ให้ 7.5/10 หนัง Comedy - Feel Good เล่าเรื่องราวชีวิตส่วนตัวที่น่ารักๆของสมาชิกทั้ง 4 รุ่น ทั้งรุ่นปู่ ลูก หลาน เหลน และหมาน้อยของครอบครัว Coopers ในคืนวันคริสมาสต์ ผลงานกำกับของ Jessie Nelson หลังจากห่างหายไปนานตั้งแต่กำกับ I am Sam (2001)
ถ้าเทียบตัวหนัง Love the Coopers กับหน้าหนัง (Trailer และ Poster) ถือว่า ตัวหนังมีดีมากกว่าที่เห็นจาก Trailer และ Poster เยอะมาก (Poster ออกแบบแย่มาก) เพราะเมื่อดูจาก Trailer แล้วมันก็คือ หนังตลกล้วนที่ไม่น่าจะอะไรมาปนเรื่องหนึ่ง ที่แค่ถ่ายทำในช่วงคริสมาสต์เท่านั้น แต่ใครจะไปรู้ว่าเมื่อไปชมแล้ว มันกลับเป็นหนังที่น่ารัก ตลก ซาบซึ้ง และละมุนดีทีเดียว
Love the Coopers หากดูเผินๆคงไม่ค่อยต่างจากหนังเทศกาลคริสมาสต์ปีใหม่เรื่องอื่นๆในยุคหลังๆที่มีการแยกเป็นหลายเส้นเรื่องของแต่ละตัววละครเท่าไหร่นัก อย่าง Love Actually (2003), The Holiday (2006) หรือ New Year’s Eve (2011 ไม่สนุก) ซึ่งที่ทั้ง 3 เรื่องนี้มีคือ การเน้นไปในเรื่องความรักของคู่รักแต่ละคู่ ซึ่งมันก็คือหนังรักอย่างชัดเจน
แต่ใจความหลักของ Love the Coopers นั้น จะเน้นไปที่เรื่องความรักของคนในครอบครัว ซึ่งอาจจะมีเส้นเรื่องต่างๆแยกออกไปตามแต่ละตัวละครบ้าง มีเส้นรักแบบคู่รักผสมสักเส้นสองเส้น แต่สุดท้ายแล้วมันก็คือ หนังครอบครัว ที่ให้ความสำคัญมากกับคำว่า “ครอบครัว” กับ ช่วงเวลาที่พวกเขาได้มีและได้ใช้ร่วมกันในเวลาที่ผ่านมาและวันคริสมาสต์
ส่วนตัวค่อนข้างชอบหนัง ชอบการแคสตัวละคร (แคสติ้งดีมาก หมาก็น่ารักมาก) และชอบคริสมาสต์มาก เพราะมันคือเวลาของครอบครัว การเฉลิมฉลอง ของขวัญ ความสุข ความรัก มิตรภาพ การให้อภัย โอกาส การเริ่มต้นใหม่ และเป็นช่วงเวลาที่อนุญาตให้หัวใจของทุกคนกลับไปเป็นเด็กได้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเราจะเห็นชัดมากจากหนังเรื่องนี้
ทั้งยังเป็นหนังที่สะท้อนครอบครัวอเมริกันในวันคริสมาสตร์ออกมาได้ค่อนข้างดีมาก เพราะทุกครอบครัวอเมริกันก็จะมีตารางวัน เวลา และกิจกรรมที่ไม่ต่างจากในหนังมากนัก สับเปลี่ยนกันไปตามความสะดวกของแต่ละครอบครัว ซึ่งมักจะถูกวางไว้อย่างเป็นระบบและค่อนข้างสากลที่ทุกคนมักจะปฏิบัติตามธรรมเนียมกันมา ซึ่งเหมือนจะไม่เคร่งครัด แต่จริงๆคือเคร่งครัด ทั้งการหาซื้อของขวัญ เวลาที่แกะของขวัญ การเตรียมอาหาร เมนูอาหาร การกินอาหารพร้อมหน้า การร้องเพลงและเล่นดนตรีร่วมกัน การเล่นเกมส์ทำกิจกรรมสนุกๆด้วยกัน
เทียบกันง่ายๆก็คือ เวลาครอบครัวของชาวอเมริกันและยุโรปจะเป็นวันคริสมาสต์ ของจีนเป็นวันตรุษจีน และของเราชาวไทยก็คงจะเป็นวันสงกรานต์ นั่นเองค่ะ แต่แค่ไทย จะสบายๆชิลๆกว่า ไม่ได้ระบุเป็นแผนหรือตารางเวลาที่แน่ชัดนักว่าเวลาไหนจะต้องทำอะไร คือยืดหยุ่นได้ แต่สำหรับฝรั่งแล้ว วันคริสมาสต์มักจะต้องตามแพลน ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ใครบังคับให้พวกเขาต้องทำหรอก แต่เขามักจะรู้ของเขาเองว่าจะต้องทำ
ป.ล. นี่เป็นการให้คะแนนจากความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น ซึ่งแต่ละคนมีมุมมอง ความชอบ ความคิด ประสบการณ์ สิ่งที่เจอหรือรู้สึกในช่วงที่ดูหนังเรื่องนั้นๆต่างกัน เมื่อคุณไปดูแล้วคุณอาจจะชอบหรือไม่ชอบก็ได้ ไม่มีอะไรถูกหรือผิด ทุกคนไม่จำเป็นต้องมีความคิดเห็นเหมือนกันค่ะ
สามารถอ่าน Review หนังเรื่องอื่นๆได้ที่เพจ Movies Stalker ค่ะ
https://www.facebook.com/MoviesStalker
[SR] รีวิวหนังเรื่อง Love the Coopers
ถ้าเทียบตัวหนัง Love the Coopers กับหน้าหนัง (Trailer และ Poster) ถือว่า ตัวหนังมีดีมากกว่าที่เห็นจาก Trailer และ Poster เยอะมาก (Poster ออกแบบแย่มาก) เพราะเมื่อดูจาก Trailer แล้วมันก็คือ หนังตลกล้วนที่ไม่น่าจะอะไรมาปนเรื่องหนึ่ง ที่แค่ถ่ายทำในช่วงคริสมาสต์เท่านั้น แต่ใครจะไปรู้ว่าเมื่อไปชมแล้ว มันกลับเป็นหนังที่น่ารัก ตลก ซาบซึ้ง และละมุนดีทีเดียว
Love the Coopers หากดูเผินๆคงไม่ค่อยต่างจากหนังเทศกาลคริสมาสต์ปีใหม่เรื่องอื่นๆในยุคหลังๆที่มีการแยกเป็นหลายเส้นเรื่องของแต่ละตัววละครเท่าไหร่นัก อย่าง Love Actually (2003), The Holiday (2006) หรือ New Year’s Eve (2011 ไม่สนุก) ซึ่งที่ทั้ง 3 เรื่องนี้มีคือ การเน้นไปในเรื่องความรักของคู่รักแต่ละคู่ ซึ่งมันก็คือหนังรักอย่างชัดเจน
แต่ใจความหลักของ Love the Coopers นั้น จะเน้นไปที่เรื่องความรักของคนในครอบครัว ซึ่งอาจจะมีเส้นเรื่องต่างๆแยกออกไปตามแต่ละตัวละครบ้าง มีเส้นรักแบบคู่รักผสมสักเส้นสองเส้น แต่สุดท้ายแล้วมันก็คือ หนังครอบครัว ที่ให้ความสำคัญมากกับคำว่า “ครอบครัว” กับ ช่วงเวลาที่พวกเขาได้มีและได้ใช้ร่วมกันในเวลาที่ผ่านมาและวันคริสมาสต์
ส่วนตัวค่อนข้างชอบหนัง ชอบการแคสตัวละคร (แคสติ้งดีมาก หมาก็น่ารักมาก) และชอบคริสมาสต์มาก เพราะมันคือเวลาของครอบครัว การเฉลิมฉลอง ของขวัญ ความสุข ความรัก มิตรภาพ การให้อภัย โอกาส การเริ่มต้นใหม่ และเป็นช่วงเวลาที่อนุญาตให้หัวใจของทุกคนกลับไปเป็นเด็กได้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเราจะเห็นชัดมากจากหนังเรื่องนี้
ทั้งยังเป็นหนังที่สะท้อนครอบครัวอเมริกันในวันคริสมาสตร์ออกมาได้ค่อนข้างดีมาก เพราะทุกครอบครัวอเมริกันก็จะมีตารางวัน เวลา และกิจกรรมที่ไม่ต่างจากในหนังมากนัก สับเปลี่ยนกันไปตามความสะดวกของแต่ละครอบครัว ซึ่งมักจะถูกวางไว้อย่างเป็นระบบและค่อนข้างสากลที่ทุกคนมักจะปฏิบัติตามธรรมเนียมกันมา ซึ่งเหมือนจะไม่เคร่งครัด แต่จริงๆคือเคร่งครัด ทั้งการหาซื้อของขวัญ เวลาที่แกะของขวัญ การเตรียมอาหาร เมนูอาหาร การกินอาหารพร้อมหน้า การร้องเพลงและเล่นดนตรีร่วมกัน การเล่นเกมส์ทำกิจกรรมสนุกๆด้วยกัน
เทียบกันง่ายๆก็คือ เวลาครอบครัวของชาวอเมริกันและยุโรปจะเป็นวันคริสมาสต์ ของจีนเป็นวันตรุษจีน และของเราชาวไทยก็คงจะเป็นวันสงกรานต์ นั่นเองค่ะ แต่แค่ไทย จะสบายๆชิลๆกว่า ไม่ได้ระบุเป็นแผนหรือตารางเวลาที่แน่ชัดนักว่าเวลาไหนจะต้องทำอะไร คือยืดหยุ่นได้ แต่สำหรับฝรั่งแล้ว วันคริสมาสต์มักจะต้องตามแพลน ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ใครบังคับให้พวกเขาต้องทำหรอก แต่เขามักจะรู้ของเขาเองว่าจะต้องทำ
ป.ล. นี่เป็นการให้คะแนนจากความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น ซึ่งแต่ละคนมีมุมมอง ความชอบ ความคิด ประสบการณ์ สิ่งที่เจอหรือรู้สึกในช่วงที่ดูหนังเรื่องนั้นๆต่างกัน เมื่อคุณไปดูแล้วคุณอาจจะชอบหรือไม่ชอบก็ได้ ไม่มีอะไรถูกหรือผิด ทุกคนไม่จำเป็นต้องมีความคิดเห็นเหมือนกันค่ะ
สามารถอ่าน Review หนังเรื่องอื่นๆได้ที่เพจ Movies Stalker ค่ะ https://www.facebook.com/MoviesStalker