[Brunei, Feb2011]
https://www.facebook.com/journeyaddict/
ตอนที่ 1 :
[CR] วังเวง ไม่เคว้งคว้าง หยุดเวลา มาเหงาที่บรูไน ตอนที่ 1/2 (Brunei)
http://journeyaddict.com/2015/12/25/brunei1/
ตอนที่ 2 :
วันที่ 2 (ต่อ)
จากนั้นเราตัดสินใจไปหมู่บ้านกลางน้ำ (Kampung Ayer) ด้วยเรือท้องถิ่น และดูลิงจมูกยาว (Proboscis Monkey) ลักษณะเด่นคือมีจมูกที่ยาวเหมือนงวงช้าง เป็นลิงเฉพาะถิ่นที่พบที่เกาะบอร์เนียวเท่านั้น อาศัยอยู่ในป่าชายเลน หรือป่าติดริมแม่น้ำ ปัจจุบันใกล้สูญพันธุ์
ราคาเรือพร้อมคนขับก็ขึ้นอยู่กับการต่อรองของแต่ละคนแล้วล่ะคราวนี้
เรามุ่งหน้าเข้าป่าเพื่อดูลิงกันก่อน บางช่วงจะมองไม่เห็นชายฝั่งเพราะต้นไม้หนาทึบ โดยสามารถเห็นต้นไม้สีเขียวสุดตา (แอบหลอนนิดๆ เพราะบางช่วงป่ามันเขียวแน่นมากกก ไม่เห็นพื้นดินบนฝั่ง และไม่มีชูชีพจร้า นี่ขนาดเราว่ายน้ำเป็นยังแอบขนลุก นึกถึงตอนไปโตเลสาบ ที่เขมร ….คือหลอนว่ามันจะมีจระเข้ไหมมม หึๆ)
จนเริ่มแยกเข้าแม่น้ำสายเล็กๆ เราก็เริ่มเห็นป่าโกงกางที่ชัดเจนขึ้น มีบ้านคนอยู่ประปราย และในที่สุดเราก็ได้เจอลิงจมูกยาวที่กำลังปีนป่ายอยู่บนต้นไม้ เหมือนลิงจะชอบอยู่ในโซนที่มีบ้านคน เพราะชาวบ้านแถวนั้นจะนำอาหารมาเลี้ยงลิงด้วย การเข้าป่าครั้งนี้ ความรู้สึกประหนึ่งนั่งเรือชมหิ่งห้อยที่อัมพวาเพราะคนขับเรือเขาก็รู้มุมว่าลิงมันจะอยู่มุมไหน
Picture1ขออภัยที่ทุกคนอาจจะไม่ได้เห็นลิงในรูปนี้ชัดเจน (ในวงกลมสีแดง) เพราะเราอยากให้ทุกคนได้ไปบรูไน และไปเห็นด้วยตาตัวเอง (ไม่…จริงๆแล้วกล้องกาก 55)
ลิงจมูกยาว (Proboscis Monkey)
จากนั้นคนขับเรือ ก็วกเรือกลับเพื่อไปหมู่บ้านกลางน้ำ ที่มีทั้งบ้านคน, โรงเรียน, ปั๊มน้ำมัน shell เป็นเหมือนเมืองกลางน้ำ
…..หรือนี่เป็นเหตุให้เราไม่ค่อยเห็นคนในเมืองบนบก เพราะมาอยู่กันบนน้ำกันนี่เอง
เราสามารถเห็น Sultan Omar Ali Saifuddien Mosque (มัสยิด โอมาร์ อาลี ไซฟูดดิน) ได้อีกด้วย
อารมณ์ก็คล้ายๆบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ไทยเหมือนกันนะ
เหนื่อยจากการเที่ยวมาทั้งวัน เราก็มาจบด้วยการเดินหาของกินที่ห้างกลางเมือง และชมเมืองยามค่ำคืน อันเงียบเหงา (ว๊ากก ผีจะหลอกไหม วังเวงมาก ไม่มีรถเลย นี่มีเคอร์ฟิวอะไรป่าเนี่ย ถนนโล่งจนไปนอนกลิ้งได้เลยเนี่ยยย)
คืนนี้เรานอน Youth Hostel …แต่ความหลอน ยังไม่จบ คือ จากที่ตอนกลางวัน เราไปติดต่อเพื่อจอง Youth Hostel เขาก็ให้กุญแจเรามา แล้วเราก็จ่ายเงินค่าห้องเรียบร้อยไปแล้ว …ตอนเย็นก็เข้าพักได้เลย คนเฝ้าอยู่แค่กลางวัน ประเด็น คือ…Youth Hostel เงียบมากกก กลางคืนนี่ Hostel เป็นของเราเลยล่ะ ห้องนอนรวมหญิง (female dorm) ที่มีเตียงสองชั้นเรียงรายอยู่ประมาณ 5 แถว 10 เตียงได้ มีเรานอนอยู่คนเดียว! หลอนนิดๆ 55 (คืนนี้จะมีใครมานอนด้วยไหมเนี่ยยย วังเวงดีแท้) ดีที่เราไม่ได้กลัวผีนะ แค่หลอนๆเฉยๆ เราเลยเลือกนอนติดมุมเลย อย่างน้อยระแวงด้านเดียวพอ 55
วันที่ 3
เช้านี้เราจัดอาหารเช้าที่ Syazwan Café & Catering เป็นกับข้าวหลากหลายกินกับโรตี เมื่ออิ่มท้องก็พร้อมเที่ยว วันนี้เราจะเดินทางไกลออกไปนอกตัวเมืองหน่อย ขึ้นรถบัสจากท่ารถไปพิพิธภัณฑ์บรูไน (Brunei Museum) ที่อยู่ห่างจากกลางเมืองไปประมาณ 7 กม.ระหว่างทางเราจะผ่านสุสานท่านสุลต่าน (Ancient Tomb of the 5th Sultan) แต่เดี๋ยวเราค่อยย้อนกลับมาทีหลัง
เราใช้เวลาไม่นานนักก็มาถึงพิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์ในบรูไนส่วนใหญ่ค่าเข้าชมฟรี สำหรับที่นี่ภายในแยกส่วนจัดแสดงเป็นส่วนๆ เป็นที่รวบรวมของสะสมโบราณล้ำค่า ของท่านสุลต่านจากประเทศต่างๆทั่วโลกมาแสดงไว้มากมาย มีคัมภีร์อัลกุระอ่านขนาดเล็กที่สุดในโลก มีหุ่นจำลองวัฒนธรรมประเพณีของชาวบรูไนตั้งแต่แรกเกิด การแต่งงาน รวมถึงห้องที่รวบรวมประวัติการค้นพบน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจำนวนมหาศาลที่พลิกโฉมบรูไนให้กลายเป็นประเทศที่ร่ำรวย ชมแบบจำลองกระบวนการผลิตและขุดเจาะน้ำมันในยุคแรกๆ ห้องแสดงสัตว์หายากของเกาะบอร์เนียว โดยเฉพาะลิงจมูกยาว (Proboscis Monkey)
จากนั้นเราเดินจากพิพิธภัณฑ์บรูไนไปทางด้านหลัง ที่ติดริมแม่น้ำ เพื่อเข้า พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีมลายู (Malay Technology Museum) ที่รวมเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันของชาวมลายูสมัยก่อน ทั้งการจับปลา, การสร้างบ้าน, การทำวัสดุอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆในอดีต
ทางเดินระหว่างพิพิธภัณฑ์นั้นเงียบมาก ใช้เวลาเดินประมาณ 15-20 นาที บรรยากาศวิเวกเล็กน้อย ถ้ามีเวลาเหลืออาจจะเดินไปพิพิธภัณฑ์ทางทะเล (Brunei Darussalam Maritime Museum) ที่อยู่ไม่ไกลจากกันดูก็ได้
เราพยายามเดินกลับมาที่ถนนใหญ่เพื่อรอรถบัส ณ จุดเดิมที่ลงรถ แต่ทว่าไม่มีวี่แววจะมีรถบัสผ่านมา แม้แต่น้อย..ย้ำ..แม้แต่น้อย หลังจากเรานั่งรอมาร่วมครึ่งชม. จึงตัดสินใจเดินลัดเลาะถนน Jalan Kota Batu จากพิพิธภัณฑ์บรูไน เดินย้อนกลับเข้าเมืองมายัง สุสานท่านสุลต่าน (Mausoleum of Sultan Bolkiah) ด้วยตัวเอง ที่นี่เป็นสุสานของสุลต่านโบลเกียองค์ที่ 5 ซึ่งครองราชย์ในช่วงศตวรรษที่ 15
ขากลับเราได้พยายามรอรถบัสอยู่นาน เช่นเดิม รอไปสักพักใหญ่ๆ ก็มีรถชาวบรูไนมาจอดถามว่าเราจะเข้า downtown ไหม เขายินดีพาเราไปส่งใน downtown…เราก็ไม่มีทางเลือก และถ้าให้เดินกลับก็ไกลมากอยู่ (เคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่งบอกไว้ว่า บางทีชาวบรูไนก็อาสาเป็น Taxi จำเป็นไปส่งเราได้ แต่จะมีการคิดเงินค่าโดยสารเล็กน้อย) และดูเขาน่าจะปลอดภัยอยู่ ก็เลยติดรถกลับเข้าเมืองมาด้วย เขาไปส่งเราที่ใกล้ๆท่ารถ เราก็ให้เงินเขาไป 2B$ เป็นค่าโดยสาร Carpool
เรากลับมาในเมืองก็หาร้านอาหารจีนทาน ก่อนเดินไปไปรษณีย์กลาง (Pejabat Besar Pos) บนถนน Jalan Sultan Oman Ali Saifuddien มีมุมจัดแสดงแสตมป์บรูไนหลากหลายแบบ ทั้งแสตมป์ท่านสุลต่าน และลิงจมูกยาว
ตอนบ่ายๆเราว่าง …เลยสโลว์ไลฟ์ด้วยการไปว่ายน้ำที่ Youth Hostel เราเตรียมชุดว่ายน้ำไปด้วย เพราะเห็นว่าที่นี่มีสระว่ายน้ำ มีคนมาว่ายที่สระว่ายน้ำประมาณ 3-4 คน
สำหรับคืนนี้ เราย้ายที่พัก (อีกแล้ว) ทนความวังเวงไม่ไหว ไปลองพักที่ Terrace Hotel (
http://www.terracebrunei.com/) ที่อยู่ : Jalan Tasek Lama, GPO Box 49, Bandar Seri Begawan อยู่เส้นเดียวกับโรงแรมเรดิสสัน (Raddisson Hotel) ที่นี่เป็นโรงแรมระดับกลาง ราคาประมาณ 65-75B$/ห้อง/คืน มีสระว่ายน้ำเล็กๆชั้นล่าง แต่เล็กมากจนน่าจะเป็นเอาไว้แช่น้ำเล่นมากกว่า สภาพห้องสะอาด เรียบง่ายแบบละครย้อนยุค โดยสังเกตได้จากที่เป่าผม ที่เห็นครั้งแรก เรางงว่า..มันคือเครื่องอะไร?
วันที่ 4
วันสุดท้ายของการอยู่ในบรูไน เราเดินมาขึ้นรถบัสจากท่ารถไปสนามบิน ใช้เวลาไม่นานก็ถึงสนามบิน จากนั้นต่อเครื่องที่กัวลาลัมเปอร์,มาเลเซีย เพื่อกลับกรุงเทพฯ
สรุปการเดินทางในทริปนี้ :
วันที่ 1 : เดินทางถึงบรูไน
Yayasan Sultan Haji Hassanal Bolkiah Shopping Complex
Sultan Omar Ali Saifuddien Mosque
ที่พัก – Khsoon Resthouse
วันที่ 2 :
Tamu Kianggeh Market
Jame Ar’Hassanil Bolkiah Mosque
Royal Regalia Museum
Royal Ceremonial Hall
ที่พัก – Pusat Belia Youth Hostel
วันที่ 3 :
Brunei Museum
Ancient Tomb of the 5th Sultan
Malay Technology Museum
Main Post Office
ที่พัก – Terrace Hotel
วันที่ 4 : เดินทางกลับ
สำหรับใครที่มีเวลาเหลือ หรือตัดสถานที่เที่ยวบางอย่างออก สามารถแวะไปเที่ยวเพิ่มเติมได้ตามด้านล่างนี้
กรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน :
- พระราชวังหลังคาทองคำ อิสตาน่า นูรูล อิมาน (Istana Nurul Iman : Sultan’s Palace)
- ศูนย์ประวัติศาสตร์บรูไน (Brunei History Center)
- หาดมูอารา (Muara Beach) – ห่างจากเมืองหลวงประมาณ 25 กม. และห่างจากตัวเมือง Muara ประมาณ 2 กม. สามารถขึ้นรถไปเมือง Muara ได้จากท่ารถ BSB บางรีวิวแนะนำว่าไม่ควรไปในช่วงสุดสัปดาห์
- สวนสนุกเจรูดง (Jerudong Park Playground) – เป็นสวนสนุกที่ท่านสุลต่านสร้างให้เป็นของขวัญให้กับคนบรูไน ค่าเข้า 3B$ แต่สวนสนุกค่อนข้างเก่าแก่แล้ว และอาจจะหารถกลับยากในกรณีขึ้นรถสาธารณะมา
เมืองเบเลต (Belait) :
ไม่มีที่เที่ยวมากนัก และโดยทั่วไปแล้วไม่ค่อยมีใครพักที่นี่ นอกจากพลาดรถทำให้ต้องพักที่เมืองนี้เป็นเมืองที่สามารถต่อรถไปรัฐซาราวัก (Sarawak) ในมาเลเซียได้
เมืองเตมบูรง (Temburong) :
Ulu Temburong National Park อุทยานแห่งชาตินี้มีพื้นที่ประมาณ 500 ตารางกม. มี Canopy Walkway ให้เดินชม เห็นมุมกว้างของป่า โดยเมืองเตมบูรง (Temburong) ถูกแยกออกจากเมืองอื่นๆ ในบรูไนโดยรัฐซาราวักของมาเลเซีย ดังนั้นการมาที่เมืองนี้ทางรถต้องผ่านประเทศมาเลเซีย หรืออีกทางหนึ่งคือมาทางเรือเร็ว (speed boat) ใช้เวลาประมาณ 45 นาที จากท่าเรือ Jetty บนถนน Jalan Residency มีบริษัททัวร์ขายทัวร์เที่ยวเมืองเตมบูรง (Temburong) อยู่บ้าง แต่ราคาค่อนข้างแพงนะ ถ้าอยากเที่ยวป่าในเกาะบอร์เนียว แนะนำให้เที่ยวทางฝั่งมาเลเซียประหยัดกว่า
– มีเวลา 1 วัน สามารถข้ามไป
เกาะลาบวน (Labuan) ของมาเลเซียได้ โดยต้องไปขึ้น Ferry ที่ท่าเรือเมือง Muara ตรวจสอบรอบเรือได้ที่ link ในเวบไซด์
http://www.bruneibay.net โดยเกาะนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง กองเรือของอังกฤษเคยใช้เป็นที่เติมเชื้อเพลิงของกองทัพเรือ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น Peace Park (สวนสันติภาพ) / Surrender Point : จุดที่กองทัพญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงครามต่อกองทัพออสเตรเลี่ยน / สุสานทหารสัมพันธมิตร 3,905 นาย / พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ
สำหรับบรูไน เที่ยวไม่ยาก เพียงแต่จะมีปัญหาในเรื่องการเดินทางด้วยรถสาธารณะ เพราะนานๆจะมาสักคัน
=========================================
เราชอบการท่องเที่ยว เราเชื่อว่าทุกคนสามารถเป็น World Traveler ได้ในแบบของตัวเอง
เราท่องเที่ยวเรื่อยๆ ตอนนี้ไปมาได้ประมาณ 30 กว่าๆประเทศ แล้ว
เราชอบเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ข้อมูล รีวิว ต่างๆ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกๆคนล่ะ
ติดตาม #Journey Addict Blog และพูดคุยกันในเพจ Facebook ได้ที่
https://www.facebook.com/journeyaddict /
http://journeyaddict.com/
===========================================
รีวิวที่ผ่านมา :
สวัสดี…เราเป็นแบ็คแพคเกอร์
http://journeyaddict.com/2015/12/18/imabackpacker/
โรคจากการขึ้นที่สูง (High Altitude Sickness) สำหรับคนที่มีแผนท่องเที่ยวในอเมริกาใต้, เนปาล, ทิเบต ฯลฯ
http://journeyaddict.com/2015/12/12/high-altitude-sickness/
ทัวร์ไปเมืองจีน กับ สุดยอดเทคนิคการขาย (บัวหิมะ,หยก,ผ้าไหม) จริง หรือ หลอก ?
http://journeyaddict.com/2015/11/21/chinese-hardsell/
[CR] วังเวง ไม่เคว้งคว้าง หยุดเวลา มาเหงาที่บรูไน ตอนที่ 2/2 (Brunei)
https://www.facebook.com/journeyaddict/
ตอนที่ 1 :
[CR] วังเวง ไม่เคว้งคว้าง หยุดเวลา มาเหงาที่บรูไน ตอนที่ 1/2 (Brunei)
http://journeyaddict.com/2015/12/25/brunei1/
ตอนที่ 2 :
วันที่ 2 (ต่อ)
จากนั้นเราตัดสินใจไปหมู่บ้านกลางน้ำ (Kampung Ayer) ด้วยเรือท้องถิ่น และดูลิงจมูกยาว (Proboscis Monkey) ลักษณะเด่นคือมีจมูกที่ยาวเหมือนงวงช้าง เป็นลิงเฉพาะถิ่นที่พบที่เกาะบอร์เนียวเท่านั้น อาศัยอยู่ในป่าชายเลน หรือป่าติดริมแม่น้ำ ปัจจุบันใกล้สูญพันธุ์
ราคาเรือพร้อมคนขับก็ขึ้นอยู่กับการต่อรองของแต่ละคนแล้วล่ะคราวนี้
เรามุ่งหน้าเข้าป่าเพื่อดูลิงกันก่อน บางช่วงจะมองไม่เห็นชายฝั่งเพราะต้นไม้หนาทึบ โดยสามารถเห็นต้นไม้สีเขียวสุดตา (แอบหลอนนิดๆ เพราะบางช่วงป่ามันเขียวแน่นมากกก ไม่เห็นพื้นดินบนฝั่ง และไม่มีชูชีพจร้า นี่ขนาดเราว่ายน้ำเป็นยังแอบขนลุก นึกถึงตอนไปโตเลสาบ ที่เขมร ….คือหลอนว่ามันจะมีจระเข้ไหมมม หึๆ)
จนเริ่มแยกเข้าแม่น้ำสายเล็กๆ เราก็เริ่มเห็นป่าโกงกางที่ชัดเจนขึ้น มีบ้านคนอยู่ประปราย และในที่สุดเราก็ได้เจอลิงจมูกยาวที่กำลังปีนป่ายอยู่บนต้นไม้ เหมือนลิงจะชอบอยู่ในโซนที่มีบ้านคน เพราะชาวบ้านแถวนั้นจะนำอาหารมาเลี้ยงลิงด้วย การเข้าป่าครั้งนี้ ความรู้สึกประหนึ่งนั่งเรือชมหิ่งห้อยที่อัมพวาเพราะคนขับเรือเขาก็รู้มุมว่าลิงมันจะอยู่มุมไหน
Picture1ขออภัยที่ทุกคนอาจจะไม่ได้เห็นลิงในรูปนี้ชัดเจน (ในวงกลมสีแดง) เพราะเราอยากให้ทุกคนได้ไปบรูไน และไปเห็นด้วยตาตัวเอง (ไม่…จริงๆแล้วกล้องกาก 55)
ลิงจมูกยาว (Proboscis Monkey)
จากนั้นคนขับเรือ ก็วกเรือกลับเพื่อไปหมู่บ้านกลางน้ำ ที่มีทั้งบ้านคน, โรงเรียน, ปั๊มน้ำมัน shell เป็นเหมือนเมืองกลางน้ำ
…..หรือนี่เป็นเหตุให้เราไม่ค่อยเห็นคนในเมืองบนบก เพราะมาอยู่กันบนน้ำกันนี่เอง
เราสามารถเห็น Sultan Omar Ali Saifuddien Mosque (มัสยิด โอมาร์ อาลี ไซฟูดดิน) ได้อีกด้วย
อารมณ์ก็คล้ายๆบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ไทยเหมือนกันนะ
เหนื่อยจากการเที่ยวมาทั้งวัน เราก็มาจบด้วยการเดินหาของกินที่ห้างกลางเมือง และชมเมืองยามค่ำคืน อันเงียบเหงา (ว๊ากก ผีจะหลอกไหม วังเวงมาก ไม่มีรถเลย นี่มีเคอร์ฟิวอะไรป่าเนี่ย ถนนโล่งจนไปนอนกลิ้งได้เลยเนี่ยยย)
คืนนี้เรานอน Youth Hostel …แต่ความหลอน ยังไม่จบ คือ จากที่ตอนกลางวัน เราไปติดต่อเพื่อจอง Youth Hostel เขาก็ให้กุญแจเรามา แล้วเราก็จ่ายเงินค่าห้องเรียบร้อยไปแล้ว …ตอนเย็นก็เข้าพักได้เลย คนเฝ้าอยู่แค่กลางวัน ประเด็น คือ…Youth Hostel เงียบมากกก กลางคืนนี่ Hostel เป็นของเราเลยล่ะ ห้องนอนรวมหญิง (female dorm) ที่มีเตียงสองชั้นเรียงรายอยู่ประมาณ 5 แถว 10 เตียงได้ มีเรานอนอยู่คนเดียว! หลอนนิดๆ 55 (คืนนี้จะมีใครมานอนด้วยไหมเนี่ยยย วังเวงดีแท้) ดีที่เราไม่ได้กลัวผีนะ แค่หลอนๆเฉยๆ เราเลยเลือกนอนติดมุมเลย อย่างน้อยระแวงด้านเดียวพอ 55
วันที่ 3
เช้านี้เราจัดอาหารเช้าที่ Syazwan Café & Catering เป็นกับข้าวหลากหลายกินกับโรตี เมื่ออิ่มท้องก็พร้อมเที่ยว วันนี้เราจะเดินทางไกลออกไปนอกตัวเมืองหน่อย ขึ้นรถบัสจากท่ารถไปพิพิธภัณฑ์บรูไน (Brunei Museum) ที่อยู่ห่างจากกลางเมืองไปประมาณ 7 กม.ระหว่างทางเราจะผ่านสุสานท่านสุลต่าน (Ancient Tomb of the 5th Sultan) แต่เดี๋ยวเราค่อยย้อนกลับมาทีหลัง
เราใช้เวลาไม่นานนักก็มาถึงพิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์ในบรูไนส่วนใหญ่ค่าเข้าชมฟรี สำหรับที่นี่ภายในแยกส่วนจัดแสดงเป็นส่วนๆ เป็นที่รวบรวมของสะสมโบราณล้ำค่า ของท่านสุลต่านจากประเทศต่างๆทั่วโลกมาแสดงไว้มากมาย มีคัมภีร์อัลกุระอ่านขนาดเล็กที่สุดในโลก มีหุ่นจำลองวัฒนธรรมประเพณีของชาวบรูไนตั้งแต่แรกเกิด การแต่งงาน รวมถึงห้องที่รวบรวมประวัติการค้นพบน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจำนวนมหาศาลที่พลิกโฉมบรูไนให้กลายเป็นประเทศที่ร่ำรวย ชมแบบจำลองกระบวนการผลิตและขุดเจาะน้ำมันในยุคแรกๆ ห้องแสดงสัตว์หายากของเกาะบอร์เนียว โดยเฉพาะลิงจมูกยาว (Proboscis Monkey)
จากนั้นเราเดินจากพิพิธภัณฑ์บรูไนไปทางด้านหลัง ที่ติดริมแม่น้ำ เพื่อเข้า พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีมลายู (Malay Technology Museum) ที่รวมเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันของชาวมลายูสมัยก่อน ทั้งการจับปลา, การสร้างบ้าน, การทำวัสดุอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆในอดีต
ทางเดินระหว่างพิพิธภัณฑ์นั้นเงียบมาก ใช้เวลาเดินประมาณ 15-20 นาที บรรยากาศวิเวกเล็กน้อย ถ้ามีเวลาเหลืออาจจะเดินไปพิพิธภัณฑ์ทางทะเล (Brunei Darussalam Maritime Museum) ที่อยู่ไม่ไกลจากกันดูก็ได้
เราพยายามเดินกลับมาที่ถนนใหญ่เพื่อรอรถบัส ณ จุดเดิมที่ลงรถ แต่ทว่าไม่มีวี่แววจะมีรถบัสผ่านมา แม้แต่น้อย..ย้ำ..แม้แต่น้อย หลังจากเรานั่งรอมาร่วมครึ่งชม. จึงตัดสินใจเดินลัดเลาะถนน Jalan Kota Batu จากพิพิธภัณฑ์บรูไน เดินย้อนกลับเข้าเมืองมายัง สุสานท่านสุลต่าน (Mausoleum of Sultan Bolkiah) ด้วยตัวเอง ที่นี่เป็นสุสานของสุลต่านโบลเกียองค์ที่ 5 ซึ่งครองราชย์ในช่วงศตวรรษที่ 15
ขากลับเราได้พยายามรอรถบัสอยู่นาน เช่นเดิม รอไปสักพักใหญ่ๆ ก็มีรถชาวบรูไนมาจอดถามว่าเราจะเข้า downtown ไหม เขายินดีพาเราไปส่งใน downtown…เราก็ไม่มีทางเลือก และถ้าให้เดินกลับก็ไกลมากอยู่ (เคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่งบอกไว้ว่า บางทีชาวบรูไนก็อาสาเป็น Taxi จำเป็นไปส่งเราได้ แต่จะมีการคิดเงินค่าโดยสารเล็กน้อย) และดูเขาน่าจะปลอดภัยอยู่ ก็เลยติดรถกลับเข้าเมืองมาด้วย เขาไปส่งเราที่ใกล้ๆท่ารถ เราก็ให้เงินเขาไป 2B$ เป็นค่าโดยสาร Carpool
เรากลับมาในเมืองก็หาร้านอาหารจีนทาน ก่อนเดินไปไปรษณีย์กลาง (Pejabat Besar Pos) บนถนน Jalan Sultan Oman Ali Saifuddien มีมุมจัดแสดงแสตมป์บรูไนหลากหลายแบบ ทั้งแสตมป์ท่านสุลต่าน และลิงจมูกยาว
ตอนบ่ายๆเราว่าง …เลยสโลว์ไลฟ์ด้วยการไปว่ายน้ำที่ Youth Hostel เราเตรียมชุดว่ายน้ำไปด้วย เพราะเห็นว่าที่นี่มีสระว่ายน้ำ มีคนมาว่ายที่สระว่ายน้ำประมาณ 3-4 คน
สำหรับคืนนี้ เราย้ายที่พัก (อีกแล้ว) ทนความวังเวงไม่ไหว ไปลองพักที่ Terrace Hotel (http://www.terracebrunei.com/) ที่อยู่ : Jalan Tasek Lama, GPO Box 49, Bandar Seri Begawan อยู่เส้นเดียวกับโรงแรมเรดิสสัน (Raddisson Hotel) ที่นี่เป็นโรงแรมระดับกลาง ราคาประมาณ 65-75B$/ห้อง/คืน มีสระว่ายน้ำเล็กๆชั้นล่าง แต่เล็กมากจนน่าจะเป็นเอาไว้แช่น้ำเล่นมากกว่า สภาพห้องสะอาด เรียบง่ายแบบละครย้อนยุค โดยสังเกตได้จากที่เป่าผม ที่เห็นครั้งแรก เรางงว่า..มันคือเครื่องอะไร?
วันที่ 4
วันสุดท้ายของการอยู่ในบรูไน เราเดินมาขึ้นรถบัสจากท่ารถไปสนามบิน ใช้เวลาไม่นานก็ถึงสนามบิน จากนั้นต่อเครื่องที่กัวลาลัมเปอร์,มาเลเซีย เพื่อกลับกรุงเทพฯ
สรุปการเดินทางในทริปนี้ :
วันที่ 1 : เดินทางถึงบรูไน
Yayasan Sultan Haji Hassanal Bolkiah Shopping Complex
Sultan Omar Ali Saifuddien Mosque
ที่พัก – Khsoon Resthouse
วันที่ 2 :
Tamu Kianggeh Market
Jame Ar’Hassanil Bolkiah Mosque
Royal Regalia Museum
Royal Ceremonial Hall
ที่พัก – Pusat Belia Youth Hostel
วันที่ 3 :
Brunei Museum
Ancient Tomb of the 5th Sultan
Malay Technology Museum
Main Post Office
ที่พัก – Terrace Hotel
วันที่ 4 : เดินทางกลับ
สำหรับใครที่มีเวลาเหลือ หรือตัดสถานที่เที่ยวบางอย่างออก สามารถแวะไปเที่ยวเพิ่มเติมได้ตามด้านล่างนี้
กรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน :
- พระราชวังหลังคาทองคำ อิสตาน่า นูรูล อิมาน (Istana Nurul Iman : Sultan’s Palace)
- ศูนย์ประวัติศาสตร์บรูไน (Brunei History Center)
- หาดมูอารา (Muara Beach) – ห่างจากเมืองหลวงประมาณ 25 กม. และห่างจากตัวเมือง Muara ประมาณ 2 กม. สามารถขึ้นรถไปเมือง Muara ได้จากท่ารถ BSB บางรีวิวแนะนำว่าไม่ควรไปในช่วงสุดสัปดาห์
- สวนสนุกเจรูดง (Jerudong Park Playground) – เป็นสวนสนุกที่ท่านสุลต่านสร้างให้เป็นของขวัญให้กับคนบรูไน ค่าเข้า 3B$ แต่สวนสนุกค่อนข้างเก่าแก่แล้ว และอาจจะหารถกลับยากในกรณีขึ้นรถสาธารณะมา
เมืองเบเลต (Belait) :
ไม่มีที่เที่ยวมากนัก และโดยทั่วไปแล้วไม่ค่อยมีใครพักที่นี่ นอกจากพลาดรถทำให้ต้องพักที่เมืองนี้เป็นเมืองที่สามารถต่อรถไปรัฐซาราวัก (Sarawak) ในมาเลเซียได้
เมืองเตมบูรง (Temburong) :
Ulu Temburong National Park อุทยานแห่งชาตินี้มีพื้นที่ประมาณ 500 ตารางกม. มี Canopy Walkway ให้เดินชม เห็นมุมกว้างของป่า โดยเมืองเตมบูรง (Temburong) ถูกแยกออกจากเมืองอื่นๆ ในบรูไนโดยรัฐซาราวักของมาเลเซีย ดังนั้นการมาที่เมืองนี้ทางรถต้องผ่านประเทศมาเลเซีย หรืออีกทางหนึ่งคือมาทางเรือเร็ว (speed boat) ใช้เวลาประมาณ 45 นาที จากท่าเรือ Jetty บนถนน Jalan Residency มีบริษัททัวร์ขายทัวร์เที่ยวเมืองเตมบูรง (Temburong) อยู่บ้าง แต่ราคาค่อนข้างแพงนะ ถ้าอยากเที่ยวป่าในเกาะบอร์เนียว แนะนำให้เที่ยวทางฝั่งมาเลเซียประหยัดกว่า
– มีเวลา 1 วัน สามารถข้ามไป เกาะลาบวน (Labuan) ของมาเลเซียได้ โดยต้องไปขึ้น Ferry ที่ท่าเรือเมือง Muara ตรวจสอบรอบเรือได้ที่ link ในเวบไซด์ http://www.bruneibay.net โดยเกาะนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง กองเรือของอังกฤษเคยใช้เป็นที่เติมเชื้อเพลิงของกองทัพเรือ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น Peace Park (สวนสันติภาพ) / Surrender Point : จุดที่กองทัพญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงครามต่อกองทัพออสเตรเลี่ยน / สุสานทหารสัมพันธมิตร 3,905 นาย / พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ
สำหรับบรูไน เที่ยวไม่ยาก เพียงแต่จะมีปัญหาในเรื่องการเดินทางด้วยรถสาธารณะ เพราะนานๆจะมาสักคัน
=========================================
เราชอบการท่องเที่ยว เราเชื่อว่าทุกคนสามารถเป็น World Traveler ได้ในแบบของตัวเอง
เราท่องเที่ยวเรื่อยๆ ตอนนี้ไปมาได้ประมาณ 30 กว่าๆประเทศ แล้ว
เราชอบเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ข้อมูล รีวิว ต่างๆ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกๆคนล่ะ
ติดตาม #Journey Addict Blog และพูดคุยกันในเพจ Facebook ได้ที่
https://www.facebook.com/journeyaddict /
http://journeyaddict.com/
===========================================
รีวิวที่ผ่านมา :
สวัสดี…เราเป็นแบ็คแพคเกอร์
http://journeyaddict.com/2015/12/18/imabackpacker/
โรคจากการขึ้นที่สูง (High Altitude Sickness) สำหรับคนที่มีแผนท่องเที่ยวในอเมริกาใต้, เนปาล, ทิเบต ฯลฯ
http://journeyaddict.com/2015/12/12/high-altitude-sickness/
ทัวร์ไปเมืองจีน กับ สุดยอดเทคนิคการขาย (บัวหิมะ,หยก,ผ้าไหม) จริง หรือ หลอก ?
http://journeyaddict.com/2015/11/21/chinese-hardsell/