุยไม่ใส่ใจ มันก็มีแต่จะแห้งเหี่ยว อยู่กันอย่างเบื่อๆก็รอวันแยกจากกัน
ส่วนคำว่า วาสนา มันเป้นแค่คำ จับนี่โยงนั้นพิสูจน์อะไรไม่ได้จริงๆสำหรับพุทธอย่างผม
อะไรที่คลุมเครือไม่แจ้ง ผมก็ไม่เอามาคิดให้งมงาย ไม่ได้ประโยชน์
ความคิดเห็นที่ 55
มันเป็นเรื่องของ "ความเปลี่ยนแปลง"
จากไม่รัก ก็มารัก จากรัก ก็เลิกรัก
เชื่อว่า คนๆ หนึ่งเกิดมา ต้องเคยรักกันใครสักคนมาก
จนคิดว่า ถ้าขาดเขา เราจะอยู่ยังไง
บางครั้ง เราอาจจะลืม ว่าคนๆ นั้น ไม่ใช่ของเรา
ความรักที่ครั้งหนึ่ง เราเคยให้เค้า และเค้าเคยให้เรา
มันไม่เคยทำให้เขาเป็นของเรา เขายังเป็นเขา ไม่ขึ้นตรงต่อใคร
เขาเกิดมาจากแม่ของเขา เขาถูกฟูมฟักและเลี้ยงดูจากครอบครัวของเขา
แต่เมื่อเขาเติบใหญ่ ร่างกาย หัวใจ ความนึกคิด สามัญสำนึก มันเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว
เราต่างหากที่มาฉกฉวยเอาผลประโยชน์จากเขา จากการหล่อหลอมตัวของเขา
คิดในแง่หนึ่ง การที่ครั้งหนึ่งเขาเคยรักเรา มันคือกำไร
ฉะนั้น หากเขาจะจากเราไป ก็ให้คิดว่า ครั้งหนึ่งเราเคยได้ แค่ต่อไปเราจะไม่ได้มันอีก
อย่าคิดว่าเราเสียเวลา เพราะถ้าเราเสียเวลา เขาเองก็เสียเวลา
อย่าคิดว่าเราเสียใจ เพราะเขาก็เคยให้ใจเรามา
แต่ก็นะ พูดง่าย แต่ทำยาก คีย์เวิร์ด "เตรียมใจให้พร้อม ในวันที่มันเปลี่ยน"
จากไม่รัก ก็มารัก จากรัก ก็เลิกรัก
เชื่อว่า คนๆ หนึ่งเกิดมา ต้องเคยรักกันใครสักคนมาก
จนคิดว่า ถ้าขาดเขา เราจะอยู่ยังไง
บางครั้ง เราอาจจะลืม ว่าคนๆ นั้น ไม่ใช่ของเรา
ความรักที่ครั้งหนึ่ง เราเคยให้เค้า และเค้าเคยให้เรา
มันไม่เคยทำให้เขาเป็นของเรา เขายังเป็นเขา ไม่ขึ้นตรงต่อใคร
เขาเกิดมาจากแม่ของเขา เขาถูกฟูมฟักและเลี้ยงดูจากครอบครัวของเขา
แต่เมื่อเขาเติบใหญ่ ร่างกาย หัวใจ ความนึกคิด สามัญสำนึก มันเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว
เราต่างหากที่มาฉกฉวยเอาผลประโยชน์จากเขา จากการหล่อหลอมตัวของเขา
คิดในแง่หนึ่ง การที่ครั้งหนึ่งเขาเคยรักเรา มันคือกำไร
ฉะนั้น หากเขาจะจากเราไป ก็ให้คิดว่า ครั้งหนึ่งเราเคยได้ แค่ต่อไปเราจะไม่ได้มันอีก
อย่าคิดว่าเราเสียเวลา เพราะถ้าเราเสียเวลา เขาเองก็เสียเวลา
อย่าคิดว่าเราเสียใจ เพราะเขาก็เคยให้ใจเรามา
แต่ก็นะ พูดง่าย แต่ทำยาก คีย์เวิร์ด "เตรียมใจให้พร้อม ในวันที่มันเปลี่ยน"
แสดงความคิดเห็น
คู่รักบางคู่รักกันมานาน จู่ๆหมดรักกันแบบไม่มีเหตุผลเหลือเชื่อ เพราะเป็นเรื่องวาสนาที่ทำกันมาสิ้นสุดลง คุณเชื่อไหม?
เคยเห็นคู่รักแบบที่จู่ๆรักกันมานานมากๆ ดูแล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเลย แต่ท้ายสุดอีกฝ่ายกลับเลิกรักเสียดื้อๆ แล้วหมดรักแบบเหตุผลเหลือเชื่อชนิดคนนอกอย่างเรายังไม่เข้าใจ เช่น
- บางคู่รักกันมา 10 ปี แบบไม่แต่งงาน แต่จู่ๆ ฝ่ายชายทิ้งฝ่ายหญิงไปแต่งงานกับคนที่เพิ่งเจอใหม่หลังเลิกแค่ 1 เดือนเท่านั้น
- บางคู่ลำบากสร้างตัวมาด้วยกัน แต่พออีกฝ่ายไปเจอสังคมใหม่ คนใหม่กว่า กลับไปเลือกคนใหม่โดยไม่คิดถึงวันดีๆกับคนเก่าที่ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย
- บางคู่จะแต่งงานกันอยู่แล้ว แต่อีกฝ่ายไปเจอคนใหม่ที่นิ้งกว่า ได้มารักเขาก่อนก็ทิ้งฝ่ายแรกแล้วไปแต่งกับอีกฝ่ายเฉยเลย
- คนบางคนแต่งงานกำลังจะมีลูก แต่ทิ้งเมียที่ตั้งครรภ์ไปแบบไม่แยแสได้อย่างเลือดเย็น (เคสซิงเกิลมัมแบบนี้สะเทือนใจเราที่สุด แบบคิดว่าผู้ชายแย่มาก ทำกันแบบนี้ได้ยังไง)
- บางคู่ มือที่สามไปแย่งมาสำเร็จ แต่ชีวิตมือที่สามกับคู่ที่แย่งกลับเจริญรุ่งเรือง ในขณะที่คนถูกแย่งกลับชีวิตตกต่ำลง แถมถูกสังคม(มือที่สาม)ต่อว่าอีกว่า ทำตัวน่าเบื่อเองถึงได้ถูกทิ้ง ถ้ามีดีจริงจะถูกทิ้งได้ไง
- บางคู่ตอนไม่แต่งรักกันดี พอแต่งเข้าให้ ลายกลับออก ทำร้ายจิตใจอีกฝ่ายอย่างกะไม่ใช่คนๆเดียวกัน (ออกแนวเจ้ากรรมนายเวรมาเป็นคู่รัก แล้วแฝงตัวแก้แค้น)
คือเหตุผลทั้งหมดของการเลิกกัน ไม่ได้อิงเรื่องฐานะทางเศรษฐกิจ แต่เกิดจากความเสน่หานะ
...เราพยายามคิดเหตุผลของการเลิกแบบไม่มีเหตุผลว่ามันเกิดจากอะไรกันหนอ? จู่ๆคนเรามันจะหมดรักกัน มันปุ๊บปั๊บตามจริตคนยุค Gen Y ขนาดนั้นเชียว ที่ว่าคนยุคนี่จะทำอะไรเอาตามความพอใจของตนแบบไม่ต้องมีเหตุผลว่ามันฟังขึ้นหรือไม่
เราเหมือนเคยไปอ่านคำอธิบายเชิงธรรมะจากที่นึง จำต้นขั้วไม่ได้ เขาเล่าเรื่องราวว่า...(เรื่องต้นขั้วอาจจะไม่ตรงตามที่เล่ามากนักนะครัช จำได้พอเลาๆ ผิดพลาดยังไงขออภัย เพราะเราจำรายละเอียดปลีกย่อยไม่ได้มาก จำได้แค่โครงเรื่องที่เป็นก้าง)
...มีชายหญิงคู่หนึ่ง รักกันมานาน 10 ปี ก็จะได้แต่งงานกันไม่ช้า....แต่ก่อนจะถึงวันแต่งงานไม่นาน ฝ่ายหญิงกลับไปแต่งงานกับผู้ชายคนอื่นแทน
ฝ่ายชายพยายามถามขอเหตุผล ตอนแรกก็คิดว่าฝ่ายหญิงโดนครอบครัวบังคับ แต่กลับไม่ใช่...ฝ่ายหญิงเต็มใจแต่งงานกับผู้ชายอื่นด้วยหัวใจ ไม่ได้ด้วยเรื่องเงิน หรือความด้อยอะไรในแฟนเก่า ให้เหตุผลแค่ว่า 'ไม่รักแล้ว'
...ฝ่ายชายก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าเหตุผลแค่นี้นะ ทำไมเลิกกันง่ายๆ (เป็นเราก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน) จนฝ่ายชายร้องไห้จนหลับฝันไป...
เหมือนมีเสียงแว่วบอกเขาว่า ให้ตามมา จะพาไปให้ดูว่าอะไรคือสาเหตุที่ผู้หญิงหมดรักเขา
...เขาฝันไปว่า กำลังอยู่ในชายหาดแห่งหนึ่ง และที่บริเวณใกล้ชายหาดคลื่นซัดนั้น มีศพของผู้หญิงคนนึงนอนกองอยู่
ฝ่ายชายรู้สึกเวทนาสงสาร จึงสละเสื้อผ้า(หรือผ้าห่ม)ที่ติดตัวมา คลุมศพผู้หญิงคนนั้นไว้ แต่เขาไม่ได้เก็บศพเธอไป (ก็ไม่รู้จะเอาไปเก็บไหนด้วย) เขาก็ได้เดินจากไป และคงหวังว่าจะมีคนหวังดีมาเก็บศพของเธอไปแทนเขาที่ไม่สะดวก
...แล้วเมื่อเขาก้าวเดินจากไปไม่กี่สิบก้าว ก็มีชายอีกคนเข้ามาดูศพของเธอ แต่คนนี้ลงทุนเก็บศพเธอในโลงอย่างดี แล้วให้คนยกกันหิ้วไปประกอบพิธี
...เสียงนั้นบอกกล่าวกับผู้ชายว่า...ศพผู้หญิงคนนั้นก็คือ ผู้หญิงที่เขารักนั้นแหละ
การที่เขาเอาผ้ามาคลุมให้ศพ ก็ถือว่าเป็นการเมตตาต่อผู้หญิง ทำให้มีวาสนาได้มาเป็นคู่รักต่อกัน
...แต่เพราะเขาแค่เอาผ้ามาคลุมแล้วจากไป แต่ไม่ได้เก็บศพและประกอบพิธีเท่าผู้ชายคนหลัง ก็คือคนที่ผู้หญิงแต่งงานด้วย
ทำให้ในชาตินี้ เขามีวาสนาแค่ได้รักผู้หญิงคนนี้ชั่วเวลานึง และได้รักก่อน(ก็เพราะเจอก่อน)แต่เมื่อวาสนาหมดลง ก็มีเหตุให้เธอได้เจอกับชายคนที่สองตามลำดับ และท้ายสุดเธอก็ต้องไปรักมีวาสนากับคนที่บุญคุณในการเก็บศพเธอดีกว่า ซึ่งเป็นคนมาทีหลัง
เป็นการอธิบายว่าทำบุญกันมาแค่นี้ เมื่อหมดบุญวาสนาแล้ว อีกฝ่ายก็จะไปหาคนที่ทำบุญต่อเธอที่ยิ่งใหญ่กว่า ไม่เกี่ยวว่าจะมาก่อนมาหลัง ไม่เกี่ยวว่าทำดีให้ตายยังไง ทำไมถึงกลายเป็นฝ่ายถูกทิ้งแบบไม่มีเหตุผล...ซึ่งนี่เป็นเหตุผลที่อธิบายสาเหตุที่จู่ๆฝ่ายหญิงก็หมดรักฝ่ายชายคนแรกได้อย่างง่ายดาย แบบที่เหตุผลทางสังคมทางโลกอธิบายก็ไม่เข้าใจ ต้องอธิบายเป็นเชิงธรรม
ฟังเรื่องนี้แล้วคิดว่ามันเป็นเหตุผลที่น่าอธิบายได้กับความสัมพันธ์รักที่มันจบแบบไม่มีเหตุผลได้ไหมคะ คุณเชื่อว่ามันเกิดเพราะอย่างนี้หรือเปล่า?
หรือคิดแบบปัจเจกชนที่ไม่อิงธรรมะว่า...สมองมนุษย์เป็นเรื่องไม่แน่ไม่นอน อารมณ์ก็เช่นเดียวกัน วันนี้รัก พรุ่งนี้ไม่รักก็ได้...หรือจะรวมเรื่องสันดานมืดของอีกฝ่าย หรือเป็นเรื่องเวลาที่ทำให้รักหมดอายุได้ แบบเริ่มต้นจาก 100 กลายเป็น 0
.... ไม่เกี่ยวกับเรื่องบุญวาสนาหรอก