สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 24
ภาค2-3 ใช้กล้องวิดีโอแทนฟิล์มเป็นครั้งแรกในวงการหนังทุนสูง คือ
SONY HDW-F900 ออกแบบโดย ฮิโรกิ โอกะ
แบบสั่งแก้สีแดงที่วงจรภาพ ใช้เทป D5 ถ่ายแบบ 4:4:4 RGB 1920 x 1080 24P
ต่อมาพัฒนาเป็น genesis ของ panavision ใช้เลนส์ฟูจิ(Fujinon)
ทำให้ซ้อนcg ในเรื่องได้เนียนกว่า ไฟล์สแกนจากฟิล์มยุคนั้นแต่เดิมเป็นไฟล์ jpeg
ต่อมาปี2000 เปลี่ยนเป็นjpeg2000 ที่ความละเอียด 2k เพื่อฉายตามโรง และแปลงลงแผ่นdvd
ภาค4-6,1,7 ถ่ายด้วยฟิล์มสีระบบ 35มม. กล้องของพานาวิชั่น และอาร์รี่
ฉากท้ายเรื่องภาค4 เจ้าหญิงเลอา มอบเหรียญกล้าหาญ ในยุทธการยาวิน
Irwin Kirshner ผกก.ภาค5 กำลังตั้งกล้องเพื่อถ่ายทำ
ภาค6 จนท.ใช้แถบวัดระยะ ในการถ่ายทำฉากดวลดาบท้ายเรื่อง กล้องArriflex
ภาค1 ลูคัส ผกก.กำลังตั้งกล้อง ใช้35mm Arriflex 435E's และ Arriflex 535B's
(plus a digital Sony HDC-750 for good measure)
ภาค7 แอบรัมส์ ผกก.กำลังตั้งกล้องเพื่อถ่ายทำ
ภาค4-6 ทำใหม่ครั้งแรกปี1997 ลูคัสนำฟิล์มมาสแกน2k แก้ภาพ สี ทีละเฟรม
พอปี2011 สแกน4k แก้ภาพ สี ทีละเฟรม แต่rawไฟล์คุณภาพดีกว่าjpeg2000มาก
เมื่อร่วมกับซ้อนcgใหม่เข้าไป ทำให้หนังดูดีไม่แพ้ภาค1-3 ยิ่งฉากที่ต้องร่วมกับบลูสกรีน
จะดูสมจริงกว่า ภาค1-3 ที่ใช้แต่บลูสกรีนอย่างเดียว ถ้าดูด้วยจอ2.5-4k จะเห็นความต่างได้ง่าย
ต่อมาหลังปี2010 ฟิล์มสแกนความละเอียด 4k ไฟล์rawสี12-16bit
ทำให้คุณภาพของภาพ ช่วงสีดีกว่า F900 และกล้องรุ่นใหม่อย่างF65 ได้แค่สูสี
ภาค7 จึงใช้ฟิล์มถ่ายทำแบบเดียวกับภาค4-6 เพื่อคุณภาพงานที่ดีสุดโดยพานาวิชั่นได้สร้างกล้องเฉพาะกิจ
เพื่อการนี้สองตัวชื่อ Death Star และ Millennium Falcon(พัฒนาจากรุ่นXL ตอนนี้เป็นXL2)
และได้พัฒนาเลนส์รุ่นใหม่เพื่อใช้กับกล้องทั้งสองตัว ซึ่งน่าจะกลายเป็น Primo 70 ที่พึ่งให้เช่า
มีใช้กล้องimax 70มม.ถ่ายเสริมบางฉากด้วย
ภาคเสริม Rogue One ใช้กล้องArri Alexa 65 6K ฟูลเฟรม65มม. รุ่นล่าสุด(ถ่ายทำMI5,007 Spectreบางฉาก)
ภาค8 ใช้ฟิล์มสี 35 มม. น่าจะเป็นกล้องพานาวิชั่น ชุดเดียวกับที่ถ่ายทำภาค7
อินเดียน่าโจนภาค1-3 ฉบับบลูเรย์สแกนฟิล์มเป็นrawไฟล์เช่นกัน แต่ไม่ได้เพิ่มcg แก้ไขอื่นใด
ลูคัสเป็นเถ้าแก่ บ.ilm เป็นธรรมดาที่ต้องแสดงฝีมือเต็มที่เพื่อให้ลูกค้าสนใจจ้าง ยิ่งหนังของตัวเอง
จำเป็นที่ต้องทำล้ำหน้า เพื่อให้เห็นว่าบ.มีเครื่องมือ บุคคลากรที่สามารถสร้างสรรค์งานได้เร็วสมราคา
และริเริ่มการส่งเทป D5 ไปยังโปรดักชั่นเฮาส์ต่างๆในแต่ละประเทศ เพื่อความสะดวกในการทำงาน
เนื่องจากมีบ.คู่แข่งมีคุณภาพไม่แพ้กัน เช่น เวต้า ของปีเตอร์ แจ๊คสัน ทำเรื่องอภินิหารแหวนครองพิภพและฮอบบิท
อ้างอิง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ภาค2-3 ใช้กล้องวิดีโอแทนฟิล์มเป็นครั้งแรกในวงการหนังทุนสูง คือ
SONY HDW-F900 ออกแบบโดย ฮิโรกิ โอกะ
แบบสั่งแก้สีแดงที่วงจรภาพ ใช้เทป D5 ถ่ายแบบ 4:4:4 RGB 1920 x 1080 24P
ต่อมาพัฒนาเป็น genesis ของ panavision ใช้เลนส์ฟูจิ(Fujinon)
ทำให้ซ้อนcg ในเรื่องได้เนียนกว่า ไฟล์สแกนจากฟิล์มยุคนั้นแต่เดิมเป็นไฟล์ jpeg
ต่อมาปี2000 เปลี่ยนเป็นjpeg2000 ที่ความละเอียด 2k เพื่อฉายตามโรง และแปลงลงแผ่นdvd
ภาค4-6,1,7 ถ่ายด้วยฟิล์มสีระบบ 35มม. กล้องของพานาวิชั่น และอาร์รี่
ฉากท้ายเรื่องภาค4 เจ้าหญิงเลอา มอบเหรียญกล้าหาญ ในยุทธการยาวิน
Irwin Kirshner ผกก.ภาค5 กำลังตั้งกล้องเพื่อถ่ายทำ
ภาค6 จนท.ใช้แถบวัดระยะ ในการถ่ายทำฉากดวลดาบท้ายเรื่อง กล้องArriflex
ภาค1 ลูคัส ผกก.กำลังตั้งกล้อง ใช้35mm Arriflex 435E's และ Arriflex 535B's
(plus a digital Sony HDC-750 for good measure)
ภาค7 แอบรัมส์ ผกก.กำลังตั้งกล้องเพื่อถ่ายทำ
ภาค4-6 ทำใหม่ครั้งแรกปี1997 ลูคัสนำฟิล์มมาสแกน2k แก้ภาพ สี ทีละเฟรม
พอปี2011 สแกน4k แก้ภาพ สี ทีละเฟรม แต่rawไฟล์คุณภาพดีกว่าjpeg2000มาก
เมื่อร่วมกับซ้อนcgใหม่เข้าไป ทำให้หนังดูดีไม่แพ้ภาค1-3 ยิ่งฉากที่ต้องร่วมกับบลูสกรีน
จะดูสมจริงกว่า ภาค1-3 ที่ใช้แต่บลูสกรีนอย่างเดียว ถ้าดูด้วยจอ2.5-4k จะเห็นความต่างได้ง่าย
ต่อมาหลังปี2010 ฟิล์มสแกนความละเอียด 4k ไฟล์rawสี12-16bit
ทำให้คุณภาพของภาพ ช่วงสีดีกว่า F900 และกล้องรุ่นใหม่อย่างF65 ได้แค่สูสี
ภาค7 จึงใช้ฟิล์มถ่ายทำแบบเดียวกับภาค4-6 เพื่อคุณภาพงานที่ดีสุดโดยพานาวิชั่นได้สร้างกล้องเฉพาะกิจ
เพื่อการนี้สองตัวชื่อ Death Star และ Millennium Falcon(พัฒนาจากรุ่นXL ตอนนี้เป็นXL2)
และได้พัฒนาเลนส์รุ่นใหม่เพื่อใช้กับกล้องทั้งสองตัว ซึ่งน่าจะกลายเป็น Primo 70 ที่พึ่งให้เช่า
มีใช้กล้องimax 70มม.ถ่ายเสริมบางฉากด้วย
ภาคเสริม Rogue One ใช้กล้องArri Alexa 65 6K ฟูลเฟรม65มม. รุ่นล่าสุด(ถ่ายทำMI5,007 Spectreบางฉาก)
ภาค8 ใช้ฟิล์มสี 35 มม. น่าจะเป็นกล้องพานาวิชั่น ชุดเดียวกับที่ถ่ายทำภาค7
อินเดียน่าโจนภาค1-3 ฉบับบลูเรย์สแกนฟิล์มเป็นrawไฟล์เช่นกัน แต่ไม่ได้เพิ่มcg แก้ไขอื่นใด
ลูคัสเป็นเถ้าแก่ บ.ilm เป็นธรรมดาที่ต้องแสดงฝีมือเต็มที่เพื่อให้ลูกค้าสนใจจ้าง ยิ่งหนังของตัวเอง
จำเป็นที่ต้องทำล้ำหน้า เพื่อให้เห็นว่าบ.มีเครื่องมือ บุคคลากรที่สามารถสร้างสรรค์งานได้เร็วสมราคา
และริเริ่มการส่งเทป D5 ไปยังโปรดักชั่นเฮาส์ต่างๆในแต่ละประเทศ เพื่อความสะดวกในการทำงาน
เนื่องจากมีบ.คู่แข่งมีคุณภาพไม่แพ้กัน เช่น เวต้า ของปีเตอร์ แจ๊คสัน ทำเรื่องอภินิหารแหวนครองพิภพและฮอบบิท
อ้างอิง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
พึ่งได้ดู Star Wars Episode 3 Revenge of the Sith หนังตั้ง 10 ปีที่แล้วทำไม CG มันดีขนาดนี้นะ
ไม่บอกไม่รู้ว่าหนัง 10 ปีที่แล้ว ชอบมากครับ อนาคินเท่มาก ฉากต่อสู้กับโอบีวันตอนท้ายเรื่องก็ทำออกมาได้ดี ผมว่าเป็นภาคที่พีคอีกภาคเลย