เรางงมาก เพิ่งทะเลาะกับพ่อเรื่องเงินๆ ทองๆ อยากรู้พ่อแม่คนอื่นเป็นบ้างรึเปล่า
คือดูเหมือนพ่อจะไม่เคยพอใจอะไรในตัวลูกสักอย่าง ดีแต่ด่าๆๆๆ
เรากับสามีเงินเดือนรวมกันราวๆ 40K ส่งทั้งบ้านส่งทั้งรถ
ไหนจะส่งพ่อแม่ของแต่ละคนอีก ไหนจะหลานของเราอีก
เดือนนึงเราเหลือเงินใช้กันประมาณ 1 หมื่น ประหยัดทุกอย่าง ทำกับข้าวเองทุกมื้อ
เราไม่ใช้ของฟุ่มเฟือย ของแพงไม่เคยซื้อ ไม่ได้รักสวยรักงามก็ประหยัดได้เยอะ
พยายามแบ่งเก็บให้ได้เดือนละ 2-3 พัน บางทีไปทำงานเสริม ได้เงินมาเก็บเพิ่มบ้าง
เราก็อธิบายให้พ่อฟังว่าค่าใช้จ่ายเรามันเยอะ แต่พ่อก็ชอบทำเป็นไม่เข้าใจ แล้วก็ด่าว่าเราฟุ่มเฟือย
ใช้เงินมือเติบ กินหรู อยู่หรู กับข้าวมื้อล่ะเป็น 100 คือบอกตรงๆ เบื่อทะเลาะกับพ่อมาก
เขาอยากให้เรามีเงินเก็บเป็นล้านๆ เหมือนลูกคนอื่น เอาไปเปรียบกับคนที่เขาทำงานได้เป็นแสนๆ
พ่อไม่เคยออกไปจ่ายตลาด ไม่เคยรู้ว่าสมัยนี้ข้าวของมันแพงยังไง เงิน 100 สมัยนี้ กระดิกตัวก็หมดล่ะ
พอเราจะอธิบายก็หาว่าเราเถียง ก็บานปลายใหญ่โต คือชอบด่าสาดเสียเทเสีย เราก็ยิ่งเครียด
ก็เลยเลือกจะเงียบแล้วยอมรับผิดไป แล้วบอกว่าจะเก็บเพิ่มให้มากกว่านี้
แต่มันไม่จบไง มีโอกาสแกก็ชอบถาม ถามถี่ถามบ่อยจนเราเบื่อจะตอบ เพราะตอบก็ทะเลาะกันอีก
คือพ่อก็ยังไม่แก่นะ ยังไม่ 60 หรือมันเป็นอาการของวัยทอง พ่อแม่ใครเป็นบ้าง
แบบนี้เราควรทำยังไง นอกจากทำใจ เราควรรับมือเวลาพ่อถามถึงเงินเก็บยังไง
หรือต้องโกหกไปว่าเรามีเงินเก็บเยอะมาก ก็กลัวเขาจะขอดูบัญชีอีก โกหกก็ไม่ดีอีก
คือไม่เข้าใจ ทำไมพ่อต้องอยากรู้เงินในบัญชี อยากรู้เงินเก็บ อยากรู้สมบัติทุกๆ ชิ้นของลูก
พอมันมีไม่ได้มากอย่างที่ตัวเองหวังก็ด่าๆๆ กลายเป็นความผิดของลูก ลูกไม่มีอะไรให้ห่วงล่ะ เราเลี้ยงตัวเองได้
คือบางทีก็น้อยใจ เราปากกัดทรีนถีบสู้มาขนาดนี้แล้วไม่เคยรบกวนพ่อแม่เลย มีแต่ให้ๆๆก็ไม่พอใจอีก
บางทีโมโหอยากจะพูดแรงๆ ว่าทำไมพ่อไม่สร้างสมบัติไว้ให้ลูกบ้างล่ะ ก็พูดไม่ได้
เราเครียดน่ะ เหนื่อยใจ ช่วยหาทางออกให้เราที หรือพ่อเราป่วยกันแน่นะ โรคบ้าสมบัติมันมีรึเปล่า เห้อ
พ่อแม่ใครชอบถามเรื่องเงินและสมบัติของลูก พอไม่ได้มีมากดั่งหวังก็ชอบด่าลูกบ้าง
คือดูเหมือนพ่อจะไม่เคยพอใจอะไรในตัวลูกสักอย่าง ดีแต่ด่าๆๆๆ
เรากับสามีเงินเดือนรวมกันราวๆ 40K ส่งทั้งบ้านส่งทั้งรถ
ไหนจะส่งพ่อแม่ของแต่ละคนอีก ไหนจะหลานของเราอีก
เดือนนึงเราเหลือเงินใช้กันประมาณ 1 หมื่น ประหยัดทุกอย่าง ทำกับข้าวเองทุกมื้อ
เราไม่ใช้ของฟุ่มเฟือย ของแพงไม่เคยซื้อ ไม่ได้รักสวยรักงามก็ประหยัดได้เยอะ
พยายามแบ่งเก็บให้ได้เดือนละ 2-3 พัน บางทีไปทำงานเสริม ได้เงินมาเก็บเพิ่มบ้าง
เราก็อธิบายให้พ่อฟังว่าค่าใช้จ่ายเรามันเยอะ แต่พ่อก็ชอบทำเป็นไม่เข้าใจ แล้วก็ด่าว่าเราฟุ่มเฟือย
ใช้เงินมือเติบ กินหรู อยู่หรู กับข้าวมื้อล่ะเป็น 100 คือบอกตรงๆ เบื่อทะเลาะกับพ่อมาก
เขาอยากให้เรามีเงินเก็บเป็นล้านๆ เหมือนลูกคนอื่น เอาไปเปรียบกับคนที่เขาทำงานได้เป็นแสนๆ
พ่อไม่เคยออกไปจ่ายตลาด ไม่เคยรู้ว่าสมัยนี้ข้าวของมันแพงยังไง เงิน 100 สมัยนี้ กระดิกตัวก็หมดล่ะ
พอเราจะอธิบายก็หาว่าเราเถียง ก็บานปลายใหญ่โต คือชอบด่าสาดเสียเทเสีย เราก็ยิ่งเครียด
ก็เลยเลือกจะเงียบแล้วยอมรับผิดไป แล้วบอกว่าจะเก็บเพิ่มให้มากกว่านี้
แต่มันไม่จบไง มีโอกาสแกก็ชอบถาม ถามถี่ถามบ่อยจนเราเบื่อจะตอบ เพราะตอบก็ทะเลาะกันอีก
คือพ่อก็ยังไม่แก่นะ ยังไม่ 60 หรือมันเป็นอาการของวัยทอง พ่อแม่ใครเป็นบ้าง
แบบนี้เราควรทำยังไง นอกจากทำใจ เราควรรับมือเวลาพ่อถามถึงเงินเก็บยังไง
หรือต้องโกหกไปว่าเรามีเงินเก็บเยอะมาก ก็กลัวเขาจะขอดูบัญชีอีก โกหกก็ไม่ดีอีก
คือไม่เข้าใจ ทำไมพ่อต้องอยากรู้เงินในบัญชี อยากรู้เงินเก็บ อยากรู้สมบัติทุกๆ ชิ้นของลูก
พอมันมีไม่ได้มากอย่างที่ตัวเองหวังก็ด่าๆๆ กลายเป็นความผิดของลูก ลูกไม่มีอะไรให้ห่วงล่ะ เราเลี้ยงตัวเองได้
คือบางทีก็น้อยใจ เราปากกัดทรีนถีบสู้มาขนาดนี้แล้วไม่เคยรบกวนพ่อแม่เลย มีแต่ให้ๆๆก็ไม่พอใจอีก
บางทีโมโหอยากจะพูดแรงๆ ว่าทำไมพ่อไม่สร้างสมบัติไว้ให้ลูกบ้างล่ะ ก็พูดไม่ได้
เราเครียดน่ะ เหนื่อยใจ ช่วยหาทางออกให้เราที หรือพ่อเราป่วยกันแน่นะ โรคบ้าสมบัติมันมีรึเปล่า เห้อ