ได้ดู Tokyo Ghoul PINTO เรียบร้อยแล้วแฮะ






เทียบกับภาค JACK ที่ปรับเนื้อเรื่องออกมาได้โคตรบีบจนเนื้อหาหายไปซะเยอะแล้ว ภาค PINTO นี่ถือว่าปรับเนื้อเรื่องได้เป๊ะเลยแฮะ อาจเพราะต้นเรื่องมาจากเรื่องสั้นตอนเดียวจบในนิยายชุด "คืนวัน" อยู่แล้วก็ได้ เนื้อหาเลยมีน้อยถ้าเทียบกับภาค JACK ที่กินเนื้อหา 1 เล่มเต็มๆ การปรับเนื้อเรื่องเลยทำได้ง่ายกว่ามาก


ชอบจิเอะภาค OVA จริงๆ แฮะ ทำออกมาได้เป๊ะกับบุคลิกในมังงะกับนิยายเลย แถมเสียงพากย์ของคุณฮัน เมงุมิยังเข้ากับบุคลิกแก่นๆ อยู่ไม่สุขของจิเอะอีกต่างหาก (ชอบฉากที่จิเอะตัดมุกนักชิมตอนอยู่ในคาเฟ่กับตอนอยู่ในโรงพยาบาลจริงๆ เล่นเอานักชิมไปไม่เป็นเลยทีเดียว)





อีกคนที่ออกมาดีแบบคาดไม่ถึงในตอนนี้ก็คือมัตสึมาเอะแฮะ เวอร์ชั่น OVA ตาไม่ดำปี๋เหมือนมังงะก็จริง แต่ก็ให้อารมณ์สวยสง่าแบบผู้ใหญ่ไปอีกแบบ ยิ่งฉากแต่งชุดเมดมาให้บริการนักชิมในบ้านนั่นน่ารักมาก





ส่วนเนื้อหานั้นปรับจากเรื่องสั้นที่เป็นต้นฉบับพอสมควร เช่น ตัดฉากจิเอะหนีนักชิมครั้งแรก + อัพภาพนักชิมขึ้นเว็บออกไป ปรับให้นักชิมไม่ได้รู้จักกับพยาบาล "คนนั้น" มาก่อน แต่จุดปรับใหม่ที่ใหญ่ที่สุดคือช่วงสุดท้ายที่นักชิมจับจิเอะห้อยออกไปนอกหน้าต่าง (โดยปรับให้นักชิมปล่อยมือจริงๆ แล้วให้นักชิมโดดลงไปรับทีหลัง) แต่ก็ไม่ได้ทำให้เนื้อหาเดิมเสียหายอะไรมากนัก (เอาจริงคือปรับให้กระชับขึ้นเยอะด้วยซ้ำ)









เรียกว่าทำดีใช้ได้ถ้าเทียบกับมาตรฐานการปรับเรื่องของ Tokyo Ghoul ที่ผ่านมาเลยแฮะ (แต่เอาจริงก็ไม่อยากว่าทีมงานเยอะเหมือนกัน เพราะเข้าใจอยู่ว่าเนื้อหามันเยอะเกินกว่าจะยัดลงแค่ 24 ตอนแค่นั้น)




อนึ่ง เก็บตกจาก OVA เล็กน้อย


ตกลงว่า "คุณอิคารุ" ในตอนนี้กับ "คุณซังโค" ในตอน "ไบเบิล" กับตอน "ที่คั่นหนังสือ" จากนิยายภาคคืนวันเป็นคนเดียวกันเหรอเนี่ย หน้าเหมือนกันเด๊ะเลย


"คุณอิคารุ" จากภาค OVA




"คุณซังโค" จากเรื่องสั้นในนิยายชุดคืนวัน





แต่เอาจริงในเรื่องก็ไม่เคยบอกแฮะว่า "คุณซังโค" กับ "คุณอิคารุ" มีชื่อเต็มว่าอะไร ยิ่งในฉบับเรื่องสั้นไม่เคยลงภาพหน้า "คุณอิคารุ" ให้เห็นเลยด้วย เพราะงั้นก็ยังยืนยันไม่ได้แน่ชัดว่าตกลงสองคนนี้ใช่คนเดียวกันรึเปล่า แต่ถ้าดูจากที่อ.อิชิดะเคยเล่นมุกฟุรุตะ = คนที่โทกะทักผิดในภาคแรกตอน 117 ก็มีความเป็นได้สูงที่จะเป็นคนเดียวกันแฮะ (แถมในเรื่องสั้นตอน "ที่คั่นหนังสือ" คุณซังโคก็เคยบอกว่าเรียนม.ปลายที่เดียวกับนักชิมด้วย)

ที่สำคัญอีกอย่างก็คือ ชื่อ "ซังโค อิคารุ" เองก็ฟังดูเข้ากันดีซะด้วยสิ