ประสบการณ์ในการเรียนภาษาสำหรับผู้ย้ายถิ่นฐาน Permanent resident (PR)
มีหลายหน่วยงานของรัฐและเอกชนที่เปิดโอกาสให้ผู้มาใหม่ (Newcomers) ได้เรียนภาษาที่ 2 ฟรี (ระดับ intermediates level 8 ส่วนระดับ Advance level 9+ ต้องเสียตั้งค์)
สิ่งแรกที่ต้องทำ ต้องไปลงทะเบียนทดสอบประเมินผลด้านภาษา จะลงทะเบียนโดยตรงกับสถาบันทดสอบภาษา หรือสถานศึกษาที่เราไปติดต่อที่จะเรียนก็ได้ เขาจะลงทะเบียนให้ก็ได้
สำหรับผมเข้าไปติดต่อที่สถาบันการศึกษาก่อน แล้วเขาลงทะเบียนให้ครับ
นำใบแจ้งผลการประเมินฯ เพื่อที่จะเข้าเรียน มีที่ว่างจะได้เรียนเลยถ้าโรงเรียนเปิดเรียนไปแล้วไม่นาน หรืออาจจะต้องรอภาคเรียนต่อไป
สำหรับผมเปิดเรียนไปแล้ว 3 สัปดาห์ทางโรงเรียนจัดให้เข้าเรียนเลยเฉพาะภาคบ่าย เนื่องจากมีที่ว่าง ไม่ต้องเรียนย้อนหลัง ในห้องมี 15 คน ชาวอีรัก 8 คน ฮังการี 1 คน เนปาล 2 คน คองโก 2 โคลัมเบีย 1 ไทย 1
กิจกรรมในห้องเรียน ฟังเทปแล้วเติมคำในช่องว่าง
ยากขึ้นไปอีกก็ ฟังเทป/ดูวีดีโอ แล้วตอบคำถาม,เล่นเกมส์บ้าง
ดูหนัง ฟังเพลงบ้าง แต่ไม่ใช่ดูเชยๆ น่ะครับ ดูแล้วตอบคำถาม ทำงานกลุ่ม
การบ้านมีเกือบทุกวัน แต่เป็นการให้เตรียมข้อมูล เพื่อที่เรียนในวันถัดไป เพราะอาจารย์จะสอบถามเรารายบุคคลเวลาเรียน
ช่วงที่ผมเรียนมีการ Presentation 3 ครั้ง คือ เรื่องเกี่ยวกับ นักศิลปิน (จับฉลากนักศิลปินเพื่อค้นคว้า), การทำรายการอาหารต้องทำเอง (เลือกเอง) มีรูปภาพของตัวขณะทำอาหาร , นัก/วงดนตรีและทำการสอนจากเนื้อหาของเพลง(จับฉลากนักดนตรี) ต้องทำรายงาน แล้วออกไป present หน้าห้อง อาจารย์จะกำหนดหัวข้อให้ แต่ละหัวข้อจะต้องประกอบเนื้อหาอะไรบ้าง อะไรที่แสดงในสไลด์ได้ อะไรต้องพูดเองขยายเนื้อหาในสไลด์ เวลาออกไปรายงานอาจารย์จะมีการ Checklist ให้คะแนน คำศัพท์ถูดต้อง การใช้ Tenses จังหวะการพูด ตรงเนื้อหาตามที่กำหนดไหม
เวลาออกไปรายงานใครก่อนหลัง ก็จับฉลาก
ตลอดระยะเวลาที่เข้าเรียน 2 เดือนครึ่ง(จันทร์ –พฤหัส) เจอเหตุการณ์อะไรบ้าง
- มีการฝึกซ้อมหนี่ไฟ 3 ครั้ง กม.บังคับให้โรงเรียนจะต้องฝึกซ้อมหนีไฟทุกเดือน
- ได้รับอบรมเกี่ยวกับการแจ้งหน่วย 911 หน่วยงานดับเพลิง ความรู้เกี่ยวไฟไหม้ และการติดต่อกับหน่วยตำรวจ ทุกคนต้องเข้ารับการฟังการบรรยาย
- ได้อบรมสำหรับผู้ที่สัมผัสฤดูหนาวครั้งแรกในแคนาดา เขาจะสอนวิธีการดำรงชีวิตในช่วงดูหนาว การใส่เสื้อผ้า หิมะกัดอาการแบบไหน ซื้อเสื้อผ้ากันหนาวที่ไหนในราคาสมเหตุผล ปีนี้มีผู้เข้ารับการอยู่ประมาณ 25 คนซึ่งเป็นผู้มาใหม่ในปีนี้ส่วนมากเป็นนักเรียนที่อยู่ในระดับ 1-3 และส่วนมากพูดภาษาสเปน เขาเลยจัดให้มีล่ามแปลภาษาสเปนให้ ส่วนในห้องผมมี 2 คนที่มาใหม่ไม่ต้องใช้ล่าม
- ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ฟรี(ที่ห้องไปรับบริการแค่ 2 คน)
- จัดงานเลี้ยงวันคริสมาสฟรี เป็นการจัดเลี้ยงทั้งหน่วยงานและนักเรียนทุกชั้นเข้าร่วม
สิ่งที่ประทับใจ
- ที่นี่มีการเลี้ยงเด็กเล็ก(กำหนดอายุระหว่าง19เดือน ถึง 6 ปี) ให้ฟรี สำหรับแม่ที่มาเรียนหนังสือ
- มีไมโครเวฟ 3 เครื่องไว้อุ่นอาหารทานได้
- เวลารายงานหน้าชั้น สามารถใช้งาน ออนไลน์ได้เลย
สิ่งไม่ค่อยประทับใจ
- มีความรู้สึกเหมือนอาจารย์ไม่ค่อยเป็นกันเองสักเท่าไหร่ มีการลำเอียงนิดๆ
- การให้อิสระนักเรียนมากเกินไป อย่างเช่น การ presentation นักเรียนไม่ต้องทำก็ได้ (ไม่ได้คะแนนน่ะ)
- ตัดคะแนนสูงเกินไปต้องผ่าน 80%
- ต้องมีเวลาเรียนอย่างต่ำ 80%
- ถ้าอาจารย์มีการประชุมหรืออบรม โรงเรียนจะปิดเลย (เจอไป 3 ครั้งที่ต้องปิด)
- ในความเห็นส่วนตัว ควรเริ่มเรียนในระดับที่ต่ำก่อนและเรียนไปพร้อมๆกัน คือ ทั้ง พูด ฟัง อ่าน เขียน พร้อมกันเลย ไม่ใช่แยกอ่านเขียนและฟังพูดคนละชั้นกัน ทำให้ไม่ประสานต่อเนื่องกัน ผมก็เจอ เรียน L/S ระดับ 6 R/W=5 คนละชั้น คนละอาจารย์ ผมได้ปรึกษากับอาจารย์และผู้บริหารแล้ว ว่าขอเรียนในระดับ 5 ทั้งหมด เพราะเรียนระดับ 6(CLB6) เรียนไม่ทันเขา(ฟังไม่ทันเร็วมาก) เขาบอกว่าไม่ต้องกังวลเดียวก็เรียนทันเพื่อนๆ เอง และเขาต้องทำตามกฎระเบียบของโรงเรียน
ประสบการณ์ในการเรียนภาษาสำหรับผู้ย้ายถิ่นฐาน Permanent resident (PR)
มีหลายหน่วยงานของรัฐและเอกชนที่เปิดโอกาสให้ผู้มาใหม่ (Newcomers) ได้เรียนภาษาที่ 2 ฟรี (ระดับ intermediates level 8 ส่วนระดับ Advance level 9+ ต้องเสียตั้งค์)
สิ่งแรกที่ต้องทำ ต้องไปลงทะเบียนทดสอบประเมินผลด้านภาษา จะลงทะเบียนโดยตรงกับสถาบันทดสอบภาษา หรือสถานศึกษาที่เราไปติดต่อที่จะเรียนก็ได้ เขาจะลงทะเบียนให้ก็ได้
สำหรับผมเข้าไปติดต่อที่สถาบันการศึกษาก่อน แล้วเขาลงทะเบียนให้ครับ
นำใบแจ้งผลการประเมินฯ เพื่อที่จะเข้าเรียน มีที่ว่างจะได้เรียนเลยถ้าโรงเรียนเปิดเรียนไปแล้วไม่นาน หรืออาจจะต้องรอภาคเรียนต่อไป
สำหรับผมเปิดเรียนไปแล้ว 3 สัปดาห์ทางโรงเรียนจัดให้เข้าเรียนเลยเฉพาะภาคบ่าย เนื่องจากมีที่ว่าง ไม่ต้องเรียนย้อนหลัง ในห้องมี 15 คน ชาวอีรัก 8 คน ฮังการี 1 คน เนปาล 2 คน คองโก 2 โคลัมเบีย 1 ไทย 1
กิจกรรมในห้องเรียน ฟังเทปแล้วเติมคำในช่องว่าง
ยากขึ้นไปอีกก็ ฟังเทป/ดูวีดีโอ แล้วตอบคำถาม,เล่นเกมส์บ้าง
ดูหนัง ฟังเพลงบ้าง แต่ไม่ใช่ดูเชยๆ น่ะครับ ดูแล้วตอบคำถาม ทำงานกลุ่ม
การบ้านมีเกือบทุกวัน แต่เป็นการให้เตรียมข้อมูล เพื่อที่เรียนในวันถัดไป เพราะอาจารย์จะสอบถามเรารายบุคคลเวลาเรียน
ช่วงที่ผมเรียนมีการ Presentation 3 ครั้ง คือ เรื่องเกี่ยวกับ นักศิลปิน (จับฉลากนักศิลปินเพื่อค้นคว้า), การทำรายการอาหารต้องทำเอง (เลือกเอง) มีรูปภาพของตัวขณะทำอาหาร , นัก/วงดนตรีและทำการสอนจากเนื้อหาของเพลง(จับฉลากนักดนตรี) ต้องทำรายงาน แล้วออกไป present หน้าห้อง อาจารย์จะกำหนดหัวข้อให้ แต่ละหัวข้อจะต้องประกอบเนื้อหาอะไรบ้าง อะไรที่แสดงในสไลด์ได้ อะไรต้องพูดเองขยายเนื้อหาในสไลด์ เวลาออกไปรายงานอาจารย์จะมีการ Checklist ให้คะแนน คำศัพท์ถูดต้อง การใช้ Tenses จังหวะการพูด ตรงเนื้อหาตามที่กำหนดไหม
เวลาออกไปรายงานใครก่อนหลัง ก็จับฉลาก
ตลอดระยะเวลาที่เข้าเรียน 2 เดือนครึ่ง(จันทร์ –พฤหัส) เจอเหตุการณ์อะไรบ้าง
- มีการฝึกซ้อมหนี่ไฟ 3 ครั้ง กม.บังคับให้โรงเรียนจะต้องฝึกซ้อมหนีไฟทุกเดือน
- ได้รับอบรมเกี่ยวกับการแจ้งหน่วย 911 หน่วยงานดับเพลิง ความรู้เกี่ยวไฟไหม้ และการติดต่อกับหน่วยตำรวจ ทุกคนต้องเข้ารับการฟังการบรรยาย
- ได้อบรมสำหรับผู้ที่สัมผัสฤดูหนาวครั้งแรกในแคนาดา เขาจะสอนวิธีการดำรงชีวิตในช่วงดูหนาว การใส่เสื้อผ้า หิมะกัดอาการแบบไหน ซื้อเสื้อผ้ากันหนาวที่ไหนในราคาสมเหตุผล ปีนี้มีผู้เข้ารับการอยู่ประมาณ 25 คนซึ่งเป็นผู้มาใหม่ในปีนี้ส่วนมากเป็นนักเรียนที่อยู่ในระดับ 1-3 และส่วนมากพูดภาษาสเปน เขาเลยจัดให้มีล่ามแปลภาษาสเปนให้ ส่วนในห้องผมมี 2 คนที่มาใหม่ไม่ต้องใช้ล่าม
- ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ฟรี(ที่ห้องไปรับบริการแค่ 2 คน)
- จัดงานเลี้ยงวันคริสมาสฟรี เป็นการจัดเลี้ยงทั้งหน่วยงานและนักเรียนทุกชั้นเข้าร่วม
สิ่งที่ประทับใจ
- ที่นี่มีการเลี้ยงเด็กเล็ก(กำหนดอายุระหว่าง19เดือน ถึง 6 ปี) ให้ฟรี สำหรับแม่ที่มาเรียนหนังสือ
- มีไมโครเวฟ 3 เครื่องไว้อุ่นอาหารทานได้
- เวลารายงานหน้าชั้น สามารถใช้งาน ออนไลน์ได้เลย
สิ่งไม่ค่อยประทับใจ
- มีความรู้สึกเหมือนอาจารย์ไม่ค่อยเป็นกันเองสักเท่าไหร่ มีการลำเอียงนิดๆ
- การให้อิสระนักเรียนมากเกินไป อย่างเช่น การ presentation นักเรียนไม่ต้องทำก็ได้ (ไม่ได้คะแนนน่ะ)
- ตัดคะแนนสูงเกินไปต้องผ่าน 80%
- ต้องมีเวลาเรียนอย่างต่ำ 80%
- ถ้าอาจารย์มีการประชุมหรืออบรม โรงเรียนจะปิดเลย (เจอไป 3 ครั้งที่ต้องปิด)
- ในความเห็นส่วนตัว ควรเริ่มเรียนในระดับที่ต่ำก่อนและเรียนไปพร้อมๆกัน คือ ทั้ง พูด ฟัง อ่าน เขียน พร้อมกันเลย ไม่ใช่แยกอ่านเขียนและฟังพูดคนละชั้นกัน ทำให้ไม่ประสานต่อเนื่องกัน ผมก็เจอ เรียน L/S ระดับ 6 R/W=5 คนละชั้น คนละอาจารย์ ผมได้ปรึกษากับอาจารย์และผู้บริหารแล้ว ว่าขอเรียนในระดับ 5 ทั้งหมด เพราะเรียนระดับ 6(CLB6) เรียนไม่ทันเขา(ฟังไม่ทันเร็วมาก) เขาบอกว่าไม่ต้องกังวลเดียวก็เรียนทันเพื่อนๆ เอง และเขาต้องทำตามกฎระเบียบของโรงเรียน