เวียดนามใต้ โฮจิมินห์ ดาลัต มุยเน่ ทริปนี้พี่มาเพื่อทะเลทรายจริงๆ นะ
All photos by #thevietsurvivors
สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราจะมาขอรีวิวทริปเวียดนามใต้ของพวกเราในช่วงวันที่ 21-24 ธันวาคมที่ผ่านมา นี่ยืมล็อกอินแม่มาเขียนเลยนะพูดเลย5555 ก่อนอื่นเลยขอออกตัวว่ารูปคงจะไม่ค่อยสวยมากนักเพราะบางทีก็ใช้ไอโฟนถ่าย รายละเอียดอาจจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่อยากจะเล่าประสบการณ์ที่ได้เจอมา เพราะเรารู้สึกสนุก แล้วก็ประทับใจมาก ทริปนี้เป็นทริปที่เราหาข้อมูลกันจากในพันทิป แล้วก็ตามบล็อกต่างๆ ทำให้ได้ข้อมูลเยอะมาก ขอบคุณมากนะคะ ถ้ามีคำถามอะไรถามได้เลยน้า ถ้าตอบได้จะพยายามตอบค่ะ ^_^
ทริปนี้เริ่มต้นมาจากเพื่อนคนนึงในกลุ่มไปทะเลทรายมาเมื่อปิดเทอมที่แล้วแล้วรูปออกมาปังมาก555 พอใกล้ๆ ปิดเทอมพวกเราก็เริ่มออกอาการวอแวอยากบุกทะเลทรายกันบ้าง ไม่ได้มีเหตุผลอื่นเลยนอกจากอยากได้รูปที่ทะเลทราย ที่เที่ยวที่อื่นคือไรโนไอเดียสุด55555 แต่ติดที่เป็นกลุ่มหญิงล้วน ยังเป็นนิสิตกันอยู่ พ่อกับแม่เป็นห่วงค่ะ ตอนนั้นแบบก็เริ่มถอดใจและ หาที่อื่นเที่ยวก็ได้ แล้วก็หารีวิวไปทั่วเปลี่ยนที่ไปเหมือนจะไปทั่วโลก ไปหมดทั้งภูกระดึงสุราษฎร์เขาใหญ่ฮ่องกงไทเป555555 สุดท้ายโชคดีมากๆ ที่คุณแม่ของเพื่อนยอมไปด้วย จากที่เราเหมือนขึ้นเครื่องไปทั่วโลกแล้วก็เลยมาลงจอดที่เวียดนามกันเหมือนเดิมค่ะ555 สมาชิกทั้งหมด 5 คนพร้อมแล้วที่จะออกเดินทางไปผจญภัยกัน เย้! (ขอส่งรอยยิ้มอ่อนอย่างจริงใจจากก้นบึ้งของหัวใจให้กับอดีตสมาชิกอีก 1 คนที่ติดภารกิจกะทันหันทำให้ต้องทิ้งตั๋วไป ไม่เป็นไรนะเพื่อน เราถ่ายรูปมาให้ดูเพียบเลย /จุ๊บ)
เราเริ่มจากการหาตั๋วเครื่องบินกันก่อน ตอนนั้นวันท่งวันที่นี่ยังไม่ฟิก เน้นราคาไว้ก่อน เทียบๆ ดูแล้วได้เป็นนกแอร์เพราะถูกเหลือเกินนน ขาไปประมาณ 200 ขากลับ 300 ถูกกว่าแท็กซี่กลับบ้านอีกค่ะคุณกิตติคะ เม้าส์นี่สั่นกึกๆ เลยอยากคลิกจองจัด55555 รวมๆ ค่าใช้จ่ายในส่วนตั๋วเครื่องบินเราได้มาในราคา 2100 บาท รวมโหลดกระเป๋าได้ด้วยนะ รู้สึกชนะมากเพราะเพื่อนอีกกลุ่มไปเชียงใหม่แพงกว่าเรา ฮ่า
ต่อมาก็หาโรงแรม ตอนแรกเราก็ดู Airbnb เพราะเราก็เป็น Host ที่กรุงเทพฯ อยู่ แต่ดูแล้วตัวเลือกน้อยมากกก เลยหันไปมองโรงแรมแทนค่ะ เราจองผ่าน Booking.com จะได้ยกเลิกได้ฟรี ใช้แค่บัตรเครดิตใส่ไปตอนแรกเฉยๆ แต่จ่ายเงินที่โรงแรมค่ะ ที่ดาลัตเราเลือกที่ Tulip Hotel เพราะเปิดในพันทิปแล้วมีแต่โรงแรมนี้อะ5555555 ส่วนที่มุยเน่เราเปิดมั่วๆ เน้นราคาให้อยู่ประมาณ 500-600 บาทต่อคน แล้วก็เกิดนิมิตอะไรไม่รู้อยากได้โรงแรมใกล้ทะเลทราย ซึ่ง... ทำไมต้องใกล้ทะเลทรายอะ5555 ควรใกล้เมืองมั้ย แต่นั่นแหละค่ะตอนนั้นอยากใกล้ทะเลทราย เลยได้โรงแรม Madam Cuc Emerald Resort ได้ 4 ดาวใน Booking แล้วก็ดูห้องสวยดีค่ะ ซึ่งการเลือกโรงแรมโดยดูแผนที่ไม่เป็นครั้งนี้ทำให้เกิดเรื่องราวอันน่าตื่นเต้นต่อมา เดี๋ยวจะเล่าในตอนต่อไป5555 อันนี้คือ link เผื่อใครอยากลองดูเป็นตัวเลือกเนอะ
Tulip Hotel -
http://www.booking.com/hotel/vn/tulip.th.html
Madam Cuc Emerald Resort
http://www.booking.com/hotel/vn/saigon-emerald-resort.en-gb.html
ได้ตั๋วเครื่องบินและโรงแรมเรียบร้อย ต่อไปเราก็หาวิธีการเที่ยวและเดินทางในเวียดนามกัน เห็นในกระทู้บางกระทู้ก็ไปเดินหาเองเอาแถวถนนฟาร์มงูเหลา แต่เราขี้ป๊อดอะ555 กลัวไม่มีรถนอนไปดาลัต ก็เลยตัดสินใจว่าจองไปกับ Vietsea Tourist แล้วกัน เห็นชาวไทยส่วนใหญ่ก็มากับของบริษัทนี้ น่าจะไว้ใจได้ (
http://www.vietseatourist.vn/) เราก็เลยส่งเมลล์ไปถามราคาแล้วก็ทัวร์ต่างๆ ส่งเวลาไฟลต์บินและความต้องการของเราไปให้เขา เราได้ติดต่อกับ Ms.Rachel ใช้เวลาประมาณวันนึง เขาก็จัดโปรแกรมมาให้ตามนี้ค่ะ
วันแรก อุโมงค์ Cu Chi - โฮจิมินห์ - ดาลัต (นอนบนรถบัส)
วันที่สอง ดาลัต City Tour
วันที่สาม ดาลัต - มุยเน่ - ทัวร์ที่เที่ยวในมุยเน่ (ทะเลทราย , Fairy Stream , หมู่บ้านชาวประมง , Wine Castle)
วันที่สี่ มุยเน่ - โฮจิมินห์
ราคา 64 USD ในนี้จะมีทัวร์ครึ่งวันพร้อมไกด์ไปกลับอุโมงค์ Cu Chi รถนอนจากโฮจิมินห์ไปดาลัต ทัวร์ดาลัตพร้อมไกด์ทั้งวัน รถนั่งจากดาลัตไปมุยเน่ ทัวร์รถจี๊ปในมุยเน่(อันนี้ไม่มีไกด์มีแต่คนขับ) แล้วก็รถนอนจากมุยเน่กลับโฮจิมินห์ค่ะ เราจะได้น้ำดื่ม 1 ขวดต่อวัน แล้วก็พวกค่าเข้าสถานที่ต่างๆ ในดาลัตไม่ต้องจ่ายนะคะเพราะรวมอยู่ในนี้แล้ว พวกทัวร์ต่างๆ จะเป็น Group Tour คือไป join กับคนอื่นๆ ยกเว้นในมุยเน่จะได้เป็น private tour ซึ่งอันนี้เราก็ไม่รู้ว่าเราได้ private เพราะเราไปกัน 5 คน รถจี๊ปเต็มหรือเปล่า5555 ถ้าไปน้อยคนกว่านี้อาจจะต้องไป join หรือเปล่าไม่รู้นะคะ
เราต้องโอนมัดจำไปให้เค้าก่อนทาง Western Union 10 USD เพราะเขาบอกว่าเป็นช่วง High Season พยายามตื๊ออ้อนวอนกราบกรานแล้วเขาก็ไม่ยอมอะ เสียใจ5555 สุดท้ายก็เลยต้องยอมโอนไป เสียค่าธรรมเนียมเยอะเหมือนกันอะ แง เออมีเรื่องเล่าคือเราไม่รู้ว่า Western Union นี่มันโอนยังไง ตอนแรก Ms.Rachel เขาไม่ได้ให้ชื่อกับเลขที่บัญชีของทาง Vietsea มา เราก็เดินเอ๋อๆ ไปถามพี่พนักงานที่ธนาคารกรุงเทพ จนต้องเมลล์ไปถามอีกรอบเขาถึงจะส่งข้อมูลการโอนเงินมาให้ค่ะ โอนเสร็จก็ไม่มีอะไรต้องทำแล้วนอกจากหาเสื้อผ้าและพร็อพไปถ่ายรูป แล้วก็รอคอยทริปที่จะมาถึง
วันแรก 21/12/58
เราบินไฟลต์เช้ากัน พยายามจองที่นั่งออนไลน์ไปแล้วแต่ทำไม่ได้ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ก็เลยช่างมันแล้วก็ไปเช็คอินที่เคานต์เตอร์เลยค่ะ ตอนแรกก็แอบเสียใจเพราะต้องนั่งแยกกันหมดเลยอะ 5 คน เป็นติดทางเดินทั้งหมด แต่พอขึ้นเครื่อง ปรากฎว่าได้นั่ง Premium Seat อะ555555 คือรู้สึกฟินมากทั้งๆ ที่ที่นั่งมันก็ไม่ได้ต่างอะไรมากหรอกค่ะ แต่ว่าได้อัพเกรดโดยไม่ทันตั้งตัว ได้กินไมโลฟรี แฮปปี้มาก ชนะมาก 55555
ไมโลฟรีและอาหารฟรีทั้งหลาย
พอถึงแล้วก็ผ่านตม.กันอย่างสบายๆ แอบงงว่าเขาไม่ทำแม้แต่ถ่ายรูปเราไว้อะ คือยังไง เขาไม่อยากรู้เหรอว่าเราเป็นใครและเข้าเมืองเค้ามาทำไม555 ไม่สนใจเลยยยแบบโดยสิ้นเชิง ไม่คุยไรเลย ปั๊มๆ พาสปอร์ต จบ ผ่านได้และ
สำหรับชาวติดโซเชียลอย่างเรา แน่นอนว่าต้องไม่ลืมหาข้อมูลเรื่องซิม 3G จะได้ไปอัพเดตอย่าง Real Time ที่เวียด555555 เราหาข้อมูลไปว่ามีอยู่ 3 ค่ายคือ Viettel Vinaphone แล้วก็ Mobifone เหมือนเคยอ่านเจอว่า Vinaphone ดี แต่มีคนเล่นไลน์ไม่ได้ เลยตัดทิ้งไป555 พอเครื่องลงจริงๆ ร้าน Mobifone มันดูยิ่งใหญ่อลังการอะ แบบมีป้ายไฟกะพริบๆ ก็เลยคิดว่าเอาอันนี้ละกัน555 ราคาซิมละ 200,000 ดอง ใช้โทรกับเบอร์ในเวียดนามได้ 1 ชั่วโมง อินเตอร์เน็ตไม่จำกัดเป็นเวลา 3 อาทิตย์ ร้านขายซิมพวกนี้จะอยู่หลังจากเรารับกระเป๋าเรียบร้อยแล้วนะคะ เดินออกมาจะเห็นชัดเจนเลยหาเจอแน่นอนไม่ต้องห่วง ของ Mobifone นี่พอใส่เข้าเครื่องแล้วจะใช้ได้เลย
เลขตัวหนาคือเบอร์โทรที่สามารถโทรกันได้ในเวียดนามค่ะ ส่วนเลขอื่นเราก็ไม่แน่ใจแฮะ
สกุลเงินที่ใช้ ที่เราเจอ จะใช้อยู่ 2 สกุลเงินคือ USD กับ เวียดนามดอง เห็นเขาว่าใช้เงิน USD ไปแลกที่นู่นจะได้เรตดีกว่า เราก็ทำตามนั้นเลยค่ะ5555 ที่แลกเงินมีในสนามบินเลย อยู่ใกล้ๆ กับบูทขายซิม หรือตอนที่ออกมาจากด่านตรวจคนเข้าเมืองเลยก็มีค่ะเป็นของ Exim Bank ใครชอบบูทไหนก็เข้าบูทนั้นละกันเนอะ เพราะเราก็เดาๆ เอาว่าเรตมันคงไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก 555 พวกเราแลกเงินกันที่บูท Exim Bank นี่แหละค่ะ เหมือนว่าเขาจะมีแต่ธนบัตรใหญ่ๆ เป็นธนบัตร 100,000 ดองทั้งนั้นเลย พอออกมาจากสนามบินก็ใช้ยากอยู่พอควรเพราะว่าส่วนใหญ่เขาจะเป็นหลักพันหลักหมื่นกัน ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ ตอนแลกเงินขอเค้าเป็นแบงค์เล็กๆ น่าจะดีกว่านะคะ เราแลกไป 100 USD โอ้โห จับเงินล้านครั้งแรกก็คราวนี้แหละมั้ง ฟีลลิ่งรวย ฟีลลิ่งอายุน้อยร้อยล้าน ฟีลลิ่งการเงินมีปัญหาใส่ชุดนักศึกษามาหาพี่5555 (ล้อเล่น)
ทีนี้เราก็พร้อมออกจากสนามบินกันแล้วค่ะ เดินออกมาแอบตกใจมากกับจำนวนคนมหาศาลที่ยืนอยู่หน้าประตูทางออก คือเหมือนเราเป็นนักร้องดาราที่มีคนมารอรับเราเต็มสนามบินอะ ไม่ได้เว่อร์นะความรู้สึกเป็นงั้นเลย คนเยอะมากกกกก มีบางคนมาถามว่าเอาแท็กซี่มั้ยด้วย แต่เราก็ไม่สนใจเพราะเป้าหมายของเราคือรถบัสหมายเลข 152 เพื่อเดินทางเข้าเมืองไปยังตลาด Ben Thanh เพราะอยู่ใกล้กับฟามงูเหลาที่สุดแล้ว ออกมาแล้วเลี้ยวขวา เดินข้ามถนนไป จะเห็นรถสีเขียวเด่นเป็นสง่า ถามคนขับว่าไป Ben Thanh มั้ย แล้วก็โดดขึ้นรถไปเล้ย พอขึ้นแล้วกระเป๋ารถก็จะมาเก็บเงิน ค่ารถ 5000 ดองหรือคิดเป็นเงินไทย 8 บาทถ้วน ถูกมากน้องจะเป็นลม ใช้เวลาประมาณชั่วโมงนึงก็ถึง Ben Thanh ค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าจะนั่งเลยป้าย เพราะว่ากระเป๋าเค้าจะหันมาบอกเรา แล้วก็มีเสียงประกาศชัดเหมือนกัน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็ลงกันสถานีนี้ค่ะ
พอไปถึงแล้ว เราก็เอ๋อ ไม่รู้จะเดินไปทางไหน ที่พึ่งสุดท้ายคือพี่ Google Maps พี่เปรียบเสมือนทางสว่างให้ชีวิตของเรา กดไปเลย Vietsea เราก็เดินตามๆ ไป อ้อ บอกเลยว่าเดินข้ามถนนในโฮจิมินห์นี่ยากมากกกก คือรถที่นี่เยอะมากโดยเฉพาะมอเตอร์ไซค์ วิ่งกันแบบเอ่อ ลูกศรยังจำเป็นอยู่ไหม แล้วไฟข้ามถนนก็ไม่มีจ้า จำได้ว่าตอนนั้นต้องข้ามถนนตรงวงเวียน ยืนโง่อยู่นานพอสมควร แล้วฝั่งตรงข้าม ก็มีเจ๊เวียดคนนึงเดินฝ่าดงจราจรที่วิ่งผ่านไปรอบกายอย่างนิ่งๆ เดินมาฉับๆๆๆ ฝ่าเสียงแตรปรี๊นๆๆๆๆๆ เราห้าคนนี่ยืนอึ้งอ้าปากค้าง ช็อค แมลงวันบินเข้าปากยังไม่รู้สึกเลยมั้ง (เว่อร์) เจ๊เหมือนจะหันมามองแล้วเชิดไปอย่างสตรองสุด เจ๊คะ เจ๊คือเดอะเฟสสำหรับหนู555
พอไปถึง Vietsea ก็พบว่าสาขาที่เราไปมันอยู่อีกถนนนึง คือถนน De Tham อยู่ถัดไปไม่ไกล พนักงานที่ Vietsea ก็ใจดีค่ะพามาส่งที่สาขานี้ ก็ไปยื่น Voucher ที่เขาส่งทางอีเมลล์มาให้ให้เขาดู แล้วจัดการจ่ายเงินส่วนต่างที่ยังไม่ได้จ่ายให้เรียบร้อย ฝากกระเป๋าได้ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ เขาจะให้เป็น Voucher สีชมพูๆ ในซองมา เป็น Voucher ที่เราต้องยื่นให้คนขับรถ หรือไกด์ในแต่ละวัน รักษายิ่งชีพนะห้ามหายเด็ดขาดดด
เวียตซีสาขา De Tham เป็นโรงแรมด้วยนะ
หลังจากนั้นเราก็ไปหาที่กินข้าวเที่ยงกัน พนักงานแนะนำร้าน Wrap and Roll อาหารเวียดนามที่อยู่ไม่ไกลเลย ตอนเราเข้าไปไม่มีคนเลย แต่นั่งไปเรื่อยๆ ก็มีคนเข้ามาเรื่อยๆ นะ เปิดเพลงคริสต์มาสแบ๊วเชียะ ขอโทษจริงๆ ที่จำชื่อภาษาเวียดนามกับราคาไม่ได้เลย ;___;
อาหารมื้อแรกในเวียดนาม
อันนี้เป็นข้าวผัดอะไรไม่รู้กับแป้งกรอบๆ ราดน้ำจิ้ม ไม่อร่อยอย่าสั่ง
แหนมเนือง ให้แป้งมาแต่มันยังไม่นิ่มอะ 555 ต้องขอน้ำมาทำให้นิ่มเอง กินรวมๆ ก็อร่อยดี แต่เราว่า VT แหนมเนืองบ้านเราอร่อยกว่า555
อันนี้เป็น แป้งห่อหมูกับผัก อร่อยดีค่ะชอบ
กินเสร็จก็กลับไปที่เวียตซี เตรียมไปอุโมงค์ Cu Chi กันค่ะ
[CR] [CR] #thevietsurvivors ทริปนี้พี่ไม่ได้มาเล่นๆ พี่มาเพื่อทะเลทราย! 4 วัน 3 คืน ณ โฮจิมินห์ - ดาลัต - มุยเน่
สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราจะมาขอรีวิวทริปเวียดนามใต้ของพวกเราในช่วงวันที่ 21-24 ธันวาคมที่ผ่านมา นี่ยืมล็อกอินแม่มาเขียนเลยนะพูดเลย5555 ก่อนอื่นเลยขอออกตัวว่ารูปคงจะไม่ค่อยสวยมากนักเพราะบางทีก็ใช้ไอโฟนถ่าย รายละเอียดอาจจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่อยากจะเล่าประสบการณ์ที่ได้เจอมา เพราะเรารู้สึกสนุก แล้วก็ประทับใจมาก ทริปนี้เป็นทริปที่เราหาข้อมูลกันจากในพันทิป แล้วก็ตามบล็อกต่างๆ ทำให้ได้ข้อมูลเยอะมาก ขอบคุณมากนะคะ ถ้ามีคำถามอะไรถามได้เลยน้า ถ้าตอบได้จะพยายามตอบค่ะ ^_^
ทริปนี้เริ่มต้นมาจากเพื่อนคนนึงในกลุ่มไปทะเลทรายมาเมื่อปิดเทอมที่แล้วแล้วรูปออกมาปังมาก555 พอใกล้ๆ ปิดเทอมพวกเราก็เริ่มออกอาการวอแวอยากบุกทะเลทรายกันบ้าง ไม่ได้มีเหตุผลอื่นเลยนอกจากอยากได้รูปที่ทะเลทราย ที่เที่ยวที่อื่นคือไรโนไอเดียสุด55555 แต่ติดที่เป็นกลุ่มหญิงล้วน ยังเป็นนิสิตกันอยู่ พ่อกับแม่เป็นห่วงค่ะ ตอนนั้นแบบก็เริ่มถอดใจและ หาที่อื่นเที่ยวก็ได้ แล้วก็หารีวิวไปทั่วเปลี่ยนที่ไปเหมือนจะไปทั่วโลก ไปหมดทั้งภูกระดึงสุราษฎร์เขาใหญ่ฮ่องกงไทเป555555 สุดท้ายโชคดีมากๆ ที่คุณแม่ของเพื่อนยอมไปด้วย จากที่เราเหมือนขึ้นเครื่องไปทั่วโลกแล้วก็เลยมาลงจอดที่เวียดนามกันเหมือนเดิมค่ะ555 สมาชิกทั้งหมด 5 คนพร้อมแล้วที่จะออกเดินทางไปผจญภัยกัน เย้! (ขอส่งรอยยิ้มอ่อนอย่างจริงใจจากก้นบึ้งของหัวใจให้กับอดีตสมาชิกอีก 1 คนที่ติดภารกิจกะทันหันทำให้ต้องทิ้งตั๋วไป ไม่เป็นไรนะเพื่อน เราถ่ายรูปมาให้ดูเพียบเลย /จุ๊บ)
เราเริ่มจากการหาตั๋วเครื่องบินกันก่อน ตอนนั้นวันท่งวันที่นี่ยังไม่ฟิก เน้นราคาไว้ก่อน เทียบๆ ดูแล้วได้เป็นนกแอร์เพราะถูกเหลือเกินนน ขาไปประมาณ 200 ขากลับ 300 ถูกกว่าแท็กซี่กลับบ้านอีกค่ะคุณกิตติคะ เม้าส์นี่สั่นกึกๆ เลยอยากคลิกจองจัด55555 รวมๆ ค่าใช้จ่ายในส่วนตั๋วเครื่องบินเราได้มาในราคา 2100 บาท รวมโหลดกระเป๋าได้ด้วยนะ รู้สึกชนะมากเพราะเพื่อนอีกกลุ่มไปเชียงใหม่แพงกว่าเรา ฮ่า
ต่อมาก็หาโรงแรม ตอนแรกเราก็ดู Airbnb เพราะเราก็เป็น Host ที่กรุงเทพฯ อยู่ แต่ดูแล้วตัวเลือกน้อยมากกก เลยหันไปมองโรงแรมแทนค่ะ เราจองผ่าน Booking.com จะได้ยกเลิกได้ฟรี ใช้แค่บัตรเครดิตใส่ไปตอนแรกเฉยๆ แต่จ่ายเงินที่โรงแรมค่ะ ที่ดาลัตเราเลือกที่ Tulip Hotel เพราะเปิดในพันทิปแล้วมีแต่โรงแรมนี้อะ5555555 ส่วนที่มุยเน่เราเปิดมั่วๆ เน้นราคาให้อยู่ประมาณ 500-600 บาทต่อคน แล้วก็เกิดนิมิตอะไรไม่รู้อยากได้โรงแรมใกล้ทะเลทราย ซึ่ง... ทำไมต้องใกล้ทะเลทรายอะ5555 ควรใกล้เมืองมั้ย แต่นั่นแหละค่ะตอนนั้นอยากใกล้ทะเลทราย เลยได้โรงแรม Madam Cuc Emerald Resort ได้ 4 ดาวใน Booking แล้วก็ดูห้องสวยดีค่ะ ซึ่งการเลือกโรงแรมโดยดูแผนที่ไม่เป็นครั้งนี้ทำให้เกิดเรื่องราวอันน่าตื่นเต้นต่อมา เดี๋ยวจะเล่าในตอนต่อไป5555 อันนี้คือ link เผื่อใครอยากลองดูเป็นตัวเลือกเนอะ
Tulip Hotel - http://www.booking.com/hotel/vn/tulip.th.html
Madam Cuc Emerald Resort http://www.booking.com/hotel/vn/saigon-emerald-resort.en-gb.html
ได้ตั๋วเครื่องบินและโรงแรมเรียบร้อย ต่อไปเราก็หาวิธีการเที่ยวและเดินทางในเวียดนามกัน เห็นในกระทู้บางกระทู้ก็ไปเดินหาเองเอาแถวถนนฟาร์มงูเหลา แต่เราขี้ป๊อดอะ555 กลัวไม่มีรถนอนไปดาลัต ก็เลยตัดสินใจว่าจองไปกับ Vietsea Tourist แล้วกัน เห็นชาวไทยส่วนใหญ่ก็มากับของบริษัทนี้ น่าจะไว้ใจได้ (http://www.vietseatourist.vn/) เราก็เลยส่งเมลล์ไปถามราคาแล้วก็ทัวร์ต่างๆ ส่งเวลาไฟลต์บินและความต้องการของเราไปให้เขา เราได้ติดต่อกับ Ms.Rachel ใช้เวลาประมาณวันนึง เขาก็จัดโปรแกรมมาให้ตามนี้ค่ะ
วันแรก อุโมงค์ Cu Chi - โฮจิมินห์ - ดาลัต (นอนบนรถบัส)
วันที่สอง ดาลัต City Tour
วันที่สาม ดาลัต - มุยเน่ - ทัวร์ที่เที่ยวในมุยเน่ (ทะเลทราย , Fairy Stream , หมู่บ้านชาวประมง , Wine Castle)
วันที่สี่ มุยเน่ - โฮจิมินห์
ราคา 64 USD ในนี้จะมีทัวร์ครึ่งวันพร้อมไกด์ไปกลับอุโมงค์ Cu Chi รถนอนจากโฮจิมินห์ไปดาลัต ทัวร์ดาลัตพร้อมไกด์ทั้งวัน รถนั่งจากดาลัตไปมุยเน่ ทัวร์รถจี๊ปในมุยเน่(อันนี้ไม่มีไกด์มีแต่คนขับ) แล้วก็รถนอนจากมุยเน่กลับโฮจิมินห์ค่ะ เราจะได้น้ำดื่ม 1 ขวดต่อวัน แล้วก็พวกค่าเข้าสถานที่ต่างๆ ในดาลัตไม่ต้องจ่ายนะคะเพราะรวมอยู่ในนี้แล้ว พวกทัวร์ต่างๆ จะเป็น Group Tour คือไป join กับคนอื่นๆ ยกเว้นในมุยเน่จะได้เป็น private tour ซึ่งอันนี้เราก็ไม่รู้ว่าเราได้ private เพราะเราไปกัน 5 คน รถจี๊ปเต็มหรือเปล่า5555 ถ้าไปน้อยคนกว่านี้อาจจะต้องไป join หรือเปล่าไม่รู้นะคะ
เราต้องโอนมัดจำไปให้เค้าก่อนทาง Western Union 10 USD เพราะเขาบอกว่าเป็นช่วง High Season พยายามตื๊ออ้อนวอนกราบกรานแล้วเขาก็ไม่ยอมอะ เสียใจ5555 สุดท้ายก็เลยต้องยอมโอนไป เสียค่าธรรมเนียมเยอะเหมือนกันอะ แง เออมีเรื่องเล่าคือเราไม่รู้ว่า Western Union นี่มันโอนยังไง ตอนแรก Ms.Rachel เขาไม่ได้ให้ชื่อกับเลขที่บัญชีของทาง Vietsea มา เราก็เดินเอ๋อๆ ไปถามพี่พนักงานที่ธนาคารกรุงเทพ จนต้องเมลล์ไปถามอีกรอบเขาถึงจะส่งข้อมูลการโอนเงินมาให้ค่ะ โอนเสร็จก็ไม่มีอะไรต้องทำแล้วนอกจากหาเสื้อผ้าและพร็อพไปถ่ายรูป แล้วก็รอคอยทริปที่จะมาถึง
วันแรก 21/12/58
เราบินไฟลต์เช้ากัน พยายามจองที่นั่งออนไลน์ไปแล้วแต่ทำไม่ได้ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ก็เลยช่างมันแล้วก็ไปเช็คอินที่เคานต์เตอร์เลยค่ะ ตอนแรกก็แอบเสียใจเพราะต้องนั่งแยกกันหมดเลยอะ 5 คน เป็นติดทางเดินทั้งหมด แต่พอขึ้นเครื่อง ปรากฎว่าได้นั่ง Premium Seat อะ555555 คือรู้สึกฟินมากทั้งๆ ที่ที่นั่งมันก็ไม่ได้ต่างอะไรมากหรอกค่ะ แต่ว่าได้อัพเกรดโดยไม่ทันตั้งตัว ได้กินไมโลฟรี แฮปปี้มาก ชนะมาก 55555
พอถึงแล้วก็ผ่านตม.กันอย่างสบายๆ แอบงงว่าเขาไม่ทำแม้แต่ถ่ายรูปเราไว้อะ คือยังไง เขาไม่อยากรู้เหรอว่าเราเป็นใครและเข้าเมืองเค้ามาทำไม555 ไม่สนใจเลยยยแบบโดยสิ้นเชิง ไม่คุยไรเลย ปั๊มๆ พาสปอร์ต จบ ผ่านได้และ
สำหรับชาวติดโซเชียลอย่างเรา แน่นอนว่าต้องไม่ลืมหาข้อมูลเรื่องซิม 3G จะได้ไปอัพเดตอย่าง Real Time ที่เวียด555555 เราหาข้อมูลไปว่ามีอยู่ 3 ค่ายคือ Viettel Vinaphone แล้วก็ Mobifone เหมือนเคยอ่านเจอว่า Vinaphone ดี แต่มีคนเล่นไลน์ไม่ได้ เลยตัดทิ้งไป555 พอเครื่องลงจริงๆ ร้าน Mobifone มันดูยิ่งใหญ่อลังการอะ แบบมีป้ายไฟกะพริบๆ ก็เลยคิดว่าเอาอันนี้ละกัน555 ราคาซิมละ 200,000 ดอง ใช้โทรกับเบอร์ในเวียดนามได้ 1 ชั่วโมง อินเตอร์เน็ตไม่จำกัดเป็นเวลา 3 อาทิตย์ ร้านขายซิมพวกนี้จะอยู่หลังจากเรารับกระเป๋าเรียบร้อยแล้วนะคะ เดินออกมาจะเห็นชัดเจนเลยหาเจอแน่นอนไม่ต้องห่วง ของ Mobifone นี่พอใส่เข้าเครื่องแล้วจะใช้ได้เลย
สกุลเงินที่ใช้ ที่เราเจอ จะใช้อยู่ 2 สกุลเงินคือ USD กับ เวียดนามดอง เห็นเขาว่าใช้เงิน USD ไปแลกที่นู่นจะได้เรตดีกว่า เราก็ทำตามนั้นเลยค่ะ5555 ที่แลกเงินมีในสนามบินเลย อยู่ใกล้ๆ กับบูทขายซิม หรือตอนที่ออกมาจากด่านตรวจคนเข้าเมืองเลยก็มีค่ะเป็นของ Exim Bank ใครชอบบูทไหนก็เข้าบูทนั้นละกันเนอะ เพราะเราก็เดาๆ เอาว่าเรตมันคงไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก 555 พวกเราแลกเงินกันที่บูท Exim Bank นี่แหละค่ะ เหมือนว่าเขาจะมีแต่ธนบัตรใหญ่ๆ เป็นธนบัตร 100,000 ดองทั้งนั้นเลย พอออกมาจากสนามบินก็ใช้ยากอยู่พอควรเพราะว่าส่วนใหญ่เขาจะเป็นหลักพันหลักหมื่นกัน ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ ตอนแลกเงินขอเค้าเป็นแบงค์เล็กๆ น่าจะดีกว่านะคะ เราแลกไป 100 USD โอ้โห จับเงินล้านครั้งแรกก็คราวนี้แหละมั้ง ฟีลลิ่งรวย ฟีลลิ่งอายุน้อยร้อยล้าน ฟีลลิ่งการเงินมีปัญหาใส่ชุดนักศึกษามาหาพี่5555 (ล้อเล่น)
ทีนี้เราก็พร้อมออกจากสนามบินกันแล้วค่ะ เดินออกมาแอบตกใจมากกับจำนวนคนมหาศาลที่ยืนอยู่หน้าประตูทางออก คือเหมือนเราเป็นนักร้องดาราที่มีคนมารอรับเราเต็มสนามบินอะ ไม่ได้เว่อร์นะความรู้สึกเป็นงั้นเลย คนเยอะมากกกกก มีบางคนมาถามว่าเอาแท็กซี่มั้ยด้วย แต่เราก็ไม่สนใจเพราะเป้าหมายของเราคือรถบัสหมายเลข 152 เพื่อเดินทางเข้าเมืองไปยังตลาด Ben Thanh เพราะอยู่ใกล้กับฟามงูเหลาที่สุดแล้ว ออกมาแล้วเลี้ยวขวา เดินข้ามถนนไป จะเห็นรถสีเขียวเด่นเป็นสง่า ถามคนขับว่าไป Ben Thanh มั้ย แล้วก็โดดขึ้นรถไปเล้ย พอขึ้นแล้วกระเป๋ารถก็จะมาเก็บเงิน ค่ารถ 5000 ดองหรือคิดเป็นเงินไทย 8 บาทถ้วน ถูกมากน้องจะเป็นลม ใช้เวลาประมาณชั่วโมงนึงก็ถึง Ben Thanh ค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าจะนั่งเลยป้าย เพราะว่ากระเป๋าเค้าจะหันมาบอกเรา แล้วก็มีเสียงประกาศชัดเหมือนกัน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็ลงกันสถานีนี้ค่ะ
พอไปถึงแล้ว เราก็เอ๋อ ไม่รู้จะเดินไปทางไหน ที่พึ่งสุดท้ายคือพี่ Google Maps พี่เปรียบเสมือนทางสว่างให้ชีวิตของเรา กดไปเลย Vietsea เราก็เดินตามๆ ไป อ้อ บอกเลยว่าเดินข้ามถนนในโฮจิมินห์นี่ยากมากกกก คือรถที่นี่เยอะมากโดยเฉพาะมอเตอร์ไซค์ วิ่งกันแบบเอ่อ ลูกศรยังจำเป็นอยู่ไหม แล้วไฟข้ามถนนก็ไม่มีจ้า จำได้ว่าตอนนั้นต้องข้ามถนนตรงวงเวียน ยืนโง่อยู่นานพอสมควร แล้วฝั่งตรงข้าม ก็มีเจ๊เวียดคนนึงเดินฝ่าดงจราจรที่วิ่งผ่านไปรอบกายอย่างนิ่งๆ เดินมาฉับๆๆๆ ฝ่าเสียงแตรปรี๊นๆๆๆๆๆ เราห้าคนนี่ยืนอึ้งอ้าปากค้าง ช็อค แมลงวันบินเข้าปากยังไม่รู้สึกเลยมั้ง (เว่อร์) เจ๊เหมือนจะหันมามองแล้วเชิดไปอย่างสตรองสุด เจ๊คะ เจ๊คือเดอะเฟสสำหรับหนู555
พอไปถึง Vietsea ก็พบว่าสาขาที่เราไปมันอยู่อีกถนนนึง คือถนน De Tham อยู่ถัดไปไม่ไกล พนักงานที่ Vietsea ก็ใจดีค่ะพามาส่งที่สาขานี้ ก็ไปยื่น Voucher ที่เขาส่งทางอีเมลล์มาให้ให้เขาดู แล้วจัดการจ่ายเงินส่วนต่างที่ยังไม่ได้จ่ายให้เรียบร้อย ฝากกระเป๋าได้ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ เขาจะให้เป็น Voucher สีชมพูๆ ในซองมา เป็น Voucher ที่เราต้องยื่นให้คนขับรถ หรือไกด์ในแต่ละวัน รักษายิ่งชีพนะห้ามหายเด็ดขาดดด
หลังจากนั้นเราก็ไปหาที่กินข้าวเที่ยงกัน พนักงานแนะนำร้าน Wrap and Roll อาหารเวียดนามที่อยู่ไม่ไกลเลย ตอนเราเข้าไปไม่มีคนเลย แต่นั่งไปเรื่อยๆ ก็มีคนเข้ามาเรื่อยๆ นะ เปิดเพลงคริสต์มาสแบ๊วเชียะ ขอโทษจริงๆ ที่จำชื่อภาษาเวียดนามกับราคาไม่ได้เลย ;___;
กินเสร็จก็กลับไปที่เวียตซี เตรียมไปอุโมงค์ Cu Chi กันค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น