[CR] โตเกียวเที่ยวกี่ทีก็อร่อย

สวัสดีครับ
พอดีมีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นเมื่อเดือน พย ที่ผ่านมา ผมกับภรรยาเป็นพวกชอบกินชอบดื่ม(กาแฟ)ครับ  ภารกิจหลักของเราก็คือ การไปตามหาร้านอร่อยนั่นเอง  เลยอยากจะมาแบ่งปันความอร่อยให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆกันบ้างครับ ภรรยาผมเป็นหน่วยข้อมูล ส่วนผมเป็น  Navigator อมยิ้ม01

พวกเราไม่เคยทำรีวิวมาก่อน ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ อมยิ้ม17

วันแรกที่ไปถึงก็ไปหากาแฟดื่มกันก่อนครับที่ร้านใกล้โรงแรม พอดีเค้ามีเครื่องดื่มช่วงเทศกาลพอดี เลยลองซะหน่อยครับ

เนื่องจากตอนนี้เป็นช่วงคริสต์มาส ภรรยาผมเลยขอลอง Seasonal Drink เป็น “Iced Crunchy Caramel Toffee Latte” ถั่วกลิ่นหอม แต่ยังคงความกรอบ ซอสที่ราดมาด้านบนรวมกับกาแฟหวานกำลังดีครับ



ก่อนมาเรากะว่า มาถึงอากาศจะเย็นนิดนึง เลยวางแผนไปหาอะไรร้อนๆทาน ส่วนนึงเป็นเพราะผมติดใจจากการมาชิมเมื่อตอนวันหยุดสงกรานต์ด้วย เราจะไปทานโซบะกันครับ ที่ Kanda Yabusoba



คนญี่ปุ่นเชื่อกันว่าการทานโซบะจะนำโชคดีมาให้ จึงนิยมทานโซบะกันในโอกาสสำคัญ เช่น วันขึ้นปีใหม่ หรือการย้ายบ้าน

Kanda Yabusoba เป็นหนึ่งในร้านโซบะที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียวเปิดในปี 1880 ร้านนี้เคยถูกไฟไหม้ไปในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2556 แล้วมีการบูรณะใหม่   เรามาถึงร้าน 11โมง แต่ร้านเปิด 11:30 โมง ก็เลยไปเดินเล่นแถวนั้นดู ปรากฎว่าเจอที่น่านั่งมาก นี่ครับ



ตรงนี้เรียกว่า "mAAch ecute Kanda Manseibashi" เป็นที่ช้อปปิ้ง ทานข้าว จุดนี้เคยเป็นสถานีรถไฟที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโตเกียว คือ สถานี "Manseibashi" เป็นสถานีที่อยู่ระหว่าง สถานี Kanda กับ Ochanomizu ของ Chuo Line ตัวสถานีไม่ได้มีการใช้งานมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว แต่รางรถไฟยังคงอยู่ และยังถูกใช้งานอยู่ในปัจจุบัน
Project "mAAch ecute Kanda Manseibashi" นี้ได้รับรางวัล Good Design Award ในสาขา DESIGN FOR THE FUTURE AWARD ในปี 2014 ด้วยครับ
เสียดายร้านยังไม่เปิด แล้วก็ต้องกลับไปต่อแถวโซบะแล้ว พอกลับมาหาข้อมูล ปรากฎว่ามีของสวยๆ เก๋ๆ ขายหลายร้านเลย เอาไว้ทริปหน้าว่ากันใหม่

เดินกลับมาอีกทีก็มีแถวตั้งรอเข้าร้านกันอยู่แล้ว

สักพักพนักงานก็มาเชิญลูกค้าเข้าร้าน



พอได้โต๊ะเราก็สั่งโซบะกันเลยครับ ผมสั่งชามเดิมคือ “เทมปุระโซบะ”



ส่วนภรรยาสั่ง “โซบะเนื้ออกเป็ดย่าง” (Kamonan Soba)



น้ำซุปของร้านนี้เป็นสีเข้ม แต่ใส ร้อนกำลังดี เนื่องจากเค้าใสเปลือกส้ม Yuzu ลงไปด้วย มันจึงหอมสดชื่นอย่างมีเอกลักษณ์ เส้นก็นุ่มกำลังดี อร่อยมาก เหมือนเดิม

แผนที่สำหรับร้านโซบะนี้ก็ตามรูปเลยนะครับ ลงที่สถานี Awajicho คับ



ทานอาหารกลางวันอิ่มแล้ว ไปเดินย่อยหากาแฟดื่มกันแถว Omotesando ดีกว่า

มาแถวนี้ จะไปดื่มกาแฟร้านไหนไปไม่ได้นอกจาก Omotesando Koffee (ก่อนหน้านี้พลาดไปหลายที มั่วแต่เพลินกับอย่างอื่น)

Omotesando Koffee เป็นร้านกาแฟเล็กๆในบ้านไม้ญี่ปุ่น (Machiya) อายุประมาณ 60 ปี ภายในตกแต่งแบบ minimal เจ้าของร้าน คือ Eiichi Kunitomo ตัวร้านมีลักษณะเป็น pop up store ที่ทางเจ้าของร้านเปิดร้านในปี 2011 และตั้งใจว่าจะเปิดเพียง 12 เดือนเท่านั้น แต่ก็ได้เปิดเรื่อยมาเป็นเวลา 5 ปี และเพิ่งปิดตัวลงในวันที่ 30 ธันวาคม 2015 ที่ผ่านมานี่เอง หลายๆเสียงบอกว่า “เป็นกาแฟที่ดีที่สุดในโตเกียว” หรือบางคนถึงกับบอกว่า ดีที่สุดในโลก  เป็นร้านเล็กมากๆ ถ้าไม่มีคนต่อคิวอยู่คงจะหลงน่ะครับ



แต่ได้ข่าวมาว่าเค้าจะไปเปิดร้านที่ฮ่องกงต้นปี 2016 ซึ่งจะเป็นการเปิดร้านนอกประเทศเป็นครั้งแรกเลยทีเดียวครับ

เราไปร้านนี้ 2 ครั้ง เพราะติดใจในรสชาติมากๆ แต่มีอีกสาเหตุนึงครับ...
ครั้งแรกฝนตกปรอยๆ ผมสั่ง Iced Cappuccino ภรรยาสั่ง Baileys Cappuccino
ครั้งนี้ไม่ใช่ head barista เป็นคนชงให้ครับ เป็นอีกคนนึงที่ยืนข้างๆเพราะมีฝรั่งที่อยู่หน้าเราคุยกับ Head barista  ภรรยาผมนี่แอบเคืองเลย เพราะกะจะมาชิมฝีมือเค้า Head Barista ชื่อ Takamasa Miki ดูมีสไตล์ดีคับ คนนี้แหละครับ





แต่เชื่อมั้ยครับว่า รสชาติมันดีมากๆเลยล่ะ Iced Cappucino ของผมนี่มันเนียนละมุน อร่อย กลมกล่อมมาก ชื่นใจสุดๆไปเลย รสชาติมันเป็นเอกลักษณ์ ไม่มีที่ไหนเหมือนเลยครับ มาถึงก็ดื่มไปเลยจนหมดและถ่ายรูปไม่ทันไปแล้ว มันอร่อยมากครับ (ภรรยาผมหันมาค้อนเลย ไม่รู้ค้อนเรื่องถ่ายรูป หรือเรื่องไม่ให้เธอชิม อิอิ) เดี๋ยวจะเอารูปของ Toranomon Koffee มาให้ดู หน้าตาเหมือนกันครับ

ส่วนภรรยาผมหลังจากชื่นชมกับลาเต้อาร์ทลายหัวใจของเธอแล้ว เธอก็รีบชิม Baileys Cappuccino ทันที เธอบอกว่า มันหอมมาก นุ่มนวลเนียน อร่อยมาก โดยสรุปคือ ฟินมากฮะ (แม้จะยังแอบเคืองอยู่หน่อยๆ) สาเหตที่เธอชอบเป็นพิเศษเพราะกาแฟและ Baileys เป็นสิ่งที่เธอชอบทั้งคู่ ก็ต้องเข้าใจเธอล่ะครับ เอาของที่เธอชอบทั้งสองอย่างมารวมกัน เธอปลื้มสุดละฮะ

ร้านนี้เค้าไม่มีที่นั่งอะไรมากมายนะครับ คนมาซื้อก็ต่อแถวกันไป นอกจากกาแฟก็มีขนมที่เป็น signature ของร้าน ก็คือ “baked custard” ที่เค้าทำเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ชิ้นพอดีคำ ส่วนตัวผมเฉยๆกับขนมครับ สงสัยกาแฟจะอร่อยโดดเด่นมากกลบขนมไปเลย (ขนมเราไปทานอีกร้านของเค้า ที่จะเล่าต่อไปครับ)

ครั้งที่สอง ฟ้าฝนเป็นใจ ฝนไม่ตกครับ คราวนี้ภรรยาผมหมายมั่นมากว่าจะไปชิมฝีมือ Miki-san ให้ได้ครับ สมใจเค้าล่ะทีนี้ คราวนี้ผมลอง Cappuccino ร้อน
ภรรยาผมสั่งเมนูเดิม คือ Baileys Cappuccino เพราะเธอต้องการเปรียบเทียบรสชาติครับ สรุปว่า เธอชอบครั้งนี้มากกว่าครับ เพราะเค้าใส่ Baileys มากกว่า ลาเต้อาร์ทงาม เธอแฮปปี้ ผมก็แฮปปี้ละ

นิดนึงเกี่ยวกับ Miki-san เค้าเป็น head barista ที่นี่ แล้วก็เป็นกรรมการตัดสินการแข่งขันลาเต้อาร์ต นี่แหละครับ ภรรยาผมเลยอยากจะชิมฝีมือเฮียแก



รสมันนุ่ม เนียน หอม อร่อยมาก สมคำร่ำลือ เข้าใจในความเป็นที่สุดแล้ว เสียดายว่าเวลานี้ร้านนี้ได้ปิดตัวลงแล้ว คราวหน้าคงต้องไปที่ Toranomon Koffee แทนครับเพราะรสชาติมันเยี่ยมมากจริงๆ

วันแรกมีประมาณนี้ครับ เดี๋ยวไว้มาต่อวันต่อๆไปนะครับ
ชื่อสินค้า:   kanda yabusoba, omotesando koffee
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่