จะขอเริ่มต้นเขียนถึงเมืองเล็กๆที่ไปใช้ชีวิตกว่า 1 ปี 6 เดือน ^^ Wollongong NSW Australia
กระทู้นี้จะพูดถึงเรื่อง ความน่ารักของเพื่อน ความน่าอยู่ของเมือง ความเงียบสงบ ที่สำคัญ เรื่อง กินนนนนนนนนนน ^^"
ต้องบอกว่ารู้จักเมืองนี้เพราะ พ่อ และ คุณตาเคยมาเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนที่นี่ในช่วงหนึ่งของชีวิตท่าน เราเลยโดยทั้งผลัก ดัน และ ถีบ ส่งมาที่นี่
จากภาพคือวันแรกที่เดินทางถึง ประเทศออสเตรเลีย
จะขอใช้คำว่า
ออส = ออสเตรเลีย
กอง/Gong = Wollongong
********** ถ้ามีหน้าตาพี่ๆน้องๆเพื่อนๆ คนไทย คนไหนโผล่มาแล้วอยากให้เอาออก Line หรือ Inbox FB มาเลยนะ อิอิ **********
เราเดินทางถึงออส ด้วยความรู้สึกว่าไม่อยากมาเลย เพราะไม่เคยมีชื่อ ออส ในหัวสมองเลยแม้แต่น้อย ที่อยากมาเรียน แถมยังนึกอีกว่าเมือง ห่า เหว อะไรว่ะ ฟังแล้วอยากกิน "ลองกอง" ขึ้นมาทันที แต่ด้วยอะไรก็ตามทำให้เราได้เดินทางมาจนได้ ^^"
เราเดินทางมาถึง มาแบบไม่รู้อะไร รุ้แค่ว่าเราต้องไปเข้าหอพักของมหาวิทยาลัย ที่ชื่อ Campus East ที่หมู่บ้านชื่อ Fairy Meadow และ ลงที่สถานีรถไฟแห่งนี้........เอิ่มมมมมมมมมมมม กูจะไปยังว่ะ??? ข้อมูลที่เตรียมไว้ในมือถือ แบ็ตหมดจ้าาาาาาา ......
เป็นอันว่าพออกจาก ตม. ของ ออส ก็ถามเจ้าหน้าทีว่า จะไปขึ้นรถไฟที่ไหน อะไร ยังไง ??
ทางเจ้าหน้าที่ก็น่ารักมาก คงเห็นเด็กไทย น่าโง่ๆ แบกกระเป๋าใบใหญ่ๆ ภาษาอังกฤษระดับ IELTS 4.0 พูดกับใครไม่รู้เรื่อง จนท เลยพาเดินมาส่งที่ซื้อตั๋สรถไฟ เราก็ขอบคุณเป็นการใหญ่
และแล้วด้วยความบ้าๆบอๆของเราก็ทำให้เรานั่งรถไฟมาถึงเมืองที่ชื่อว่า Wollongong เป็นอันสำเร็จ ......ใช่แล้วววววว เรามาถึงสถานีรถไฟที่ชื่อว่า Wollongong อ้าวววววววว แต่หอกูละ กูต้องลงสถานี Fairy Meadow นิ...
แล้ว ทำยังไงงงงงงง // ณ. จุดนั้นก็ยังคงยืนหน้าโง่ๆ ที่สถานีพร้อมถือแผนที่ ดูทางว่าจะไปยังไง แต่เราก็ยังโชคดีคุณ จนท สถานี เดินมาถามแล้วบอกเราว่าให้ ขึ้นบัส ฟรี สาย 55C หรือ 55A ก็ได้ แล้วบอก คนขับว่าจะลงที่ Campus East หรือ innovation campus ซึ่งทั้ง 2 ชื่อนี้ คือ บริเวณเดียวกัน เราก็ โอเค เข้าใจ แล้วก็เดินไปขึ้นรถฟรี !! คิดในใจ ดีจังเลยเมืองนี้มีรถฟรีด้วย ไปไหน มาไหนสะดวกจัง
พอขึ้นรถมาด้วยความที่คนรอคิวเยอะ มว๊ากกกกกกกก สรุปไม่ได้บอกคนขับบัส+แอร์เย็นๆ และเหนื่อยมาก หึหึ จะเหลืออะไรละ หลับบบบบบบ วนรอบเมืองไม่รู้กี่รอบ จนบัส มาจอดที่สถานีรถไฟ อีกที่ (North Wollongong) เราเลยถาม คนขับว่าจะไป Campus East ไปทางไหน ??? คนขับคงรำคาญกับภาษาอังกฤษของเรา .......คุณคนขับบอกให้เราลงแล้วเดินข้ามสถานีรถไฟไปเดียวก็ถึง ประมาณ 5-10 นาที.........เอาเป็นว่าขอตัดเลยและกัน ลงรถ เดินไป เดินมา 40 นาที ก็ยังไม่ถึง คือ กูหลงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง เดชะบุญ มีฝรั่งน้ำใจงามจอดรถถามเราว่า จะไป เราบอกว่า เราจะไป Campus East คุณผู้หญิงก็ใจดี วาดภาพแผนที่มาให้ สรุปแล้ว เดินไม่ถึง10 นาที จริงๆ ถึงเลย แต่ที่กูไม่ถึงเนี่ยะ เพราะเดินผิดซอย T_T โง่เกิ๊นนนนนน
ในที่สุด ก็ถึงแล้ว โว้ยยยยยยยยยยยยยย เข้าพักห้อง 152E ในหอพักของ มหา'ลัย เป็นหอพักรวม ชาย หญิง 5 ห้องนอน A-E ใน unit เรามีชาย 2 จาก ไทย ญี่ปุ่น หญิง 3 จาก อินโดนีเซีน จีน เยอรมัน และมารู้ที่หลังคือ ทั้ง 5 คน เกิดปี 1988/2531 กันทุกคน ไม่รู้มหา'ลัย มันจัดแบ่งกันยังไง และ บ้าๆบอๆ ทุกคน
และแล้วจากจุดเริ่มต้นของหอพักมหา'ลัย นี่เองที่ทำให้เรา ค่อยๆเริ่มหลงรัก คน ที่อยู่ ตัวเมือง มากขึ้น
ด้วยความที่มาถึงแล้วไม่มีอะไรติดตัวมาเลย หมอนไม่มี ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน ??? วันนั้นโชคดีมากที่เจอพี่คนไทย ที่อาศัยอยู่หอพักเดียวกัน พาไปซื้อของและให้ของบางส่วนมาใช้ (จริงๆแล้วก็รุ่นเดียวกันมากกว่า แต่มาเรียน โท กันก่อน) หลังจากกลับจากซื้อของเข้าห้อง เพื่อนก็เริ่มความน่ารักด้วยการเอา กระดาษโน็ตมาติดหน้าห้องว่า ถ้ากลับมาแล้วให้ไปเคาะห้อง......เราก็ไปเคาะห้อง สรุปคือ สาวอินโด นางเดินออกมาต้ม หมี่โกเล้ง ให้กินเพราะกลัวเราหิว ซึ่งจริงๆ กูก็หิวแหละ.....(แต่จริงๆแล้ว หมี่โกเล้งต้องกินแห้งๆแต่นางทำไม่เป็นเลยต้มแม้งสะน้ำเต็มชาม) หลังจากกินอิ่มนางก็พามาเดินดูห้องน้ำแล้วบอกว่า ของชาย ฝั่งขวา หญิงฝั่งซ้าย บราๆ ก็ผ่านไปคืนแรกกกกกกกกกกกกก
วันต่อมาก็ไปจัดการเรื่องรายงานตัวเรียน และอื่นๆตามเรื่อง ตามราว แต่กิจกรรมที่ห้อง 125 ทำ คือ การทำอาหารกินด้วยกัน และสิ่งนี้แหละคือ การเริ่มต้นการกระชับมิตรไมตรีอย่างสมบูรณ์
เมืองที่ฉันรัก Wollongong / Australia ^^
กระทู้นี้จะพูดถึงเรื่อง ความน่ารักของเพื่อน ความน่าอยู่ของเมือง ความเงียบสงบ ที่สำคัญ เรื่อง กินนนนนนนนนนน ^^"
ต้องบอกว่ารู้จักเมืองนี้เพราะ พ่อ และ คุณตาเคยมาเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนที่นี่ในช่วงหนึ่งของชีวิตท่าน เราเลยโดยทั้งผลัก ดัน และ ถีบ ส่งมาที่นี่
จากภาพคือวันแรกที่เดินทางถึง ประเทศออสเตรเลีย
จะขอใช้คำว่า
ออส = ออสเตรเลีย
กอง/Gong = Wollongong
********** ถ้ามีหน้าตาพี่ๆน้องๆเพื่อนๆ คนไทย คนไหนโผล่มาแล้วอยากให้เอาออก Line หรือ Inbox FB มาเลยนะ อิอิ **********
เราเดินทางถึงออส ด้วยความรู้สึกว่าไม่อยากมาเลย เพราะไม่เคยมีชื่อ ออส ในหัวสมองเลยแม้แต่น้อย ที่อยากมาเรียน แถมยังนึกอีกว่าเมือง ห่า เหว อะไรว่ะ ฟังแล้วอยากกิน "ลองกอง" ขึ้นมาทันที แต่ด้วยอะไรก็ตามทำให้เราได้เดินทางมาจนได้ ^^"
เราเดินทางมาถึง มาแบบไม่รู้อะไร รุ้แค่ว่าเราต้องไปเข้าหอพักของมหาวิทยาลัย ที่ชื่อ Campus East ที่หมู่บ้านชื่อ Fairy Meadow และ ลงที่สถานีรถไฟแห่งนี้........เอิ่มมมมมมมมมมมม กูจะไปยังว่ะ??? ข้อมูลที่เตรียมไว้ในมือถือ แบ็ตหมดจ้าาาาาาา ......
เป็นอันว่าพออกจาก ตม. ของ ออส ก็ถามเจ้าหน้าทีว่า จะไปขึ้นรถไฟที่ไหน อะไร ยังไง ??
ทางเจ้าหน้าที่ก็น่ารักมาก คงเห็นเด็กไทย น่าโง่ๆ แบกกระเป๋าใบใหญ่ๆ ภาษาอังกฤษระดับ IELTS 4.0 พูดกับใครไม่รู้เรื่อง จนท เลยพาเดินมาส่งที่ซื้อตั๋สรถไฟ เราก็ขอบคุณเป็นการใหญ่
และแล้วด้วยความบ้าๆบอๆของเราก็ทำให้เรานั่งรถไฟมาถึงเมืองที่ชื่อว่า Wollongong เป็นอันสำเร็จ ......ใช่แล้วววววว เรามาถึงสถานีรถไฟที่ชื่อว่า Wollongong อ้าวววววววว แต่หอกูละ กูต้องลงสถานี Fairy Meadow นิ... แล้ว ทำยังไงงงงงงง // ณ. จุดนั้นก็ยังคงยืนหน้าโง่ๆ ที่สถานีพร้อมถือแผนที่ ดูทางว่าจะไปยังไง แต่เราก็ยังโชคดีคุณ จนท สถานี เดินมาถามแล้วบอกเราว่าให้ ขึ้นบัส ฟรี สาย 55C หรือ 55A ก็ได้ แล้วบอก คนขับว่าจะลงที่ Campus East หรือ innovation campus ซึ่งทั้ง 2 ชื่อนี้ คือ บริเวณเดียวกัน เราก็ โอเค เข้าใจ แล้วก็เดินไปขึ้นรถฟรี !! คิดในใจ ดีจังเลยเมืองนี้มีรถฟรีด้วย ไปไหน มาไหนสะดวกจัง
พอขึ้นรถมาด้วยความที่คนรอคิวเยอะ มว๊ากกกกกกกก สรุปไม่ได้บอกคนขับบัส+แอร์เย็นๆ และเหนื่อยมาก หึหึ จะเหลืออะไรละ หลับบบบบบบ วนรอบเมืองไม่รู้กี่รอบ จนบัส มาจอดที่สถานีรถไฟ อีกที่ (North Wollongong) เราเลยถาม คนขับว่าจะไป Campus East ไปทางไหน ??? คนขับคงรำคาญกับภาษาอังกฤษของเรา .......คุณคนขับบอกให้เราลงแล้วเดินข้ามสถานีรถไฟไปเดียวก็ถึง ประมาณ 5-10 นาที.........เอาเป็นว่าขอตัดเลยและกัน ลงรถ เดินไป เดินมา 40 นาที ก็ยังไม่ถึง คือ กูหลงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง เดชะบุญ มีฝรั่งน้ำใจงามจอดรถถามเราว่า จะไป เราบอกว่า เราจะไป Campus East คุณผู้หญิงก็ใจดี วาดภาพแผนที่มาให้ สรุปแล้ว เดินไม่ถึง10 นาที จริงๆ ถึงเลย แต่ที่กูไม่ถึงเนี่ยะ เพราะเดินผิดซอย T_T โง่เกิ๊นนนนนน
ในที่สุด ก็ถึงแล้ว โว้ยยยยยยยยยยยยยย เข้าพักห้อง 152E ในหอพักของ มหา'ลัย เป็นหอพักรวม ชาย หญิง 5 ห้องนอน A-E ใน unit เรามีชาย 2 จาก ไทย ญี่ปุ่น หญิง 3 จาก อินโดนีเซีน จีน เยอรมัน และมารู้ที่หลังคือ ทั้ง 5 คน เกิดปี 1988/2531 กันทุกคน ไม่รู้มหา'ลัย มันจัดแบ่งกันยังไง และ บ้าๆบอๆ ทุกคน
และแล้วจากจุดเริ่มต้นของหอพักมหา'ลัย นี่เองที่ทำให้เรา ค่อยๆเริ่มหลงรัก คน ที่อยู่ ตัวเมือง มากขึ้น
ด้วยความที่มาถึงแล้วไม่มีอะไรติดตัวมาเลย หมอนไม่มี ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน ??? วันนั้นโชคดีมากที่เจอพี่คนไทย ที่อาศัยอยู่หอพักเดียวกัน พาไปซื้อของและให้ของบางส่วนมาใช้ (จริงๆแล้วก็รุ่นเดียวกันมากกว่า แต่มาเรียน โท กันก่อน) หลังจากกลับจากซื้อของเข้าห้อง เพื่อนก็เริ่มความน่ารักด้วยการเอา กระดาษโน็ตมาติดหน้าห้องว่า ถ้ากลับมาแล้วให้ไปเคาะห้อง......เราก็ไปเคาะห้อง สรุปคือ สาวอินโด นางเดินออกมาต้ม หมี่โกเล้ง ให้กินเพราะกลัวเราหิว ซึ่งจริงๆ กูก็หิวแหละ.....(แต่จริงๆแล้ว หมี่โกเล้งต้องกินแห้งๆแต่นางทำไม่เป็นเลยต้มแม้งสะน้ำเต็มชาม) หลังจากกินอิ่มนางก็พามาเดินดูห้องน้ำแล้วบอกว่า ของชาย ฝั่งขวา หญิงฝั่งซ้าย บราๆ ก็ผ่านไปคืนแรกกกกกกกกกกกกก
วันต่อมาก็ไปจัดการเรื่องรายงานตัวเรียน และอื่นๆตามเรื่อง ตามราว แต่กิจกรรมที่ห้อง 125 ทำ คือ การทำอาหารกินด้วยกัน และสิ่งนี้แหละคือ การเริ่มต้นการกระชับมิตรไมตรีอย่างสมบูรณ์