เหตุผลที่นักพัฒนาเลือกทำแอพฯ ลง iOS มากกว่า Android
ถือว่าเป็นความจริงที่น่าเศร้าสำหรับผู้ใช้ Android เมื่อเหล่าบรรดาแอพฯ ดีๆ ที่ทำออกมานั้นมักจะปล่อยให้ผู้ใช้งานระบบ iOS ใช้ก่อนเสมอๆ (มีเพียงบางแอพฯ และบางฟีเจอร์ในแอพฯ จะทดสอบบนหุ่นเขียวก่อนเท่านั้น และแอพฯ เหล่านั้นส่วนมากก็เป็นของ Google ซะเอง) โดยทาง The Next Web ก็ได้ไปสอบถามความคิดเห็นของผู้พัฒนาแอพฯ จาก 5 สำนักมาเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา
โดยบางส่วนในการสัมภาษณ์ได้บอกเอาไว้ดังนี้
‘ผมเชื่อว่าถ้าเป็นไปได้ผู้คนส่วนใหญ่อยากมี iPhone ไว้ใช้มากกว่า Android นะ เพราะว่าที่สุดแล้วคุณก็ต้องการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเองอยู่ดี ยิ่งถ้าหากเป็นกลุ่มวัยรุ่นอายุ 20 ต้นๆ ยิ่งเป็นเรื่องที่สำคัญในโลกโซเชียลและการยอมรับในสังคมเลยทีเดียว เพราะถ้าหากคุณมี iPhone 6 Plus สีทองอยู่นี่หยั่งกับคุณถือกระเป๋า Prada หรือขับ BMW อยู่หยั่งไงอย่างงั้นเลยแหละ’
‘แต่ใช่ว่าผมจะคุยกับแต่เหล่า Apple’s fanboys นะ ผมได้พูดคุยกับเด็กวัยรุ่นที่ใช้ Android อยู่เหมือนกัน ซึ่งเอาเข้าจริงๆ แล้วพวกเขาเหล่านี้ก็อยากได้ iPhone สักเครื่องอยู่ดี แต่ที่ต้องใช้ Android นั่นก็เพราะว่ามันมีราคาถูกกว่ามากนั่นเอง แต่พอได้ใช้จริงๆ แล้วพวกเขากลับหงุดหงิดกับความช้าในการประมวลผลเวลาที่เปิดใช้งานแอพฯ อยู่ดี ซึ่งการที่ผมเลือกทำแอพฯ ลง iOS นั่นก็เพราะว่าเราเห็นถึงรสนิยมและกำลังซื้อของลูกค้าแม้ว่าจะมีจำนวนผู้ใช้น้อยกว่า Android ก็ตาม’
บทวิเคราะห์ว่าทำไมนักพัฒนาเลือกทำแอพฯ ลง IOS มากกว่า ANDROID โดยผู้เขียน
1.การพัฒนาแอพฯ สำหรับ iOS นั้นใช้เวลาและต้นทุนในการทำน้อยกว่า Android เนื่องจากอุปกรณ์ที่ใช้ iOS มีเพียงไม่กี่รุ่น (iPad, iPod, iPhone รวมๆ กันแล้วยังไม่ถึง 50 รุ่น และรุ่นที่นิยมที่ใช้กันมีเพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้น) ซึ่งหากมีการอัพเดทเวอร์ชั่นก็สามารถทำได้อย่างง่ายๆ ผิดกับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบ Android นั้นมีหลากหลายยี่ห้อ หลายขนาดหน้าจอ และยังใช้งานอยู่ในอีกหลายเวอร์ชั่น และยังไม่สามารถอัพเดทเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดทุกรุ่น ซึ่งเวอร์ชั่นเก่าๆ นั้นจะมีปัญหาตามมาอีกมาก ทำให้นักพัฒนาต้องเสียเวลาในการแก้ bug ที่เกิดขึ้นต่างกันไปตามแต่ละรยี่ห้องซึ่งใช้ฮาร์ดแวร์ไม่เหมือนกัน นอกจากนั้นยังต้องทำให้ซัพพอร์ตหลายขนาดหน้าจออีกมาก จึงเป็นเหตุผลที่ออกให้ iOS ได้ใช้ก่อนนั่นเอง
2.โดยทั่วไปแล้วในการใช้ “แอพฯเถื่อน” บน iOS นั้นทำได้ยากกว่า Android (แต่ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้ แต่มีการอัพเดทเพื่อป้องกันมาเรื่อยๆ นั่นเอง) ทำให้ผู้ใช้ Apple ขี้เกียจดัดแปลงเครื่องบ่อยๆ จำเป็นต้องซื้อแอพฯ ลิขสิทธิ์ เพื่อความง่ายดายของชีวิต
3.ในส่วนของกำลังซื้อแอพฯ บน Store ระหว่าง App Store และ Play Store นั้น ทาง iOS มีกำลังซื้อมากกว่า ซึ่งทำให้ได้เปรียบกว่า Android ในการหาเงินของผู้พัฒนาและ Apple ยังจ่ายให้นักพัฒนามากกว่านั่นเองครับ (คุ้มกว่า)
4.ผู้พัฒนาคิดว่าการทำแอพฯ บน iOS ก่อน สามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้มากกว่า Android (bug เยอะอาจทำให้ผู้ใช้เสียความรู้สึกที่ดีเมื่อใช้งานได้)
5.เส้นทางสำหรับนักพัฒนาแอพฯ ในอนาคตยังดูสดใส เพราะทาง iOS ยังออกบริการต่างๆ ที่ดูเหมือนผู้พัฒนาจะได้ประโยชน์มากขึ้น
ที่มา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://jimmysoftwareblog.com/node/3277
(ดราม่า) เหตุผลที่นักพัฒนาเลือกทำแอพฯ ลง iOS มากกว่า Android
ถือว่าเป็นความจริงที่น่าเศร้าสำหรับผู้ใช้ Android เมื่อเหล่าบรรดาแอพฯ ดีๆ ที่ทำออกมานั้นมักจะปล่อยให้ผู้ใช้งานระบบ iOS ใช้ก่อนเสมอๆ (มีเพียงบางแอพฯ และบางฟีเจอร์ในแอพฯ จะทดสอบบนหุ่นเขียวก่อนเท่านั้น และแอพฯ เหล่านั้นส่วนมากก็เป็นของ Google ซะเอง) โดยทาง The Next Web ก็ได้ไปสอบถามความคิดเห็นของผู้พัฒนาแอพฯ จาก 5 สำนักมาเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา โดยบางส่วนในการสัมภาษณ์ได้บอกเอาไว้ดังนี้
‘ผมเชื่อว่าถ้าเป็นไปได้ผู้คนส่วนใหญ่อยากมี iPhone ไว้ใช้มากกว่า Android นะ เพราะว่าที่สุดแล้วคุณก็ต้องการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเองอยู่ดี ยิ่งถ้าหากเป็นกลุ่มวัยรุ่นอายุ 20 ต้นๆ ยิ่งเป็นเรื่องที่สำคัญในโลกโซเชียลและการยอมรับในสังคมเลยทีเดียว เพราะถ้าหากคุณมี iPhone 6 Plus สีทองอยู่นี่หยั่งกับคุณถือกระเป๋า Prada หรือขับ BMW อยู่หยั่งไงอย่างงั้นเลยแหละ’
‘แต่ใช่ว่าผมจะคุยกับแต่เหล่า Apple’s fanboys นะ ผมได้พูดคุยกับเด็กวัยรุ่นที่ใช้ Android อยู่เหมือนกัน ซึ่งเอาเข้าจริงๆ แล้วพวกเขาเหล่านี้ก็อยากได้ iPhone สักเครื่องอยู่ดี แต่ที่ต้องใช้ Android นั่นก็เพราะว่ามันมีราคาถูกกว่ามากนั่นเอง แต่พอได้ใช้จริงๆ แล้วพวกเขากลับหงุดหงิดกับความช้าในการประมวลผลเวลาที่เปิดใช้งานแอพฯ อยู่ดี ซึ่งการที่ผมเลือกทำแอพฯ ลง iOS นั่นก็เพราะว่าเราเห็นถึงรสนิยมและกำลังซื้อของลูกค้าแม้ว่าจะมีจำนวนผู้ใช้น้อยกว่า Android ก็ตาม’
1.การพัฒนาแอพฯ สำหรับ iOS นั้นใช้เวลาและต้นทุนในการทำน้อยกว่า Android เนื่องจากอุปกรณ์ที่ใช้ iOS มีเพียงไม่กี่รุ่น (iPad, iPod, iPhone รวมๆ กันแล้วยังไม่ถึง 50 รุ่น และรุ่นที่นิยมที่ใช้กันมีเพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้น) ซึ่งหากมีการอัพเดทเวอร์ชั่นก็สามารถทำได้อย่างง่ายๆ ผิดกับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบ Android นั้นมีหลากหลายยี่ห้อ หลายขนาดหน้าจอ และยังใช้งานอยู่ในอีกหลายเวอร์ชั่น และยังไม่สามารถอัพเดทเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดทุกรุ่น ซึ่งเวอร์ชั่นเก่าๆ นั้นจะมีปัญหาตามมาอีกมาก ทำให้นักพัฒนาต้องเสียเวลาในการแก้ bug ที่เกิดขึ้นต่างกันไปตามแต่ละรยี่ห้องซึ่งใช้ฮาร์ดแวร์ไม่เหมือนกัน นอกจากนั้นยังต้องทำให้ซัพพอร์ตหลายขนาดหน้าจออีกมาก จึงเป็นเหตุผลที่ออกให้ iOS ได้ใช้ก่อนนั่นเอง
2.โดยทั่วไปแล้วในการใช้ “แอพฯเถื่อน” บน iOS นั้นทำได้ยากกว่า Android (แต่ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้ แต่มีการอัพเดทเพื่อป้องกันมาเรื่อยๆ นั่นเอง) ทำให้ผู้ใช้ Apple ขี้เกียจดัดแปลงเครื่องบ่อยๆ จำเป็นต้องซื้อแอพฯ ลิขสิทธิ์ เพื่อความง่ายดายของชีวิต
3.ในส่วนของกำลังซื้อแอพฯ บน Store ระหว่าง App Store และ Play Store นั้น ทาง iOS มีกำลังซื้อมากกว่า ซึ่งทำให้ได้เปรียบกว่า Android ในการหาเงินของผู้พัฒนาและ Apple ยังจ่ายให้นักพัฒนามากกว่านั่นเองครับ (คุ้มกว่า)
4.ผู้พัฒนาคิดว่าการทำแอพฯ บน iOS ก่อน สามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้มากกว่า Android (bug เยอะอาจทำให้ผู้ใช้เสียความรู้สึกที่ดีเมื่อใช้งานได้)
5.เส้นทางสำหรับนักพัฒนาแอพฯ ในอนาคตยังดูสดใส เพราะทาง iOS ยังออกบริการต่างๆ ที่ดูเหมือนผู้พัฒนาจะได้ประโยชน์มากขึ้น
ที่มา [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้