หลายคนอาจจะสงสัยว่าอะไรคือ “ลาแล้วดุสิต ลิขิตดอยหลวง” มันเริ่มมาจากปีที่แล้วก็แพลนกันว่าจะไปเที่ยวเนี่ยแหละ แต่ล่มครับ 555 เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาประมาณ 7 ที่ จากขึ้นเหนือ,ลงใต้,ออกทะเล,เข้าป่า สุดท้ายมาจบที่ “สวนสัตว์ดุสิต” (เขาดิน) บันเทิงสุด ปีนี้ก็เลยตั้งใจมั่นว่าไม่พลาดแน่นอน เพราะเราถูกลิขิตแล้วว่าต้องไป “ดอยหลวงเชียงดาว” เวอร์วังอลังการรรรรร 5555

** ทริปนี้แวะ ไร่องุ่น(สวนอีเดน) ม่อนแจ่ม เข้าพักที่ The teak resort เพื่อไปดอยหลวงเชียงดาวแล้วกลับมาเที่ยวที่เชียงใหม่ (ภูพิงค์ ดอยปุย)

เริ่มเลยดีกว่า !
ก่อนออกเดินทางก็ต้องวางแผนกันเล็กน้อยจะได้ไม่วุ่นวายมาก (เนื่องจากคนไปทริปนี้เยอะ)


จะว่าไปลองเช็คสภาพอากาศหน่อยดีกว่า

จ้าาาาาาาา ไม่ต้องสงสัยนะครับว่าผมขึ้นดอยวันไหน วันนั้นแหละหะ วันที่เมฆดำที่สุด TT ร้องไห้หนักมากก แต่ช่างมัน เราจะไป!

15 ธ.ค. 58
[1] เริ่มออกเดินทางจากหมอชิตเวลา 21.20 น. คาดว่าจะถึงศูนย์นครชัยแอร์เชียงใหม่เวลา 6.15 น.

16 ธ.ค. 58
[2] มาถึงแล้วววว ความจริงถึงประมาณ 7.00 น. และก็ล้างหน้าแปรงฟันกันที่นี่เลย รอรถมารับไปอ.เชียงดาว

[3] รถมาสักทีจิ ฮ่าๆๆ รถมาประมาณ 8.00 ครับ

[4] รถมาแล้ววว เริ่มออกเดินทางได้ ตื่นเต้นสุดๆ ไม่เคยเที่ยวกับเพื่อนเยอะขนาดนี้ 55

[5] หนังสือเดินทางของจริง ฮ่าๆ เดินทางมาด้วยกันเลยเนี่ย

[6] ก่อนไปอ.เชียงดาว ก็จะแวะเที่ยวที่ม่อนแจ่มสักหน่อย

[7] และก่อนถึงม่อนแจ่มก็แวะไร่องุ่น (สวนอีเดน) ซักหน่อย 5555  มาถึงไร่องุ่น ก็ประมาณ 10.00 น. แวะถ่ายรูปกันแปปนึงก็ไปต่อ

[8] ออกจากสวนอีเดนได้แปปนึงก็ถึงม่อนแจ่มและ แต่ทางคดเคี้ยวจริงอะไรจริง

[9] ม่อนแจ่มก็ ... ดอกไม้เยอะดี แต่อาจจะเป็นเพราะแดดแรง อากาศร้อน เลยไม่ค่อยจอยเท่าไหร่ ฮ่าๆ

[10] ก็ได้แต่ถ่ายดอกไม้รัวๆๆๆๆๆ อาจเป็นเพราะไม่ค่อยชอบถ่ายรูปคน(อื่น)อยู่ล่ะ ฮิฮิ




[11] กำลังจะออกจากม่อนแจ่มละ เดินกลับมาที่จอดรถมีฟักทองขายด้วยยย

[12] ไปต่อได้เลยยยย

[13] ลงมาจากม่อนแจ่มก็มาแวะกินส้มตำไก่ย่างกันที่ร้าน.... ว่าแต่ร้านมันชื่ออะไรนะ555 แต่เป็นร้านที่บรรยากาศดีมาก คือ มันอยู่ริมน้ำตก ลำธาร รสชาติดีด้วย แนะนำเลยร้านนี้

[14] รีบกลับที่พักกันดีกว่า รู้สึกเหนื่อยแล้ววว เพลียๆ แล้วขึ้นดอยจะไหวมั้ยเนี่ย ฮ่าๆ แล้วก็มาถึงพักที่อ.เชียงดาว ชื่อว่า The teak resort บรรยากาศดีมาก ห้องพักสวยด้วย

[15] ที่พักก็อยู่ไม่ไกลจากดอยหลวงเชียงดาวมาก นี่คือดอยหลวงเชียงดาว ที่เราจะไป ! ช็อคแปป

[16] ผมนี่คาร์ดิโอเลยยย

[17] ช่วงกลางคืนก็อากาศเย็นสบายดีครับไม่หนาวมาก รีบพักผ่อนตามความพร้อมสำหรับวันรุ่งขึ้น

17 ธ.ค. 58
[18] รถมารับที่รีสอร์ทตอนเวลา 9.00 น. กว่าจะถึงเขตอนุรักษ์พันธ์สัตว์ป่าเชียงดาว (เด่นหญ้าขัด) ก็ประมาณ 10.00 น.ซึ่งทางขึ้นไปโหดมาก คือต้องนั่งกระบะขึ้นเขา เล่นเอาหน้าชาและหน้าสั่นเลยทีเดียว


มาทำความรู้กับดอยหลวงเชียงดาวกันก่อนขึ้นกันหน่อย
[19] ดอยหลวงเชียงดาว ตั้งอยู่ที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ จุดมุ่งหมายคือ “ยอดดอยหลวงเชียงดาว” ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 2,225 เมตร โดยสามารถกางเต็นท์นอนได้ที่ “อ่างสลุง” ซึ่งเราสามารถเดินขึ้นได้ 2 เส้นทางคือ 1.เด่นหญ้าขัด – อ่างสลุง ระยะทาง 8.5 km ทางนี้ไม่ค่อยชันมากเดินได้เรื่อยๆ ส่วนอีกทางคือ 2.ปางวัว – อ่างสลุง ระยะทาง 6.5 km ทางนี้ค่อนข้าง adventure กว่าทางเด่นหญ้า เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความเมื่อย 55

[20] ออกเดินทางกันได้ ! (คิดว่าน่าจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่คนเยอะสุดในวันนั้นละ)

[21] พอเริ่มออกเดินก็รู้สึกดีเหมือนกันนะ คือเพิ่งสอบเสร็จด้วยไง โยนทุกอย่างทิ้งลงไปป เฮ้!


[22] เปลี่ยนบรรยากาศจากนั่งฟัง Lecture อาจารย์ มานั่งฟังเสียงนกร้อง เสียงลม เสียงใบไม้กระทบกัน

[23] สัมภาระส่วนตัวแบกเองนะจ้ะ พี่ลูกหาบจะแบกให้ในส่วนที่เป็นเกี่ยวกับอาหารการกิน น้ำ และก็สัมภาระได้นิดหน่อย

[24] จะว่าไป การไปเที่ยวกับเพื่อนหลายๆคน นี่มันโคตรรสนุกเลย หลังจากจบปี 4 อาจจะไม่มีโอกาสไปกันเยอะขนาดนี้แล้วหล่ะ

[25] ในช่วงเวลาที่เราล้มก็มีเพื่อนที่คอยช่วยพยุง แล้วก็... คอยขำ (ดูรูปบนได้)

[26] จากที่ดูสภาพอากาศไว้ว่าฝนจะตก มันก็ยังไม่ตกนะ แต่อากาศชื้นมากกก แต่คืนก่อนหน้านี้อาจจะตก เพราะว่าดินแฉะทำให้ลื่นล้มเละกันเป็นแถบ เราต้อง Strong และยืนหยัดด้วยขาของเรา!

[27] แต่คนที่ชนะไปใน campaign นี้ก็ต้องยกให้พี่ลูกหาบเพราะแก Strong มากจริงๆ ปรบมือ

[28] เย้ ! เดินมาถึงจุดกางเต็นท์แล้วว แต่ไม่ใช่ที่ที่เราจะพัก ต้องเดินไปอีก ฮืออ ขาลากละนะ

[29] ถ่ายซะเลยย สวยดีนัก

[30] แต่ระหว่างเดินบรรยากาศก็เริ่มไม่ค่อยดีละเหมือนมีหมอกพิษกำลังคืบคลานเข้ามา

[31] จัดรูปขบวนกันหน่อยๆ เดินไปต้องคอยนับกันบ่อย กลัวเพื่อนหายย นับตลอด นับ ! 1 2 3 4 . ..  .


[32] และแล้วสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นมันก็เกิด... ฝนตก จ้ะ ตายๆ ปกติก็ลื่นอยู่ละ ฝนตกเพิ่มอีก และก็ไม่รู้จะไปหลบกันที่ไหนเนื้อตัวเปียกกันหมดเลย อากาศก็เย็นขึ้นเรื่อยๆ ซวยจริงๆ –“ ช่วงนี้เลยไม่มีรูปเลยนะครับ จอบอ.

[33] ในที่สุดเราก็มาถึงลานกางเต็นท์อ่างสลุงแล้ว ฮ่าๆ ดอยหลวงหรอ ชิวๆ (หรอ) – ฝนหยุดพอดี

[34] เริ่มเดินจากเด่นหญ้าขัดประมาณ 10 โมงกว่า ถึงก็ประมาณ บ่าย 3 เกือบ ครึ่ง เดินกันลากขา ลากไส้เลยครับพี่น้อง นอนแปป


[35] ก่อนนอนก็มีความหวังว่าจะได้ขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตกที่ยอดดอยหลวงเชียงดาว ดูรีวิวมาสวยมากกกก อิอิ แต่พอตื่นมาหมอกก็ยังหนาเหมือนเดิมเริ่มจะหมดหวัง แต่ทันใดนั้นเองก็มีแสงอาทิตย์เล็ดลอดทะลุม่านหมอกออกมา นี่สินะที่เรียกว่า “แสงแห่งความหวัง” (เวอร์ชิปหายย 55)


[36] ในที่สุดเวลาประมาณ 18.00 น พวกเราก็ตัดสินใจกันว่าจะขึ้นไปที่ยอดดอยหลวงเชียงดาว เอาวะ! เป็นไงเป็นกันไหนๆก็มาแล้ว โดยระยะทางจากเต็นท์ (อ่างสลุง) ไปยังยอดดอยหลวงก็ประมาณ 400 m เหมือนจะใกล้นะ แต่ไม่เลย มันชันกว่าทางที่เดินมาเยอะมาก ต้องปีนด้วยบางจุด กว่าถึงก็ประมาณ 18.30 ได้

และนี้คือสิ่งที่ผมรอคอยมาตลอดทริปนี้

[37] นี่มันอะไรกันนน ฮือๆๆ ดวงอาทิตย์ออกมานะ อย่าหายไปเลยยย ไม่รู้จะอุทานว่าไงเลยย เปลี่ยนชื่อทริปเป็น “ดอยหลวงเชียงดาวกับสภาพอากาศที่เลวร้าย” แต่ก็ช่างมันๆ ทำอะไรไม่ได้ ถ่ายรูปละกัน 555

ปล.รูปนี้เพื่อนถ่าย อิอิ

[38]หลังจากนั้นก็ลงมาพักผ่อนที่อ่างสลุง โดยมีพี่ลูกหาบทำกับข้าวให้ เป็นมื้อที่อร่อยที่สุด เพราะเหนื่อย 55 ไม่ใช่ๆ เพราะอร่อย แล้วก็แยกย้ายกันเข้านอนโดยมีความหวังอีกครั้งว่าจะตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น ที่ยอดดอยกิ่วลม

[39] แต่! เหตุการณ์ไม่คาดคิด(หรืออาจจะคิด) ก็เกิดขึ้น คืนนั้นฝนตกหนักมากกก ลมแรงโคตร เต็นท์นี่สั่นจนน่ากลัว มีเพื่อนหลายคนโชคร้ายเต็นท์รั่วน้ำเข้าเต็นท์จนนอนกันไม่ได้เลย ส่วนผมโชคดี(ตื่นมารู้แค่ฝนตกแล้วนอนต่อ เพื่อนเล่าให้ฟังตอนเช้า)

18 ธ.ค. 58
[40] แล้วก็มาถึงเช้าที่ไม่สดใส และอดดูพระอาทิตย์ขึ้นอีกเช่นเคย

[41] พี่ลูกหาบบอกว่าตอนตี 5 นี่ประมาณ 4 องศา ผมไปดูตอน 8 โมง ประมาณ 8.5 องศา
[42] เดินสำรวจรอบบริเวณที่พัก นี่เป็น 1 ใน เต็นท์ที่อยู่รอดปลอดภัย บางหลังนี่โครงเหล็กหักนอนกันไม่ได้เลย

[43] เช้าๆหนาวๆแบบนี้ก็กินขนมปัง และ กาแฟไปก่อนรอข้าวจากพี่ลูกหาบ


[44] ประมาณ 10.00 ก็เริ่มเดินทางออกจากที่พัก โดยลงทางปางวัว ชันจริงอะไรจริง


สุดท้ายก็คงต้องกล่าวคำว่า “ลาแล้วดอยหลวง พบกันใหม่โอกาสหน้า”

แวะไปพูดคุยกันได้ที่
https://www.facebook.com/VitamEtLibertatem

ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยน้า