ใบขับขี่รถยนต์สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในเยอรมันถือว่าสำคัญมากทีเดียว เพราะว่าไม่ว่าจะทำอะไร ธุระส่วนตัว ซื้อของกิน ช็อปปิ้ง ก็ต้องอาศัยรถทั้งนั้น ไม่ง่ายเหมือนบ้านเราที่เดินไปปากซอย หรือ จักรยานไปร้านไกล้ ๆ หรือนั่งรถสองแถวไปห้างยังได้ ตั้งแต่เราย้ายมาอยู่เยอรมัน ก็ไปไหนมาไหนกับสามีตลอด ไปเรียนก็รอสามีไปส่ง - ไปรับ ไปช็อปปิ้งกำหนดเวลาไป-กลับ เพราะสามีไปทำงาน ต่อให้ไม่ทำงานเค้าก็ไม่ชอบไปเดินช็อปปิ้ง เค้าบอกว่าเบื่อไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับเค้าเลย เค้าก็จะไปส่งให้เราเดินคนเดียว 2-3 ชั่วโมง แต่บางทีก็ยังไม่สะใจเรานะ (ผู้ชายเป็นเหมือนกันทุกคนไหม) บางทีอยากกินโยเกิร์ต แต่ในตู้เย็นหมด ก็ต้องรอแฟน
หลังจากอยู่เยอรมันได้หนึ่งปีครึ่ง ก็ตกลงกับแฟนว่าจะทำใบขับขี่ (เรายังไม่ได้สอบ เบ 1 นะคะ ใช้วีซ่าติดตามบุตรเลยไม่บังคับเรียน)เราสองคนคิดถึงอนาคต เผื่อวันไหนคนในบ้านเจ็บป่วยในตอนที่แฟนไม่อยู่ ใครจะพาไปหาหมอ ถ้าลูกเข้าอนุบาลเราจะได้ไปรับไปส่ง หรือเผื่อมีโอกาสได้งานทำ จะได้เดินทางไปไหนมาไหนได้เอง นี่คือเหตุผลหลัก ๆ เหตุผลรองคือช็อปปิ้งแหละค่ะ 555
เราไปติดต่อ รร.สอนขับรถเดือน มิถุนายน 2558 แล้วก็เริ่มเรียนในวันถัดไปเลย จ่ายค่าลงทะเบียนไป 350 ยูโร ได้หนังสือมา 1 เล่ม และมีเว็บไซต์ให้ไปฝึกทำข้อสอบ และสามารถดาวน์โหลดแอปไว้ทำในมือถือหรือแล็บท็อปได้ด้วย
วันแรกที่เรียนบอกตรง ๆ ไม่รู้เรื่องค่ะ เป็นศัพท์ที่เราไม่ค่อยคุ้นหู แถมครูพูดเร็วปานจรวด แต่โชคดีมีครูสองคนสลับกันสอน เราเลือกไว้ในใจเลยค่ะว่าจะเรียนขับกับใคร แน่นอนล่ะว่าเราเลือกอีกคนที่ดูค่อนข้างใจเย็น อารมณ์ดี พูดให้เราเข้าใจ
เราเรียนวันละ 1.5 ช.ม. สัปดาห์ละ 2 วันค่ะ เราเรียนครบ 28 ช.ม.ก็แจ้งครูว่าอยากเริ่มขับรถ ครูก็บอกให้ไปอบรมปฐมพยาบาลเบื้องต้นมา ค่าอบรม 35 ยูโรค่ะ และตรวจวัดสายตา เราสายตาสั้นมากค่ะ ต้องตัดแว่น จ่ายไป 450 ยูโร ได้แว่นมา 2 อันเอาไว้ในรถ 1 ในบ้านอีก 1 ที่แพงเพราะเราเลือกเลนส์แพงค่ะ อย่าตกใจ มีหลายราคา ค่าตรวจเราไม่เสียค่ะ เพราะตัดแว่นกับทางร้านเลย
เสร็จแล้วเราก็ได้เริ่มเรียนขับ วันที่ 9/11/2558 ค่ะ ครูขับรถมารับที่บ้าน เย้ ๆ ได้จับรถละ เบนซ์ใหม่สุดเลยค่ะ งามมาก แต่มันไม่ใช่ของเรา แง ๆ เราเลือกเกียร์ธรรมดา เพราะถ้าเราเรียนเกียร์ออโต้จะขับได้เฉพาะออโต้ค่ะ เป็นกฏหมายของที่นี่ สามีเลยให้เรียนเกียร์ธรรมดาค่ะ เพราะปลอดภัยกว่าด้วย
พึ่งขับรถครั้งแรกจริง ๆ เข้าเกียร์ไม่ถูก ปล่อยคลัทเร็วไป รถดับหลายที แฮ่ ๆ แต่ครูเข้าใจค่ะ วันแรกไม่ดุซักนิดเดียว ค่าเรียนขับชั่วโมงละ 39.90 ยูโรนะคะ ฮู้วววววววววววววววววววววแพงมากเลยสำหรับเรา แต่เราทำใจไว้แล้วแหละเรื่องค่าใช้จ่ายในการทำใบขับขี่เยอรมันตีเป็นเงินไป แสนขึ้นแน่ ๆ
การเรียนขับจะนัดวัดก่อนทุกครั้งคะ เราเรียนแทบทุกวันเพราะช่วงหน้าหนาวนักเรียนน้อยถือว่าโชคดีของเราค่ะ ไม่ต้องรอคิวนาน ๆ เราเรียนวันละ 1.5 ช.ม.ค่ะ แรก ๆ ครูจะพาขับตามชนบทค่ะ พอครบชั่วโมงก็กลับมาบ้าน แต่จะบันทึกในสมุดเป็น 2 ช.ม.
พอผ่านไป 4-5 ครั้ง ครูก็พาเข้าเมือง สำหรับเราว่ายากสุดคือในเมืองนี่แหละ ป้ายเยอะแยะไปหมด รถเยอะ ซอยเยอะ ไฟแดงเยอะ ทั้งตื่นเต้นทั้งกลัว รถดับตอนออกตัวหลังจากไฟเขียวไปหลายที ที่สำคัญต้อง มองระดับไหล่ทุกครั้งที่เลี้ยว ไม่ทำมีดุค่ะ เหยียบเบรคหัวทิ่มเลย แรก ๆ มีตกใจ แต่ครูที่สอนเราไม่ดุมากค่ะ เพราะเราทำตัวร่าเริง เวลาเค้าว่าก็พยายามคิดในแง่บวกจะได้ไม่กดดันตัวเองค่ะ และก็พาออกทางด่วนค่ะ ที่นี่ทางด่วนวิ่ง 130 กม/ชม อย่างต่ำค่ะ ถ้าช้ามีดุด้วย ครูจะบอกว่าเห็นรถข้างหลังมั๊ย เค้าไม่อยากวิ่งช้ากว่า 130 หรอก การวิ่งช้าถือว่าเป็นการขวางเลยก็ว่าได้ (ในเยอรมันวิ่งเร็วได้แบบไม่จำกัดเลยค่ะ บนทางด่วนนะ สามีเราวิ่ง 250 -270 เลยทีเดียว) ต่ำกว่านี้ได้นิดหน่อยแล้วแต่สถานะการณ์ แต่ถ้าจุดไหนมีป้ายจำกัดความเร็วก็ห้ามเกินนะคะ อย่างเช่นถ้าจำกัด 100 วิ่งเกินได้แค่ 103 ค่ะ ถ้า 105 ครูจะว่าแล้ว ตามชนบทเช่นกัน กำหนดที่ 50 กม/ชม เกินได้นิดหน่อย ดีหน่อยที่นี่ไม่มีทางแยกบนทางด่วนค่ะ ตรงอย่างเดียว ถ้าจะออกจากทางด่วนก็จะมีทางแยกออกไปเลย
มาถึงตอนนี้เราจ่ายค่าเรียนขับรถไปแล้วเกือบ 900 ยูโร แต่ยังไม่เสร็จนะคะ
ตอนนี้เราเรียนได้ 28 ช.ม.แล้ว และเราได้สอบทฤษฏีผ่านแล้วในวันนี้ 21/12/2558 ค่าสอบ 20.38 ยูโร มีแล็บท็อปให้คนละเครื่องในการสอบ มีที่นั่งในห้องประมาณ 25 ที่นั่งหรืออาจจะต่ำกว่าเท่าที่ประมาณด้วยสายตา ข้อสอบมี 30 ข้อ แต่ละข้อจะมีคะแนนต่างกันค่ะ 2-3-4 และ 5 ผิดได้ 10 คะแนนค่ะ เราสอบผ่านค่ะ ผิด 2 คะแนน ออกมาครูยิ้มเลย ดีใจกันทั้งบ้าน คืนนี้มีเปิดแชมเปญค่ะ 555
เราเหลือขับกลางคืนอีก 2 วันก็สามารถสอบปฏิบัติได้แล้ว การเรียนคาดว่าจะเสร็จก่อนคริสมาสต์และจะสอบหลังปีใหม่ อันนี้ก็ด่านหินเหมือนกัน ตื่นเต้นมาก
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับหลาย ๆ คนที่กำลังเรียนอยู่นะคะ เป็นกำลังใจให้สอบผ่านและได้ใบขับขี่ราคาแสนแพงเช่นกันนะคะ
ทำใบขับขี่เยอรมัน (สอบทฤษฏีภาษาอังกฤษ)
หลังจากอยู่เยอรมันได้หนึ่งปีครึ่ง ก็ตกลงกับแฟนว่าจะทำใบขับขี่ (เรายังไม่ได้สอบ เบ 1 นะคะ ใช้วีซ่าติดตามบุตรเลยไม่บังคับเรียน)เราสองคนคิดถึงอนาคต เผื่อวันไหนคนในบ้านเจ็บป่วยในตอนที่แฟนไม่อยู่ ใครจะพาไปหาหมอ ถ้าลูกเข้าอนุบาลเราจะได้ไปรับไปส่ง หรือเผื่อมีโอกาสได้งานทำ จะได้เดินทางไปไหนมาไหนได้เอง นี่คือเหตุผลหลัก ๆ เหตุผลรองคือช็อปปิ้งแหละค่ะ 555
เราไปติดต่อ รร.สอนขับรถเดือน มิถุนายน 2558 แล้วก็เริ่มเรียนในวันถัดไปเลย จ่ายค่าลงทะเบียนไป 350 ยูโร ได้หนังสือมา 1 เล่ม และมีเว็บไซต์ให้ไปฝึกทำข้อสอบ และสามารถดาวน์โหลดแอปไว้ทำในมือถือหรือแล็บท็อปได้ด้วย
วันแรกที่เรียนบอกตรง ๆ ไม่รู้เรื่องค่ะ เป็นศัพท์ที่เราไม่ค่อยคุ้นหู แถมครูพูดเร็วปานจรวด แต่โชคดีมีครูสองคนสลับกันสอน เราเลือกไว้ในใจเลยค่ะว่าจะเรียนขับกับใคร แน่นอนล่ะว่าเราเลือกอีกคนที่ดูค่อนข้างใจเย็น อารมณ์ดี พูดให้เราเข้าใจ
เราเรียนวันละ 1.5 ช.ม. สัปดาห์ละ 2 วันค่ะ เราเรียนครบ 28 ช.ม.ก็แจ้งครูว่าอยากเริ่มขับรถ ครูก็บอกให้ไปอบรมปฐมพยาบาลเบื้องต้นมา ค่าอบรม 35 ยูโรค่ะ และตรวจวัดสายตา เราสายตาสั้นมากค่ะ ต้องตัดแว่น จ่ายไป 450 ยูโร ได้แว่นมา 2 อันเอาไว้ในรถ 1 ในบ้านอีก 1 ที่แพงเพราะเราเลือกเลนส์แพงค่ะ อย่าตกใจ มีหลายราคา ค่าตรวจเราไม่เสียค่ะ เพราะตัดแว่นกับทางร้านเลย
เสร็จแล้วเราก็ได้เริ่มเรียนขับ วันที่ 9/11/2558 ค่ะ ครูขับรถมารับที่บ้าน เย้ ๆ ได้จับรถละ เบนซ์ใหม่สุดเลยค่ะ งามมาก แต่มันไม่ใช่ของเรา แง ๆ เราเลือกเกียร์ธรรมดา เพราะถ้าเราเรียนเกียร์ออโต้จะขับได้เฉพาะออโต้ค่ะ เป็นกฏหมายของที่นี่ สามีเลยให้เรียนเกียร์ธรรมดาค่ะ เพราะปลอดภัยกว่าด้วย
พึ่งขับรถครั้งแรกจริง ๆ เข้าเกียร์ไม่ถูก ปล่อยคลัทเร็วไป รถดับหลายที แฮ่ ๆ แต่ครูเข้าใจค่ะ วันแรกไม่ดุซักนิดเดียว ค่าเรียนขับชั่วโมงละ 39.90 ยูโรนะคะ ฮู้วววววววววววววววววววววแพงมากเลยสำหรับเรา แต่เราทำใจไว้แล้วแหละเรื่องค่าใช้จ่ายในการทำใบขับขี่เยอรมันตีเป็นเงินไป แสนขึ้นแน่ ๆ
การเรียนขับจะนัดวัดก่อนทุกครั้งคะ เราเรียนแทบทุกวันเพราะช่วงหน้าหนาวนักเรียนน้อยถือว่าโชคดีของเราค่ะ ไม่ต้องรอคิวนาน ๆ เราเรียนวันละ 1.5 ช.ม.ค่ะ แรก ๆ ครูจะพาขับตามชนบทค่ะ พอครบชั่วโมงก็กลับมาบ้าน แต่จะบันทึกในสมุดเป็น 2 ช.ม.
พอผ่านไป 4-5 ครั้ง ครูก็พาเข้าเมือง สำหรับเราว่ายากสุดคือในเมืองนี่แหละ ป้ายเยอะแยะไปหมด รถเยอะ ซอยเยอะ ไฟแดงเยอะ ทั้งตื่นเต้นทั้งกลัว รถดับตอนออกตัวหลังจากไฟเขียวไปหลายที ที่สำคัญต้อง มองระดับไหล่ทุกครั้งที่เลี้ยว ไม่ทำมีดุค่ะ เหยียบเบรคหัวทิ่มเลย แรก ๆ มีตกใจ แต่ครูที่สอนเราไม่ดุมากค่ะ เพราะเราทำตัวร่าเริง เวลาเค้าว่าก็พยายามคิดในแง่บวกจะได้ไม่กดดันตัวเองค่ะ และก็พาออกทางด่วนค่ะ ที่นี่ทางด่วนวิ่ง 130 กม/ชม อย่างต่ำค่ะ ถ้าช้ามีดุด้วย ครูจะบอกว่าเห็นรถข้างหลังมั๊ย เค้าไม่อยากวิ่งช้ากว่า 130 หรอก การวิ่งช้าถือว่าเป็นการขวางเลยก็ว่าได้ (ในเยอรมันวิ่งเร็วได้แบบไม่จำกัดเลยค่ะ บนทางด่วนนะ สามีเราวิ่ง 250 -270 เลยทีเดียว) ต่ำกว่านี้ได้นิดหน่อยแล้วแต่สถานะการณ์ แต่ถ้าจุดไหนมีป้ายจำกัดความเร็วก็ห้ามเกินนะคะ อย่างเช่นถ้าจำกัด 100 วิ่งเกินได้แค่ 103 ค่ะ ถ้า 105 ครูจะว่าแล้ว ตามชนบทเช่นกัน กำหนดที่ 50 กม/ชม เกินได้นิดหน่อย ดีหน่อยที่นี่ไม่มีทางแยกบนทางด่วนค่ะ ตรงอย่างเดียว ถ้าจะออกจากทางด่วนก็จะมีทางแยกออกไปเลย
มาถึงตอนนี้เราจ่ายค่าเรียนขับรถไปแล้วเกือบ 900 ยูโร แต่ยังไม่เสร็จนะคะ
ตอนนี้เราเรียนได้ 28 ช.ม.แล้ว และเราได้สอบทฤษฏีผ่านแล้วในวันนี้ 21/12/2558 ค่าสอบ 20.38 ยูโร มีแล็บท็อปให้คนละเครื่องในการสอบ มีที่นั่งในห้องประมาณ 25 ที่นั่งหรืออาจจะต่ำกว่าเท่าที่ประมาณด้วยสายตา ข้อสอบมี 30 ข้อ แต่ละข้อจะมีคะแนนต่างกันค่ะ 2-3-4 และ 5 ผิดได้ 10 คะแนนค่ะ เราสอบผ่านค่ะ ผิด 2 คะแนน ออกมาครูยิ้มเลย ดีใจกันทั้งบ้าน คืนนี้มีเปิดแชมเปญค่ะ 555
เราเหลือขับกลางคืนอีก 2 วันก็สามารถสอบปฏิบัติได้แล้ว การเรียนคาดว่าจะเสร็จก่อนคริสมาสต์และจะสอบหลังปีใหม่ อันนี้ก็ด่านหินเหมือนกัน ตื่นเต้นมาก
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับหลาย ๆ คนที่กำลังเรียนอยู่นะคะ เป็นกำลังใจให้สอบผ่านและได้ใบขับขี่ราคาแสนแพงเช่นกันนะคะ