เจ้าของกระทู้กลับไทยปีละครั้ง พักผ่อนอยู่ที่นี่ปีละหนึ่งเดือน แต่ละปีก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น(มั้ง)นิดๆหน่อยๆ เช่น แถวบ้านพื้นที่ที่เคยปล่อยรกร้างเป็นที่สะสมขยะ บ้านของพวกสัตว์ร้าย หนู งูมาจะยี่สิบปีก็เพิ่งจะล้อมรั้วมิดชิดดูสะอาดตา แนวรถไฟฟ้าส่วนขยายเหมือนจะเห็นรูปร่างมากขึ้นแม้จะสร้างช้ามาก ห้างร้านดูสวยสะอาดตามากขึ้น ในสังคมโซเชียลเริ่มมองเห็นแชร์พฤติกรรมที่แย่ๆของคนในสังคม เริ่มตระหนักเรื่องของจิตสาธารณะ
แต่ๆๆๆอะไรที่แย่ๆก็ยังคงแย่เสมอต้นเสมอปลาย จะกี่สิบปีก็ไม่เคยเปลี่ยน เช่น การขับรถของคนไทยสักแต่ว่าบังคับรถได้แต่ไม่รู้กฏไม่รู้วินัยไม่มีน้ำใจ ความสกปรกบนทางเท้า สภาพทางเท้าที่แค่เดินให้ปลอดภัยก็ยากแล้วต้องคอยหลบมอเตอร์ไซค์ รถเข็นขายของ บางทีต้องลงไปเดินบนถนนรถจะชนเอา และอื่นๆอีกมากมายที่เห็นหลายๆคนก็บ่นทางเฟซบุคหรือในพันทิปเอง
ในเมื่อเราแก้ที่กฎหมายหรืออะไรที่เหนือความสามารถของเราไม่ได้ เรามาปรับที่ตัวเองและครอบครัวก่อนดีไหม
แล้วอะไรบ้างล่ะที่เราจะทำได้ ทำแล้วมันจะทำให้บ้านเมืองเราน่าอยู่ขึ้นจริงหรือ อันนี้ตอบได้ว่าได้แน่นอน
แต่ถ้าเราไม่เริ่มตั้งแต่ตอนนี้ ตั้งแต่รุ่นเรา ก็ไม่รู้จะเริ่มกันเมื่อไหร่ อย่ามัวแต่รอนายก รอผู้ว่า หรือใครด้านบนสั่งลงมา
ในประเทศที่เรามองว่าเค้ามีระเบียบวินัย บ้านเมืองสวยงามสะอาดน่าอยู่ เพราะคนในประเทศส่วนใหญ่มีสามัญสำนึกดีเป็นปกติ พวกแย่ๆส่วนน้อยในสังคม เลยต้องพยายามปรับตัวไม่ให้เป็นที่เลวร้ายแปลกแยก ตรงข้างกับบ้านเราที่พูดได้เลยว่าคนส่วนใหญ่คือคนที่ไม่มีสามัญสำนึกที่ดี เพราะถูกปลูกฝังกันมาแบบไทยๆด้านแย่ๆ(มักง่าย เห็นแต่ตัว ไม่นึกถึงส่วนร่วม เอาแต่พวกพ้องตัวเอง ดีแต่พูด ขี้เกียจ ไม่มีระเบียบวินัย ไม่เข้าใจคำว่าสะอาดฯลฯ) ถ้า....เพียงแต่เราทำอะไรที่ควรจะทำ ทำแค่เรื่องง่ายๆในการใช้ชีวิตประจำวันให้ดี แค่นี้ก็คงทำให้อะไรๆดีขึ้น
เรื่องง่ายๆที่เจ้าของกระทู้ขอเสนอ
ทิ้งขยะ---อย่าบอกว่าในกรุงเทพไม่ค่อยมีถังขยะให้ทิ้งเลยต้องทิ้งกันตามข้างทาง ตามโคนต้นไม้ ตามท่อต่างๆ ไม่ใช่เหตุผลที่จะมักง่ายได้
เมืองที่จขกท.อาศัยอยู่นั้นแทบไม่เคยเห็นถังขยะ ทุกอย่างเก็บมาทิ้งที่บ้านหมด ขยะเราเราก็ต้องรับผิดชอบเอง ถ้ามีลูกมีหลานขอให้
สอนตั้งแต่ขวบสองขวบ แกะซองไอติมแล้วให้เดินเอาขยะที่ตัวเองก่อไปทิ้งทันที ขนมกินหมดให้ถือไปทิ้งลงถังเอง ลูกๆของจขกท.ตอนขวบสองขวบก็ติดนิสัยทิ้งขยะลงถัง เห็นตายายทิ้งขยะไม่ลงถังจะรีบเข้าไปบอกทันที หรือเห็นขยะนอกบ้านก็จะเก็บเอาเข้ามาทิ้งโดยไม่ต้องบอก เวลาผ่านกองขยะสกปรกตามข้างทาง ลูกจะถามว่าทำไมเมืองไทยสกปรก ทำไมเค้าไม่ทิ้งลงถังขยะเหรอ
รักษากฎจราจรง่ายๆ---เดินข้ามทางม้าลาย(ที่มีไฟแดง) ที่อโศกอุตส่าห์มีทางข้ามที่มีสัญญาณไฟให้กด แต่ก็ยังมีคนไม่เข้าใจเรื่องง่ายๆว่าไฟรูปคนสีแดงต้องหยุด พอคนเป็นสีเขียวค่อยเดิน รถเยอะมากมากันเร็วบ้างช้าบ้าง ยิ่งติดๆกันอยู่ พอไฟเขียวแทนที่รถจะได้วิ่งกันได้อย่างสบายกลับต้องมาคอยหลบคนที่ข้ามถนนตอนไฟเขียวให้รถไป ก็ได้แต่บอกลูกดังๆๆว่า เราต้องเดินตอนรูปคนเป็นสีเขียว รอให้รถหยุดก่อนไม่งั้นจะโดนรถชนได้ และยังไปกีดขวางทางรถเกิดปัญหารถติดอีก พวกพี่ๆที่หนูเห็นเดินผ่าไฟ(คนเดิน)แดงมานั้น เค้าทำไม่ถูกต้อง สักวันเค้าคงจะโดนรถชน หนูอย่าทำตามนะลูก
---การเปิดไฟซ้ายขวา การเปลี่ยนเลน ไม่ค่อยจะเปิดไฟกันไม่รู้เป็นอะไร ขับรถที่เมืองไทยเหมือนกำลังเสี่ยงตาย จะเปลี่ยนเลนทียังกับเกมส์วัดดวง ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่เปิดไฟขอเข้า จะเข้าก็เข้าจะออกก็ออกคืออะไร ส่วนตัวแล้วจะเปิดไฟบอกทุกอย่างจะเลี้ยวขวานะ จะเปลี่ยนเลนขวานะ แต่ก็แปลกอีกทั้งๆที่เปิดไฟขอเข้าเปลี่ยนเลนเฉยๆเนี่ย ทำไมต้องรีบพุ่งขึ้นมาบีบแตรใส่กันด้วย แถมพอเข้าไปได้แล้วยังแซงซ้ายมาปาดหน้าอีก เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ยิ่งไม่ให้เค้าเปลี่ยนเลนมา รถเค้าชลอเหยียบเบรคทำให้รถด้านหลังคันนั้นพลอยติดไปด้วย(ตามกฎการเบรคทำให้เกิดรถติด) ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันดีกว่าไหม ให้ทาง ขอให้มีคำนี้ในหัว จขกท.เคยเรียนขับรถเพื่อเปลี่ยนใบขับขี่ที่ญี่ปุ่นทำให้รู้หลักการขับรถที่ควรจะเป็นและอยากให้ถนนบ้านเรามีบรรยากาศน่าขับแบบที่ญี่ปุ่นบ้างเท่านั้นเอง การคำนึงถึงความปลอดภัยคือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ควรจะคิดถึงอันดับแรก
---ขับรถในเลนตัวเอง งงๆขับๆไปดีๆทำไมรถออๆกันหาเลนไม่เจอ เพราะการทำถนนที่ไม่มีการวางแผน อยากลากเส้นไปทางไหนก็ลาก อันนี้เราแก้ไม่ได้ก็พยายามรักษาระยะให้อยู่กลางๆเลนอย่าโผล่ไปโผล่มาข้ามเลน และอีกเรื่อง หลายครั้งที่เห็นรถขับกันตามไหล่ทาง คือถนนมีสามเลน เลนที่สี่มาได้ยังไง ยิ่งตอนนี้มีคนหันมาขี่จักรยานมากขึ้น กลัวจะเกิดอุบัติเหตุกับคนที่ต้องใช้ไหล่ทาง
---เลิกคิดว่าอุบัติเหตุคือกรรม คนไทยส่วนใหญ่(คนที่บ้านก็คิด)จะคิดไปว่าที่เกิดอุบัติเหตุเพราะเป็นกรรม มันอาจจะใช่ส่วนนึง แต่ถ้าเราไม่ประมาท ไม่ดื่มแล้วขับ ไม่ง่วงแล้วขับ หรือไม่ใจร้อนทะเลาะกันปาดหน้ากันยิงกัน ขับรถกันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยคงจะลดอุบัติเหตุได้บ้าง
เรื่องบนท้องถนนจะให้พูดหมดคงยาวมาก จริงๆความเริ่มจากการเรียนขับรถ ที่ไม่ใช่สอนกันเองในครอบครัว(ใช่ว่าพ่อแม่พี่น้องเราจะรู้กฎที่ถูกต้อง) โรงเรียนสอนขับรถต้องได้มาตราฐาน(ไม่ใช่เอาใครก็ได้แค่ขับรถได้มีรถมาสอนกันตามซอยหรือออกถนนจริง) ที่ญี่ปุ่นมีโรงเรียนสอนขับรถที่ต้องมีสนามของตัวเอง ค่าเรียนแพงมากเป็นแสนบาทมีเงินซื้อรถต้องมีเงินค่าเรียน กว่าจะได้ใบขับขี่ยากเย็นแสนเข็ญ คนญี่ปุ่นที่รู้จักหลายคนบอกเลยว่าไม่เคยตั้งใจอ่านหนังสือสอบอะไรขนาดนี้มาก่อน เรียกว่าต้องท่องจำกฎระเบียบกันจนขึ้นใจทีเดียว
ช่วยกันคิดจุดที่ต้องแก้และหาทางแก้ที่เราทำเองได้
ไม่ต้องดราม่าอะไร ยอมรับข้อบกพร่องและหาทางแก้ไขดีกว่า มองข้อดึของบ้านเมืองอื่นเอามาปรับดีกว่ามาเทียบว่าเราดีกว่าประเทศอื่นอะไรยังไง กลัวมีคนจะมาไล่ให้จขกท.ไปอยู่ประเทศอื่น ออกตัวก่อนเลยว่าในอนาคตอันใกล้อยากกลับมาอยู่เมืองไทย
ก็อยากให้ลูกๆได้อยู่ในสภาพแวดล้อมดีๆ อยากเห็นบ้านเกิดตัวเองพัฒนาให้น่าอยู่ ปลอดภัยมากขึ้น
ปล มีด้านล่างต่อจ้า
*แก้ไขเว้นวรรค
ปีใหม่แล้ว อยากเห็นบ้านหลังใหญ่ของเราดีขึ้น(ในหลายๆด้าน) เริ่มต้นที่ตัวเราเอง เราจะทำอะไรเพื่อเมืองไทยได้บ้าง
แต่ๆๆๆอะไรที่แย่ๆก็ยังคงแย่เสมอต้นเสมอปลาย จะกี่สิบปีก็ไม่เคยเปลี่ยน เช่น การขับรถของคนไทยสักแต่ว่าบังคับรถได้แต่ไม่รู้กฏไม่รู้วินัยไม่มีน้ำใจ ความสกปรกบนทางเท้า สภาพทางเท้าที่แค่เดินให้ปลอดภัยก็ยากแล้วต้องคอยหลบมอเตอร์ไซค์ รถเข็นขายของ บางทีต้องลงไปเดินบนถนนรถจะชนเอา และอื่นๆอีกมากมายที่เห็นหลายๆคนก็บ่นทางเฟซบุคหรือในพันทิปเอง
ในเมื่อเราแก้ที่กฎหมายหรืออะไรที่เหนือความสามารถของเราไม่ได้ เรามาปรับที่ตัวเองและครอบครัวก่อนดีไหม
แล้วอะไรบ้างล่ะที่เราจะทำได้ ทำแล้วมันจะทำให้บ้านเมืองเราน่าอยู่ขึ้นจริงหรือ อันนี้ตอบได้ว่าได้แน่นอน
แต่ถ้าเราไม่เริ่มตั้งแต่ตอนนี้ ตั้งแต่รุ่นเรา ก็ไม่รู้จะเริ่มกันเมื่อไหร่ อย่ามัวแต่รอนายก รอผู้ว่า หรือใครด้านบนสั่งลงมา
ในประเทศที่เรามองว่าเค้ามีระเบียบวินัย บ้านเมืองสวยงามสะอาดน่าอยู่ เพราะคนในประเทศส่วนใหญ่มีสามัญสำนึกดีเป็นปกติ พวกแย่ๆส่วนน้อยในสังคม เลยต้องพยายามปรับตัวไม่ให้เป็นที่เลวร้ายแปลกแยก ตรงข้างกับบ้านเราที่พูดได้เลยว่าคนส่วนใหญ่คือคนที่ไม่มีสามัญสำนึกที่ดี เพราะถูกปลูกฝังกันมาแบบไทยๆด้านแย่ๆ(มักง่าย เห็นแต่ตัว ไม่นึกถึงส่วนร่วม เอาแต่พวกพ้องตัวเอง ดีแต่พูด ขี้เกียจ ไม่มีระเบียบวินัย ไม่เข้าใจคำว่าสะอาดฯลฯ) ถ้า....เพียงแต่เราทำอะไรที่ควรจะทำ ทำแค่เรื่องง่ายๆในการใช้ชีวิตประจำวันให้ดี แค่นี้ก็คงทำให้อะไรๆดีขึ้น
เรื่องง่ายๆที่เจ้าของกระทู้ขอเสนอ
ทิ้งขยะ---อย่าบอกว่าในกรุงเทพไม่ค่อยมีถังขยะให้ทิ้งเลยต้องทิ้งกันตามข้างทาง ตามโคนต้นไม้ ตามท่อต่างๆ ไม่ใช่เหตุผลที่จะมักง่ายได้
เมืองที่จขกท.อาศัยอยู่นั้นแทบไม่เคยเห็นถังขยะ ทุกอย่างเก็บมาทิ้งที่บ้านหมด ขยะเราเราก็ต้องรับผิดชอบเอง ถ้ามีลูกมีหลานขอให้
สอนตั้งแต่ขวบสองขวบ แกะซองไอติมแล้วให้เดินเอาขยะที่ตัวเองก่อไปทิ้งทันที ขนมกินหมดให้ถือไปทิ้งลงถังเอง ลูกๆของจขกท.ตอนขวบสองขวบก็ติดนิสัยทิ้งขยะลงถัง เห็นตายายทิ้งขยะไม่ลงถังจะรีบเข้าไปบอกทันที หรือเห็นขยะนอกบ้านก็จะเก็บเอาเข้ามาทิ้งโดยไม่ต้องบอก เวลาผ่านกองขยะสกปรกตามข้างทาง ลูกจะถามว่าทำไมเมืองไทยสกปรก ทำไมเค้าไม่ทิ้งลงถังขยะเหรอ
รักษากฎจราจรง่ายๆ---เดินข้ามทางม้าลาย(ที่มีไฟแดง) ที่อโศกอุตส่าห์มีทางข้ามที่มีสัญญาณไฟให้กด แต่ก็ยังมีคนไม่เข้าใจเรื่องง่ายๆว่าไฟรูปคนสีแดงต้องหยุด พอคนเป็นสีเขียวค่อยเดิน รถเยอะมากมากันเร็วบ้างช้าบ้าง ยิ่งติดๆกันอยู่ พอไฟเขียวแทนที่รถจะได้วิ่งกันได้อย่างสบายกลับต้องมาคอยหลบคนที่ข้ามถนนตอนไฟเขียวให้รถไป ก็ได้แต่บอกลูกดังๆๆว่า เราต้องเดินตอนรูปคนเป็นสีเขียว รอให้รถหยุดก่อนไม่งั้นจะโดนรถชนได้ และยังไปกีดขวางทางรถเกิดปัญหารถติดอีก พวกพี่ๆที่หนูเห็นเดินผ่าไฟ(คนเดิน)แดงมานั้น เค้าทำไม่ถูกต้อง สักวันเค้าคงจะโดนรถชน หนูอย่าทำตามนะลูก
---การเปิดไฟซ้ายขวา การเปลี่ยนเลน ไม่ค่อยจะเปิดไฟกันไม่รู้เป็นอะไร ขับรถที่เมืองไทยเหมือนกำลังเสี่ยงตาย จะเปลี่ยนเลนทียังกับเกมส์วัดดวง ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่เปิดไฟขอเข้า จะเข้าก็เข้าจะออกก็ออกคืออะไร ส่วนตัวแล้วจะเปิดไฟบอกทุกอย่างจะเลี้ยวขวานะ จะเปลี่ยนเลนขวานะ แต่ก็แปลกอีกทั้งๆที่เปิดไฟขอเข้าเปลี่ยนเลนเฉยๆเนี่ย ทำไมต้องรีบพุ่งขึ้นมาบีบแตรใส่กันด้วย แถมพอเข้าไปได้แล้วยังแซงซ้ายมาปาดหน้าอีก เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ยิ่งไม่ให้เค้าเปลี่ยนเลนมา รถเค้าชลอเหยียบเบรคทำให้รถด้านหลังคันนั้นพลอยติดไปด้วย(ตามกฎการเบรคทำให้เกิดรถติด) ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันดีกว่าไหม ให้ทาง ขอให้มีคำนี้ในหัว จขกท.เคยเรียนขับรถเพื่อเปลี่ยนใบขับขี่ที่ญี่ปุ่นทำให้รู้หลักการขับรถที่ควรจะเป็นและอยากให้ถนนบ้านเรามีบรรยากาศน่าขับแบบที่ญี่ปุ่นบ้างเท่านั้นเอง การคำนึงถึงความปลอดภัยคือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ควรจะคิดถึงอันดับแรก
---ขับรถในเลนตัวเอง งงๆขับๆไปดีๆทำไมรถออๆกันหาเลนไม่เจอ เพราะการทำถนนที่ไม่มีการวางแผน อยากลากเส้นไปทางไหนก็ลาก อันนี้เราแก้ไม่ได้ก็พยายามรักษาระยะให้อยู่กลางๆเลนอย่าโผล่ไปโผล่มาข้ามเลน และอีกเรื่อง หลายครั้งที่เห็นรถขับกันตามไหล่ทาง คือถนนมีสามเลน เลนที่สี่มาได้ยังไง ยิ่งตอนนี้มีคนหันมาขี่จักรยานมากขึ้น กลัวจะเกิดอุบัติเหตุกับคนที่ต้องใช้ไหล่ทาง
---เลิกคิดว่าอุบัติเหตุคือกรรม คนไทยส่วนใหญ่(คนที่บ้านก็คิด)จะคิดไปว่าที่เกิดอุบัติเหตุเพราะเป็นกรรม มันอาจจะใช่ส่วนนึง แต่ถ้าเราไม่ประมาท ไม่ดื่มแล้วขับ ไม่ง่วงแล้วขับ หรือไม่ใจร้อนทะเลาะกันปาดหน้ากันยิงกัน ขับรถกันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยคงจะลดอุบัติเหตุได้บ้าง
เรื่องบนท้องถนนจะให้พูดหมดคงยาวมาก จริงๆความเริ่มจากการเรียนขับรถ ที่ไม่ใช่สอนกันเองในครอบครัว(ใช่ว่าพ่อแม่พี่น้องเราจะรู้กฎที่ถูกต้อง) โรงเรียนสอนขับรถต้องได้มาตราฐาน(ไม่ใช่เอาใครก็ได้แค่ขับรถได้มีรถมาสอนกันตามซอยหรือออกถนนจริง) ที่ญี่ปุ่นมีโรงเรียนสอนขับรถที่ต้องมีสนามของตัวเอง ค่าเรียนแพงมากเป็นแสนบาทมีเงินซื้อรถต้องมีเงินค่าเรียน กว่าจะได้ใบขับขี่ยากเย็นแสนเข็ญ คนญี่ปุ่นที่รู้จักหลายคนบอกเลยว่าไม่เคยตั้งใจอ่านหนังสือสอบอะไรขนาดนี้มาก่อน เรียกว่าต้องท่องจำกฎระเบียบกันจนขึ้นใจทีเดียว
ช่วยกันคิดจุดที่ต้องแก้และหาทางแก้ที่เราทำเองได้
ไม่ต้องดราม่าอะไร ยอมรับข้อบกพร่องและหาทางแก้ไขดีกว่า มองข้อดึของบ้านเมืองอื่นเอามาปรับดีกว่ามาเทียบว่าเราดีกว่าประเทศอื่นอะไรยังไง กลัวมีคนจะมาไล่ให้จขกท.ไปอยู่ประเทศอื่น ออกตัวก่อนเลยว่าในอนาคตอันใกล้อยากกลับมาอยู่เมืองไทย
ก็อยากให้ลูกๆได้อยู่ในสภาพแวดล้อมดีๆ อยากเห็นบ้านเกิดตัวเองพัฒนาให้น่าอยู่ ปลอดภัยมากขึ้น
ปล มีด้านล่างต่อจ้า
*แก้ไขเว้นวรรค