สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิป กระทู้นี้เขียนจากประสบการณ์จากการซื้อทริปดำน้ำแย่ๆจากเกาะจำ(จำจนตาย) จ.กระบี่ โลเคชั่นใกล้เกาะพีพี
ก่อนอื่นบอกก่อนเลยว่า จขกท มาจากเชียงใหม่และแฟนที่ทรหดร่วมทริปกันมา บินมากจากอีกฟากโลกและทั้งสองคนก็ตั้งใจไปฉลองปีใหม่ที่เกาะนี้ค่ะ… เกาะจำ
เนื่องจากเกาะนี้เป็นเกาะสวยๆขนาดเล็กเกาะหนึ่งที่คนไทยไม่ค่อยรู้จักนัก โดยมี"ชาวต่างชาติ"เป็นกำลังซื้อสำคัญของที่นี่ ส่วนรีวิวท่องเที่ยวภาษาไทยก็มีไม่มากนัก โดยส่วนมากจะเป็นรีวิวของชาวยุโรปซะมากกว่า ซึ่งหลังจากหาข้อมูลเพียงพอแล้ว เรากับแฟนจึงตัดสินใจตกลงไปเกาะนี้ทันควัน โทรจองที่พักเกือบ3เดือนก่อนจะมาถึงวันนี้ ...วันที่ความฝันพังทลายแบบราบเป็นหน้ากลอง
ซึ่งเรากับแฟนปกติเป็นคนไม่ค่อยคิดมากอยู่แล้ว และอยากหาที่สงบๆฉลองปีใหม่กันแบบเงียบๆ เลยไปแบบง่ายๆ อย่างเดียวที่คาดหวังคือความสงบและความสวยงามของวิถีชีวิตแบบบ้านๆ
แต่ชีวิตจริงไม่ใช่นิยายค่ะ หลังจากถึงเกาะแล้วถึงที่พักเลยแวะกินข้าวกันที่ที่พักค่ะ พอเปิดเมนูถึงกับตกใจกับราคาอาหารนิดหน่อย เพราะราคาสูงลิ่ว สูงแบบน่ากลัว แต่คือที่นี้นักท่องเที่ยวเป็นต่างชาติส่วนใหญ่ เลยโอเคราคาอาหารผ่านไป ไม่ติดใจอะไร
จากนั้นก็พักผ่อนอยู่ที่หาดหน้ารีสอร์ทประมาณ2วัน รู้สึกเบื่อนิดๆเลยเช่าจักรยานขับออกไปในหมู่บ้านในวันที่ 26 ธันวาคม หลังจากไปถึงในตัวชุมชน เลยแวะที่ tour agency ที่หนึ่งเพื่อหาซื้อทัวร์ดำน้ำ ทางคนขายเองได้แนะนำ ทริปดำน้ำ3เกาะ ได้แก่ เกาะไผ่ พีพีเล พีพีดอนซึ่งเป็นทริปจอย เรากับแฟนเลยตกลงกันซื้อทริปนี้ค่ะราคา 1,000 บาท (joint tour) และทางคนขายได้บอกว่า " รวมค่าใช้จ่ายทุกอย่าง "
จบแค่นี้จริงๆ...
และวันเดินทางก็มาถึง 28 ธันวาคม 2558 ซึ่งวันนี้เองเป็นวันที่คิดว่าคงได้กอดท้องมหาสมุทรเป็นเพื่อนแทนมะพร้าว แบบหนังเรื่อง Catch away ซะแล้ว
ขอแยกเป็นช่วงๆนะคะ
ก่อนไปทัวร์ดำน้ำ…
1. ก่อนออกทริป1วัน คือเย็นวันที่27 เวลาประมาณ3ทุ่มแล้ว เจอเจ้าของรีสอรท์เค้าเข้ามาบอกว่า "คนขับเรือโทรมาบอกว่าพรุ่งนี้เช้าเปลี่ยนเวลาเป็น 8.40น" ซึ่งจากเวลาเริ่มทริปจริงคือ7.40 ตามที่เขียนในบิล แต่คนขายทัวร์ไม่โทรบอกเราโดยตรงค่ะคือต้องรอให้คนเรือโทรบอกเจ้าของที่พัก แล้วผ่านเจ้าของที่พักมาที่เรากับแฟนอีกที ซึ่งตรงนี้เราคิดว่าถ้าเจ้าของบังกะโลไม่บอกเราหรือเค้าลืม เราคงได้นั่งรอแบบรากงอกแน่ๆ
2. พอทราบว่าเวลาเปลี่ยนเลยโทรหาคนที่ขายทัวร์ให้เพื่อความแน่ใจในคืนนั้นเลย แต่คำตอบที่เราได้คือ "ไม่รู้นะครับ เดี๋ยวขอโทรถามคนเรือก่อน" เราจึงตอบตกลงพร้อมให้เค้าโทรกลับมา อีกอย่างเราถามข้อมูลอะไรก็ตอบไม่ได้ เช่น จำนวนนักท่องเที่ยวในทัวร์นั้น แสดงให้เห็นว่า tour operator ทำงานไม่มืออาชีพ ขาดการติดต่อประสานงานซึ่งกันและกันกับคนขายทัวร์แบบสุดๆ
3. ทางคนขายไม่มีตารางเวลาแจ้งลูกทัวร์ที่แน่นอน และคนขับเรือก็ไม่บอกอะไรเลยระหว่างทริปซึ่งเราต้องคอยถามเค้าเกี่ยวกับเวลาตลอด ตรงนี้ทำให้ไม่สามารถวางแผนการอะไรได้เลยซึ่งปกติแล้วต้องมีการแจ้งตารางเวลาที่แน่นอนให้กับลูกทัวร์ อีกอย่างคนขับเรือสื่อสารภาษาอังกฤษแทบไม่ได้เลยค่ะ ทำให้ ชาวต่างชาติที่ร่วมทริปกันกับเราเรายิงคำถามมาที่เราให้เราถามคนขับเรือตลอดทั้งทริป ประหนึ่งว่าเราเป็นไกด์จากบริษัท ?!!...
วันออกเดินทาง 28 ธันวาคม 2558
1. พอถึงเกาะแรกคนขับเรือบอกต้องจ่ายเงินคนละ400ค่ะ ทั้งๆที่ในตอนซื้อทัวร์ คนขายทัวร์ที่ออฟฟิตบอกว่ารวมหมดแล้วทุกอย่าง ซึ่งตรงนี้เราไม่มายด์เท่าไหร่ถ้าจะให้จ่าย เพราะปกติเข้าอุทยานไหนๆก็ต้องมีค่าบำรุงธรรมดา ซึ่งจริงๆควรมีบัตรค่าเข้าอุทยานมาแสดงแต่นี้อยู่ดีๆก็เรียกเก็บ400 มันฟังดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเราเลยไม่ได้จ่ายค่ะ แล้วชาวต่างชาติเองเค้าก็ไม่ยอมจ่ายเช่นกัน พอไปๆมาๆ เค้าบอกไม่จ่ายก็ได้ ซึ่งเราคิดว่าปกติอาจจะไม่ต้องจ่ายแต่เค้าเรียกเก็บเองมากกว่า
2. พอไปถึงเกาะไผ่ คนขับเรือไม่แจ้งลูกทัวร์เลยค่ะว่าคลื่นแรงทำให้ดำน้ำลำบากค่ะซึ่งตรงนี้เรามองไม่ออกว่าคลื่นมันแรงหรือไม่แรงเพราะเราเป็นคนเหนือค่ะ แต่ก่อนมาเราเช็คสภาพอากาศมาบ้าง ซึ่งอากาศก็โอเคค่ะ (หลังกลับมาคนในบังกะโลก็เลยบอกค่ะว่ามรสุมเข้า ลมแรง) และถึงแม้ว่า จขกทจะว่ายน้ำเป็นแต่ด้วยความที่คลื่นแรงกลับใส่หน้ากากดำน้ำ เลยเกือบจมเหมือนกัน
(ตรงนี้ขอแทนด้วยอักษรภาษาอังกฤษนะคะ จะได้ไม่งง A= กลุ่มที่ซื้อทัวร์จากเกาะจำประมาณ8 คน รวม จขกทและแฟน B= นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ซื้อตั๋วเรือจากพีพีเพื่อไปเกาะจำประมาณ 15คนได้)
3. เวลาบ่ายสองครึ่ง พอกลุ่ม Aมาถึงเรือหางยาวหลังจากคนขับเรือให้ลงไปเดินเที่ยวเกาะพีพี คนขับเรือก็พึ่งจะแจ้งว่าคลื่นแรง ต้องรอเรือลำใหญ่มารับทำให้ไม่สามารถกลับกับเรือหางยาวได้ จากนั้นอีก10นาทีก็มีกลุ่ม B ซึ่งเข้าใจว่าซื้อตั๋วจากเกาะพีพีเพื่อไปลงเกาะจำ มาลงเรือหางยาวรวมกับกลุ่ม Aที่ซื้อทัวร์จากเกาะจำไปเอง โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าตอนขายทัวร์ จึงสงสัยว่าเป็นทัวร์หรือเรือโดยสาร?!!...
ตรงนี้เอง จขกทได้เข้าไปที่ออฟิตวันที่29 ธันวาคม เพื่อเรียกร้องการชดเชยและแจ้งปัญหา พอผู้หญิงในโทรศัพท์รับ(น่าจะเป็นtour operator ที่คนขายโทรหา) ได้บอก จขกท ว่า เนื่องจากมีเรือใหญ่จอดรออยู่ จึงให้ออกไปกับเรือหางยาวพร้อมกับกลุ่มA และให้กลุ่มBลงเรือใหญ่ที่หลัง แต่เนื่องจากลมแรงทำให้กลุ่มA ต้องลงเรือใหญ่ไปพร้อมกับกลุ่ม B ซึ่งจุดนี้ จขกท ไม่เข้าใจ ว่าทำไมไม่เอาเรือใหญ่จอดเทียบท่าแยกกันไปเลย เพราะท่าเรือเกาะพีพี เป็นท่าเรือที่ค่อนข้างใหญ่พอสมควร เฟอรรี่จอดกันเป็นปกติมาก ซึ่งถ้าลมไม่แรงจขกทคิดว่าเค้าคงไม่โทรหาเรือใหญ่ให้มารับค่ะ ให้ออกไปกับเรือหางยาวพร้อมกันเลยทั้งกลุ่ม A และ B
ปกติตามกฎหมายแล้ว เรือหางยาวเค้าบรรทุกได้แค่ 8คนนะคะ ซึ่งเคสนี้มากกว่า 20คน พร้อมกระเป๋าอีกเต็มลำ เรือหนักขนาดไหนคิดเอาเองเลยค่ะ
4. ปัญหายังไม่จบนะคะ หลังจากที่ กลุ่ม A และ B ลงเรือหางยาวมาพร้อมกันแล้ว ได้ไปขึ้นเรือใหญ่ แต่ไปๆมาๆ เรือใหญ่เกิดปัญหาค่ะ เรือเสียอยู่กลางทะเลฉะนั้นเลยไปไหนไม่ได้ค่ะ สุดท้าย เค้าให้พวกนักท่องเที่ยวทั้งกลุ่ม A และ B ลงเรือหางยาวอีกรอบค่ะ แต่มีนักท่องเที่ยวบางส่วนยังอยู่บนเรือใหญ่ค่ะ เพราะเค้าจะดูแลกระเป๋า จากนั้นเรือหางยาวพยายามนำนักท่องเที่ยวทั้งหมดออกทะเลใหม่ค่ะ แต่คลื่นแรงมาก นักท่องเที่ยวต่างชาติรวมถึงเราด้วยเริ่มตกใจค่ะ เรือหางยาวก็กระทบกับคลื่นตลอดเวลา รวมถึงน้ำทะเลก็สาดเข้าเรือค่ะ ทำให้คนขับเรืออีกคนหนึ่งต้องวิดน้ำออกตลอดเวลา ซึ่งภายหลังทราบจากกลุ่มอนุรักษ์เรือหัวโทงค่ะ ว่าเรือลักษณะแบบนั้นเป็นเรือที่เก่ามากแล้วประกอบกับคลื่นและน้ำหนักบนเรือแบบนั้นจึงอันตรายถึงขั้นเรือแตกได้ ภายหลังประมาณชั่วโมงต่อมาหลังจากที่คนขับเรือพยายามคะยั้นคะยอเอาเรือหางยาวออกฝั่งและคลื่นแรงมาก นักท่องเที่ยวจึงให้คนเรือนำเรือเข้าฝั่งค่ะ สุดท้ายหลังจากติดอยู่ที่ฝั่งพีพีประมาณ 2 ชม คนเรือจึงนำเรือออกมุ่งหน้าสู่เกาะจำอีกรอบ โดยนักท่องเที่ยวบางส่วนของกลุ่ม B ตัดสินใจไม่ไปกับเรือหางยาวค่ะ ฉะนั้นจึงเหลือกลุ่ม A และ B(ประมาณ 9 คน) ช่วงเวลาในตอนนั้นกลางทะเลคลื่นสูงและแรงมาก ทำให้เรือประทะกับคลื่นตลอดเวลาค่ะ โคลงเคลงกันอยู่กลางทะเลร่วม 2 ชั่วโมง
5. คนขายทัวร์ไม่แจ้งลูกทัวร์ว่าภายใน3วันทะเลมีมรสุมคลื่นแรงทำให้เกิดการล่าช้ามากกว่า6ชั่วโมงหลังจากกำหนดการออกจากพีพี2.30 ซึ่งจริงๆแล้วกลับมาเกาะจำด้วยความทุลักทุเลตอนเวลาประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง (อ่อมีข้าวกลางวันให้มื้อเดียวนะคะ)
6. จขกท เชื่อว่าคนแถวนั้นคงรู้ดีค่ะว่าจะมีมรสุมลมแรง ถ้าเอาเรือหางยาวออกอาจจะอันตราย แต่สุดท้ายก็เดินทางด้วยเรือหางยาวทั้งวัน และประกอบกับมีคลื่นแรงทำให้เวลาเรือกระแทกกับคลื่นใหญ่ๆ จขกท สวดมนต์แทบไม่ทัน จุดนี้ทำเกิดความอันตรายกับชีวิตนักท่องเที่ยวอย่างมากเพราะความประมาทของคนทำทัวร์
7. คนขับเรือไม่แจ้งปัญหาที่เกิดให้กับลูกทัวร์ค่ะ และนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ เพราะสื่อสารภาษาอังกฤษไม่ได้ พอเราถามเค้าก็มีท่าทีรำคาญแบบสุดๆ ต้องรอให้นักท่องเที่ยวเข้าไปที่ห้องเครื่องค่ะ เค้าถึงออกมาพูดอะไร
8. ไม่มีการเแวะเข้าห้องน้ำค่ะ หลังจากกลับจากพีพีลงเรือมาแล้วก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เราเลยต้องอั้นมาถึงฝั่งเกาะจำตอนสองทุ่มครึ่ง
9. พอตอนจะถึงเกาะจำคนเรือก็เอาลูกเรือไปทิ้งไว้ที่ชายหาดตนเองคือหน้ารีสอรท์ J H ซึ่งตรงนี้เราถามคนขับเรือว่าทำไมไม่ไปส่งเรากับแฟนที่หน้าหาดของบังกะโลเรา เค้าก็ไม่พูดอะไรค่ะ แค่บอกว่าเดี๋ยวจะให้คนเอารถกระบะขับไปส่ง เราเองก็เห็นว่าไม่เป็นไรเพราะลูกทัวร์ทั้งหมดยกเว้นเราลงที่ J H หมด เรามีกันแค่2คน เค้าเองคงอิงคนหมู่มากมากว่า พอมาถึงเราไม่คิดอะไรแล้วค่ะ อยากกลับที่พักให้เร็วที่สุด เพราะตื่นตระหนกขวัญหายแบบสุดๆ
10. พอถึง J H คนขับเรืออีกคนคนซึ่งเป็นผู้ช่วย ก็บอกให้ไปซื้อตั๋วเพื่อต่อรถปิ๊กอัพกลับไปยังpeace paradise resort(รีสอรท์เราค่ะ) ที่อยู่อีกฝั่งนึงของเกาะ ทั้งๆที่ไม่ใช่ความผิดของเราเลย และไม่ควรจ่ายเงินอีกด้วยซ้ำ เพราะคนเรือตัดสินใจเอาเรือไปจอดที่หาดของเค้าเองค่ะ ซึ่งเราเลยปฎิเศษไม่ยอมจ่าย สุดท้ายเค้าบอกโอเคๆ ไม่ต้องจ่ายก็ได้
1วันต่อมา 29 ธค 2558
1. หลังจากไปที่ออฟฟิตเราเลยบอกปัญหาเค้าไป ทีนี้เค้าเลยพูดว่าเค้าไม่ใช่เจ้าของทัวร์ค่ะ เป็นแค่พนักขายทัวร์ สุดท้ายเค้าโทรหาเจ้าของทัวร์ค่ะ(เจ้าของเดียวกับ J H resort) พร้อมยื่นโทรศัพท์ให้เราคุยค่ะ เสียงในสายมี2คน เป็นทั้งผู้หญิงและผู้ชาย พอแฟนจะขอคุยด้วยเค้าไม่ยอมคุยค่ะ ไม่คุยภาษาอังกฤษเลยพร้อมวางสายใส่แฟนเรา และอีกแปบนึงเค้าก็โทรมาใหม่เพื่อจะคุยภาษาไทยกับเรา ซึ่งเชื่อไหมคะ เค้าเขียนติดหน้าออฟฟิตว่า “tourist information center”แต่บอกว่าพูดอังกฤษไม่ได้ ซึ่งจริงๆแล้วคนทำงานสายนี้จำเป็นต้องพูดอิ้งได้ โดยเฉพาะทำงานที่เกาะที่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ เราก็รับสายค่ะและอธิบายให้ฟัง เค้าไม่ฟังเลยค่ะ เค้าบอกมีแต่ จขกท ที่บ่นมาตั้งแต่เมื่อวานซึ่งชาวต่างชาติทั้งหมดยิงคำถามมาที่เราค่ะ บอกให้เราไปคุยกับคนเรือ มันเลยเหมือนว่าเราพูดอยู่คนเดียว จากนั้นเราเลยพยายามถามหาการชดเชยแล้วเค้าก็บ่ายเบี่ยงค่ะ และต่อว่าเราเสมือนว่าเป็นความผิดเราที่ไปต่อว่าการบริการของเค้า และอีกทีผู้ชายในสายขอคุยค่ะ และต่อว่าเป็นภาษาใต้เลยค่ะ ประมาณ Yeดmaemumg… บลาๆ (เราฟังไม่ออกค่ะ) สุดท้ายเค้าคุยกันเองแล้วนัดให้เราไปคุยที่รีสอรท์เค้าแทนที่จะเป็นออฟฟิตที่ขายทัวร์ประมาณบ่าย2 โดยปราศจากคำขอโทษใดๆจากบริษัทนี้เลย เรากับแฟนจึงตัดสินใจขับรถมอไซค์กลับที่พักค่ะ กลัวเค้าจะเอาพรรคพวกมาทำร้ายเอา(น่ากลัวมากเหมือนพวกมาเฟีย) และจองตั๋วออกจากเกาะในวันรุ่งขึ้นทันที (จริงๆกำหนดการเรากลับกันวันที่1 มกราคม ค่ะ) ไม่พอแค่นี้เค้าบอกว่าเราเองที่นิสัยไม่ดีที่ไปว่าให้การบริการของเค้าและเรื่องมาก ซึ่งจริงๆหลังจากสอบถามชาวต่างชาติที่ไปด้วยกันวันนั้น เหมือนว่าเค้าโดนไล่ออกมาด้วยค่ะ เพราะปฎิเศษไม่ยอมจ่ายค่าทัวร์แย่ๆ ราคา 1,000 สุดท้ายมีแค่น้องผู้หญิงเหมือนจะเป็นพนักงานรีสอรท์ขับมอไซต์มาจอดพร้อมคำขอโทษซึ่งคนจัดทัวร์เองไม่ได้มาให้เห็นเลย
สำหรับคุณผู้หญิงในสายที่ท้าให้เราเขียนลงพันทิป เราทำให้แล้วนะคะ หวังว่าจากนี้ไปคงจะมีลูกค้าไปใช้บริการทั้งรีสอรท์และหน้าออฟฟิตเอเจนซี่เป็นกอบเป็นกรัม นั่งตบยุงแทบไม่ทันกันเกันเลยทีเดียว...
วันนี้ที่มาเขียนไม่ได้มาโทษเรื่องคลื่นแรง เพราะคงเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆไม่มีใครอยากให้เกิด แต่เราอยากโทษคนจัดทัวร์ที่ไม่ดูแลอะไรเลย อีกทั้งยังว่ากล่ากล่าวลูกค้าแบบเสียๆหายๆเหมือนว่าไปขอเค้าเที่ยวฟรี และหากเจ้าของที่จัดทัวร์นี้ได้เข้ามาเห็น เราอยากให้คุณชี้แจงเหตุการณ์และมีคำขอโทษให้ลูกทัวร์ทั้งเราและแฟน รวมถึงชาวต่างชาติที่ซื้อทัวร์ไปด้วยกันทั้งหมดค่ะ
ปล. ไม่เหมาะสมชี้แนะได้นะคะ
ขอบคุณค่ะ
[CR] ใครว่าลูกค้าคือพระเจ้า….ทริปดำน้ำที่ลืมไม่ลงจากเกาะจำ จ.กระบี่
ก่อนอื่นบอกก่อนเลยว่า จขกท มาจากเชียงใหม่และแฟนที่ทรหดร่วมทริปกันมา บินมากจากอีกฟากโลกและทั้งสองคนก็ตั้งใจไปฉลองปีใหม่ที่เกาะนี้ค่ะ… เกาะจำ
เนื่องจากเกาะนี้เป็นเกาะสวยๆขนาดเล็กเกาะหนึ่งที่คนไทยไม่ค่อยรู้จักนัก โดยมี"ชาวต่างชาติ"เป็นกำลังซื้อสำคัญของที่นี่ ส่วนรีวิวท่องเที่ยวภาษาไทยก็มีไม่มากนัก โดยส่วนมากจะเป็นรีวิวของชาวยุโรปซะมากกว่า ซึ่งหลังจากหาข้อมูลเพียงพอแล้ว เรากับแฟนจึงตัดสินใจตกลงไปเกาะนี้ทันควัน โทรจองที่พักเกือบ3เดือนก่อนจะมาถึงวันนี้ ...วันที่ความฝันพังทลายแบบราบเป็นหน้ากลอง
ซึ่งเรากับแฟนปกติเป็นคนไม่ค่อยคิดมากอยู่แล้ว และอยากหาที่สงบๆฉลองปีใหม่กันแบบเงียบๆ เลยไปแบบง่ายๆ อย่างเดียวที่คาดหวังคือความสงบและความสวยงามของวิถีชีวิตแบบบ้านๆ
แต่ชีวิตจริงไม่ใช่นิยายค่ะ หลังจากถึงเกาะแล้วถึงที่พักเลยแวะกินข้าวกันที่ที่พักค่ะ พอเปิดเมนูถึงกับตกใจกับราคาอาหารนิดหน่อย เพราะราคาสูงลิ่ว สูงแบบน่ากลัว แต่คือที่นี้นักท่องเที่ยวเป็นต่างชาติส่วนใหญ่ เลยโอเคราคาอาหารผ่านไป ไม่ติดใจอะไร
จากนั้นก็พักผ่อนอยู่ที่หาดหน้ารีสอร์ทประมาณ2วัน รู้สึกเบื่อนิดๆเลยเช่าจักรยานขับออกไปในหมู่บ้านในวันที่ 26 ธันวาคม หลังจากไปถึงในตัวชุมชน เลยแวะที่ tour agency ที่หนึ่งเพื่อหาซื้อทัวร์ดำน้ำ ทางคนขายเองได้แนะนำ ทริปดำน้ำ3เกาะ ได้แก่ เกาะไผ่ พีพีเล พีพีดอนซึ่งเป็นทริปจอย เรากับแฟนเลยตกลงกันซื้อทริปนี้ค่ะราคา 1,000 บาท (joint tour) และทางคนขายได้บอกว่า " รวมค่าใช้จ่ายทุกอย่าง "
จบแค่นี้จริงๆ...
และวันเดินทางก็มาถึง 28 ธันวาคม 2558 ซึ่งวันนี้เองเป็นวันที่คิดว่าคงได้กอดท้องมหาสมุทรเป็นเพื่อนแทนมะพร้าว แบบหนังเรื่อง Catch away ซะแล้ว
ขอแยกเป็นช่วงๆนะคะ
ก่อนไปทัวร์ดำน้ำ…
1. ก่อนออกทริป1วัน คือเย็นวันที่27 เวลาประมาณ3ทุ่มแล้ว เจอเจ้าของรีสอรท์เค้าเข้ามาบอกว่า "คนขับเรือโทรมาบอกว่าพรุ่งนี้เช้าเปลี่ยนเวลาเป็น 8.40น" ซึ่งจากเวลาเริ่มทริปจริงคือ7.40 ตามที่เขียนในบิล แต่คนขายทัวร์ไม่โทรบอกเราโดยตรงค่ะคือต้องรอให้คนเรือโทรบอกเจ้าของที่พัก แล้วผ่านเจ้าของที่พักมาที่เรากับแฟนอีกที ซึ่งตรงนี้เราคิดว่าถ้าเจ้าของบังกะโลไม่บอกเราหรือเค้าลืม เราคงได้นั่งรอแบบรากงอกแน่ๆ
2. พอทราบว่าเวลาเปลี่ยนเลยโทรหาคนที่ขายทัวร์ให้เพื่อความแน่ใจในคืนนั้นเลย แต่คำตอบที่เราได้คือ "ไม่รู้นะครับ เดี๋ยวขอโทรถามคนเรือก่อน" เราจึงตอบตกลงพร้อมให้เค้าโทรกลับมา อีกอย่างเราถามข้อมูลอะไรก็ตอบไม่ได้ เช่น จำนวนนักท่องเที่ยวในทัวร์นั้น แสดงให้เห็นว่า tour operator ทำงานไม่มืออาชีพ ขาดการติดต่อประสานงานซึ่งกันและกันกับคนขายทัวร์แบบสุดๆ
3. ทางคนขายไม่มีตารางเวลาแจ้งลูกทัวร์ที่แน่นอน และคนขับเรือก็ไม่บอกอะไรเลยระหว่างทริปซึ่งเราต้องคอยถามเค้าเกี่ยวกับเวลาตลอด ตรงนี้ทำให้ไม่สามารถวางแผนการอะไรได้เลยซึ่งปกติแล้วต้องมีการแจ้งตารางเวลาที่แน่นอนให้กับลูกทัวร์ อีกอย่างคนขับเรือสื่อสารภาษาอังกฤษแทบไม่ได้เลยค่ะ ทำให้ ชาวต่างชาติที่ร่วมทริปกันกับเราเรายิงคำถามมาที่เราให้เราถามคนขับเรือตลอดทั้งทริป ประหนึ่งว่าเราเป็นไกด์จากบริษัท ?!!...
วันออกเดินทาง 28 ธันวาคม 2558
1. พอถึงเกาะแรกคนขับเรือบอกต้องจ่ายเงินคนละ400ค่ะ ทั้งๆที่ในตอนซื้อทัวร์ คนขายทัวร์ที่ออฟฟิตบอกว่ารวมหมดแล้วทุกอย่าง ซึ่งตรงนี้เราไม่มายด์เท่าไหร่ถ้าจะให้จ่าย เพราะปกติเข้าอุทยานไหนๆก็ต้องมีค่าบำรุงธรรมดา ซึ่งจริงๆควรมีบัตรค่าเข้าอุทยานมาแสดงแต่นี้อยู่ดีๆก็เรียกเก็บ400 มันฟังดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเราเลยไม่ได้จ่ายค่ะ แล้วชาวต่างชาติเองเค้าก็ไม่ยอมจ่ายเช่นกัน พอไปๆมาๆ เค้าบอกไม่จ่ายก็ได้ ซึ่งเราคิดว่าปกติอาจจะไม่ต้องจ่ายแต่เค้าเรียกเก็บเองมากกว่า
2. พอไปถึงเกาะไผ่ คนขับเรือไม่แจ้งลูกทัวร์เลยค่ะว่าคลื่นแรงทำให้ดำน้ำลำบากค่ะซึ่งตรงนี้เรามองไม่ออกว่าคลื่นมันแรงหรือไม่แรงเพราะเราเป็นคนเหนือค่ะ แต่ก่อนมาเราเช็คสภาพอากาศมาบ้าง ซึ่งอากาศก็โอเคค่ะ (หลังกลับมาคนในบังกะโลก็เลยบอกค่ะว่ามรสุมเข้า ลมแรง) และถึงแม้ว่า จขกทจะว่ายน้ำเป็นแต่ด้วยความที่คลื่นแรงกลับใส่หน้ากากดำน้ำ เลยเกือบจมเหมือนกัน
(ตรงนี้ขอแทนด้วยอักษรภาษาอังกฤษนะคะ จะได้ไม่งง A= กลุ่มที่ซื้อทัวร์จากเกาะจำประมาณ8 คน รวม จขกทและแฟน B= นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ซื้อตั๋วเรือจากพีพีเพื่อไปเกาะจำประมาณ 15คนได้)
3. เวลาบ่ายสองครึ่ง พอกลุ่ม Aมาถึงเรือหางยาวหลังจากคนขับเรือให้ลงไปเดินเที่ยวเกาะพีพี คนขับเรือก็พึ่งจะแจ้งว่าคลื่นแรง ต้องรอเรือลำใหญ่มารับทำให้ไม่สามารถกลับกับเรือหางยาวได้ จากนั้นอีก10นาทีก็มีกลุ่ม B ซึ่งเข้าใจว่าซื้อตั๋วจากเกาะพีพีเพื่อไปลงเกาะจำ มาลงเรือหางยาวรวมกับกลุ่ม Aที่ซื้อทัวร์จากเกาะจำไปเอง โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าตอนขายทัวร์ จึงสงสัยว่าเป็นทัวร์หรือเรือโดยสาร?!!...
ตรงนี้เอง จขกทได้เข้าไปที่ออฟิตวันที่29 ธันวาคม เพื่อเรียกร้องการชดเชยและแจ้งปัญหา พอผู้หญิงในโทรศัพท์รับ(น่าจะเป็นtour operator ที่คนขายโทรหา) ได้บอก จขกท ว่า เนื่องจากมีเรือใหญ่จอดรออยู่ จึงให้ออกไปกับเรือหางยาวพร้อมกับกลุ่มA และให้กลุ่มBลงเรือใหญ่ที่หลัง แต่เนื่องจากลมแรงทำให้กลุ่มA ต้องลงเรือใหญ่ไปพร้อมกับกลุ่ม B ซึ่งจุดนี้ จขกท ไม่เข้าใจ ว่าทำไมไม่เอาเรือใหญ่จอดเทียบท่าแยกกันไปเลย เพราะท่าเรือเกาะพีพี เป็นท่าเรือที่ค่อนข้างใหญ่พอสมควร เฟอรรี่จอดกันเป็นปกติมาก ซึ่งถ้าลมไม่แรงจขกทคิดว่าเค้าคงไม่โทรหาเรือใหญ่ให้มารับค่ะ ให้ออกไปกับเรือหางยาวพร้อมกันเลยทั้งกลุ่ม A และ B
ปกติตามกฎหมายแล้ว เรือหางยาวเค้าบรรทุกได้แค่ 8คนนะคะ ซึ่งเคสนี้มากกว่า 20คน พร้อมกระเป๋าอีกเต็มลำ เรือหนักขนาดไหนคิดเอาเองเลยค่ะ
4. ปัญหายังไม่จบนะคะ หลังจากที่ กลุ่ม A และ B ลงเรือหางยาวมาพร้อมกันแล้ว ได้ไปขึ้นเรือใหญ่ แต่ไปๆมาๆ เรือใหญ่เกิดปัญหาค่ะ เรือเสียอยู่กลางทะเลฉะนั้นเลยไปไหนไม่ได้ค่ะ สุดท้าย เค้าให้พวกนักท่องเที่ยวทั้งกลุ่ม A และ B ลงเรือหางยาวอีกรอบค่ะ แต่มีนักท่องเที่ยวบางส่วนยังอยู่บนเรือใหญ่ค่ะ เพราะเค้าจะดูแลกระเป๋า จากนั้นเรือหางยาวพยายามนำนักท่องเที่ยวทั้งหมดออกทะเลใหม่ค่ะ แต่คลื่นแรงมาก นักท่องเที่ยวต่างชาติรวมถึงเราด้วยเริ่มตกใจค่ะ เรือหางยาวก็กระทบกับคลื่นตลอดเวลา รวมถึงน้ำทะเลก็สาดเข้าเรือค่ะ ทำให้คนขับเรืออีกคนหนึ่งต้องวิดน้ำออกตลอดเวลา ซึ่งภายหลังทราบจากกลุ่มอนุรักษ์เรือหัวโทงค่ะ ว่าเรือลักษณะแบบนั้นเป็นเรือที่เก่ามากแล้วประกอบกับคลื่นและน้ำหนักบนเรือแบบนั้นจึงอันตรายถึงขั้นเรือแตกได้ ภายหลังประมาณชั่วโมงต่อมาหลังจากที่คนขับเรือพยายามคะยั้นคะยอเอาเรือหางยาวออกฝั่งและคลื่นแรงมาก นักท่องเที่ยวจึงให้คนเรือนำเรือเข้าฝั่งค่ะ สุดท้ายหลังจากติดอยู่ที่ฝั่งพีพีประมาณ 2 ชม คนเรือจึงนำเรือออกมุ่งหน้าสู่เกาะจำอีกรอบ โดยนักท่องเที่ยวบางส่วนของกลุ่ม B ตัดสินใจไม่ไปกับเรือหางยาวค่ะ ฉะนั้นจึงเหลือกลุ่ม A และ B(ประมาณ 9 คน) ช่วงเวลาในตอนนั้นกลางทะเลคลื่นสูงและแรงมาก ทำให้เรือประทะกับคลื่นตลอดเวลาค่ะ โคลงเคลงกันอยู่กลางทะเลร่วม 2 ชั่วโมง
5. คนขายทัวร์ไม่แจ้งลูกทัวร์ว่าภายใน3วันทะเลมีมรสุมคลื่นแรงทำให้เกิดการล่าช้ามากกว่า6ชั่วโมงหลังจากกำหนดการออกจากพีพี2.30 ซึ่งจริงๆแล้วกลับมาเกาะจำด้วยความทุลักทุเลตอนเวลาประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง (อ่อมีข้าวกลางวันให้มื้อเดียวนะคะ)
6. จขกท เชื่อว่าคนแถวนั้นคงรู้ดีค่ะว่าจะมีมรสุมลมแรง ถ้าเอาเรือหางยาวออกอาจจะอันตราย แต่สุดท้ายก็เดินทางด้วยเรือหางยาวทั้งวัน และประกอบกับมีคลื่นแรงทำให้เวลาเรือกระแทกกับคลื่นใหญ่ๆ จขกท สวดมนต์แทบไม่ทัน จุดนี้ทำเกิดความอันตรายกับชีวิตนักท่องเที่ยวอย่างมากเพราะความประมาทของคนทำทัวร์
7. คนขับเรือไม่แจ้งปัญหาที่เกิดให้กับลูกทัวร์ค่ะ และนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ เพราะสื่อสารภาษาอังกฤษไม่ได้ พอเราถามเค้าก็มีท่าทีรำคาญแบบสุดๆ ต้องรอให้นักท่องเที่ยวเข้าไปที่ห้องเครื่องค่ะ เค้าถึงออกมาพูดอะไร
8. ไม่มีการเแวะเข้าห้องน้ำค่ะ หลังจากกลับจากพีพีลงเรือมาแล้วก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เราเลยต้องอั้นมาถึงฝั่งเกาะจำตอนสองทุ่มครึ่ง
9. พอตอนจะถึงเกาะจำคนเรือก็เอาลูกเรือไปทิ้งไว้ที่ชายหาดตนเองคือหน้ารีสอรท์ J H ซึ่งตรงนี้เราถามคนขับเรือว่าทำไมไม่ไปส่งเรากับแฟนที่หน้าหาดของบังกะโลเรา เค้าก็ไม่พูดอะไรค่ะ แค่บอกว่าเดี๋ยวจะให้คนเอารถกระบะขับไปส่ง เราเองก็เห็นว่าไม่เป็นไรเพราะลูกทัวร์ทั้งหมดยกเว้นเราลงที่ J H หมด เรามีกันแค่2คน เค้าเองคงอิงคนหมู่มากมากว่า พอมาถึงเราไม่คิดอะไรแล้วค่ะ อยากกลับที่พักให้เร็วที่สุด เพราะตื่นตระหนกขวัญหายแบบสุดๆ
10. พอถึง J H คนขับเรืออีกคนคนซึ่งเป็นผู้ช่วย ก็บอกให้ไปซื้อตั๋วเพื่อต่อรถปิ๊กอัพกลับไปยังpeace paradise resort(รีสอรท์เราค่ะ) ที่อยู่อีกฝั่งนึงของเกาะ ทั้งๆที่ไม่ใช่ความผิดของเราเลย และไม่ควรจ่ายเงินอีกด้วยซ้ำ เพราะคนเรือตัดสินใจเอาเรือไปจอดที่หาดของเค้าเองค่ะ ซึ่งเราเลยปฎิเศษไม่ยอมจ่าย สุดท้ายเค้าบอกโอเคๆ ไม่ต้องจ่ายก็ได้
1วันต่อมา 29 ธค 2558
1. หลังจากไปที่ออฟฟิตเราเลยบอกปัญหาเค้าไป ทีนี้เค้าเลยพูดว่าเค้าไม่ใช่เจ้าของทัวร์ค่ะ เป็นแค่พนักขายทัวร์ สุดท้ายเค้าโทรหาเจ้าของทัวร์ค่ะ(เจ้าของเดียวกับ J H resort) พร้อมยื่นโทรศัพท์ให้เราคุยค่ะ เสียงในสายมี2คน เป็นทั้งผู้หญิงและผู้ชาย พอแฟนจะขอคุยด้วยเค้าไม่ยอมคุยค่ะ ไม่คุยภาษาอังกฤษเลยพร้อมวางสายใส่แฟนเรา และอีกแปบนึงเค้าก็โทรมาใหม่เพื่อจะคุยภาษาไทยกับเรา ซึ่งเชื่อไหมคะ เค้าเขียนติดหน้าออฟฟิตว่า “tourist information center”แต่บอกว่าพูดอังกฤษไม่ได้ ซึ่งจริงๆแล้วคนทำงานสายนี้จำเป็นต้องพูดอิ้งได้ โดยเฉพาะทำงานที่เกาะที่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ เราก็รับสายค่ะและอธิบายให้ฟัง เค้าไม่ฟังเลยค่ะ เค้าบอกมีแต่ จขกท ที่บ่นมาตั้งแต่เมื่อวานซึ่งชาวต่างชาติทั้งหมดยิงคำถามมาที่เราค่ะ บอกให้เราไปคุยกับคนเรือ มันเลยเหมือนว่าเราพูดอยู่คนเดียว จากนั้นเราเลยพยายามถามหาการชดเชยแล้วเค้าก็บ่ายเบี่ยงค่ะ และต่อว่าเราเสมือนว่าเป็นความผิดเราที่ไปต่อว่าการบริการของเค้า และอีกทีผู้ชายในสายขอคุยค่ะ และต่อว่าเป็นภาษาใต้เลยค่ะ ประมาณ Yeดmaemumg… บลาๆ (เราฟังไม่ออกค่ะ) สุดท้ายเค้าคุยกันเองแล้วนัดให้เราไปคุยที่รีสอรท์เค้าแทนที่จะเป็นออฟฟิตที่ขายทัวร์ประมาณบ่าย2 โดยปราศจากคำขอโทษใดๆจากบริษัทนี้เลย เรากับแฟนจึงตัดสินใจขับรถมอไซค์กลับที่พักค่ะ กลัวเค้าจะเอาพรรคพวกมาทำร้ายเอา(น่ากลัวมากเหมือนพวกมาเฟีย) และจองตั๋วออกจากเกาะในวันรุ่งขึ้นทันที (จริงๆกำหนดการเรากลับกันวันที่1 มกราคม ค่ะ) ไม่พอแค่นี้เค้าบอกว่าเราเองที่นิสัยไม่ดีที่ไปว่าให้การบริการของเค้าและเรื่องมาก ซึ่งจริงๆหลังจากสอบถามชาวต่างชาติที่ไปด้วยกันวันนั้น เหมือนว่าเค้าโดนไล่ออกมาด้วยค่ะ เพราะปฎิเศษไม่ยอมจ่ายค่าทัวร์แย่ๆ ราคา 1,000 สุดท้ายมีแค่น้องผู้หญิงเหมือนจะเป็นพนักงานรีสอรท์ขับมอไซต์มาจอดพร้อมคำขอโทษซึ่งคนจัดทัวร์เองไม่ได้มาให้เห็นเลย
สำหรับคุณผู้หญิงในสายที่ท้าให้เราเขียนลงพันทิป เราทำให้แล้วนะคะ หวังว่าจากนี้ไปคงจะมีลูกค้าไปใช้บริการทั้งรีสอรท์และหน้าออฟฟิตเอเจนซี่เป็นกอบเป็นกรัม นั่งตบยุงแทบไม่ทันกันเกันเลยทีเดียว...
วันนี้ที่มาเขียนไม่ได้มาโทษเรื่องคลื่นแรง เพราะคงเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆไม่มีใครอยากให้เกิด แต่เราอยากโทษคนจัดทัวร์ที่ไม่ดูแลอะไรเลย อีกทั้งยังว่ากล่ากล่าวลูกค้าแบบเสียๆหายๆเหมือนว่าไปขอเค้าเที่ยวฟรี และหากเจ้าของที่จัดทัวร์นี้ได้เข้ามาเห็น เราอยากให้คุณชี้แจงเหตุการณ์และมีคำขอโทษให้ลูกทัวร์ทั้งเราและแฟน รวมถึงชาวต่างชาติที่ซื้อทัวร์ไปด้วยกันทั้งหมดค่ะ
ปล. ไม่เหมาะสมชี้แนะได้นะคะ
ขอบคุณค่ะ