บทความนี้ชื่อ [ ‘ไฟล้างไฟ’ น้ำเน่าอย่างมีระดับ] เขียนโดย คุณพราวกระซิบ
ลงใน
http://www.isranews.org/isranews-article/item/43824-fai-lang-fai.html
เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 03 มกราคม 2559 เวลา 18:30 น.
..........................................................................
ทุกครั้งที่ทราบว่า ผลงานการประพันธ์ของนักเขียนรุ่นเดอะ ‘ทัศนีย์ คล้ายกัน’
หรือเจ้าของนามปากกา อาริตา, กันยามาส, นาวิกา, ทิพเกสร, ดาริกา, มณีบุษย์ หรือสุนันทา
ได้รับการผลิตเป็นละครโทรทัศน์ แฟน ๆ จะตั้งตารออย่างใจจดจ่อรับชม
ด้วยมั่นใจว่า เนื้อหาต้องสนุก เร้าอารมณ์ และชวนติดตาม ซึ่งทุกครั้งก็มิได้ทำให้ผิดหวัง
อย่างเรื่องล่าสุด ‘ไฟล้างไฟ’ ภายใต้นามปากกา ‘ทิพเกสร’
โด่งดังเป็นพลุแตกตั้งแต่นาทีแรกที่ออนแอร์ผ่านทางช่อง 3
และใกล้จะถึงบทสรุปของตัวละครแล้ว
แม้ระดับของกระแสที่ถูกพูดถึงจะไม่เทียบเท่า ‘สามีตีตรา’
อีกหนึ่งผลงานเขียน ภายใต้นามปากกา ‘นาวิกา’ ก็ตาม
จุดเด่นของนวนิยาย เรื่อง ไฟล้างไฟ อยู่ที่ความประณีตในการดำเนินเรื่องที่ละเอียด
แต่รวดเร็ว กระชับ ไม่ช้าเหมือนเต่า
และทุกประโยคที่สื่อสารผ่านตัวละครล้วนให้ข้อคิด เหตุและผล
ทำให้เมื่อนำมาผลิตเป็นละครแล้ว สื่อสารได้ง่าย
ดำเนินเรื่องน่าติดตาม ดนตรีประกอบชวนตื่นเต้น
จึงต้องชื่นชมผู้เขียนบทโทรทัศน์ ที่มีส่วนสำคัญอย่างมาก
แม้จะมีฉากปะทะคารมกันบ่อยครั้งก็ตามที
และอาจทำให้หลายคนไม่เห็นด้วยที่ปล่อยให้มีฉากเช่นนี้
แต่พินิจให้ดีจะทำให้เราเข้าใจและรับรู้ได้ว่า
ฉากเหล่านั้นจะช่วยสอนผู้ชมให้เข้าใจ ตระหนัก และป้องกัน
ว่าสถาบันครอบครัว มีความสำคัญมากเพียงใด
ซึ่งน่าจะเป็นแก่นของเรื่องที่สัมผัสได้จากละครเรื่องนี้
ดังนั้นตัวละครจึงมุ่งมั่นจะให้ตนเองเป็นผู้ชนะ เพื่อหวังให้ครอบครัวมีความสุข
‘ลีลา’ รับบทโดย ภีรนีย์ คงไทย จึงทำทุกวิถีทาง
เพื่อล้างแค้น และทวงคืนทุกอย่างกลับมาให้พ่อของตนเอง
โดยหารู้ไม่ว่า กำลังถูกหลอกใช้เป็นเครื่องมือสนองความโลภ
ขณะที่ ‘นรุตม์’ รับบทโดย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์
ก็ทำทุกวิถีทางเช่นกันไม่ให้ครอบครัวถูกทำลายจากหญิงสาวผู้นี้
‘ศิรินธาร’ รับบทโดย พิชชาภา พันธุมจินดา
ลูกสาวเอาแต่ใจของครอบครัวเดชาเลิศรัตน์ คู่กรณีของลีลา
เป็นอีกหนึ่งตัวละคร ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ครอบครัวของเธอมีความสุข
ถึงแม้ต้องเสียเงินให้ ‘หาญกล้า’ รับบทโดย โกสินทร์ ราชกรม
สามีตกถังข้าวสารสักกี่หมื่นชั่งก็ตาม แต่เพื่อให้ชีวิตสมบูรณ์แบบก็พร้อมทุ่มเท
หรือต่อให้รวยล้นฟ้า อยู่กินกันมานานอย่าง ‘คุณศิริ’ และ ‘คุณกัลยา’
รับบทโดย เกรียงไกร อุณหะนันทน์ และดวงตา ตุงคะมณี
ก็ต้องมีเรื่องให้เดือดร้อนใจร่ำไป โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง
นั่นแสดงให้เห็นว่าการสร้างครอบครัวให้ดีและมั่นคงนั้น
ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ที่ใครจะเสกสรรปั้นแต่งได้
แต่ทุกคนต่างพยายามประคับประคองชีวิตให้เป็นเช่นนั้น
แม้จะต้องแลกหรือเสียบางสิ่งบางอย่างไป
ดังเช่นในบางช่วง ‘ลีลา’ ยอมเสียความรักที่มีต่อ ‘นรุตม์’
เพื่ออยากเห็นความพังพินาศ ย่อยยับ ของครอบครัวเดชาเลิศรัตน์
ทั้งนี้ แม้ไฟล้างไฟจะแสบแซ่บมากเพียงใด
ไม่อยากให้ผู้ชมสัมผัสได้เพียงรูปลักษณ์หรือรสชาติเท่านั้น
แต่อยากให้สัมผัสได้ถึงสารอาหารที่อยู่ภายในเนื้อเรื่องด้วย
ซึ่งเปี่ยมล้นไปด้วยแง่คิด ตัวอย่างการครองชีวิต ครองเรือน ครองใจ
ที่ควรและไม่ควรยึดถือเป็นแบบอย่าง
แม้ ‘น้ำเน่า’ แต่น้ำที่เน่าเหม็นนี้ ย่อมมีแสงสว่างปรากฎอยู่บนผิว ‘น้ำเน่า’ เสมอ
ขึ้นอยู่กับว่าใครจะมองเห็นมากกว่า
จึงค้านสุด ๆ บรรดาพวก ‘โลกสวย’ วิพากษ์วิจารณ์ทุกครั้งที่มีละครประเภทนี้
หากปิดกั้นทุกประตู ปิดหูปิดตา แล้ว สังคมจะเรียนรู้ถูกผิดได้อย่างไร
ฉะนั้น ชมละครให้เป็นศิลปะ แล้วจะได้ข้อคิด
เหมือน ‘ไฟล้างไฟ’ ขณะนี้ ที่น้ำเน่าอย่างมีระดับ
(คุณพราวกระซิบ เขียนจบตรงนี้)
................................................................
ส่วนตัวแล้ว panda ไม่ชอบคำว่า "น้ำเน่า" เลย
หลายคนเข้าใจ หรือมักเหมารวมเอาว่าเรื่องผัวเมีย ชิงรักหักสวาท คือเรื่องน้ำเน่า
ที่จริงวัตถุดิบทำนองนี้
ถ้าปรุง ผลิต เขียนบท นำเสนอ อย่างมีศิลปะ ประณีต ชวนติดตาม
ให้ความบันเทิง ให้สาระ ข้อคิด
สำหรับคนที่ชื่นชอบ และเข้าถึงแล้ว มันย่อมจะเป็นน้ำอบ น้ำหอม เสียมากกว่า
แต่รสนิยมของผู้ดู ผู้ชม ก็แตกต่างกัน นานาจิตตังนะครับ
บางคนชอบจืด บางคนชอบเผ็ด
ใครชอบก็ดู
ถ้าไม่ชอบ ก็ไปดูอันที่ชอบละกันนะ
...................................................
ดูเหมือนว่าละครดัดแปลงไปจากนิยายเดิมมากโขอยู่
(เป็นเรื่องธรรมดาของการทำละครยุคนี้)
ใครที่อ่านนิยายแล้ว ดูละครแล้ว
มาบอกเล่าเปรียบเทียบสู่กันฟัง ก็น่าจะดี
‘ไฟล้างไฟ’ น้ำเน่า (?) อย่างมีระดับ
ลงใน http://www.isranews.org/isranews-article/item/43824-fai-lang-fai.html
เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 03 มกราคม 2559 เวลา 18:30 น.
..........................................................................
ทุกครั้งที่ทราบว่า ผลงานการประพันธ์ของนักเขียนรุ่นเดอะ ‘ทัศนีย์ คล้ายกัน’
หรือเจ้าของนามปากกา อาริตา, กันยามาส, นาวิกา, ทิพเกสร, ดาริกา, มณีบุษย์ หรือสุนันทา
ได้รับการผลิตเป็นละครโทรทัศน์ แฟน ๆ จะตั้งตารออย่างใจจดจ่อรับชม
ด้วยมั่นใจว่า เนื้อหาต้องสนุก เร้าอารมณ์ และชวนติดตาม ซึ่งทุกครั้งก็มิได้ทำให้ผิดหวัง
อย่างเรื่องล่าสุด ‘ไฟล้างไฟ’ ภายใต้นามปากกา ‘ทิพเกสร’
โด่งดังเป็นพลุแตกตั้งแต่นาทีแรกที่ออนแอร์ผ่านทางช่อง 3
และใกล้จะถึงบทสรุปของตัวละครแล้ว
แม้ระดับของกระแสที่ถูกพูดถึงจะไม่เทียบเท่า ‘สามีตีตรา’
อีกหนึ่งผลงานเขียน ภายใต้นามปากกา ‘นาวิกา’ ก็ตาม
จุดเด่นของนวนิยาย เรื่อง ไฟล้างไฟ อยู่ที่ความประณีตในการดำเนินเรื่องที่ละเอียด
แต่รวดเร็ว กระชับ ไม่ช้าเหมือนเต่า
และทุกประโยคที่สื่อสารผ่านตัวละครล้วนให้ข้อคิด เหตุและผล
ทำให้เมื่อนำมาผลิตเป็นละครแล้ว สื่อสารได้ง่าย
ดำเนินเรื่องน่าติดตาม ดนตรีประกอบชวนตื่นเต้น
จึงต้องชื่นชมผู้เขียนบทโทรทัศน์ ที่มีส่วนสำคัญอย่างมาก
แม้จะมีฉากปะทะคารมกันบ่อยครั้งก็ตามที
และอาจทำให้หลายคนไม่เห็นด้วยที่ปล่อยให้มีฉากเช่นนี้
แต่พินิจให้ดีจะทำให้เราเข้าใจและรับรู้ได้ว่า
ฉากเหล่านั้นจะช่วยสอนผู้ชมให้เข้าใจ ตระหนัก และป้องกัน
ว่าสถาบันครอบครัว มีความสำคัญมากเพียงใด
ซึ่งน่าจะเป็นแก่นของเรื่องที่สัมผัสได้จากละครเรื่องนี้
ดังนั้นตัวละครจึงมุ่งมั่นจะให้ตนเองเป็นผู้ชนะ เพื่อหวังให้ครอบครัวมีความสุข
‘ลีลา’ รับบทโดย ภีรนีย์ คงไทย จึงทำทุกวิถีทาง
เพื่อล้างแค้น และทวงคืนทุกอย่างกลับมาให้พ่อของตนเอง
โดยหารู้ไม่ว่า กำลังถูกหลอกใช้เป็นเครื่องมือสนองความโลภ
ขณะที่ ‘นรุตม์’ รับบทโดย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์
ก็ทำทุกวิถีทางเช่นกันไม่ให้ครอบครัวถูกทำลายจากหญิงสาวผู้นี้
‘ศิรินธาร’ รับบทโดย พิชชาภา พันธุมจินดา
ลูกสาวเอาแต่ใจของครอบครัวเดชาเลิศรัตน์ คู่กรณีของลีลา
เป็นอีกหนึ่งตัวละคร ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ครอบครัวของเธอมีความสุข
ถึงแม้ต้องเสียเงินให้ ‘หาญกล้า’ รับบทโดย โกสินทร์ ราชกรม
สามีตกถังข้าวสารสักกี่หมื่นชั่งก็ตาม แต่เพื่อให้ชีวิตสมบูรณ์แบบก็พร้อมทุ่มเท
หรือต่อให้รวยล้นฟ้า อยู่กินกันมานานอย่าง ‘คุณศิริ’ และ ‘คุณกัลยา’
รับบทโดย เกรียงไกร อุณหะนันทน์ และดวงตา ตุงคะมณี
ก็ต้องมีเรื่องให้เดือดร้อนใจร่ำไป โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง
นั่นแสดงให้เห็นว่าการสร้างครอบครัวให้ดีและมั่นคงนั้น
ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ที่ใครจะเสกสรรปั้นแต่งได้
แต่ทุกคนต่างพยายามประคับประคองชีวิตให้เป็นเช่นนั้น
แม้จะต้องแลกหรือเสียบางสิ่งบางอย่างไป
ดังเช่นในบางช่วง ‘ลีลา’ ยอมเสียความรักที่มีต่อ ‘นรุตม์’
เพื่ออยากเห็นความพังพินาศ ย่อยยับ ของครอบครัวเดชาเลิศรัตน์
ทั้งนี้ แม้ไฟล้างไฟจะแสบแซ่บมากเพียงใด
ไม่อยากให้ผู้ชมสัมผัสได้เพียงรูปลักษณ์หรือรสชาติเท่านั้น
แต่อยากให้สัมผัสได้ถึงสารอาหารที่อยู่ภายในเนื้อเรื่องด้วย
ซึ่งเปี่ยมล้นไปด้วยแง่คิด ตัวอย่างการครองชีวิต ครองเรือน ครองใจ
ที่ควรและไม่ควรยึดถือเป็นแบบอย่าง
แม้ ‘น้ำเน่า’ แต่น้ำที่เน่าเหม็นนี้ ย่อมมีแสงสว่างปรากฎอยู่บนผิว ‘น้ำเน่า’ เสมอ
ขึ้นอยู่กับว่าใครจะมองเห็นมากกว่า
จึงค้านสุด ๆ บรรดาพวก ‘โลกสวย’ วิพากษ์วิจารณ์ทุกครั้งที่มีละครประเภทนี้
หากปิดกั้นทุกประตู ปิดหูปิดตา แล้ว สังคมจะเรียนรู้ถูกผิดได้อย่างไร
ฉะนั้น ชมละครให้เป็นศิลปะ แล้วจะได้ข้อคิด
เหมือน ‘ไฟล้างไฟ’ ขณะนี้ ที่น้ำเน่าอย่างมีระดับ
(คุณพราวกระซิบ เขียนจบตรงนี้)
................................................................
ส่วนตัวแล้ว panda ไม่ชอบคำว่า "น้ำเน่า" เลย
หลายคนเข้าใจ หรือมักเหมารวมเอาว่าเรื่องผัวเมีย ชิงรักหักสวาท คือเรื่องน้ำเน่า
ที่จริงวัตถุดิบทำนองนี้
ถ้าปรุง ผลิต เขียนบท นำเสนอ อย่างมีศิลปะ ประณีต ชวนติดตาม
ให้ความบันเทิง ให้สาระ ข้อคิด
สำหรับคนที่ชื่นชอบ และเข้าถึงแล้ว มันย่อมจะเป็นน้ำอบ น้ำหอม เสียมากกว่า
แต่รสนิยมของผู้ดู ผู้ชม ก็แตกต่างกัน นานาจิตตังนะครับ
บางคนชอบจืด บางคนชอบเผ็ด
ใครชอบก็ดู
ถ้าไม่ชอบ ก็ไปดูอันที่ชอบละกันนะ
...................................................
ดูเหมือนว่าละครดัดแปลงไปจากนิยายเดิมมากโขอยู่
(เป็นเรื่องธรรมดาของการทำละครยุคนี้)
ใครที่อ่านนิยายแล้ว ดูละครแล้ว
มาบอกเล่าเปรียบเทียบสู่กันฟัง ก็น่าจะดี