...ออกตัวก่อนเลยครับ ว่า กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผม และสถานที่ที่เราได้ไปเที่ยวกันจริงๆ ก็คือ น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น (อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์(น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น)) สำหรับผู้ที่เข้ามาอ่าน จะได้ไม่ว่ากันทีหลังครับ ว่า”แล้วมันไปเกี่ยวอะไรกับพุเตย”
สาเหตุที่กล่าวถึงพุเตยในข้างต้นเพราะว่า แพลนของพวกเราจริงๆ นั้น คือไปเที่ยวที่พุเตย (อุทยานแห่งชาติพุเตย) แล้วค้างคืนที่นั่นประมาณ 2 คืน ในวันที่ 2 นั้นเรามีแพลนจะขึ่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดเขาเทวดา แต่ ก็ตามชื่อของกระทู้ครับ ทริปนี่เราแพลนกันหลวมจริงๆ (และเป็นทริปแรกของผมด้วย…ฮา) เต็นท์ก็ไม่มีไป กะไปหาเอาข้างหน้า อุทยานเราก็โทรไปนัดตอนที่จะไปถึงทางเข้าอุทยานกันแล้ว สรุป เต็นท์หมด ส่วนทางขึ้น เนื่องจากเราเอารถกระบะกันไปเอง ไม่ใช่พวกรถออฟโรด ประกอบกับทางที่ขรุขระ(โคตร) พอไปถึงกลางทาง เราจึงตกลงกันว่า………………..เปลี่ยนที่กันเถอะ รถอาจพังก่อนขึ้นไปถึง……ฮาๆๆ (ผมแนะนำนะครับ สำหรับคนที่อยากไปเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติพุเตย ผมแนะนำให้โทรไปที่อุทยานเพื่อถามข้อมูลก่อน และควรอย่างยิ่งที่จะนำเต็นท์ไปเอง เพราะยิ่งเป็นช่วงเทศกาลด้วย คนจะเยอะมาก ไม่งั้นอาจเป็นเหมือนแก๊งของพวกผม ฮาๆๆ) ใช้เวลาซักพัก พวกเราจึงตกลงปลงใจกันว่า จะไปที่ ห้วยแม่ขมิ้น… ตกลงกันได้ดังนั้น (เอกฉันท์ทั้ง 4 เสียง) พวกเราจึงเปลี่ยนที่หมายใหม่แล้วบึ่งรถออกกันทันที
(และนี่คือสาเหตุที่ทำไมถึงมี อุทยานแห่งชาติพุเตยมาเกี่ยวข้อง (ฮาๆๆๆๆ)
………เข้าเรื่อง (ซักที่)
จุดแลนด์มาร์กที่แทบทุกคนต้องมาถ่ายครับ
เราออกเดินทางโดยมีเป้าหมายใหม่เป็น น้ำตกแม่ห้วยขมิ้น จังหวัดกาญจนบุรีครับ โดยเวลาตอนนั้น ถ้าจำไม่ผิด เป็นเวลาประมาณ บ่ายโมงกว่าๆแล้ว แต่ไปไม่ถึง (อ่าว…) เพราะบ่าย 4 โมงกว่าๆเราดูจาก GPS แล้วยังอยู่ไกลจากที่หมายมาก กลัวไปถึงตอนมึดแล้วจะขึ้นอุทยานไม่ได้ครับ อันตราย พวกเราจึงตกลงกันว่า จะหาที่พักกันก่อน หาไป หามา จึงมาได้ที่นี่ครับ
The Open Hill Resort
พวกเราเลือกหลังที่เล็กที่สุด เพราะต้องการเซฟเงิน สรุปได้หลังสีน้ำตาลครับ ราคาก็เอาเรื่องอยู่ถ้าไปคนเดียว แต่เราไปกัน 4 คนครับ (แฮ่ๆๆ) สรุปหารกันไปคน 700 ก็ได้ที่พักที่สบายและบรรยากาศสวยงาม (เพิ่มเติมครับ สำหรับใครที่อยากสัมผัสธรรมชาติที่นี่เขามีลานกางเต้นท์ให้ด้วยนะครับ ส่วนรายละเอียดสามารถสอบถามที่ได้ห้อง Reception ครับ)
เช้าวันที่ 2
เช้าวันนี้ผมตื่นเช้าครับ เพื่อมาเก็บบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้นช่วงแสงแรก แต่เจ้ากรรม ลืมไปว่ามีภูเขาบัง (…….) เลยได้มาแค่นี้
สำหรับที่รีสอร์ทที่นี่ตอนเช้าเขาจะมี Breakfast ให้เลือกครับ พอกินอิ่ม เราก็เช็คเอาท์ออกจากรีสอร์ทตั้งแต่เช้าครับ เพราะเราต้องการไปถึงให้เร็วที่สุด (แต่เช็คเอาท์ออกตอน 9 โมงเช้าเนี่ยนะ…)
ไปถึงพอหาที่จอดรถได้ เราก็ไปที่ที่รับจองเต็นท์ก่อนเลยครับ ลุ้นมาก กลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย (ฮา) ผลปรากฏว่า…….ได้ครับ ยังมีเต็นท์เหลืออีกเยอะ(โล่ง) เราเลือกเต็นท์หน้าสุดครับ เพราะต้องการชมวิวพระอาทิตย์ตอนเข้า เมื่อจองเต็นท์เสร็จ อุปกรณ์นอนพร้อม……. จะรออะไรหล่ะครับ เราก็ไปเล่นน้ำกันเลย
ลานกลางเต็นท์ที่อุทยานครับ
…….เราเล่นจากขั้นบนไปก่อน แล้วค่อยไล่ลงมาชั้นล่างครับ
.......ตกเย็น ขนอุปกรณ์ต่างๆเข้าเต็นท์ พร้อมของกิน เตรียมปรุงครับ
อิ่มครับมื้อนี้
ตอนกลางคืนดาวสวยมากครับที่นี่ ตอนแรกก็นึกหวั่นๆว่า อาจจะมีเมฆบัง เพราะได้ข่าวก่อนวันที่ผมจะมาฝนตกครับ
ดาวเยอะมากกก
วันที่ 3
วันนี้ผมตื่นมาแต่เช้าเช่นเคยครับ เพื่อมาเก็บแสงแรกกับพระอาทิตย์ ตั้งกล้องตั้งกะเกือบๆ 6โมงเช้า แต่กว่าจะได้รูปพระอาทิตย์แสงแรกก็เกือบ 8 โมงเช้า สงสัยพระอาทิตย์คงจะอาย คนมาถ่ายเยอะ (ฮา)
จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นครับ
........สำหรับวันที่ผมไปนั้น ไม่เห็นทะเลหมอกครับ อาจจะเพราะยังไม่หนาวเท่าไร แต่เสื้อกันหนาวที่เตรียมไป ก็ได้ใช้ครับ
หลังจากถ่ายแสงแรกกันเสร็จแล้ว เราก็มาจัดการกับอาหารเช้ากัน อาหารเช้าในวันนี้เป็นขนมปังปิ้งกับเนยพร้อมกาแฟครับ มีไข่ทอดนิดหน่อย ก็อิ่มกันไปครับในตอนเช้า
อาหารเช้าง่ายๆครับ
หลังจากกินอาหารเสร็จ เก็บของคืนเจ้าหน้าที่ที่อุทยานเรียบร้อย ขนของขึ้นรถเสร็จสรรพ เราก็เตรียมตัวกลับบ้านครับ……………… แต่ยัง ทริปของเรายังไม่จบ ไหนๆมาแล้วจะให้จบแค่นี้ได้ไง...............
ระหว่างทางกลับ เราไปต่อที่ถ้ำพระธาตุครับ อยู่ห่างจากตัวอุทยานไม่เท่าไร (ขามา เราจะเห็นทางเข้า ถ้ำพระธาตุก่อนครับ มีทางเข้า 2 ทาง ต้องสังเกตกันให้ดีๆ)
หมู่ๆๆ
ข้างในเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเอราวัณครับ ต้องเสียค่าเข้าเหมือนที่น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น แต่ถ้าใครมีบัตรนักศึกษา จะได้ลดครึ่งราคาครับ
ทางขึ้นจากด้านล่าง ถึงปากทางเข้าถ้ำ มีระยะทางประมาณ 600 เมตรครับ แต่เป็น 600 เมตรที่โหดพอสมควร ถ้าใครกลัวขึ้นไม่ไหวนะครับ ด้านล่างมีไม้เท้าตั้งวางไว้ให้ (ถ้าผมจำไม่ผิดนะ พึ่งมาเห็นตอนขาลงมา ……….กรรม)
อีกนิดๆ จะถึงแว้วววว
........พอขึ้นไปแล้วเราจะเข้าไปในถ้ำเลยไม่ได้ครับ เพราะในถ้ำมืดมากกกกก ต้องมีเจ้าหน้าที่พาเราเข้าไป เราเลยได้นั่งรอพักเหนื่อยกันอยู่ประมาณ เกือบๆ ครึ่งชั่วโมง
……...ก่อนเข้าถ้ำจะมีแผ่นป้ายติดอยู่เพื่อบอกว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ โดยเฉพาะข้อสำคัญเลยคือ ต้องปฏิบัติตามคำบอกของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพราะข้างในมืดมากกก และอันตรายพอสมควร และอาจทำอันตรายแก่หินย้อยที่อยู่ภายในถ้ำได้
………….ข้างในสวยมากครับ
เกินคำบรรยายเลยครับ
โอเค หลังออกจากถ้ำมาแล้ว เราก็ทำอะไรกินกันนิดนึ่ง แล้วเตรียมตัวบึ่งรถกลับบ้าน………. แต่ยัง……! บอกแล้วครับ มาทั้งที ต้องเที่ยวให้คุ้ม พวกเราจึงขับรถขึ้นไปที่สันเขื่อนศรีนครินทร์เพื่อชมความงามวิวสูงๆ บนสันเขื่อนครับ
เราอยู่ที่นั่นกันประมาณ15 นาที่ แล้วก็กลับบ้าน……….. ใช่ครับ คราวนี้เรากลับกันจริงๆแล้ว ไม่แวะที่ไหนแล้ว
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านครับ ไว้คราวหน้า (ที่คงจะอีกนานนนน) ผมได้ไปเที่ยวที่ไหนอีก ผมจะกลับมารีวิวให้ได้อ่านอีกครับ
เครดิตส่งท้าย และคำขอบคุณ
ทริปนี้คงจะเกิดไม่ได้ ถ้าเพื่อนๆผมแก๊งนี้ไม่ชวนผมไปด้วย ก่อนไปทริปนี้มีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นพอสมควร จนเกือบทำให้ผมจะไม่ได้ไปแล้วครับ แต่ก็ยังได้ไป ต้องขอบคุณเลยครับ
1 Ppdon Loneline ที่ให้ผมติดรถไปด้วย และยังไห้ผมยื้มกล้องอีก
ปล. กล้องผมขณะนั้นส่งซ่อมที่ศูนย์ครับ ก่อนวันไปประมาณ 10 วัน…………เศร้า
2 Pn Jeab เจ้าแม่ประจำแก๊ง หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่ม (ฮาๆๆๆ)
3 Appulu J’oh เขาชวนผมมา 3 ครั้งแล้ว แต่ผมพึ่งได้ไป และเขานี่แหล่ะ คือพ่อครัวประจำแก๊ง
ขอบคุณคร๊าบบบบบบบ
ทริปหลวมๆ จากพุเตยถึง"ห้วยแม่ขมิ้น"
สาเหตุที่กล่าวถึงพุเตยในข้างต้นเพราะว่า แพลนของพวกเราจริงๆ นั้น คือไปเที่ยวที่พุเตย (อุทยานแห่งชาติพุเตย) แล้วค้างคืนที่นั่นประมาณ 2 คืน ในวันที่ 2 นั้นเรามีแพลนจะขึ่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดเขาเทวดา แต่ ก็ตามชื่อของกระทู้ครับ ทริปนี่เราแพลนกันหลวมจริงๆ (และเป็นทริปแรกของผมด้วย…ฮา) เต็นท์ก็ไม่มีไป กะไปหาเอาข้างหน้า อุทยานเราก็โทรไปนัดตอนที่จะไปถึงทางเข้าอุทยานกันแล้ว สรุป เต็นท์หมด ส่วนทางขึ้น เนื่องจากเราเอารถกระบะกันไปเอง ไม่ใช่พวกรถออฟโรด ประกอบกับทางที่ขรุขระ(โคตร) พอไปถึงกลางทาง เราจึงตกลงกันว่า………………..เปลี่ยนที่กันเถอะ รถอาจพังก่อนขึ้นไปถึง……ฮาๆๆ (ผมแนะนำนะครับ สำหรับคนที่อยากไปเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติพุเตย ผมแนะนำให้โทรไปที่อุทยานเพื่อถามข้อมูลก่อน และควรอย่างยิ่งที่จะนำเต็นท์ไปเอง เพราะยิ่งเป็นช่วงเทศกาลด้วย คนจะเยอะมาก ไม่งั้นอาจเป็นเหมือนแก๊งของพวกผม ฮาๆๆ) ใช้เวลาซักพัก พวกเราจึงตกลงปลงใจกันว่า จะไปที่ ห้วยแม่ขมิ้น… ตกลงกันได้ดังนั้น (เอกฉันท์ทั้ง 4 เสียง) พวกเราจึงเปลี่ยนที่หมายใหม่แล้วบึ่งรถออกกันทันที
(และนี่คือสาเหตุที่ทำไมถึงมี อุทยานแห่งชาติพุเตยมาเกี่ยวข้อง (ฮาๆๆๆๆ)
เราออกเดินทางโดยมีเป้าหมายใหม่เป็น น้ำตกแม่ห้วยขมิ้น จังหวัดกาญจนบุรีครับ โดยเวลาตอนนั้น ถ้าจำไม่ผิด เป็นเวลาประมาณ บ่ายโมงกว่าๆแล้ว แต่ไปไม่ถึง (อ่าว…) เพราะบ่าย 4 โมงกว่าๆเราดูจาก GPS แล้วยังอยู่ไกลจากที่หมายมาก กลัวไปถึงตอนมึดแล้วจะขึ้นอุทยานไม่ได้ครับ อันตราย พวกเราจึงตกลงกันว่า จะหาที่พักกันก่อน หาไป หามา จึงมาได้ที่นี่ครับ
The Open Hill Resort
พวกเราเลือกหลังที่เล็กที่สุด เพราะต้องการเซฟเงิน สรุปได้หลังสีน้ำตาลครับ ราคาก็เอาเรื่องอยู่ถ้าไปคนเดียว แต่เราไปกัน 4 คนครับ (แฮ่ๆๆ) สรุปหารกันไปคน 700 ก็ได้ที่พักที่สบายและบรรยากาศสวยงาม (เพิ่มเติมครับ สำหรับใครที่อยากสัมผัสธรรมชาติที่นี่เขามีลานกางเต้นท์ให้ด้วยนะครับ ส่วนรายละเอียดสามารถสอบถามที่ได้ห้อง Reception ครับ)
เช้าวันนี้ผมตื่นเช้าครับ เพื่อมาเก็บบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้นช่วงแสงแรก แต่เจ้ากรรม ลืมไปว่ามีภูเขาบัง (…….) เลยได้มาแค่นี้
สำหรับที่รีสอร์ทที่นี่ตอนเช้าเขาจะมี Breakfast ให้เลือกครับ พอกินอิ่ม เราก็เช็คเอาท์ออกจากรีสอร์ทตั้งแต่เช้าครับ เพราะเราต้องการไปถึงให้เร็วที่สุด (แต่เช็คเอาท์ออกตอน 9 โมงเช้าเนี่ยนะ…)
ไปถึงพอหาที่จอดรถได้ เราก็ไปที่ที่รับจองเต็นท์ก่อนเลยครับ ลุ้นมาก กลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย (ฮา) ผลปรากฏว่า…….ได้ครับ ยังมีเต็นท์เหลืออีกเยอะ(โล่ง) เราเลือกเต็นท์หน้าสุดครับ เพราะต้องการชมวิวพระอาทิตย์ตอนเข้า เมื่อจองเต็นท์เสร็จ อุปกรณ์นอนพร้อม……. จะรออะไรหล่ะครับ เราก็ไปเล่นน้ำกันเลย
ลานกลางเต็นท์ที่อุทยานครับ
…….เราเล่นจากขั้นบนไปก่อน แล้วค่อยไล่ลงมาชั้นล่างครับ
.......ตกเย็น ขนอุปกรณ์ต่างๆเข้าเต็นท์ พร้อมของกิน เตรียมปรุงครับ
อิ่มครับมื้อนี้
ตอนกลางคืนดาวสวยมากครับที่นี่ ตอนแรกก็นึกหวั่นๆว่า อาจจะมีเมฆบัง เพราะได้ข่าวก่อนวันที่ผมจะมาฝนตกครับ
ดาวเยอะมากกก
วันนี้ผมตื่นมาแต่เช้าเช่นเคยครับ เพื่อมาเก็บแสงแรกกับพระอาทิตย์ ตั้งกล้องตั้งกะเกือบๆ 6โมงเช้า แต่กว่าจะได้รูปพระอาทิตย์แสงแรกก็เกือบ 8 โมงเช้า สงสัยพระอาทิตย์คงจะอาย คนมาถ่ายเยอะ (ฮา)
จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นครับ
........สำหรับวันที่ผมไปนั้น ไม่เห็นทะเลหมอกครับ อาจจะเพราะยังไม่หนาวเท่าไร แต่เสื้อกันหนาวที่เตรียมไป ก็ได้ใช้ครับ
หลังจากถ่ายแสงแรกกันเสร็จแล้ว เราก็มาจัดการกับอาหารเช้ากัน อาหารเช้าในวันนี้เป็นขนมปังปิ้งกับเนยพร้อมกาแฟครับ มีไข่ทอดนิดหน่อย ก็อิ่มกันไปครับในตอนเช้า
อาหารเช้าง่ายๆครับ
หลังจากกินอาหารเสร็จ เก็บของคืนเจ้าหน้าที่ที่อุทยานเรียบร้อย ขนของขึ้นรถเสร็จสรรพ เราก็เตรียมตัวกลับบ้านครับ……………… แต่ยัง ทริปของเรายังไม่จบ ไหนๆมาแล้วจะให้จบแค่นี้ได้ไง...............
ระหว่างทางกลับ เราไปต่อที่ถ้ำพระธาตุครับ อยู่ห่างจากตัวอุทยานไม่เท่าไร (ขามา เราจะเห็นทางเข้า ถ้ำพระธาตุก่อนครับ มีทางเข้า 2 ทาง ต้องสังเกตกันให้ดีๆ)
หมู่ๆๆ
ข้างในเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเอราวัณครับ ต้องเสียค่าเข้าเหมือนที่น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น แต่ถ้าใครมีบัตรนักศึกษา จะได้ลดครึ่งราคาครับ
ทางขึ้นจากด้านล่าง ถึงปากทางเข้าถ้ำ มีระยะทางประมาณ 600 เมตรครับ แต่เป็น 600 เมตรที่โหดพอสมควร ถ้าใครกลัวขึ้นไม่ไหวนะครับ ด้านล่างมีไม้เท้าตั้งวางไว้ให้ (ถ้าผมจำไม่ผิดนะ พึ่งมาเห็นตอนขาลงมา ……….กรรม)
อีกนิดๆ จะถึงแว้วววว
........พอขึ้นไปแล้วเราจะเข้าไปในถ้ำเลยไม่ได้ครับ เพราะในถ้ำมืดมากกกกก ต้องมีเจ้าหน้าที่พาเราเข้าไป เราเลยได้นั่งรอพักเหนื่อยกันอยู่ประมาณ เกือบๆ ครึ่งชั่วโมง
……...ก่อนเข้าถ้ำจะมีแผ่นป้ายติดอยู่เพื่อบอกว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ โดยเฉพาะข้อสำคัญเลยคือ ต้องปฏิบัติตามคำบอกของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพราะข้างในมืดมากกก และอันตรายพอสมควร และอาจทำอันตรายแก่หินย้อยที่อยู่ภายในถ้ำได้
………….ข้างในสวยมากครับ
เกินคำบรรยายเลยครับ
โอเค หลังออกจากถ้ำมาแล้ว เราก็ทำอะไรกินกันนิดนึ่ง แล้วเตรียมตัวบึ่งรถกลับบ้าน………. แต่ยัง……! บอกแล้วครับ มาทั้งที ต้องเที่ยวให้คุ้ม พวกเราจึงขับรถขึ้นไปที่สันเขื่อนศรีนครินทร์เพื่อชมความงามวิวสูงๆ บนสันเขื่อนครับ
เราอยู่ที่นั่นกันประมาณ15 นาที่ แล้วก็กลับบ้าน……….. ใช่ครับ คราวนี้เรากลับกันจริงๆแล้ว ไม่แวะที่ไหนแล้ว
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านครับ ไว้คราวหน้า (ที่คงจะอีกนานนนน) ผมได้ไปเที่ยวที่ไหนอีก ผมจะกลับมารีวิวให้ได้อ่านอีกครับ
ทริปนี้คงจะเกิดไม่ได้ ถ้าเพื่อนๆผมแก๊งนี้ไม่ชวนผมไปด้วย ก่อนไปทริปนี้มีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นพอสมควร จนเกือบทำให้ผมจะไม่ได้ไปแล้วครับ แต่ก็ยังได้ไป ต้องขอบคุณเลยครับ
1 Ppdon Loneline ที่ให้ผมติดรถไปด้วย และยังไห้ผมยื้มกล้องอีก
ปล. กล้องผมขณะนั้นส่งซ่อมที่ศูนย์ครับ ก่อนวันไปประมาณ 10 วัน…………เศร้า
2 Pn Jeab เจ้าแม่ประจำแก๊ง หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่ม (ฮาๆๆๆ)
3 Appulu J’oh เขาชวนผมมา 3 ครั้งแล้ว แต่ผมพึ่งได้ไป และเขานี่แหล่ะ คือพ่อครัวประจำแก๊ง
ขอบคุณคร๊าบบบบบบบ