หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] True Relaxing Trip 3 เขาค้อ 24-26/12/15
กระทู้รีวิว
โรงแรมรีสอร์ท
เที่ยวภูเขา
เที่ยวไทย
เริ่มต้นการพักผ่อนอีกครั้ง เป็นทริปสุดท้ายสำหรับปี 2015 นี้ เลือกที่จะเที่ยวก่อนช่วงปีใหม่ เพราะกลัวคนเยอะ หาวันเหมาะๆแล้วมากันเลย หนาวๆแบบนี้ต้องใฝ่ฝันถึงหมอก ต้องขึ้นที่สูง และที่ที่เลือกก็คือ เขาค้อนั้นเอง คิดได้ดังนั้นจึงเริ่มหาที่พักล่วงหน้าถึงเดือนนึง เชื่อมั๊ยว่า หายากมาก คืน 24 ไม่มีปัญหา แต่ปัญหาจะอยู่ที่คืน 25 ที่มักจะเต็ม แถมบางที่ราคาแพงเกินงบประมาณที่ตั้งไว้ แล้วด้วยความโชคดีจึงมาได้ที่ ต้นแก้วเขาค้อรีสอร์ต ติดต่อผ่านทางรีสอร์ตโดยตรงโดยผ่าน facebook ของทางรีสอร์ต คืนละ 1,500 บาท รวมอาหารเช้า เย้ๆบรรลุเป้าหมายแล้ว
24/12/15 ออกเดินทางจาก กทม เวลา 8.00 น มุ่งหน้าสู่เขาค้อแบบไม่มีเบรก โดยใช้เส้นกาญจนาภิเษก มุ่งหน้ามาทางบางปะอิน ออกสระบุรี มาลพบุรี มุ่งสู่เพชรบูรณ์ ด้วยความตั้งใจขับและไม่มีพักแวะเตร่ๆแถวไหน นอกจากพักทานอาหารกลางวันที่ ปั้ม ปตท. ชัยบาดาล (จังหวัดลพบุรี) ศูนย์อาหารในปั๊มนี้ไม่แพงเลย เทียบกับ กทม ถือว่าถูก เกี๊ยวน้ำ 2 ชาม น้ำ 1 ขวด และไอติมคอนเน็ตโต้อีก 1 สนนราคาแล้วแค่ 105 บาท เบาๆกันไปมื้อนี้
และแล้วในเวลา 15.30 น. เราก็มาถึงที่หมาย ความประทับใจแรกคือ ทางเข้าลำบากมาก ถนนเหมือนยังทำไม่เสร็จ ขับรถต้องระวังอย่างแรง แถมไปถึง ที่พักกำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างเพิ่ม วิวที่ได้จึงไม่ 100% เป็นรีสอร์ตเล็กๆมีบ้านพักเล็กๆ 4 หลัง และไม่มีตู้เย็นนะค่ะ ของตกแต่งเล็กๆน้อยๆในห้องแสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่ของทางรีสอร์ต แถมเจ้าของรีสอร์ตก็น่ารัก ลบริการดี พูดจาเอาใจใส่ ถ้าดูเรื่องความคุ้มค่าราคาสถานที่ การบริการละก็ ให้ 3 ดาวเลย ขอตัดเรื่องทางเข้า วิวก่อสร้างและของในบ้านที่ดูพิการๆเช่นลูกบิดประตูหรือก๊อกน้ำ และแอร์รุ่นเก่าโบราณสุดๆ
พักผ่อนให้หายเมื่อยตูดหลังจากที่นั่งรถมานาน ตอน 17.30 น. ก็ออกจากที่พักมุ่งหน้าสู่ร้านกาแฟ Pino latte เพื่อเป้าหมายเดียวคือ ถ่ายรูปวิว (มิใช่กิน) ขับมาประมาณครึ่ง ชม. ก็ถึง ไปถึงอากาศดีมากกกกกก เย็นสบาย มองจากที่นั้นจะเห็นวิววัดผาซ่อนแก้วสวยงาม แวะถ่ายกันสักแป๊บดื่มด่ำบรรยากาศสักหน่อยก็กลับ
18.45 น. ขับรถกลับมาทางรีสอร์ต เพื่อมายังร้านอาหารบ้านนายต๋อย ถ้าออกมาจากที่พักก็เลี้ยวขวาไม่นานก็ถึง ภายในร้านตกแต่งสไตล์ลูกทุ่งสวยงาม เป็นร้านอาหารไทยที่รสชาติจัดจ้านได้ใจ คำว่าจัดจ้านไม่ได้หมายถึงรถเผ็ด แต่หมายถึงรสกลมกล่อมจัดจ้าน สั่งมาสามอย่าง ถูกใจทั้งสามอย่าง ทั้งปลากะพงทอดน้ำปลา ยำรวมมิตรทะเล และแกงส้มผัดรวมกุ้ง ถูกใจให้ห้าดาวเลย สนนราคามื้อนี้ที่ 765 บาท กินเสร็จก็กลับที่พักพึ่งพุงพักผ่อนเตรียมตื่นนอนมาหาหมอก
25/12/15 ตื่นเช้ามาในเวลาเจ็ดโมงตรงกับอุณหพภูมิที่ 20 องศา เย็นๆสบายๆแต่ไร้หมอก รู้สึกผิดหวังนิดๆ (จริงๆก็มากแหละ) ก่อนที่จะมาทางเจ้าของรีสอร์ตบอกว่าหนาวมาก อยู่ที่ประมาณ 13 องศาเท่านั้น แต่ทำไมนะ พอเรามาถึงไม่หนาวก็ไม่รู้สิ สงสัยเป็นสาวฮอต
อาหารเช้าที่นี่เป็นข้าวต้มทรงเครื่อง โอวันติน กาแฟ และขนมปังให้บริการตนเองกินได้ไม่อั้น ขอบอกว่าข้าวต้มอร่อยมากจริงๆ มีหมูสับ ซี่โครงหมู เห็ดหอม หัวไชเท้า รสชาติกลมกล่อมกินร้อนๆอร่อยมาก ขนมปังที่นี่มีแยมให้เลือกทาทั้งแยมสตอเบอรี่แบบทำเองและแบบซื้อมา และมีเนยด้วย โดยภาพรวมมองว่าอาหารเช้าของน้อยไปหน่อย ด้วยราคาที่พักขนาดนี้ น่าจะมีเพิ่มอีกสักอย่างนึงกำลังดี
จัดแจงตัวเองเสร็จสัก 9 โมงก็เริ่มภารกิจเดินทางกันได้ ที่แรกที่ตั้งใจไปมากๆเลยคือวัดผาซ่อนแก้ว วัดสวยงามไม่ผิดหวังที่ตั้งตามา อุโบสถของวัดตกแต่งด้วยกระเบื้อง ถ้วย ชาม เครื่องสังคโลก ต้องถอดรองเท้าเดิน แต่ไม่ร้อนเลย รู้สึกเย็นเท้าตลอด ไฮไลท์ของวัดคือพระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่ ใครเห็นเป็นต้องถ่ายรูปเช็คอินที่พระพุทธรูปองค์นี้ จุดถ่ายรูปในวัดก็มีมาก ผู้คนก็หลั่งไหลกันเข้ามาไม่ขาดสาย เดินเล่นในวัดอยุ่ ชม. ก็ออกเดินทางสู่จุดหมายถัดไป ระหว่างที่กำลังจะออกมา ที่หน้าวัดจะมีขายของ สะดุดตาที่ร้านขายมัน เป็นมันญี่ปุ่นสีม่วงและมันเกาหลีสีเหลือง มันสีเหลืองจะหวานกว่าแต่มันสีม่วงจะมีความแห้งและมันเวลากินมากกว่า ขายเป็นชุด ชุดละ 40 บาท จะได้มันหัวใหญ่ๆมาสามหัว
ขับตาม GPS มาไม่นานก็มาถึง route 12 ร้านกาแฟชื่อดังที่ใครมาเขาคต้อต้องไม่พลาด ร้านอยู่ติดถนน มีที่จอดรถแต่ไม่มากนัก ภายในกว้างขวาง มีของขายมากมายทั้งคาวหวานและเครื่องดื่ม และที่ถ่ายรูปให้เลือกถ่าย เครื่องดื่มภายในร้านก็ไม่แพงเกินไป ถือว่าราคายุติธรรม กาแฟบนที่สูงและวิวสวย ซื้อชาเขียวนมและมอคค่าเย็นมาลอง รวมไปที่ 85 บาท ทั้งสับปะรดภูแลรสหวานกล่องละ 50 บาท นั่งกินถ่ายรูปเปลิดเพลินอารมณ์ มารู้ตัวอีกทีก็ปาไปเที่ยงครึ่งแล้ว เดินเล่นเพลินจริงๆ
ออกเดินทางอีกครั้ง คราวนี้ได้ข้อมูลจากพี่เจ้าของรีสอร์ตว่าวันนี้มีงานสตอเบอรี่แถวๆจุดชมวิวตรงใกล้ๆโรงเรียนร่มเกล้าเขาค้อ ถ้าจากที่พักก็ขับมาประมาณ 16 กิโลได้ งานมีสองวันคือโดยจัดวันนี้วันแรก และเพิ่งจัดปีนี้เป็นปีแรก เลยต้องไปลองดูสักหน่อย ในงานจะมีสตอเบอรี่จากหลายไร่มาขาย และมีเวทีเล็กๆที่กำลังประกวดการทำอาหารจากสตอเบอรี่ร้านอาหารจากที่ต่างๆ เวลาทีเล็กๆแต่จุผู้แข่งขันได้ถึงห้าร้านเลยทีเดียว ไปนั่งดูเค้าแข่งกันสักพักด้วยความงงๆ พิธีกรก็ดูเหมือนเม้าท์กันเอง เวทีแลดูอึดอัด พอทำเสร็จมีการให้กรรมการขึ้นมาชิม โดยให้แต่ละร้านพรีเซ็นต์อาหารของตนเอง จากนั้นก็ป้อนกรรมการ ซึ่งกรรมการมีกี่คนก็ไม่รู้ เดี๋ยวก็เรียกกันขึ้นไปลองชิม เรียกไปเรียกมาเต็มเวที และดูวุ่นวาย ผู้แข่งขันยังทำหน้างงๆ แถมคนมาเดินงานก็น้อย คนมาดูก็ไม่ค่อยมี ปีแรกของการจัดงาน อะไรๆก็คงไม่ลงตัว ไม่เข้าที่ และมั่วๆละมั้ง หยุดดูและไปซื้อสตอเบอรี่ดีกว่า ซื้อมากินเองกล่องเล็กๆ 100 บาท อร่อยมากกกกก หวานมากกกกก กินแป๊บๆหมด มันน้อยหรือกินเพลินก็ไม่รู้ได้
ออกจากที่จัดงานไปนานก็แวะสักการะพระบรมธาตุเจดีย์กาญจนภิเษก ข้างในเจดีย์ตกแต่งได้สวยงาม พื้นหินอ่อนทำให้รู้สึกเย็นสบาย ภายนอกตรงลานจอดรถมีร้านขายของนิดหน่อย มีร้านนึงขายน้ำเสาวรสและน้ำฟักข้าวทำเอง ขวดเล็กขวดละแค่ 10 บาท เลยซื้อมาลองสักหน่อยทั้งสองแบบ แค่ 20 บาทเอง รสชาติใช้ได้ทีเดียว ชื่นใจดีแท้ รู้สึกวันนี้กินแต่ละอย่างและดูรักสุขภาพทุกอย่างเลย
หลังจากนั้นก่อนกลับ แวะที่สุดท้ายของวัน ไร่บีเอ็น ทางเข้าไร่สวยงามด้วยอุโมงค์ต้นไผ่ คิดว่าอยู่เมืองนอกซะอีก ภายในไร่จะมีร้านกาแฟเล็ก และมีขายของ ทั้งผัก ผลไม้ ของฝากต่างๆ ดอกไม้และต้นไม้ให้เลือกซื้อ สำรวจกันไม่นานก็กลับมาพักผ่อนที่รีสอร์ต มาถึงประมาณ 4 โมงเย็น นี่ออกตะลอนตั้งแต่เก้าโมงเช้าถึงสี่โมงเย็นเลยหรอเนี่ย เจ็ด ชม. เหนื่อยแท้
17.30 น. ท้องเรียกร้องหาอาหารละ ออกมาหาอะไรทานดีกว่า ร้านที่เลือกคือ มู่กระทะบุฟเฟ่ อากาศเย็นๆแบบนี้ก็เหมาะกับหมูกระทะสิค่ะ หัวละแค่ 159 บาท สองคนรวมน้ำ 1 ขวด สนนมื้อนี้กินไป 338 บาท ม่ายแพงเลยใช่ม่ะ ก็สมราคากับของที่มีในร้าน มีทั้งเนื้อ ผัก ของทอด ผลไม้ ขนมหวาน และไอศกรีมครบ ไม่จำกัดเวลาด้วยนะ กินให้อิ่มท้องจะได้หลับสบาย
ชื่อสินค้า:
เขาค้อ วัดพระธาตุผาแก้ว ร้านกาแฟRoute12
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
True Relaxing Trip 34 เขาค้อ 26-28/12/24
เห็นปีนี้อากาศ กทม หนาว เลยต้องจัดทริปเที่ยวเขาสักหน่อย ด้วยความคาดหวังว่าจะไปเจออากาศที่หนาวกว่า เลยไปจบที่เขาค้อ-เพชรบูรณ์ ทริปนี้ไปกันแบบครอบครัว&nbs
cconelove
Route 12 เขาค้อ ร้านกาแฟเก๋ๆ วิวสวยๆ | เที่ยวเขาค้อ เพชรบูรณ์ ภายใน 1 วัน | ตอนที่2▲น้องซีรีส์▲
ต่อจากความเดิม ตอนที่ 1 http://ppantip.com/topic/35927030 วันนี้เดินทางต่อมาจากไร่สตอเบอรี่แล้ว เลยมาเที่ยวร้านกาแฟรูท12 น้องซีรีส์ได้เจอไข่ ม้าสามขา รถบัสสีเหลือง มอเตอร์ไซด์คันโต วิวสวยๆเพียบเลยคะเล
sermphonglo
แจกแพลน พร้อมรีวิว ทริป แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ 5 วัน 4 คืน
ครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่ได้มีโอกาศได้เที่ยวทางภาคเหนือ และเป็นครั้งแรกที่ได้ไปเยี่ยนแม่ฮ่องสอน ปาย รักไทย และดอยอ่างขางจังหวัดเชียงใหม่ เลยอย่างลองเขียนรีวิวประสบการณ์ในการเดินทางในครั้งนี้ ซึ่งเป็นครั
สมาชิกหมายเลข 3204353
[TripNote] Esarn Road Trip ขับรถเที่ยวอีสานช่วงสิ้นปี Day1
วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2567 - GMT+07:00 (GMT+07:00) 🕒 10:56 น. 💵 1,200 บาท ออกจาก กทม 05.30 ขับรถจาก กทม ถึง ขอนแก่น 442km เวลา 11.10 🕒 12:01 น. 📌 แจ่วฮ้อนสารคาม 5 อุดรธานี 💵 730 บาท กินข้า
อาหมวยลงพุง
สุขทุกวัน ที่จันทบุรี Happiness at Chanthaburi
เรื่องเล่าคราวนี้ ก็นำเสนอ FujijuN ฟูจิจันท์ คาเฟ่ & รีสอร์ท จุดเช็คอินใหม่ของนักท่องเที่ยวสายคาเฟ่ เพราะเป็นอีกหนึ่งคาเฟ่ใหม่ของจังหวัดจันทบุรีที่อลังการดาวล้า
สมาชิกหมายเลข 8539564
ขับรถชิลๆไปผจญภัยที่ "เขาค้อ" เพชรบูรณ์ 3 วัน 2 คืน
ช่วงหยุดยาวปีใหม่ ใครๆก็หาสถานที่ท่องเที่ยวไปกับเพื่อน ครอบครัว หรือไปคนเดียวใครอยากไปเที่ยวภูเขาไม่ไกลกรุงเทพ ขับรถไปได้ มาดูนี่กัน รีวิวทริป "เขาค้อ" จังหวัดเพชรบูรณ์ 3 วัน 2 คืน สำหรับใคร
สมาชิกหมายเลข 3704129
ที่ดินเขาใหญ่ ปากช่อง2.5ไร่ ราคา20ล้าน
ที่ดินพร้อมบ้านขนาด 40 ตารางเมตร 2 หลัง(บ้านเลขที่ 108,109) และสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ(เดิมเป็นรีสอร์ต) บนพื้นที่ 2.5 ไร่ (2ไร่2งาน)โฉนดครุฑแดง เจ้าของมือเดียว ไม่ติดแบงค์ ขายไร่ละ 8 ล้านรวมราคาทั้งสิ้น 20
สมาชิกหมายเลข 5794796
"ตั๊กม้อ" ร้านกาแฟเปิดใหม่ในเขาค้อ วิววัดผาซ่อนแก้ว แบบ 360 องศา
ช่วงนี้ก็ถึงฤดูล่าหมอกแล้ว “เขาค้อ” จังหวัดเพชรบูรณ์ก็เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เป็นที่นิยมมากๆ เขาค้อ จึงเป็นสวรรค์ของนักเดินทาง เพราะมีทั้ง รีสอร์ท ร้านแกแฟสวยๆ ให้ไว้ถ่ายรูปเช็คอินกัน ล่าสุ
สมาชิกหมายเลข 1120465
ขับมอเตอไซด์...เที่ยววัดและคาเฟ่ใกล้กรุงเทพฯ
ไม่ได้ขี่มอเตอร์ไซด์มานาน... ได้เวลาออกทริปสั้นๆกันบ้าง แวะมาไหว้พระ... วัดไร่ขิง วัดนี้ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และก็เปิดให้สักการะ ไหว้พระทำบุญทุกวัน แต่วันหยุด เสาร์ อาทิตย์ คนจะเยอะกว่าวันธรรมดา
สมาชิกหมายเลข 1542280
Cafe Saturday คาเฟ่และร้านอาหารติดริมแม่น้ำท่าจีน จ.นครปฐม
Café Saturday คาเฟ่ และร้านอาหารติดแม่น้ำท่าจีน อ.สามพราน จ.นครปฐม ใครแวะไหว้พระที่วัดไร่ขิงก็เลยมากินข้าวกินกาแฟต่อร้านนี้ได้ หรือกินข้าวอิ่มแล้ว อยากเ
หญิงเฮเทกระจาด
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
โรงแรมรีสอร์ท
เที่ยวภูเขา
เที่ยวไทย
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] True Relaxing Trip 3 เขาค้อ 24-26/12/15
24/12/15 ออกเดินทางจาก กทม เวลา 8.00 น มุ่งหน้าสู่เขาค้อแบบไม่มีเบรก โดยใช้เส้นกาญจนาภิเษก มุ่งหน้ามาทางบางปะอิน ออกสระบุรี มาลพบุรี มุ่งสู่เพชรบูรณ์ ด้วยความตั้งใจขับและไม่มีพักแวะเตร่ๆแถวไหน นอกจากพักทานอาหารกลางวันที่ ปั้ม ปตท. ชัยบาดาล (จังหวัดลพบุรี) ศูนย์อาหารในปั๊มนี้ไม่แพงเลย เทียบกับ กทม ถือว่าถูก เกี๊ยวน้ำ 2 ชาม น้ำ 1 ขวด และไอติมคอนเน็ตโต้อีก 1 สนนราคาแล้วแค่ 105 บาท เบาๆกันไปมื้อนี้
และแล้วในเวลา 15.30 น. เราก็มาถึงที่หมาย ความประทับใจแรกคือ ทางเข้าลำบากมาก ถนนเหมือนยังทำไม่เสร็จ ขับรถต้องระวังอย่างแรง แถมไปถึง ที่พักกำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างเพิ่ม วิวที่ได้จึงไม่ 100% เป็นรีสอร์ตเล็กๆมีบ้านพักเล็กๆ 4 หลัง และไม่มีตู้เย็นนะค่ะ ของตกแต่งเล็กๆน้อยๆในห้องแสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่ของทางรีสอร์ต แถมเจ้าของรีสอร์ตก็น่ารัก ลบริการดี พูดจาเอาใจใส่ ถ้าดูเรื่องความคุ้มค่าราคาสถานที่ การบริการละก็ ให้ 3 ดาวเลย ขอตัดเรื่องทางเข้า วิวก่อสร้างและของในบ้านที่ดูพิการๆเช่นลูกบิดประตูหรือก๊อกน้ำ และแอร์รุ่นเก่าโบราณสุดๆ
พักผ่อนให้หายเมื่อยตูดหลังจากที่นั่งรถมานาน ตอน 17.30 น. ก็ออกจากที่พักมุ่งหน้าสู่ร้านกาแฟ Pino latte เพื่อเป้าหมายเดียวคือ ถ่ายรูปวิว (มิใช่กิน) ขับมาประมาณครึ่ง ชม. ก็ถึง ไปถึงอากาศดีมากกกกกก เย็นสบาย มองจากที่นั้นจะเห็นวิววัดผาซ่อนแก้วสวยงาม แวะถ่ายกันสักแป๊บดื่มด่ำบรรยากาศสักหน่อยก็กลับ
18.45 น. ขับรถกลับมาทางรีสอร์ต เพื่อมายังร้านอาหารบ้านนายต๋อย ถ้าออกมาจากที่พักก็เลี้ยวขวาไม่นานก็ถึง ภายในร้านตกแต่งสไตล์ลูกทุ่งสวยงาม เป็นร้านอาหารไทยที่รสชาติจัดจ้านได้ใจ คำว่าจัดจ้านไม่ได้หมายถึงรถเผ็ด แต่หมายถึงรสกลมกล่อมจัดจ้าน สั่งมาสามอย่าง ถูกใจทั้งสามอย่าง ทั้งปลากะพงทอดน้ำปลา ยำรวมมิตรทะเล และแกงส้มผัดรวมกุ้ง ถูกใจให้ห้าดาวเลย สนนราคามื้อนี้ที่ 765 บาท กินเสร็จก็กลับที่พักพึ่งพุงพักผ่อนเตรียมตื่นนอนมาหาหมอก
25/12/15 ตื่นเช้ามาในเวลาเจ็ดโมงตรงกับอุณหพภูมิที่ 20 องศา เย็นๆสบายๆแต่ไร้หมอก รู้สึกผิดหวังนิดๆ (จริงๆก็มากแหละ) ก่อนที่จะมาทางเจ้าของรีสอร์ตบอกว่าหนาวมาก อยู่ที่ประมาณ 13 องศาเท่านั้น แต่ทำไมนะ พอเรามาถึงไม่หนาวก็ไม่รู้สิ สงสัยเป็นสาวฮอต
อาหารเช้าที่นี่เป็นข้าวต้มทรงเครื่อง โอวันติน กาแฟ และขนมปังให้บริการตนเองกินได้ไม่อั้น ขอบอกว่าข้าวต้มอร่อยมากจริงๆ มีหมูสับ ซี่โครงหมู เห็ดหอม หัวไชเท้า รสชาติกลมกล่อมกินร้อนๆอร่อยมาก ขนมปังที่นี่มีแยมให้เลือกทาทั้งแยมสตอเบอรี่แบบทำเองและแบบซื้อมา และมีเนยด้วย โดยภาพรวมมองว่าอาหารเช้าของน้อยไปหน่อย ด้วยราคาที่พักขนาดนี้ น่าจะมีเพิ่มอีกสักอย่างนึงกำลังดี
จัดแจงตัวเองเสร็จสัก 9 โมงก็เริ่มภารกิจเดินทางกันได้ ที่แรกที่ตั้งใจไปมากๆเลยคือวัดผาซ่อนแก้ว วัดสวยงามไม่ผิดหวังที่ตั้งตามา อุโบสถของวัดตกแต่งด้วยกระเบื้อง ถ้วย ชาม เครื่องสังคโลก ต้องถอดรองเท้าเดิน แต่ไม่ร้อนเลย รู้สึกเย็นเท้าตลอด ไฮไลท์ของวัดคือพระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่ ใครเห็นเป็นต้องถ่ายรูปเช็คอินที่พระพุทธรูปองค์นี้ จุดถ่ายรูปในวัดก็มีมาก ผู้คนก็หลั่งไหลกันเข้ามาไม่ขาดสาย เดินเล่นในวัดอยุ่ ชม. ก็ออกเดินทางสู่จุดหมายถัดไป ระหว่างที่กำลังจะออกมา ที่หน้าวัดจะมีขายของ สะดุดตาที่ร้านขายมัน เป็นมันญี่ปุ่นสีม่วงและมันเกาหลีสีเหลือง มันสีเหลืองจะหวานกว่าแต่มันสีม่วงจะมีความแห้งและมันเวลากินมากกว่า ขายเป็นชุด ชุดละ 40 บาท จะได้มันหัวใหญ่ๆมาสามหัว
ขับตาม GPS มาไม่นานก็มาถึง route 12 ร้านกาแฟชื่อดังที่ใครมาเขาคต้อต้องไม่พลาด ร้านอยู่ติดถนน มีที่จอดรถแต่ไม่มากนัก ภายในกว้างขวาง มีของขายมากมายทั้งคาวหวานและเครื่องดื่ม และที่ถ่ายรูปให้เลือกถ่าย เครื่องดื่มภายในร้านก็ไม่แพงเกินไป ถือว่าราคายุติธรรม กาแฟบนที่สูงและวิวสวย ซื้อชาเขียวนมและมอคค่าเย็นมาลอง รวมไปที่ 85 บาท ทั้งสับปะรดภูแลรสหวานกล่องละ 50 บาท นั่งกินถ่ายรูปเปลิดเพลินอารมณ์ มารู้ตัวอีกทีก็ปาไปเที่ยงครึ่งแล้ว เดินเล่นเพลินจริงๆ
ออกเดินทางอีกครั้ง คราวนี้ได้ข้อมูลจากพี่เจ้าของรีสอร์ตว่าวันนี้มีงานสตอเบอรี่แถวๆจุดชมวิวตรงใกล้ๆโรงเรียนร่มเกล้าเขาค้อ ถ้าจากที่พักก็ขับมาประมาณ 16 กิโลได้ งานมีสองวันคือโดยจัดวันนี้วันแรก และเพิ่งจัดปีนี้เป็นปีแรก เลยต้องไปลองดูสักหน่อย ในงานจะมีสตอเบอรี่จากหลายไร่มาขาย และมีเวทีเล็กๆที่กำลังประกวดการทำอาหารจากสตอเบอรี่ร้านอาหารจากที่ต่างๆ เวลาทีเล็กๆแต่จุผู้แข่งขันได้ถึงห้าร้านเลยทีเดียว ไปนั่งดูเค้าแข่งกันสักพักด้วยความงงๆ พิธีกรก็ดูเหมือนเม้าท์กันเอง เวทีแลดูอึดอัด พอทำเสร็จมีการให้กรรมการขึ้นมาชิม โดยให้แต่ละร้านพรีเซ็นต์อาหารของตนเอง จากนั้นก็ป้อนกรรมการ ซึ่งกรรมการมีกี่คนก็ไม่รู้ เดี๋ยวก็เรียกกันขึ้นไปลองชิม เรียกไปเรียกมาเต็มเวที และดูวุ่นวาย ผู้แข่งขันยังทำหน้างงๆ แถมคนมาเดินงานก็น้อย คนมาดูก็ไม่ค่อยมี ปีแรกของการจัดงาน อะไรๆก็คงไม่ลงตัว ไม่เข้าที่ และมั่วๆละมั้ง หยุดดูและไปซื้อสตอเบอรี่ดีกว่า ซื้อมากินเองกล่องเล็กๆ 100 บาท อร่อยมากกกกก หวานมากกกกก กินแป๊บๆหมด มันน้อยหรือกินเพลินก็ไม่รู้ได้
ออกจากที่จัดงานไปนานก็แวะสักการะพระบรมธาตุเจดีย์กาญจนภิเษก ข้างในเจดีย์ตกแต่งได้สวยงาม พื้นหินอ่อนทำให้รู้สึกเย็นสบาย ภายนอกตรงลานจอดรถมีร้านขายของนิดหน่อย มีร้านนึงขายน้ำเสาวรสและน้ำฟักข้าวทำเอง ขวดเล็กขวดละแค่ 10 บาท เลยซื้อมาลองสักหน่อยทั้งสองแบบ แค่ 20 บาทเอง รสชาติใช้ได้ทีเดียว ชื่นใจดีแท้ รู้สึกวันนี้กินแต่ละอย่างและดูรักสุขภาพทุกอย่างเลย
หลังจากนั้นก่อนกลับ แวะที่สุดท้ายของวัน ไร่บีเอ็น ทางเข้าไร่สวยงามด้วยอุโมงค์ต้นไผ่ คิดว่าอยู่เมืองนอกซะอีก ภายในไร่จะมีร้านกาแฟเล็ก และมีขายของ ทั้งผัก ผลไม้ ของฝากต่างๆ ดอกไม้และต้นไม้ให้เลือกซื้อ สำรวจกันไม่นานก็กลับมาพักผ่อนที่รีสอร์ต มาถึงประมาณ 4 โมงเย็น นี่ออกตะลอนตั้งแต่เก้าโมงเช้าถึงสี่โมงเย็นเลยหรอเนี่ย เจ็ด ชม. เหนื่อยแท้
17.30 น. ท้องเรียกร้องหาอาหารละ ออกมาหาอะไรทานดีกว่า ร้านที่เลือกคือ มู่กระทะบุฟเฟ่ อากาศเย็นๆแบบนี้ก็เหมาะกับหมูกระทะสิค่ะ หัวละแค่ 159 บาท สองคนรวมน้ำ 1 ขวด สนนมื้อนี้กินไป 338 บาท ม่ายแพงเลยใช่ม่ะ ก็สมราคากับของที่มีในร้าน มีทั้งเนื้อ ผัก ของทอด ผลไม้ ขนมหวาน และไอศกรีมครบ ไม่จำกัดเวลาด้วยนะ กินให้อิ่มท้องจะได้หลับสบาย