ขออนุญาตตั้งกระทู้ใหม่ให้ซอฟลงค่ะ ตามคำติชมที่ได้รับมาค่ะ ^^
เล่าม้วนเดียวจบค่ะ




เราอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การทำงานกับสวนสนุกที่ขึ้นชื่อว่าใหญ่เป็นอำดับ1ของโลกอย่าง Walt Disney World Resort เมือง Orlando รัฐ Florida ประเทศสหรัฐอเมริกาค่ะ เค้าคุยว่าในปีๆหนึ่งมีแขกจากทั่วโลกมาเยี่ยม Disney World มากกว่า 52 ล้านคนเลยค่ะ



ขอเกริ่นประวัติคร่าวๆของ Disney World ก่อนเลยนะคะ ที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเป็นแห่งที่2ต่อจาก Disney Land ที่ California ค่ะ ตอนแรกตัวเราเองก็เข้าใจ
ผิดคิดว่าที่นี่สร้างขึ้นก่อนแต่ไม่ใช่ค่ะ  ที่นี่เปิดทำการครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ปี ค.ศ. 1971 โดยสวนสนุกแห่งแรกมีชื่อว่า Magic Kingdom ค่ะ




ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายที่คุณ Walt ผู้ก่อตั้งเสียชีวิตก่อนที่สวนสนุกแห่งนี้จะเปิดทำการ ปัจจุบัน Disney World มี 4 สวนสนุก (Magic Kingdom, Epcot, Hollywood Studios และ Animal Kingdom) 2 สวนน้ำ (Blizzard Beach, Typhoon lagoon) มีโรงแรมประมาณ 25 แห่ง และยังมีDowntown ของตัวเอง ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อจาก Downtown Disney เป็น Disney Spring มีร้านค้าและร้านอาหารบริการนักท่องเที่ยว  ใหญ่เว่อร์วังอลังการมากค่ะ 555

ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ค่ะ ที่เราได้มีโอกาสร่วมงานกับ Disney ครั้งแรกเราไปโครงการระยะสั้นประมาณ 2 เดือนกว่าๆ  เมื่อปี 2012 กับโครงการ Disney International College Program ตอนนั้นมีหน้าที่เป็น lifeguard ในสวนน้ำค่ะ จากครั้งนั้นเราได้ประสบการณ์ดีๆมากมาย ถ้าเป็นเด็กDisneyแล้วโอกาสหลุดพ้น จากวงจรยากค่ะ พูดเลย 555 หลังจากเข้าร่วมโครงการระยะสั้นแล้ว ก็คอยติดตามข่าวสารของโครงการตลอดค่ะ เพราะเรารอสมัครโครงการระยะยาว 1 ปี โครงการนี้มีชื่อว่า Cultural Representative Program แปลเป็นไทยก็อารมณ์ทูตวัฒนธรรมอ่ะค่ะ นางงามมาก555 จะขอข้ามในเรื่องของการสมัครไปนะคะ




โครงการของเราเริ่มต้นเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ปี 2014 และสิ้นสุดลงเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2015 (อยากกลับไปอีกค่ะ คิดถึงมากมาย)  ทางโครงการมีที่พักให้ค่ะแต่ว่าเราจะต้องจ่ายค่าเช่าด้วยไม่ฟรี มีทั้งหมด4หมู่บ้าน ราคาก็แตกต่างกันไปค่ะ และก็มีรถรับส่งฟรีระหว่างที่พักและที่ทำงาน รวมถึงพาไปห้าง Walmart และ ไปรษณีย์ สะดวกสบายดีค่ะ รถก็มาตรงบ้างไม่ตรงบ้าง ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเลทค่ะ มีตารางเวลาให้และก็สามารถใช้appในมือถือเช็ครถได้ค่ะ   ทุกๆวันก็จะเห็นคนวิ่งหน้าตั้งมาขึ้นรถ เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น สนุกดีค่ะ ออกกำลังกายเกือบทุกเช้าเลย 555 ไปอยู่ไม่มี homesick เลยค่ะ ดิสนีย์จัดกิจกรรมให้พวกเราอยู่เสมอๆ ไปงานก็ได้เพื่อนใหม่ตลอดเลย



ก่อนที่จะเริ่มทำงานจะมีการเทรนและก็ Orientation หรือการปฐมนิเทศก่อนเข้างาน ซึ่งถ้าเราเข้าร่วม เราก็จะได้รับบัตรพนักงงานสีฟ้าและจะถือเป็นพนักงานของดิสนีย์อย่างเป็นทางการ  บัตรนี้สำคัญมากค่ะ จะไปไหนมาไหนก็พกตลอด ใช้แสดงเวลาไปเข้างานและก็ใช้ไว้โชว์เวลาไปใช้ส่วนลดต่างๆ   เราจะต้องไปเข้าห้องเรียนที่มหาวิทยาลัยของ Disney เรียกสั้นๆว่า Disney U ค่ะ ในคลาสก็จะเป็นการเล่าถึงประวัติของดิสนีย์และก็พูดถึงความปลอดภัยต่างๆในการทำงาน  ที่นี้ความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่งค่ะ และก็กฎระเบียบรวมถึงปรัญญาแนวความคิดต่างๆของบริษัท หลังจากนั้นก็จะเป็นการเทรนงานที่ที่เราจะทำงานค่ะ



เราถูกส่งตัวต่อไปที่  Animal Kingdom ให้อารมณ์เหมือนทำงานในสวนสัตว์เลยค่ะ ธรรมชาติมากๆ มีทั้งเครื่องเล่นและสัตว์ที่เค้าเอามาโชว์   ในสวนสนุกนี้จะแบ่งเป็น 4 โซนค่ะ มี Oasis, Discovery Island, Asia, Africa, และ Dinoland U.S.A. แน่นอนค่ะคนไทยอย่างเราก็ต้องได้ทำงานในโซน Asia ที่นี่จะมีกิจกรรมหนึ่งซึ่งได้แรงบัลดาลใจมาจากเรื่อง UP ชื่อว่า Wilderness Explorer


บางทีก็จะเห็นคนแต่งคอสเพลย์เป็นชุดลูกเสือมาเที่ยวparkค่ะ

จะมีสมุดแจกให้ค่ะ เล่มสีเหลืองตามธีม ให้คนที่เข้าร่วมกิจกรรมนี้เดินหาฐานต่างๆและปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จเพื่อที่จะได้รับเครื่องหมายเอาไปติดในสมุดค่ะ เราเรียกว่า BADGE มีประมาณ31ฐานค่ะ ทำครบก็จะได้เป็น Senior Explorer อารมณ์เลื่อนขั้นจากลูกเสือสำรองเป็นลูกเสือสามัญอ่ะค่ะ  


(เวลาเดินเข้าไปทำงานในparkค่ะ รถจะมาส่งพวกเราข้างหน้า เพราะงั้นจะสายไม่ได้เลยค่ะ วิ่งหอบแห่กเลย อันนี้พี่ที่ทำงานด้วยกันแอบถ่ายไว้ค่ะ)

ในส่วนของทีม Asia เรารับผิดชอบ 2 ฐาน บวกกับอีก1พื้นที่ ที่เอาไว้คุยกับแขกและเล่นขิมโชว์แต่ไม่แจกbadgeค่ะ ในทีมก็จะมีคนจาก 3 ประเทศค่ะ มี ประเทศไทย, ประเทศอินโดนีเซีย และประเทศอินเดีย ประเทศละ 2-3 คน ทำงานผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป



รายได้ก็ได้รับค่าแรงเป็นชั่วโมงค่ะ ไม่มากไม่น้อย พอมีพอกิน พอใช้จ่ายค่าที่พักและอาหารและก็มีพอเหลือเก็บไว้ช้อปปิ้งและเป็นเงินไปท่องเที่ยวที่ต่างๆ เราทำงานอาทิตย์ละ5วัน อาจมีทำ6บ้างถ้าคนขาด เราก็จะได้ OT ค่ะ ตอนแรกนี่ดีใจมาก เห็นเงินแล้วมีแรงค่ะ พอทำงานนานๆไปสัก 6-7 เดือน แรงตก ขอวันหยุดดีกว่า  เราทำวันละ 8 ชม อาทิตย์ล่ะ 40 ชม  วันหยุดพวกเราส่วนมากก็เที่ยวเล่นตามสวนสนุกต่างๆ  เป็นพนักงานได้เข้าฟรีค่ะ  เข้าจนเบื่อกันไปข้าง หลังๆมาก็ขอนอนอยู่ห้อง ไม่ก็ไปเที่ยวที่อื่นค่ะ แอบหนีไปดื่ม butterbeer ที่ Universal บ่อยๆค่ะ อิอิ

เวลาเข้างานก็จะมีเป็นกะค่ะ 8.45-17.15/9.30-18.00/10.00-18.30/11.00-20.00 parkนี้ พระอาทิตย์ตกดินก็ปิดแล้วค่ะ เค้าอยากให้สัตว์ได้พักผ่อนค่ะ  park นี้ปิดเร็วสุดค่ะ ทำงานกับดิสนีย์ต้องตรงเวลาค่ะ มาช้าแม้แต่วินาทีเดียวก็โดนแต้มค่ะ มีแต้มเยอะๆก็จะโดนจดหมายเตือน เตือนหลายๆครั้งก็ไล่ออกค่ะ เชิญกลับบ้านคุณไม่ได้ไปต่อ อย่างเข้างาน 8.45 เราตื่นตั้งแต่6โมงครึ่ง ขึ้นรถ 7.23 เลทนิดก็ตกรถค่ะ นอกจากว่ารถจะเลท รถเลทไปถึงสายก็วิ่งหอบแห่ก ทุกอย่างคือความเสี่ยง 555 เราจะต้องไปสแกนบัตรเข้างานก่อนเวลาเข้างานเรียกว่า clock in ทำได้ 15 นาทีก่อนเข้างาน เวลาเลิกงานก็ต้อง clock out ได้ไม่เกิน 15 นาทีหลังหมดเวลางาน ไม่งั้นก็โดนแต้มค่ะ ทุกอย่างโดนแต้มสกัดหมด






หน้าที่หลักๆของพวกเราก็คือสอนและเผยแพร่วัฒนธรรมของชาตินั้นๆค่ะ เราจะจัดโต๊ะตามคนของประเทศนั้นๆ มีรูปภาพสิ่งของเกี่ยวกับประเทศนั้นๆไว้โชว์ค่ะ  เคยคิดไหมคะว่าประเทศสยามเมืองยิ้มอย่างเรานั้นดังเป็นพลุแตก ชาวต่างชาติทั่วโลกรู้จัก คุณคิดผิดค่ะ มีหลายครั้งที่พวกเราถูกเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคน จีน ส่วนใหญ่พอพูดถึง Asia เค้าก็จะนึกถึงประเทศจีนค่ะ และก็มีอีกหลายครั้งที่ประเทศไทยของเราถูกเข้าใจผิดว่าเป็นประเทศไต้หวัน (น้ำตาตกในมากค่ะ555)



แต่ก็ยังมีอีกหลายครั้งหลายหนที่ชาวต่างชาติเดินเข้ามาและบอกว่า ฉันรักประเทศของคุณ, ฉันรักคนไทย, เมืองไทยสวยมาก, หรือแม้แต่ ฉันชอบอาหารไทย  ส่วนใหญ่คนที่เคยไปแล้วก็อยากจะกลับมาเที่ยวอีก ส่วนคนที่ไม่เคยก็อยากจะมาเที่ยวดูสักครั้ง  ฝรั่งเด็กน้อยบางคนพอบอกว่าประเทศที่เรามานั้นอยู่อีกฝั่งโลกนะ ตรงข้ามกันพอดีเลย เค้าก็จะตกอกตกใจ วู้วว้าวกันใหญ่ บางทีก็แกล้งแหย่ว่าเรามาจากโลกอนาคต ตอนนี้ที่บ้านเป็นอีกวันแล้วนะ เป็นเช้าวันพรุ่งนี้แล้ว ก็โม้ไปค่ะ




นอกจากบอกเล่าเกี่ยวกับประเทศไทยแล้ว เราก็ยังได้มีโอกาสบอกเล่าเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทย, ประเพณีไทย หรือเทศกาลสำคัญต่างๆของไทย บางครั้งก็ได้สอนไหว้ สอนตั้งวงรำไทย หรือแม้แต่สอนคำศัพท์ภาษาไทยง่ายๆ เราจะมีบอร์ดตัวอักษรไทย เราก็จะให้พวกเค้าดูว่ามันเหมือนตัวอักษรของภาษาพวกเค้าหรือไม่ คุ้นไหม555 แน่นนอนค่ะ เด็กๆบอกว่า ก คือ A เพราะเป็นอักษรตัวแรก555 บางตรั้งก็สอนให้ลองออกเสียงตัวอักษร และเราก็ยังเขียนชื่อพวกเค้าเป็นภาษาไทยให้ด้วย เด็กบางคนรวมถึงผู้ใหญ่บางท่านถึงกับบอกว่าจะเอาไปทำรอยสักกันเลย555 ในช่วงวันสงกรานต์ก็จะมีโอกาสจัดงานเล็กๆและก็มีการแสดงเล็กๆน้อยๆ





จริงๆแล้วงานไม่หนักเลยค่ะ วันๆก็ยิ้มสวยเป็นนางงามรักเด็ก พูดเกี่ยวกับประเทศไทย แต่ต้องstrongค่ะ ต้องอึดถึกทน ต้องไม่กลัวแดดกลัวฝน สีทนได้แบบนั้นเลย ต้องมีพลังงานตลอดเวลา และก็ต้องมีพลังในการใช้เสียงมากๆ แขกที่มาเที่ยวมีน้อยบ้างมากบ้าง(ส่วนมากก็เยอะตล้อดดดด)ตามแต่ช่วงเวลาค่ะ บางวันหลังเลิกงาน ไม่มีเสียงเลยค่ะกลับบ้านก็ไม่อยากพูดคุยกับใคร หมดแรง555 ปัจจัยที่ทำให้เหนื่อยอีกอย่างก็คือ อากาศค่ะ ใครว่าอยู่เมืองนอกจะขาวขึ้น ไม่มี้ไม่มี อากาศที่ Florida เหมือนเมืองไทยเลยค่ะ ร้อนมาก แดดแรง เราทำงานข้างนอกค่ะ ต้องสู้แดดจะมากางร่มใส่โม่ง ฝรั่งจะมุงเอาค่ะ เค้าจะหาว่าเราประหลาด หาที่ร่มๆก็อาศัยย้ายโต๊ะรถเข็นหาที่หลบแดดเอากัน แดดเปรี้ยงๆอยู่ดีๆ ฝนอยากตกก็ตกค่ะ พวกเราจะต้องพกเสื้อกันฝนไว้ตลอดเวลา ตกทุกฤดูค่ะ ช่วงหน้าหนาวก็หนาวค่ะแต่ไม่ถึงหิมะตก หนาวลม หนาวเหมือนตามดอยทางภาคเหนือบ้านเรา บางวันนี่มี3ฤดู เช้าร้อนบ่ายฝนตกพอเย็นอากาศก็เริ่มเย็น เป็นหวัดเอาได้ง่ายๆค่ะ


นอกจากประสบการณ์ในการทำงานกับบริษัทใหญ่ยักษ์กับคนหลากหลายเชื้อชาติแล้ว เราก็ได้ประสบการณ์ในการใช้ชีวิตในต่างประเทศ การเอาตัวรอด การใช้ชีวิตกับเพื่อนต่างชาติและการท่องเที่ยวในอเมริกาค่ะ ทำงานเก็บเงินและก็ขอวันหยุดไปเที่ยว ไหนๆมาไกลขนาดนี้แล้วต้องเที่ยวค่ะ555
สิ่งหนึ่งที่สำคัญและมีคุณค่ากับเรามากคือมิตรภาพค่ะ (นางงามอีกแล้ววว) เราได้เพื่อนจากหลายๆชาติ มีเพื่อนมากจากทุกทวีปทั่วโลก และก็ได้แลกเปลี่ยนได้เรียนรู้วัฒนธรรมต่างชาติจากเพื่อนๆ ต่อไปนี้ไปเที่ยวที่ไหนก็จะได้มีที่พักค่ะ ล้อเล่น 555 อันนี้ผลพลอยได้นะคะ


การร่วมโครงการกับดิสนีย์สำหรับเราได้อะไรมากมายค่ะ และก็เป็นความฝันที่ทำสำเร็จ ดีใจมากที่ได้กลับไป
จากนี้คงต้องตั้งใจทำงานเก็บเงิน เผื่อที่วันหนึ่งจะได้มีโอกาสกลับไปอีกสักครั้ง




ถ่ายวันที่ทำงานวันสุดท้ายค่ะ เศร้า

เป็นการทำงานที่สุขใจมากค่ะ อยากจะทำงานที่นี่ตลอดไปเลยยยย


WALT DISNEY WORLD Where Dreams Come True



รูปทั้งหมดมีทั้งกล้องตัวเองและกล้องเพื่อนๆ ผลัดกันถ่าย ขอบคุณทุกรูปสำหรับความทรงจำดีๆค่ะ