…การที่บางคนได้ขึ้นแท่นระดับผู้บริหารบริษัท ทั้งบริษัทเล็กและใหญ่ ก่อตั้งมาด้วยสองมือ แต่บางแห่งมองข้ามความถูกต้อง จะรู้แต่รายได้ตัวเองเท่านั้น ไม่ค่อยอยากมองรายจ่าย ตกหลุมพรางก่อกรรม บ้างก็ติดค้างการชำระเงินคู่ค้า บ้างก็ติดค่าจ้าง Outsource จ่ายช้าไม่เป็นไปตามที่ตกลง และอ้างเหตุผลต่างๆ นานา
…เราว่าการจ่ายตรงเป็นสิ่งที่ดี เครดิตเราก็ดีด้วย เพราะผู้บริหารหลายท่านอายุ 30-70 ปี น่าจะรู้จักผิดชอบชั่วดี อะไรคือความถูกต้อง อะไรคือความไม่ถูกต้อง การให้คนอื่นทวงหนี้มันไม่ดีเลย ถ้าเราไม่อยากจ่ายอะไร เราไม่ควรไปว่าจ้างเขา หรือไปใช้บริการเขา บ้างก็ไม่ไปจ่ายประกันสังคม ที่หักเงินพนักงานทุกเดือน ทำไมไม่เคารพกฎหมายบ้าง
…อยากให้ผู้บริหารที่ทำไม่ดี มีความซื่อตรงบ้าง คนซื่อไม่ได้แปลว่าโง่ คนซื่อ ที่ไม่คิดร้ายกับคนอื่นน่ายกย่องมากกว่า เพราะคนที่โง่ คือคนที่กล้าทำผิดกฎหมาย ผิดศีล สร้างภาระบาปแก่ตัวเองในโลกหน้า
…แล้วคนที่จ่ายไม่ตรง ไม่กลัวผลกระทบบริษัทว่าภายภาคหน้าจะเป็นอะไรหรือ เพราะคนที่จ่ายซื่อตรง หนูว่ายังไงวันนึงชีวิตและบริษัทเขาอาจเจริญก้าวไกลแบบไม่คาดคิดก็ได้
…บางครั้งตัวเรากลับนับถืออาชีพแม่ค้าในตลาด หรือคนขายของข้างทาง บางทีเผลอๆ เขาจ่ายค่าเทอมลูกตรงกว่าคนรวยๆ ก็ได้ หรือบางที เขาขายหมูปิ้ง แต่เขาอาจไม่เคยเบี้ยวค่ากับข้าวในตลาด และจ่ายตรงทั้งค่าเช่าที่ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ก็ได้
…เรายกย่องคนที่นิสัยความรู้ผิดชอบชั่วดี มากกว่ายกย่องคนที่ตำแหน่ง แต่ถ้าคนที่ตำแหน่งใหญ่ และใจคุณธรรม อันนี้หนูก็ชื่นชมค่ะ
…อุตส่าห์มีบุญได้เกิดมาทำงานตำแหน่งใหญ่โต ทำไมเขาไม่ทำความดีเพิ่ม เพื่อต่อยอดบุญของปัจจุบัน ทำไมเขาถึงกล้าจ่ายไม่ตรง ผลัดวันประกันพรุ่งเรื่องค่าใช้จ่าย จนคนอื่นที่เป็นคู่ค้าเกิดความร้อนใจ ทุกข์ใจ คนได้ดีได้ยศใหญ่หลายคนเค้าไม่ค่อยเชื่อเรื่องกรรมกันหรือเปล่าคะ หรือเค้าคิดว่าความกะล่อนคือหนทางของคนฉลาดคะ หรือเค้าคิดว่าไม่บาปคะ ?