สวัสดีค่ะ

แอบสิงอยู่ในห้องแป้งมาตั้งแต่เรียนมัธยม ไม่เคยตั้งกระทู้เลย วันนี้ฤกษ์ดีวันปีใหม่ เลยเจิมกระทู้แรกด้วยการแบ่งปันของรักในปี 2015 เผื่อไว้เป็นแนวทางให้เพื่อนๆไว้ตัดสินใจซื้อในปีหน้านะคะ ทุกชิ้นที่เลือกมานี้เราใช้เป็นประจำ บางชิ้นเพิ่งค้นพบในปีนี้และบางชิ้นซื้อใช้ซ้ำมาตลอดหลายปีแล้ว เพื่อช่วยให้ทุกคนตัดสินใจง่ายขึ้น มาทราบสภาพผิวกันคร่าวๆก่อน....เราเป็นคนผิวมันและอุดตันง่าย (Acne-prone Skin) มีสิวอุดตันและสิวอักเสบขึ้นประปราย รูขุมขนกว้าง สีผิวขาวเหลืองประมาณ NC20-25 แล้วแต่ช่วง และริมฝีปากแห้งง่าย

เราแบ่งเป็นทั้งหมด  9 หมวด 27 ชิ้นเพื่อง่ายต่อการอ่าน

1. Best of Skincare
2. Best of Sunscreen
3. Best of Acne Treatment
4. Best of Fragrance
5. Best of Face Products
6. Best of Cheek Products
7. Best of Eye/Brow Products
8. Best of Lip Products
9. Best of Application Tool

ถ้าพร้อมแล้ว เตรียมขนมนมเนยแล้วขยับมาชิดๆขอบจอ เตรียมรับชมกันเลยค่ะ กระทู้อาจยาวซักนิด โปรดติดตาม...

ป.ล.เนื่องจากตอนนี้เราไม่ได้อยู่ในประเทศไทย ผันตัวเองมาอยู่ดินแดนจิงโจ้เพื่อเรียนต่อ….ดังนั้นของบางชิ้นเราซื้อที่นี่จะเป็นราคา A$ อาจยังไม่มีขายในไทย แต่จะประมาณเป็นราคาบาทไว้ให้ค่ะ

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Life Plankton Essenceอันโด่งดังแน่นอนเราซื้อตามเพราะกระแสฮิตเหลือเกิน ส่วนตัวเราไม่เห็นผลเรื่องกระชับรูขุมขนและความขาว
แต่ที่ติดใจเหลือเกินคือทำให้ผิวเนียนนุ่ม และช่วยลดการระคายเคืองได้ดีมาก! ส่วนตัวมักมีปัญหากับยาทาสิวที่ทำให้ผิวแสบและแดง
วันไหนที่มีอาการจะโบก Essence ที่บริเวณนั้นแบบชุ่มๆทิ้งไว้เลย... ตื่นเช้ามาอาการแสบแดงมันหายไปค่ะ! เห็นหลายคนมีปัญหาถ้าทา Essence ตอนเช้าแล้วทำให้หน้าเมือกระหว่างวัน เราแนะนำให้ใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ประมาณ 3-4 หยด ก่อนทาให้ฉีดสเปรย์น้ำแร่
นำก่อนเพื่อช่วยให้ Essence ซึมได้ดี.... ส่วนตัวเราใช้วิธีนี้ตลอด หลีกเลี่ยงอาการเหนียวหน้า หน้ามัน และเมือกระหว่างวันค่ะ

......รักมากมาย ขนาดที่ตุนไซส์ใหญ่ไว้เรียบร้อยแล้ว......

Estee ANR ในตำนานที่ฮิตกันมาตลอด เคยซื้อราคาCounter ช่วงแรกๆ เริ่มสู้ไม่ไหวแต่ใจยังรัก Serum ตัวนี้อยู่จนต้องหาซื้อในราคาที่รับได้ พูดได้เต็มปากว่าเป็น Serum สามัญประจำบ้านที่ต้องมีติดโต๊ะเครื่องแป้งไว้ตลอดเวลา ส่วนตัวเริ่มใช้ตั้งแต่อายุ 21 จนบัดนี้ใช้มาไม่ต่ำกว่า 4ขวดแล้ว (บวกลบอายุเอาเอง 555) ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนใจ...... หลักๆแล้ว Estee ANR ช่วยให้มีพื้นฐานผิวที่แข็งแรง ป้องกันริ้วรอยเกิดก่อนวัย และสร้างสมดุลให้กับผิว ตั้งแต่เราใช้มา ผิวหน้าเราดีขึ้นมาก อาการแพ้ง่ายลดน้อยลง (แต่ยังมีอยู่บ้าง) สมดุลหน้าดีขึ้น หน้ามันน้อยลงจนอยู่ในระดับที่ใช้ทิชชู่ซับระหว่างวันก็เอาอยู่ เราเชื่อว่าการลงทุนกับสกินแคร์ดีๆ มันคุ้มกับการมีผิวแข็งแรงในระยะยาวค่ะ

........รักตลอดไป ยังคงซื้อใช้ต่อไปแม้ราคาจะบีบหัวใจ........

Eye Cream ตัวนี้เราซื้อมาจากไทย แต่เพิ่งเริ่มใช้เมื่อเดือนส.ค. เพราะเป็นช่วงหน้าหนาวของออสเตรเลียพอดีผิวใต้ตาเราแห้งลอกมากจากอากาศแห้ง มันลอกเป็นขุยๆและแสบแดงเลยทีเดียว ก็ได้ Eye Cream ตัวนี้แหละค่ะที่ช่วยชีวิตเราไว้ ให้ความชุ่มชื่นเต็มที่ ซึมเร็ว
ไม่ระคายเคืองตา แต่ตัวนี้ไม่ได้ช่วยเรื่องริ้วรอยและแพนด้าเท่าไหร่นะคะ คนที่มีปัญหาเหล่านี้อาจต้องพึ่งตัวอื่น
แต่สำหรับอาการแห้งลอก Eye Cream ตัวนี้มาวินจริงๆค่ะ!

........ของรักหน้าหนาว........

Tips: แตะครีมขึ้นมาแล้ววอร์มเบาๆให้ครีมแตกตัวก่อนจะทาบางๆใต้ตา มิเช่นนั้น ถ้าไม่วอร์มครีมก่อนมันจะเกลี่ยไม่ไป

Moisturiser สามัญทั่วไป ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น เราเริ่มใช้ครีมของ Cetaphil ตั้งแต่อยู่ไทย ชื่อเดียวกันแต่คนละ Package รู้สึกจะผลิตจากคนละประเทศกันด้วย พอมาอยู่ที่ออสเตรเลียก็ยังคงซื้อใช้เหมือนเดิม แต่ที่ต่างไปคือเนื้อสัมผัสค่ะรุ่นที่ขายที่ออสจะเนื้อเข้มข้นและหนักกว่ารุ่นที่ขายในไทย ส่วนการให้ความชุ่มชื้นยังดีเหมือนเดิม เรารักครีมตัวนี้มากเพราะเป็น Moisturiser ยี่ห้อเดียวที่ไม่อุดตันผิวเรา ลองผิดลองถูกมาเยอะมาก ใครเค้าว่าดีก็ซื้อใช้ตาม.....ไม่รอด อุดตันตลอด สุดท้ายก็กลับมาตายรังที่เดิม สำหรับคนผิวมันควรใช้แต่น้อย แค่ทางบางๆไม่งั้นจะเยิ้มเกินไป

......รักน้อยๆ แต่รักนานๆ.......

เป็นของรักที่ลงทุนหิ้วมาจากไทย ตุนไว้ทุกครั้งที่กลับไป เป็นกันแดดเนื้อน้ำนมที่ซึมเร็ว ไม่ทำให้หน้าเหนอะ ไม่อุดตันผิว ไม่ทำให้เมคอัพเยิ้มเร็ว ที่สำคัญคือกันแดดได้ดี ไม่แสบผิวค่ะ.... อย่างที่รู้กันว่าแดดออสเตรเลียแรงขนาดไหน UV แรงกว่าไทยหลายเท่า กันแดดตัวนี้ช่วยให้เราไม่มีปัญหาหน้าไหม้ หน้าคล้ำ และแสบหน้าเลยซักนิดเดียวเมื่อใช้ในปริมาณที่เหมาะสม
(ห้ามงกกันแดดเด็ดขาด!) เราใช้เฉลี่ย 1 ขวดเดือนครึ่งค่ะ

......รักข้ามประเทศ กลับไทยเมื่อไหร่ จะตุนมาอีกแน่นอน.......

Tips: เราใช้ปริมาณครีมกันแดด 2 ข้อนิ้วต่อครั้ง เพื่อประสิทธิภาพการกันแดดที่สูงสุด
ทาแล้วทิ้งไว้ให้ซึมก่อนลงเมคอัพนะ ไม่งั้นจะรู้สึกมันเกินไปค่ะ

เราเพิ่งเริ่มใช้ Differinเมื่อต้นปีนี้เองเนื่องจากมีเพื่อนที่เป็นหมอแนะนำมา Differinช่วยเรื่องสิวอุดตันเป็นหลัก ใช้แรกๆอาจมีสิวผุดขึ้นมาแล้วแต่ระดับความอุดตันของผิว ส่วนตัวเราผุดไม่มากค่ะ พอรับได้ แต่ปัญหาใหญ่ของเราคือ ทาติดต่อกันเกิน 3 วันไม่ได้เลย ผิวจะเห่อแดง ลอก และแสบมาก เราจึงทาได้แค่ประมาณ 2 ครั้งต่อสัปดาห์และต้องทาบางมากถึงมากที่สุด เว้นช่วงใต้ตาและหน้าแก้มไว้ มิเช่นนั้นจะระคายเคืองอย่างมาก ผลการใช้ Differin คือสิวอุดตันน้อยลงและแทบไม่ขึ้นถ้าทาเป็นประจำ ถือว่าเป็นของรักที่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังค่ะ

......ลูกรักลูกชัง แต่มีติดไว้ก็อุ่นใจ.......

น้ำหอมกลิ่นกุหลาบจ๋า....ถ้าใครที่ไม่ชอบกลิ่นกุหลาบอาจจะรู้สึก อี๋.... แก่อ่ะRose Essentielle เป็นกลิ่นกุหลาบแห้งๆแนวผู้ใหญ่นิดนึง ไม่ใช่แนวกลิ่นใสๆ ใส่แล้วดูผู้หญิ๊งผู้หญิง เข้ากับลุคที่ใส่กระโปรง ใส่เดรส ปล่อยผมสลวย ช่วง Top Note อาจจะฉุนไปซักนิด แต่เมื่อรอให้ถึง Middle Note แล้วกลิ่นจะสบายจมูกขึ้น กลิ่นนี้ใส่ได้ทุกโอกาส ในทั้งอากาศร้อนและหนาว ถึงแม้ว่าจะเป็น EDT
แต่ก็ติดทน 6 ชั่วโมง+ สำหรับแค่ 3 สเปรย์บนผิวเรา หลังจากนั้นจะกลายเป็นกลิ่นติดผิวอ่อนๆ ชวนให้คลอเคลียใกล้ๆ.....
เราชอบกลิ่นนี้มากถึงขั้นเป็น Signature เลยทีเดียว

......รักกลิ่น รักแบรนด์ รัก Design รักสีชมพู.......