ในศุภวารดิถีขึ้นปีใหม่ ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย
โปรดดลบันดาลให้ ให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกท่าน ประสบแต่ความสุข ความเจริญ
ด้วยจตุรพิธพรชัยและสัมฤทธิผล ในสิ่งอันพึงปรารถนาทุกประการ
เนื่องในโอกาสนี้ 1 ม.ค. 2559 ผมเลยถือโอกาสพาทุกท่านไปรีวิวเส้นทางทำบุญ 9 สิ่งศักดิ์สิทธิ์
ในกรุงเทพฯชั้นใน ฝั่งพระนครให้ชมกันนะครับ สำหรับชาว กทม ที่ยังไม่มีไอเดียชวนแฟนไปไหนไกล โดยแผนที่จะประมาณนี้
เพราะเป็นคนกรุงเทพฯ แถบชานเมือง เข้าเมืองทีขับรถติดนานมาก ก็กะว่าปีใหม่คนออก ตจว น่าจะโล่ง
จะขับไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพสัก 9 แห่ง เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ว่าแล้วก็ออกตัวตอน 9 โมงเช้านะครับ
วิ่งเส้นวิภาวดี ต่อเข้าอนุสาวรีย์ฯชัย แล้วตัดไปทางราชวิถี ตรงไปราชวัตร เลี้ยวพระราม 5 หน้าสวนสัตว์ดุสิต แล้วก็ถึงที่แรก!
1.วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร
วัดเบญจมบพิตร หมายถึง วัดของพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลที่ 5 เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก และเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 5
เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลกว่า "The Marble Temple" เพราะพระอุโบสถ พระระเบียง ประดับด้วยหินอ่อนที่ดีที่สุดจากประเทศอิตาลี!!!
ที่จอดรถฝั่งคลองพระราม 5 กว้างขวาง แต่มีรถทัวจอดกว่าครึ่ง ถ้าจะจอดก็มีคนโบก เก็บค่าจอด 20 บาทนะครับ
วัดได้รับความนิยมมากในนักท่องเที่ยวเอเชียครับ ทัวลงกระหน่ำแต่เช้า ถึงขั้นเปิดบทสวดภาษาจีน บทที่พี่โน๊ตเล่าในเดี่ยวนั่นละครับ!!
คนไทยก็พอประมาณ แต่ก็ถือว่าน้อย อโบสถ สวยงามแนะนำให้มาชมกันสักครั้งครับ ผมมาบ่อยมาก เวลาอยู่ใกล้ๆอุโบสถ
จะรู้สึกเย็นๆ แล้วหินอ่อนก็สวยงามมากจริงๆ ผสมผสานร่วมสมัยเป็นศิลปะชั้นสูง ไม่ดูเก่าลงเลย เป็นของใกล้ตัวที่หาชมยาก ค่าชมคนไทยฟรี!
ในพระอุโบสถ ประดิษฐาน พระพุทธชินราช (จำลอง) องค์ใหญ่ ซึ่งสวยไม่แพ้ที่พิษณุโลกเลยครับ
2.พระบรมรูปทรงม้า
พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ พระบรมรูปทรงม้า พระมหาราชผู้เลิกทาสของชาวไทย
โดยถือเป็นการเลิกทาสที่เรียบร้อยที่สุดในโลก ไม่มีสงครามและความรุนแรง ถือเป็นที่ยกย่องไปทั่วโลก
ตั้งแล้วเสร็จเมื่อ วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน 2451 โดยรัชกาลที่ 5 ได้เสด็จไปทำการตกลงและเลือกชนิดโลหะด้วยพระองค์เอง
อีกทั้งยังเสด็จไปประทับเป็นแบบให้นายช่างปั้นหุ่น ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ออกจากวัดเบญฯ มาบล็อกเดียวก็เจอ ลานกว้าง มีการขีดเส้นรอบๆ บรมรูปไว้สำหรับให้ ใครใคร่จอด จอด ตามสบาย
อินดี้มาก ถ้าใครอยากได้ที่จอดฟรี มาที่นี้ก่อนไปวัดเบญฯ ก็ได้ครับ กว้างขวาง แต่ก็ไกลนิดนึง
เช้านี้คนไม่เยอะมาก มีแม่ค้าเดินขายของไหว้ราคาโหด จะไหว้จริงๆ พกธูปมาเองจะดีมากครับ
ปกติจะนิยมมากันคืนวัน อังคาร ซึ่งตรงกับวันพระราชสมภพของพระองค์ แล้วจะมาพร้อมดอกไม้สีชมพู หมากพลู
ถ้าจะขออะไร ผู้หลักผู้ใหญ่จะเน้นเสมอนะครับ อย่าบน!!! ให้ขอท่านตรงๆ
3.วัดราชนัดดารามวรวิหาร
ตั้งอยู่ใกล้กับป้อมมหากาฬ ติดกับลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ซึ่งเป็นพลับพลารับแขกเมือง
เป็นที่ตั้งของ โลหะปราสาทแห่งแรกของไทย โดยสร้างเป็นอาคาร 7 ชั้น มียอดปราสาท 37 ยอด
หมายถึงโพธิปักขิยธรรมในพระพุทธศาสนา 37 ประการ ยอดปราสาทชั้น 7 เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
กลางปราสาทเป็นช่องกลวง มีบันไดเวียน 67 ขั้น ให้เดินขึ้นไปดูทิวทัศน์ข้างบนได้ ....แต่วันนี้ปิดซ๋อมแซมครับ T_T
การเดินทาง ก็มาตามเส้นทางราชดำเนินนอก ณอง เซลิเซ่ ไทยยาวเลย ตรงมาถึงป้อมมหากาฬ มีทางเลือก 2 ทาง
ถ้าตรงข้ามแยกไปให้ชิดซ้าย จะมีป้ายทางเข้าซอยสามารถเข้าไปที่จอดรถวัดราชนัดดาได้ หรือจะเลี้ยวซ้ายที่แยก
เพื่อจะเข้าซอยแรกทางขวามือหลังสวนฯ ก็ได้ จอดได้รอบๆ กำแพงแก้วและฝั่งถนนหลังสวนฯ
พระอุโบสถ ประดิษฐานพระประธานพระนามว่า "พระเสฏฐตมมุนี"
มีชาวไทยและฝรั่งเล็กน้อยนะครับ ไม่เยอะมาก ส่วนมากจะมาชมโลหะปราสาทกัน ฝรั่งทึ่งกันมาก รู้สึกภูมิใจไปด้วยเลย
4.วัดเทพธิดารามวรวิหาร
พระอารามหลวงชั้นตรี วัดนี้มี พระปรางค์ทิศทั้งสี่ เป็นฝีมือช่างในสมัยรัชกาลที่ 3 บุษบกที่รองรับพระประธาน
ภายในโบสถ์ ที่ประดิษฐ์อย่างสวยงามและที่ผนังพระอุโบสถมีภาพเขียนเป็นรูปพุ่มข้าวบิณฑ์ แบบอย่าง ในรัชกาลที่ 3
อุโบสถประดิษฐาน หลวงพ่อขาว สวยงามมีสายสินทร์ แต่งพิธีดูคลาสสิคแบบไทยนิยม หน้าอุโบสถมีธูปเทียนบริการฟรี
เพราะอยู่ติดกับวัดราชนัดดาฯ และภูเขาทอง คนจึงมองข้ามไป ไม่มีคนเลยครับ ตรงส่วนทางเข้ามีที่จอดรถ ยังว่างมากๆเลย
ใครที่มาแล้วหาที่จอดรถไม่ได้ก็แวะมาจอด ไหว้พระทำบุญกันได้ครับ
5.วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
วัดสระเกศ เป็นวัดโบราณในสมัยอยุธยา เดิมชื่อวัดสะแก พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ
ให้ปฏิสังขรณ์และขุดคลองรอบพระอาราม แล้วพระราชทานนามใหม่ว่า วัดสระเกศ ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ
ให้บูรณะและสร้างพระบรมบรรพต หรือ ภูเขาทอง เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
รอบๆ มีอุโบสถเล็ก ประดิษฐานพระสำคัญๆไว้หลายองค์เลย สามารถเลือกทำบุญได้ตามอัธยาศัย
จัดรอบๆภูเขาทองได้สมเป็นวัดท่องเที่ยวใจกลางเมือง เจริญ มีจุดพักผ่อนโดยรอบ พัดลมไอน้ำ สดชื่นมาก จุดทำบุญเป็นด่านๆ
พอถึงจุดขึ้นภูเขาทอง ทางขึ้นและลงคนละทางนะครับ ค่อยๆ ตามกันไป คนเยอะมาก ระหว่างทางมีจุดพักเคาะระฆังเป็นระยะ
ปัญหาหลักๆคือ จะมีการนำเด็กเล็กมาด้วยแล้วก็จะขวางทางหรือรบกวนผู้อื่นกันเยอะ และมีการแอบเดินสวนเลน คนไทยล้วนๆ -_-"
พอถึงด้านบน จะต้องวัดใจว่าจะไหว้พระถวายผ้าฯ แล้วลงหรือจะขึ้นไปเจดีย์ด้านบน ถ้าขึ้น ท่านจะพบกับภาพเช่นนี้!!!!
ด้านบนยอด ท่านจะได้พบภาพเช่นนี้ครับ เป็นคล้ายๆเจดีย์แบบเนปาล ดูสวยงามมาก ฝรั่งเยอะจริงๆ
จะมีการถวายผ้าไตรฯ เดินวนรอบเจดีย์กันมากมาย และมีจุดให้นั่งไหว้เยอะมาก พอมีที่ถ่ายภาพและนั่งสวดมนต์ รวมถึงที่นั่งพัก
แต่เมื่อจะลงข้างล่าง เลนก็จะแคบอีกเช่นเคย!!! เพราะทางขึ้นลงนั้นมีเลนเดียว!!! และที่สำคัญทางขึ้น-ลงเขาคนละจุดกัน
ดังนั้นไม่ต้องถอดรองเท้า รวมถึงไม่ต้องพยายามนั่งรอกันนะครับ ทำบุญตามอัธยาศัยแล้วนัดกันที่ฐานภูเขาดีที่สุด
ถามถึงการเดินทาง ไปจอดรถฝั่งวัดราชนัดดาฯ เลยครับ ขอร้องงง!!! เพราะถนนแคบมาก คนเยอะมาเรื่อยๆ
แล้วเดินอ้อมผ่านหน้าผัดไทยประตูผี ข้ามคลองมาจะดีที่สุดครับ คนเยอะ มากันเป็นครอบครัวทั้งนั้นเต็มถนน
หน้าวัดฟุตบาตเต็มไปด้วยร้านรถเข็นจับจองเต็มแนววัด เลนที่แคบอยู่แล้วก็จะมีรถจอดสองฝั่ง แคบหนักเลย!
แล้วขอละครับ ใครจอดถนนแคบๆ กรุณา
ปิดหูช้าง ด้วย!!! 90% รถจอดแบบไม่แคร์สื่อกันมากๆ
เขตเมืองเก่าเราเลนรถก็วิ่งยากอยู่แล้ว ถนนเล็ก หลงง่าย คนเยอะ มีวินัยเอื้อเฟื้อกันด้วยนะครับ อายฝรั่งเค้า มากันเยอะจริงๆ
ข้อสังเกตุคือ คนที่จะทำผิดวินัย ทำแหกกฎ หรือมักง่าย มักเป็นคนไทยทั้งนั้นเลยครับ ฝรั่ง+จีนที่มาเที่ยวเค้าดูมีมารยาทมากๆเลยละ
6.วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร
พระอารามหลวงชั้นเอก สร้างในสมัยอยุธยา ตั้งอยู่ระหว่าง ม.ศิลปากรและ ม.ธรรมศาสตร์ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
นอกจากนี้ยังเป็น ศูนย์ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน นานาชาติ อีกด้วย จะมีลักษณะแบบวัดกลางเมือง เต็มไปด้วยหมู่ตึกติดๆกันแน่นขนัด
ทางเข้าเล็กมาก ให้จำทางดีๆนะครับ มีคนหลงทางข้างในเยอะมาก แต่คนไม่เยอะมาก เน้นมาเรื่อยๆ
เนื่องจากเป็นศูนย์ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จึงมีแม่ชีจำนวนมากรอบๆ กำแพงแก้ว อบอุ่นดีครับ
มีพระนักเทศน์คอยให้ความบันเทิง และของขลังแจกฟรี 555
สำหรับการเดินทางนะครับ ช่วงปีใหม่ มีการกั้นเลนใหม่เช่นเคย ทางรอบสนามลวงจะคล้ายวันเวย์
รถเยอะผิดคาดมาก!!! รถจะเริ่มติดตั่งแต่ป้อมมหากาฬครับ จากที่ว่างมาตลอด กทม จากตรงนี้ไปสนามหลวงเกือบ ชม
มีทางเลือกที่จอดรถดังนี้ครับ
1.ถนนหน้าวัดโพธ์ อันนี้ขอให้ผ่านไปเลยเถอะ
2.หลังกระทรวงริมคลอง ตามดวงนะครับ
3.สนามหลวง อันนี้ทางเลือกที่ดีอันนึง รอบๆ สนามหลวงตรงส่วนฟุตบาทเปิดเป็นลานจอดรถครับ
4.ท่ามหาราช ผมไปกินข้าวบ่ายที่นี้ ถือว่ายังโปร่งๆ จอดได้เรื่อยๆ ค่าจอด ชม.ละ 40 บาท
5.ท่าช้าง สโมสรราชนาวี ผมจอดที่นี้ ค่าจอด ชม.ละ 30 บาท กว้างขวาง เดินทางสะดวกเพราะกึ่งกลางของทุกสิ่ง
ตรงนี้ขอบ่น! สนามหลวงเอาฟุตบาทเป็นที่จอดรถ!!! โดยล้อมรั้วเขียวรอบทิศ!!! ทำไมทำยังงี้ละครับ!!!
คนมาสนามหลวงเรือนหมื่นเลยนะครับ แบบหมุนเวียนทั้งวันเลยด้วย!!! ถนนนี้แน่นขนัดตลอดเวลา
แล้วดันเอาฟุตบาทไปอีก ซ้ำล้อมรั่วให้คนลงไปเดินบนถนน!!! แล้วปล่อยใจกลางสนามหลวงเป็นสนามว่างๆ!?!?!?
คือผมไม่เข้าใจตรรกะข้าราชการไทย ทำไมชอบกั้นสนามให้เขียวขจีแต่ไร้ชีวิต!!?? ถ้ามีสนามหลวงไว้แค่โชว์แบบนี้
ผมว่าเอารถลงไปจอด แล้วคืนฟุตบาทให้ประชาชนจะน่าสรรเสริญกว่าครับ! มาดูแลทีหลังไม่ถึงสิบล้านหรอกครับ
แล้วถ้ามันดูแลยากก็ปรับเป็นอะไรที่น่าสนใจกว่าสนามหญ้าน่าจะดีนะครับ แบบลานโมเสกในต่างประเทศ มีประโยชน์สวยงามเหมือนกัน
เดี๋ยวมาต่อครับ หมดโควต้าพิมพ์ ^^"....
[CR] รีวิว ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ 9 แห่ง กรุงเทพชั้นใน รับปีใหม่ -/\-
โปรดดลบันดาลให้ ให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกท่าน ประสบแต่ความสุข ความเจริญ
ด้วยจตุรพิธพรชัยและสัมฤทธิผล ในสิ่งอันพึงปรารถนาทุกประการ
เนื่องในโอกาสนี้ 1 ม.ค. 2559 ผมเลยถือโอกาสพาทุกท่านไปรีวิวเส้นทางทำบุญ 9 สิ่งศักดิ์สิทธิ์
ในกรุงเทพฯชั้นใน ฝั่งพระนครให้ชมกันนะครับ สำหรับชาว กทม ที่ยังไม่มีไอเดียชวนแฟนไปไหนไกล โดยแผนที่จะประมาณนี้
เพราะเป็นคนกรุงเทพฯ แถบชานเมือง เข้าเมืองทีขับรถติดนานมาก ก็กะว่าปีใหม่คนออก ตจว น่าจะโล่ง
จะขับไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพสัก 9 แห่ง เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ว่าแล้วก็ออกตัวตอน 9 โมงเช้านะครับ
วิ่งเส้นวิภาวดี ต่อเข้าอนุสาวรีย์ฯชัย แล้วตัดไปทางราชวิถี ตรงไปราชวัตร เลี้ยวพระราม 5 หน้าสวนสัตว์ดุสิต แล้วก็ถึงที่แรก!
1.วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร
วัดเบญจมบพิตร หมายถึง วัดของพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลที่ 5 เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก และเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 5
เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลกว่า "The Marble Temple" เพราะพระอุโบสถ พระระเบียง ประดับด้วยหินอ่อนที่ดีที่สุดจากประเทศอิตาลี!!!
ที่จอดรถฝั่งคลองพระราม 5 กว้างขวาง แต่มีรถทัวจอดกว่าครึ่ง ถ้าจะจอดก็มีคนโบก เก็บค่าจอด 20 บาทนะครับ
วัดได้รับความนิยมมากในนักท่องเที่ยวเอเชียครับ ทัวลงกระหน่ำแต่เช้า ถึงขั้นเปิดบทสวดภาษาจีน บทที่พี่โน๊ตเล่าในเดี่ยวนั่นละครับ!!
คนไทยก็พอประมาณ แต่ก็ถือว่าน้อย อโบสถ สวยงามแนะนำให้มาชมกันสักครั้งครับ ผมมาบ่อยมาก เวลาอยู่ใกล้ๆอุโบสถ
จะรู้สึกเย็นๆ แล้วหินอ่อนก็สวยงามมากจริงๆ ผสมผสานร่วมสมัยเป็นศิลปะชั้นสูง ไม่ดูเก่าลงเลย เป็นของใกล้ตัวที่หาชมยาก ค่าชมคนไทยฟรี!
ในพระอุโบสถ ประดิษฐาน พระพุทธชินราช (จำลอง) องค์ใหญ่ ซึ่งสวยไม่แพ้ที่พิษณุโลกเลยครับ
2.พระบรมรูปทรงม้า
พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ พระบรมรูปทรงม้า พระมหาราชผู้เลิกทาสของชาวไทย
โดยถือเป็นการเลิกทาสที่เรียบร้อยที่สุดในโลก ไม่มีสงครามและความรุนแรง ถือเป็นที่ยกย่องไปทั่วโลก
ตั้งแล้วเสร็จเมื่อ วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน 2451 โดยรัชกาลที่ 5 ได้เสด็จไปทำการตกลงและเลือกชนิดโลหะด้วยพระองค์เอง
อีกทั้งยังเสด็จไปประทับเป็นแบบให้นายช่างปั้นหุ่น ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ออกจากวัดเบญฯ มาบล็อกเดียวก็เจอ ลานกว้าง มีการขีดเส้นรอบๆ บรมรูปไว้สำหรับให้ ใครใคร่จอด จอด ตามสบาย
อินดี้มาก ถ้าใครอยากได้ที่จอดฟรี มาที่นี้ก่อนไปวัดเบญฯ ก็ได้ครับ กว้างขวาง แต่ก็ไกลนิดนึง
เช้านี้คนไม่เยอะมาก มีแม่ค้าเดินขายของไหว้ราคาโหด จะไหว้จริงๆ พกธูปมาเองจะดีมากครับ
ปกติจะนิยมมากันคืนวัน อังคาร ซึ่งตรงกับวันพระราชสมภพของพระองค์ แล้วจะมาพร้อมดอกไม้สีชมพู หมากพลู
ถ้าจะขออะไร ผู้หลักผู้ใหญ่จะเน้นเสมอนะครับ อย่าบน!!! ให้ขอท่านตรงๆ
3.วัดราชนัดดารามวรวิหาร
ตั้งอยู่ใกล้กับป้อมมหากาฬ ติดกับลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ซึ่งเป็นพลับพลารับแขกเมือง
เป็นที่ตั้งของ โลหะปราสาทแห่งแรกของไทย โดยสร้างเป็นอาคาร 7 ชั้น มียอดปราสาท 37 ยอด
หมายถึงโพธิปักขิยธรรมในพระพุทธศาสนา 37 ประการ ยอดปราสาทชั้น 7 เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
กลางปราสาทเป็นช่องกลวง มีบันไดเวียน 67 ขั้น ให้เดินขึ้นไปดูทิวทัศน์ข้างบนได้ ....แต่วันนี้ปิดซ๋อมแซมครับ T_T
การเดินทาง ก็มาตามเส้นทางราชดำเนินนอก ณอง เซลิเซ่ ไทยยาวเลย ตรงมาถึงป้อมมหากาฬ มีทางเลือก 2 ทาง
ถ้าตรงข้ามแยกไปให้ชิดซ้าย จะมีป้ายทางเข้าซอยสามารถเข้าไปที่จอดรถวัดราชนัดดาได้ หรือจะเลี้ยวซ้ายที่แยก
เพื่อจะเข้าซอยแรกทางขวามือหลังสวนฯ ก็ได้ จอดได้รอบๆ กำแพงแก้วและฝั่งถนนหลังสวนฯ
พระอุโบสถ ประดิษฐานพระประธานพระนามว่า "พระเสฏฐตมมุนี"
มีชาวไทยและฝรั่งเล็กน้อยนะครับ ไม่เยอะมาก ส่วนมากจะมาชมโลหะปราสาทกัน ฝรั่งทึ่งกันมาก รู้สึกภูมิใจไปด้วยเลย
4.วัดเทพธิดารามวรวิหาร
พระอารามหลวงชั้นตรี วัดนี้มี พระปรางค์ทิศทั้งสี่ เป็นฝีมือช่างในสมัยรัชกาลที่ 3 บุษบกที่รองรับพระประธาน
ภายในโบสถ์ ที่ประดิษฐ์อย่างสวยงามและที่ผนังพระอุโบสถมีภาพเขียนเป็นรูปพุ่มข้าวบิณฑ์ แบบอย่าง ในรัชกาลที่ 3
อุโบสถประดิษฐาน หลวงพ่อขาว สวยงามมีสายสินทร์ แต่งพิธีดูคลาสสิคแบบไทยนิยม หน้าอุโบสถมีธูปเทียนบริการฟรี
เพราะอยู่ติดกับวัดราชนัดดาฯ และภูเขาทอง คนจึงมองข้ามไป ไม่มีคนเลยครับ ตรงส่วนทางเข้ามีที่จอดรถ ยังว่างมากๆเลย
ใครที่มาแล้วหาที่จอดรถไม่ได้ก็แวะมาจอด ไหว้พระทำบุญกันได้ครับ
5.วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
วัดสระเกศ เป็นวัดโบราณในสมัยอยุธยา เดิมชื่อวัดสะแก พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ
ให้ปฏิสังขรณ์และขุดคลองรอบพระอาราม แล้วพระราชทานนามใหม่ว่า วัดสระเกศ ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ
ให้บูรณะและสร้างพระบรมบรรพต หรือ ภูเขาทอง เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
รอบๆ มีอุโบสถเล็ก ประดิษฐานพระสำคัญๆไว้หลายองค์เลย สามารถเลือกทำบุญได้ตามอัธยาศัย
จัดรอบๆภูเขาทองได้สมเป็นวัดท่องเที่ยวใจกลางเมือง เจริญ มีจุดพักผ่อนโดยรอบ พัดลมไอน้ำ สดชื่นมาก จุดทำบุญเป็นด่านๆ
พอถึงจุดขึ้นภูเขาทอง ทางขึ้นและลงคนละทางนะครับ ค่อยๆ ตามกันไป คนเยอะมาก ระหว่างทางมีจุดพักเคาะระฆังเป็นระยะ
ปัญหาหลักๆคือ จะมีการนำเด็กเล็กมาด้วยแล้วก็จะขวางทางหรือรบกวนผู้อื่นกันเยอะ และมีการแอบเดินสวนเลน คนไทยล้วนๆ -_-"
พอถึงด้านบน จะต้องวัดใจว่าจะไหว้พระถวายผ้าฯ แล้วลงหรือจะขึ้นไปเจดีย์ด้านบน ถ้าขึ้น ท่านจะพบกับภาพเช่นนี้!!!!
ด้านบนยอด ท่านจะได้พบภาพเช่นนี้ครับ เป็นคล้ายๆเจดีย์แบบเนปาล ดูสวยงามมาก ฝรั่งเยอะจริงๆ
จะมีการถวายผ้าไตรฯ เดินวนรอบเจดีย์กันมากมาย และมีจุดให้นั่งไหว้เยอะมาก พอมีที่ถ่ายภาพและนั่งสวดมนต์ รวมถึงที่นั่งพัก
แต่เมื่อจะลงข้างล่าง เลนก็จะแคบอีกเช่นเคย!!! เพราะทางขึ้นลงนั้นมีเลนเดียว!!! และที่สำคัญทางขึ้น-ลงเขาคนละจุดกัน
ดังนั้นไม่ต้องถอดรองเท้า รวมถึงไม่ต้องพยายามนั่งรอกันนะครับ ทำบุญตามอัธยาศัยแล้วนัดกันที่ฐานภูเขาดีที่สุด
ถามถึงการเดินทาง ไปจอดรถฝั่งวัดราชนัดดาฯ เลยครับ ขอร้องงง!!! เพราะถนนแคบมาก คนเยอะมาเรื่อยๆ
แล้วเดินอ้อมผ่านหน้าผัดไทยประตูผี ข้ามคลองมาจะดีที่สุดครับ คนเยอะ มากันเป็นครอบครัวทั้งนั้นเต็มถนน
หน้าวัดฟุตบาตเต็มไปด้วยร้านรถเข็นจับจองเต็มแนววัด เลนที่แคบอยู่แล้วก็จะมีรถจอดสองฝั่ง แคบหนักเลย!
แล้วขอละครับ ใครจอดถนนแคบๆ กรุณา ปิดหูช้าง ด้วย!!! 90% รถจอดแบบไม่แคร์สื่อกันมากๆ
เขตเมืองเก่าเราเลนรถก็วิ่งยากอยู่แล้ว ถนนเล็ก หลงง่าย คนเยอะ มีวินัยเอื้อเฟื้อกันด้วยนะครับ อายฝรั่งเค้า มากันเยอะจริงๆ
ข้อสังเกตุคือ คนที่จะทำผิดวินัย ทำแหกกฎ หรือมักง่าย มักเป็นคนไทยทั้งนั้นเลยครับ ฝรั่ง+จีนที่มาเที่ยวเค้าดูมีมารยาทมากๆเลยละ
6.วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร
พระอารามหลวงชั้นเอก สร้างในสมัยอยุธยา ตั้งอยู่ระหว่าง ม.ศิลปากรและ ม.ธรรมศาสตร์ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
นอกจากนี้ยังเป็น ศูนย์ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน นานาชาติ อีกด้วย จะมีลักษณะแบบวัดกลางเมือง เต็มไปด้วยหมู่ตึกติดๆกันแน่นขนัด
ทางเข้าเล็กมาก ให้จำทางดีๆนะครับ มีคนหลงทางข้างในเยอะมาก แต่คนไม่เยอะมาก เน้นมาเรื่อยๆ
เนื่องจากเป็นศูนย์ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จึงมีแม่ชีจำนวนมากรอบๆ กำแพงแก้ว อบอุ่นดีครับ
มีพระนักเทศน์คอยให้ความบันเทิง และของขลังแจกฟรี 555
สำหรับการเดินทางนะครับ ช่วงปีใหม่ มีการกั้นเลนใหม่เช่นเคย ทางรอบสนามลวงจะคล้ายวันเวย์
รถเยอะผิดคาดมาก!!! รถจะเริ่มติดตั่งแต่ป้อมมหากาฬครับ จากที่ว่างมาตลอด กทม จากตรงนี้ไปสนามหลวงเกือบ ชม
มีทางเลือกที่จอดรถดังนี้ครับ
1.ถนนหน้าวัดโพธ์ อันนี้ขอให้ผ่านไปเลยเถอะ
2.หลังกระทรวงริมคลอง ตามดวงนะครับ
3.สนามหลวง อันนี้ทางเลือกที่ดีอันนึง รอบๆ สนามหลวงตรงส่วนฟุตบาทเปิดเป็นลานจอดรถครับ
4.ท่ามหาราช ผมไปกินข้าวบ่ายที่นี้ ถือว่ายังโปร่งๆ จอดได้เรื่อยๆ ค่าจอด ชม.ละ 40 บาท
5.ท่าช้าง สโมสรราชนาวี ผมจอดที่นี้ ค่าจอด ชม.ละ 30 บาท กว้างขวาง เดินทางสะดวกเพราะกึ่งกลางของทุกสิ่ง
ตรงนี้ขอบ่น! สนามหลวงเอาฟุตบาทเป็นที่จอดรถ!!! โดยล้อมรั้วเขียวรอบทิศ!!! ทำไมทำยังงี้ละครับ!!!
คนมาสนามหลวงเรือนหมื่นเลยนะครับ แบบหมุนเวียนทั้งวันเลยด้วย!!! ถนนนี้แน่นขนัดตลอดเวลา
แล้วดันเอาฟุตบาทไปอีก ซ้ำล้อมรั่วให้คนลงไปเดินบนถนน!!! แล้วปล่อยใจกลางสนามหลวงเป็นสนามว่างๆ!?!?!?
คือผมไม่เข้าใจตรรกะข้าราชการไทย ทำไมชอบกั้นสนามให้เขียวขจีแต่ไร้ชีวิต!!?? ถ้ามีสนามหลวงไว้แค่โชว์แบบนี้
ผมว่าเอารถลงไปจอด แล้วคืนฟุตบาทให้ประชาชนจะน่าสรรเสริญกว่าครับ! มาดูแลทีหลังไม่ถึงสิบล้านหรอกครับ
แล้วถ้ามันดูแลยากก็ปรับเป็นอะไรที่น่าสนใจกว่าสนามหญ้าน่าจะดีนะครับ แบบลานโมเสกในต่างประเทศ มีประโยชน์สวยงามเหมือนกัน
เดี๋ยวมาต่อครับ หมดโควต้าพิมพ์ ^^"....
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น