[CR] [8888JapanEAT พาพ่อแม่ไปแก้บน] Day1: Hakone วันแรกยังไม่ไปแก้บน

ทริปนี้เป็นทริปที่สี่ที่เราเก็บเงินพาพ่อกับแม่ไปเที่ยวก่อนที่พ่อกับแม่จะเดินเที่ยวไม่ไหว
แต่เป็นทริปแรกที่เราเริ่มตั้งกระทู้ใน Pantip (ไม่เข้าสเต็ป “สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเรา” แล้วนะ)
สาเหตุที่ทำกระทู้ Review ทริปนี้เป็นกระทู้แรก เพราะได้แนะนำทริปนี้ให้เพื่อนๆไปหลายคน
ก็เลยคิดว่าตั้งเป็นกระทู้ซะเลยก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องส่งไฟล์หนักๆไปให้ทางอีเมล์แล้ว คราวนี้ก็ก็อปลิงค์ไปให้ได้เลย

จริงๆเราเคยไปอยู่ที่ญี่ปุ่นมาพักนึงเมื่อ 12 ปีก่อน แล้วประทับใจมาก ชอบทุกอย่างที่เป็นที่นั่น
(ยกเว้นอาหาร ตอนนั้นรู้สึกว่าอาหารญี่ปุ่นไม่อร่อย ปลาดิบก็กินไม่เป็น ร้องไห้คิดถึงอาหารที่ไทยทุกวัน เขียนไดอารี่ไว้ว่ากลับไทยจะไปกินอะไรบ้าง)
แต่โดยรวมก็ถือว่าชอบมาก เลยมีความคิดว่าถ้ามีปัญญาเก็บเงินได้ก็อยากพาพ่อแม่ไปด้วย
แรกเริ่มเดิมทีตั้งใจว่าจะพาพ่อแม่ไปเที่ยวให้ทั่วญี่ปุ่นตั้งแต่เหนือจรดใต้เลย
แต่พอลองดูจริงๆแล้วมันน่าจะเหนื่อยเกินไป ค่อยๆไป ค่อยๆเจาะทีละจุดดีกว่า
แล้วก็มาลังเลอีกว่าจะไปที่ไหนก่อนดี จนกระทั่งนึกขึ้นได้ว่าสามีเคยไปบนเอาไว้ที่วัดที่ Asakusa นี่หว่า

ทริปนี้ก็เลยสรุปได้ว่าเราจะไปแก้บนให้จบๆกันก่อน
หวยก็เลยมาออกที่ญี่ปุ่นภาคกลาง...





Day1: Hakone
วันแรกยังไม่ไปแก้บน


ทริปนี้เราไปกับ Air Asia X โดยออกจากสนามบินดอนเมืองเวลาห้าทุ่มครึ่ง
ด้วยความที่เราเผื่อเวลาไปถึงเร็วหน่อยก็ได้ผ่านพิธีกรรมตรวจคนออกนอกเมืองกันเร็วหน่อย
ซึ่งจริงๆการเผื่อเวลาไว้เยอะๆก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีกับตัวเราเองนะ เพราะจะได้ไม่ต้องรีบร้อน แล้วก็ไม่ต้องมานั่งเครียดลุ้นว่าจะตกเครื่องมั้ย
ซึ่งช่วงที่เราไปก็ถือว่ามีจำนวนประชากรนักท่องเที่ยวเยอะประมาณนึงเลย

พอได้ขึ้นเครื่องแล้วก็สบายใจเตรียมจะเอนเบาะนอนหลังเครื่องขึ้นเรียบร้อย
แต่ก็ยังไม่ได้ออกซักที ซึ่งควรจะออกไปได้ตั้งนานแล้วถ้าไม่มีคนที่ไม่มาแสดงตัวขึ้นเครื่อง

ถามว่าทำไมล่ะ? ต้องรอเหรอ? เปล่าเลย เค้าไม่ได้รอ
จริงๆไม่ต้องรอเลยด้วยซ้ำถ้าคนคนนั้นไม่ดันโหลดกระเป๋าไว้ใต้ท้องเครื่องแล้ว
และตามระเบียบความปลอดภัยของการบินก็ต้องเอากระเป๋าของคนนั้นออกไปจากเครื่องซะก่อน
ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้


รู้สึกค่อนข้างสยองนิดๆ


แม่พยายามจะคาดเข็มขัดนิรภัยให้กระเป๋าของแม่ เพราะไม่อยากวางลงกับพื้นข้างใต้ที่นั่ง
หลายครั้งที่แม่ต้องเจ็บช้ำน้ำใจเอากระเป๋าไว้ใต้ที่นั่ง จะเอาไว้ตรงช่องเก็บของก็ไม่สะดวก
เพราะบางครั้งต้องหยิบนั่นหยิบนี่ ครั้งนี้สบโอกาสที่นั่งข้างๆว่าง
แม่เลยคิดว่าเอาเข็มขัดนิรภัยคาดให้กระเป๋าไว้จะได้ไม่กระเด็นกระดอน แต่ก็ไม่รอดสายตาแอร์ฯ
สุดท้ายก็ต้องเอากระเป๋าไว้กับพื้นเหมือนเคย ทำตามกฎนั่นแหละ ดีแล้วล่ะ

เครื่องขึ้นปุ๊ปหลับปั๊ป



ตื่นมาเปิดหน้าต่างขึ้นดู เหมือนจะเห็นยอดอะไรซักอย่างเป็นก้อนแหลมๆ เหมือนภูเขาน้ำแข็ง หรือจะเป็นฟูจิ? ใช่แล้วล่ะ ฟูจิ!!!
ฟูจิบนหมอกเหมือนก้อนน้ำแข็งบนน้ำแข็งแห้ง แต่พอถ่ายรูปแล้วไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่เลย
นี่แหละ เลนส์สายตาของคนเราคือเลนส์ที่ดีที่สุดในการบันทึกภาพ


สำหรับใครที่อยากเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิ แนะนำให้จองที่นั่งทางซ้ายมือ
ถ้าโชคดีอากาศปลอดโปร่งก็จะได้เห็นฟูจิออกมาอวดโฉม
ตามปกติกัปตันก็จะประกาศชี้ชวนให้เราเปิดหน้าต่างดู
แต่ก็ไม่ใช่กัปตันทุกคนที่จะบอก ดังนั้นพอเครื่องบินเริ่มลดระดับลงก็เตรียมเปิดหน้าต่างดูได้เลย

มาถึง Narita เร็วกว่ากำหนดไป 25 นาที ดีจัง
อ่อ เกือบลืมชื่นชมกัปตันคราวนี้ ขับดีมาก บินขึ้นได้นุ่มมาก ตอนเครื่องลงก็ไม่สั่นไหว
ไม่หวั่นเลยค่ะแม้วันเมฆมาก



มาถึงเร็วก็ดีมีเวลาเยอะหน่อย เพราะใช้เวลารอกระเป๋าค่อนข้างนาน มีเวลาจนสังเกตได้ว่าที่นี่เค้าจะหันกระเป๋าด้านที่เป็นหูจับมาให้เรา
หรือที่อื่นๆก็อาจจะเป็นแบบนี้แต่อาจไม่ได้สังเกต คราวหน้าจะลองสังเกตดู


ได้กระเป๋าแล้วก็ไปซื้อตั๋ว Narita Express (NEX TOKYO) เข้าชินจูกุ ตกคนละ 1500 เยน (เที่ยวเดียว)
ไปซื้อได้ที่ ที่ JR East Travel Service Center แนะนำว่าใช้บริการตู้กดก็ดี คนต่อแถวซื้อน้อยกว่ามาก
อาจจะเป็นเพราะว่าคนส่วนใหญ่ก็ยังคงอยากสื่อสารกับคนมากกว่าล่ะมั้ง
ชื่อสินค้า:   Hakone, Hakone Tent, Tonkatsu Rikyu, Japan, ญี่ปุ่น, ฮาโกเน่
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่