พอเข้ามา จะเจอวงเวียนพระอภัยมณี กับ 7-11 เราก็เลี้ยวซ้าย มุ่งหน้าไปยังอ่าวหน่อยน่า

และแล้วก็ถึงที่พักของเราจนได้    

ถ้าจองที่พักกับทาง PANDORA โดยตรงเค้าก่อนมา เค้าให้ฟรี
แต่ครั้งนี้จองกับ AGODAเพราะมันลดราคา เลยไม่ได้รับสิทธิ์นั้น พร้อมอาหารเช้าที่ต้องหากินเอง

เก็บบรรยากาศรอบๆที่พัก ซักหน่อยยยยยยยย  โอ้ยยยยฟินไป 3 วัน

ขอเก็บภาพบรรยากาศมุมกว้างดูบ้าง

ลองดูวิวที่มองจากในบ้านบ้าง  เอ๊ะสระว่ายน้ำอยุ่หน้าห้องเลย แต่ช้าก่อน สระไม่พร้อมให้บริการ ไม่เป็นไรแค่มองออกไปก็ฟินพอละครับ

อะหื้มมมมมมมมมมมม ห้องนอนกว้างขวางสบายไปอีก

ส่วนห้องน้ำใหญ่โตพอสมควร พร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น แต่น่าเสียดายไม่มีอ่างให้แช่

เมื่อถึงที่พัก ก็ขอตัวไปอาบน้ำเปลียนเสื้อผ้า  กลายร่างเป็นผีเสื้อราตรีออกร่อนเร่หาแสงไฟ
และ สีเสียง ยามราตรีริมหาดทราย

• ณ ตอนนี้เวลา 19.30 ได้เดินหาร้าน สุดท้ายมาสะดุดตาสะดุดใจตรงร้าน  Finale' Bar Fin & Chill Out ตั้งอยุ่หาดทรายแก้ว •

ได้ที่นั่งแล้ว จัดการสั่งอาหารสิ หิวมากกกก  จัดกุ้งเผาไปครึ่งโล ชีสทอด ข้าวผัด เช็ดปากด้วย Hoegaarden โอโห้เยิ้มกลับห้องแน่นอน

นั่งไปนั่งมา  21.00 มีโชว์ควงกระบองไฟวะเห้ย  ผมแถบคว้ากล้องมาตั้งแทบไม่ทัน และนี้เป็นครั้งแรกที่ถ่ายไฟ ตื่นเต้นชิบ
เริ่มเต้นง่ายด้วยการต่อตัว แต่ขอบอกก่อนเลยว่า กระบองเค้าแน่นจริง  มองเห็นได้ในระยะ3เมตร ตื่นตาตื่นใจชาวต่างชาติ

เอาเข้าไป  พอคนเริ่มเยอะ พี่แกเริ่มโชว์ของ  !!!

ช็อตเด็ด ที่ทุกคนรอคอย เค้าเรียกว่าควงอะไรก็ไม่รู้เป็นโซ่ๆแล้วก็เหวียงแบบสุดแรงเกิดพี่เค้าเลย  ผมรู้แค่ว่าสวย และ ร้อนมาก ร้อนเข้าหน้าแบบวูปว๊าบไปทั้งตัวเลยครับ

พอดูจบพึ่งรู้ว่าเค้าเรียกว่า  ' ไฟเย่อโชว์ ทำการโชว์ทุกวันเวลา 21:00 โดยประมาณ " ใครที่ผ่านไปห้ามพลาดเลยนะครับ
นั่งฟังเพลงไปเรื่อย มีนักร้องร้องสดสลับกับเปิดเพลงไปมา เพลินดีเหมือนกันแหะ  พอเคลิ้มเค้าหน่อย เกิบจะ 5 ทุ่มและ คสช. ยังความตามไปเสม็ดให้เข้าที่พัก เราก็จำใจเข้าที่พักสิ  พรุ้งนี้มีดำน้ำนิหว่าเกือบลืม พอถึงที่พักเท่านั้นแหละ  ภาพตัดเลยครับ

ตัดมาอีกวันเลยละกัน

อรุณเบิกฟ้านกกาโบยบิน ไอ้เราตื่นเช้ามาถ่ายรูปเล่น ไม่มีอะไรทำ

เอ๊าเมื่อตะกี้ยังอยุ่บนบกดีดี ไหงลงไปอยู่ในน้ำซะงั้น  

แคมเปนนี้ดำน้ำโชว์ ทีมลูกเกต  สตรองงงงงงงงงงงงงงงงงงง  พูดเลยจีน่าก็ทำไมได้ (เพราะเค้าทำได้ดีกว่า)

7.00 อาบน้ำแต่งตัวเตรียมพร้อมไปดำน้ำแล้วคราบ  แต่เจ้าหน้าที่นัด 11.00  ตรงท่าเรื่อหาดทรายแก้ว
ยังพอมีเวลาแวะถ่ายรูปเล่นตามหาด
เอ้าลุยขึ้นมอไซต์คู่ใจ  ถึงไหนถึงกัน ไปไหนไปกัน

ต้องจอดรถไว้ข้างบนและเดินลงมานิดหน่อยก็จะเจอกับอ้าวพร้าวและหาดทราย

เป็นหาดที่เงียบสงบดีครับ แต่โขดหินเยอะไปหน่อย หาดทรายเป็นทรายหยาบปนละเอียดมีหินเล็กน้อย  

ที่อ้าวพร้าวจะมีที่พักติดทะเล เค้ามีชิงช้าไม้ผูกไว้กับต้นไม้ใหญ่ด้วยแหละให้นั่งเล่นด้วย นั่งเล่นทำ MV ได้หลายเพลงอยุ่นะ

ในตอนที่จะไปเดินทางต่อ แอบสอบถามถามเจ้าหน้าที่ตรงอ้าวพร้าวหาดไหนน่าถ่ายรูปเค้าบอกว่า อ้าวลุงหวัง มีสะพานไปกลางทะเลด้วย
เอาละเว้ยยยยยยยย น่าสนแหะ

มันเป็นอ้าวเล็กๆที่สงบ เงียบและส่วนตัว มีสะพานไม้อย่างที่เจ้าหน้าที่บอก แต่มันเป็นสะพานที่ยื่นออกไปเพื่อตกปลา

ไม่ได้ถ่ายสะพานมาเลยมัวแต่ถ่ายรูปตัวเอง  นี้เป็นรูปเดียวที่ติดสะพานมาด้วย

แต่ว่าน้ำที่นี้ใส่พมากพอสมควรแต่ไม่ใสถึงเห็นตัวปลานะ เพราะคลื่นมันแรง และน้ำค่อนข้างลึก ไม่เหมาะกับการเล่นน้ำเท่าไร

!!! อุ้ยเอาละจุ้ยยยยย หมดเวลาเล่นแล้วได้เวลาลงเรือถ่ายรูปเล่นจนลืม ทริปดำน้ำเลย  !!!
รีบหูตาตั้งไปยังท่าเรือนวนทิพย์ทันที่