สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะขอมาแชร์ประสบการณ์การไปเที่ยวประเทศลาว โดยจุดมุ่งหมายของเราคือ เวียงจันทน์-หลวงพระบาง-วังเวียง
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าการเดินทางครั้งนี้ เดินทางกัน 2 คน 3 เมือง 4 คืน 5 วัน ค่าใช้จ่ายตก
คนละ 6,000 บาท (เราจะมีสรุปค่าใช้จ่ายไว้ตอนท้ายให้นะ) และมีการวางแผนค่อนข้างน้อย เราหาข้อมูลแค่ว่าจะไปที่ไหนบ้าง และแต่ละที่ไปได้ยังไง โดยมีการจองที่พักล่วงหน้าแค่คืนเดียวเท่านั้น การเดินทางของเราเริ่มเมื่อวันที่ 12 – 16/12/2015
จุดเริ่มต้นของเราคือที่ จังหวัดมหาสารคาม (เพื่อนๆคนไหนที่เดินทางจากจังหวัดอื่นก็มาเจอกับเราได้ที่จังหวัดอุดรธานีนะคะ)
ข้อมูลอื่นๆ
- อัตราแลกเปลี่ยนที่เราจะใช้คือ 1 บาท = 225 กีบ (ถ้าแลกที่ลาวธนาคารจะให้เรทดีกว่าตามร้านค้า)
- เวลาเข้าชมสถานที่ต่างๆจ่ายเงินกีบจะได้ราคาที่ถูกกว่าจ่ายเงินบาท
- สามารถใช้เงินบาทจ่ายได้ทุกที่ แต่เขาไม่รับเหรียญนะรับแต่แบงค์
- อย่าลืมนำแปรงสีฟัน ยาสีฟัน แชมพู สบู่ ผ้าเช็ดตัว (ผืนเล็ก) ติดไปด้วยเพราะที่พักหลายที่ไม่มีให้นะ
- แล้วก็ผ้าปิดปากปิดจมูก เพราะที่ลาวฝุ่นเยอะมากกกกก
- อย่าลืมไปทำ passport กันก่อนนะ เพราะเราไปกันหลายวัน ^^
- อย่าลืมเอายาประจำตัวไปด้วย แล้วก็บวกยาพารา ยาแก้เมารถเพิ่มเข้าไปด้วยนะ
เริ่มเดินทางไปกับเรากันเถอะ ...
วันที่ 1 มหาสารคาม-อุดร-เวียงจันทน์ (พระธาตุหลวง-ประตูชัย-วัดสระเกศ-หอพระแก้ว-หอคำ)
และนี่คือของพยุงชีพทั้งหมดของเราสองคน
ตื่นแต่เช้า(มาก) เราออกเดินทางตั้งแต่ตีห้า กะมารอขึ้นรถชมพูไปอุดรรอบ 5.40 น.
.. รถเต็มครับ รอรอบต่อไป
เราเลยได้ขึ้นรถเวลา 6.15 น. ถึง อุดรเวลา 10.00 น. (ค่ารถคนละ 116 บาท)
ถึงอุดรแล้วววว
พอถึงบขส.(บขส.เก่าตรงข้ามเซ็นทรัลอุดร) เราก็ไปจองตั๋วรถไปเวียงจันทน์รอบ 10.30 น. คนละ 85 บาท (ใช้พาสปอร์ตด้วยนะ) รถออกจริง 11.00 น. ถึงเวียงจันทน์ 13.30 น.
อันนี้เป็นรอบรถจ้า
ขึ้นรถกันเถอะ
รถที่เราจะไปกันคันนี้เลย
รอเก็บกระเป๋าแปปนึง
ภายในรถ
พอขึ้นรถก็จะมีคนเอาเอกสารเข้าประเทศลาวมาให้เรากรอก เราก็กรอกตามหัวข้อเลย
เราถึงด่านเวลา 12.55 น.
พอมาถึงด่านเราก็ต้องเขียนใบออกนอกประเทศกันก่อน โดยไปขอกับเจ้าหน้าที่ตรงตู้นี้นะ
สำหรับคนที่จะพกเงินเยอะนะ
เดินเข้าไปกันเลยยยยย ..เขาห้ามถ่ายรูปข้างในนะ
จากนั้นก็ไปขึ้นรถเพื่อไปด่านฝั่งลาว
พอถึงด่านลาว ลงรถปุ๊บไม่ต้องรีบไปยืนต่อคิวยื่น passport นะ
ให้ไปจ่ายเงินแลกคีย์การ์ดที่นี่ก่อน คนละ 55 บาท เราต้องใช้เพื่อข้ามไปฝั่งลาว ถ้าไม่ซื้อก่อนเราจะต้องเดินย้อนกลับมาซื้ออีกเสียเวลา
จากนั้นก็ไปต่อคิวยื่น passport พอเสร็จปุ๊บเดินต่อไปก็จะเป็นตู้ให้เราใส่คีย์การ์ดที่แลกมานั่นแหละ
แล้วก็ขึ้นรถไปเวียงจันทน์กันเลยจ้า
พอลงจากรถก็จะมีคนขับรถตุ๊กๆมาออกันเพียบเลย ถามว่าเราจะไปที่ไหน?
ตอนแรกที่คิดคือจะเหมารถไปจองตั๋วรถไปหลวงพระบางรอบสองทุ่มก่อนเพราะกลัวรถนอนเต็มแล้วก็ไปเที่ยว พระธาตุหลวง-ประตูชัย-วัดสระเกศ-หอพระแก้ว-หอคำ แล้วให้ไปส่งที่ขึ้นรถเป็นอันจบวัน เราเลยถามว่าแบบนี้ราคาเท่าไหร่ เขาบอก เขาเอาแค่ 800 บาท (ตลกล่ะ) คือเราเคยอ่านเจอมันใกล้กันมาก บางคนได้ราคา 500 บาท ยังบอกเลยว่าจริงๆ 300 บาทก็พอ แต่เราต่อได้แค่ 500 บาทก็เอาๆไปขี้เกียจพูด
แล้วพอคุยกับคนขับรถ เขาจะบอกเราว่าบขส.ที่จะไปจองตั๋วมันไกล 10 กว่ากิโล แล้วมันก็เต็มเร็วมาก ให้เราไปจองที่เซ็นเตอร์มันใกล้กว่า บอกว่าถ้าไปจองตั๋วกว่าจะกลับมาก็ได้เที่ยวนิดเดียวนู้นนี่นั่น พยายามให้เราไปจองที่เซ็นเตอร์เราเลยถามราคาแกบอกแพงกว่าไปจองที่บขส. 100 กว่าบาท เวลาขึ้นก็ขึ้นที่เซ็นเตอร์เลยแล้วจะมีรถไปส่งที่บขส. แต่ถ้าไม่จองที่เซ็นเตอร์ก็ต้องเที่ยวก่อนแล้วค่อยไปจองตั๋วเพราะเขาจะขาดทุนถ้าไปๆมาๆ (นั่นไงตอนคุยกันตอนแรกไม่ใช่แบบนี้ป่ะ?) แต่ถ้าเราเที่ยวเร็วรีบไปรีบกลับ ก็จะไปจองทัน ยังไม่เต็ม ซึ่งเราก็บอกงั้นเที่ยวก่อนค่อยไปจอง ตอนนั้นคือคิดแล้วว่าจะไม่เสียเงินแพงกว่า 100 กว่าบาทแน่ๆ แล้วถ้าไม่ได้รถนอนก็ช่าง
สาระ : แต่ละที่ใกล้กันมาก มากแบบมากจริงๆเดินได้ในเวลาไม่เกิน 10 นาที ถ้าใครมีเวลาศึกษานะนั่งรถเมล์ไปเลยค่ะ เพราะมีรถเมล์ไปถึงทุกที่และราคาถูกกว่ามากกกกก ไม่โดนโกงด้วย แต่ถ้าใครจะเหมาต่อราคาไปเหอะ 300 บาทนี่คือเหลือๆเลยนะ ส่วนเซ็นเตอร์เราไม่รู้นะว่ามันอยู่ที่ไหนเรารู้แต่ว่าอย่าไปค่ะ อย่าไปเสียเงินให้เขาแบบโง่ๆ เพราะจากที่เที่ยวห่างจากบขส.ไม่ถึง 10 กิโลตามที่มันหลอกเรา (แต่ทางคือแบบหลุม หลุมใหญ่มากกกก ฝุ่นก็เยอะมาก) บอกเขาไปเลยว่าถ้าไม่พามาจองก่อนก็ไม่ไป ต้องเด็ดขาด!
ระหว่างรอคนขับไปเอารถมารับก็คุยกับคนพื้นที่ไปเรื่อยๆ (เสน่ห์ของการแบคแพ็คมันคือมิตรภาพนี่แหละคะ ทริปนี้มีเพื่อนใหม่ๆตลอดทาง เจอใครก็คุยไปเรื่อยๆ ลองชวนคนข้างๆคุณคุยสิแล้วจะติดใจ ^^)
ตอนแรกคิดว่าคงได้รถแบบนี้
แต่เกินคาดได้รถตู้จ้า ถือว่าสมควรกับ 500 บาท (เวียงจันทน์อากาศร้อนมาก)
ที่แรกที่เราจะไปคือ "พระธาตุหลวง"
อันนี้เป็นวัดที่รถตู้มาจอดให้เราเดินทะลุไป
ภายในวัดจะมีพระนอนด้วย
เดินมาทางซ้ายมือจะเป็นพระธาตุหลวง
เข้าไปข้างในกันเถอะ
ค่าเข้าชมพระธาตุหลวงคนละ 25 บาท (5,000 กีบ)
มีขายโปสการ์ดด้วยนะเออ
อย่าลืมจุดธูปเทียนไหว้พระกันนะ
พระธาตุหลวงสวยมากจริงๆ
คนส่วนใหญ่มาก็จะเดินวนรอบพระธาตุ
พระธาตุหลวงเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของลาว และเป็นที่ประดิษฐานพระอุรังคธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย
เดินมาฝั่งตรงข้ามก็จะเจอสมเด็จพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช (พระองค์ทรงได้สร้างวัดสำคัญมากมาย มีการสร้างองค์พระธาตุหลวงขึ้นมาใหม่ให้ใหญ่โตเพื่อเป็นปูชนียสถานคู่แผ่นดินพระราชอาณาจักร และได้สร้างวัดในกำแพงเมืองอีกประมาณ 120 วัด และยังได้สร้างวัดพระแก้ว ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกต ที่นำมาจากเมืองเชียงใหม่อีกด้วย)
ไปกันต่อดีกว่าค่ะ ที่ต่อไปคือ "ประตูชัย"
พอรถจอดเดินเข้าไปก็จะเจอน้ำพุก่อนเลย
แล้วก็เจออาคารแบบนี้ สวยดีนะ แต่เขาเรียกว่าอะไรก็ไม่รู้เราลืมถาม
และนี่คือจุดหมายของเราประตูชัยนั่นเอง วันที่เราไปเป็นวันเสาร์คนเยอะมาก
ขึ้นด้านบนกันดีกว่า ค่าขึ้นคนละ 15 บาท เดินเหนื่อยมากหลายชั้นจริงๆ
เดินไปแวะถ่ายรูปไปตามชั้นต่างๆ พักเหนื่อยไปในตัว
รูปนี้ถ่ายจากชั้นบนสุด เสียดายที่มีธงติดไว้ แล้วยังโดนมัดอีก T^T
มีธงติดทั้งสี่ด้านเลยจ้า
เดินลงมาถ่ายรูปข้างล่างดีกว่าเนาะ
อีกฝั่งนึงจ้า เราไปตอนบ่ายดังนั้นฝั่งที่มีน้ำพุเลยมืดเพราะแสงเข้าอีกฝั่ง ใครอยากไปถ่ายแบบแสงสวยๆมีน้ำพุด้วยคงต้องไปตอนเช้า
[CR] ลาวหรอ? [เวียงจันทน์-หลวงพระบาง-วังเวียง] 5วัน 4คืน 3เมือง กับเรา 2 คน ในราคา 6000 บาท
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าการเดินทางครั้งนี้ เดินทางกัน 2 คน 3 เมือง 4 คืน 5 วัน ค่าใช้จ่ายตกคนละ 6,000 บาท (เราจะมีสรุปค่าใช้จ่ายไว้ตอนท้ายให้นะ) และมีการวางแผนค่อนข้างน้อย เราหาข้อมูลแค่ว่าจะไปที่ไหนบ้าง และแต่ละที่ไปได้ยังไง โดยมีการจองที่พักล่วงหน้าแค่คืนเดียวเท่านั้น การเดินทางของเราเริ่มเมื่อวันที่ 12 – 16/12/2015
จุดเริ่มต้นของเราคือที่ จังหวัดมหาสารคาม (เพื่อนๆคนไหนที่เดินทางจากจังหวัดอื่นก็มาเจอกับเราได้ที่จังหวัดอุดรธานีนะคะ)
ข้อมูลอื่นๆ
- อัตราแลกเปลี่ยนที่เราจะใช้คือ 1 บาท = 225 กีบ (ถ้าแลกที่ลาวธนาคารจะให้เรทดีกว่าตามร้านค้า)
- เวลาเข้าชมสถานที่ต่างๆจ่ายเงินกีบจะได้ราคาที่ถูกกว่าจ่ายเงินบาท
- สามารถใช้เงินบาทจ่ายได้ทุกที่ แต่เขาไม่รับเหรียญนะรับแต่แบงค์
- อย่าลืมนำแปรงสีฟัน ยาสีฟัน แชมพู สบู่ ผ้าเช็ดตัว (ผืนเล็ก) ติดไปด้วยเพราะที่พักหลายที่ไม่มีให้นะ
- แล้วก็ผ้าปิดปากปิดจมูก เพราะที่ลาวฝุ่นเยอะมากกกกก
- อย่าลืมไปทำ passport กันก่อนนะ เพราะเราไปกันหลายวัน ^^
- อย่าลืมเอายาประจำตัวไปด้วย แล้วก็บวกยาพารา ยาแก้เมารถเพิ่มเข้าไปด้วยนะ
เริ่มเดินทางไปกับเรากันเถอะ ...
วันที่ 1 มหาสารคาม-อุดร-เวียงจันทน์ (พระธาตุหลวง-ประตูชัย-วัดสระเกศ-หอพระแก้ว-หอคำ)
และนี่คือของพยุงชีพทั้งหมดของเราสองคน
ตื่นแต่เช้า(มาก) เราออกเดินทางตั้งแต่ตีห้า กะมารอขึ้นรถชมพูไปอุดรรอบ 5.40 น.
.. รถเต็มครับ รอรอบต่อไป
เราเลยได้ขึ้นรถเวลา 6.15 น. ถึง อุดรเวลา 10.00 น. (ค่ารถคนละ 116 บาท)
ถึงอุดรแล้วววว
พอถึงบขส.(บขส.เก่าตรงข้ามเซ็นทรัลอุดร) เราก็ไปจองตั๋วรถไปเวียงจันทน์รอบ 10.30 น. คนละ 85 บาท (ใช้พาสปอร์ตด้วยนะ) รถออกจริง 11.00 น. ถึงเวียงจันทน์ 13.30 น.
อันนี้เป็นรอบรถจ้า
ขึ้นรถกันเถอะ
รถที่เราจะไปกันคันนี้เลย
รอเก็บกระเป๋าแปปนึง
ภายในรถ
พอขึ้นรถก็จะมีคนเอาเอกสารเข้าประเทศลาวมาให้เรากรอก เราก็กรอกตามหัวข้อเลย
เราถึงด่านเวลา 12.55 น.
พอมาถึงด่านเราก็ต้องเขียนใบออกนอกประเทศกันก่อน โดยไปขอกับเจ้าหน้าที่ตรงตู้นี้นะ
สำหรับคนที่จะพกเงินเยอะนะ
เดินเข้าไปกันเลยยยยย ..เขาห้ามถ่ายรูปข้างในนะ
จากนั้นก็ไปขึ้นรถเพื่อไปด่านฝั่งลาว
พอถึงด่านลาว ลงรถปุ๊บไม่ต้องรีบไปยืนต่อคิวยื่น passport นะ
ให้ไปจ่ายเงินแลกคีย์การ์ดที่นี่ก่อน คนละ 55 บาท เราต้องใช้เพื่อข้ามไปฝั่งลาว ถ้าไม่ซื้อก่อนเราจะต้องเดินย้อนกลับมาซื้ออีกเสียเวลา
จากนั้นก็ไปต่อคิวยื่น passport พอเสร็จปุ๊บเดินต่อไปก็จะเป็นตู้ให้เราใส่คีย์การ์ดที่แลกมานั่นแหละ
แล้วก็ขึ้นรถไปเวียงจันทน์กันเลยจ้า
พอลงจากรถก็จะมีคนขับรถตุ๊กๆมาออกันเพียบเลย ถามว่าเราจะไปที่ไหน?
ตอนแรกที่คิดคือจะเหมารถไปจองตั๋วรถไปหลวงพระบางรอบสองทุ่มก่อนเพราะกลัวรถนอนเต็มแล้วก็ไปเที่ยว พระธาตุหลวง-ประตูชัย-วัดสระเกศ-หอพระแก้ว-หอคำ แล้วให้ไปส่งที่ขึ้นรถเป็นอันจบวัน เราเลยถามว่าแบบนี้ราคาเท่าไหร่ เขาบอก เขาเอาแค่ 800 บาท (ตลกล่ะ) คือเราเคยอ่านเจอมันใกล้กันมาก บางคนได้ราคา 500 บาท ยังบอกเลยว่าจริงๆ 300 บาทก็พอ แต่เราต่อได้แค่ 500 บาทก็เอาๆไปขี้เกียจพูด
แล้วพอคุยกับคนขับรถ เขาจะบอกเราว่าบขส.ที่จะไปจองตั๋วมันไกล 10 กว่ากิโล แล้วมันก็เต็มเร็วมาก ให้เราไปจองที่เซ็นเตอร์มันใกล้กว่า บอกว่าถ้าไปจองตั๋วกว่าจะกลับมาก็ได้เที่ยวนิดเดียวนู้นนี่นั่น พยายามให้เราไปจองที่เซ็นเตอร์เราเลยถามราคาแกบอกแพงกว่าไปจองที่บขส. 100 กว่าบาท เวลาขึ้นก็ขึ้นที่เซ็นเตอร์เลยแล้วจะมีรถไปส่งที่บขส. แต่ถ้าไม่จองที่เซ็นเตอร์ก็ต้องเที่ยวก่อนแล้วค่อยไปจองตั๋วเพราะเขาจะขาดทุนถ้าไปๆมาๆ (นั่นไงตอนคุยกันตอนแรกไม่ใช่แบบนี้ป่ะ?) แต่ถ้าเราเที่ยวเร็วรีบไปรีบกลับ ก็จะไปจองทัน ยังไม่เต็ม ซึ่งเราก็บอกงั้นเที่ยวก่อนค่อยไปจอง ตอนนั้นคือคิดแล้วว่าจะไม่เสียเงินแพงกว่า 100 กว่าบาทแน่ๆ แล้วถ้าไม่ได้รถนอนก็ช่าง
สาระ : แต่ละที่ใกล้กันมาก มากแบบมากจริงๆเดินได้ในเวลาไม่เกิน 10 นาที ถ้าใครมีเวลาศึกษานะนั่งรถเมล์ไปเลยค่ะ เพราะมีรถเมล์ไปถึงทุกที่และราคาถูกกว่ามากกกกก ไม่โดนโกงด้วย แต่ถ้าใครจะเหมาต่อราคาไปเหอะ 300 บาทนี่คือเหลือๆเลยนะ ส่วนเซ็นเตอร์เราไม่รู้นะว่ามันอยู่ที่ไหนเรารู้แต่ว่าอย่าไปค่ะ อย่าไปเสียเงินให้เขาแบบโง่ๆ เพราะจากที่เที่ยวห่างจากบขส.ไม่ถึง 10 กิโลตามที่มันหลอกเรา (แต่ทางคือแบบหลุม หลุมใหญ่มากกกก ฝุ่นก็เยอะมาก) บอกเขาไปเลยว่าถ้าไม่พามาจองก่อนก็ไม่ไป ต้องเด็ดขาด!
ระหว่างรอคนขับไปเอารถมารับก็คุยกับคนพื้นที่ไปเรื่อยๆ (เสน่ห์ของการแบคแพ็คมันคือมิตรภาพนี่แหละคะ ทริปนี้มีเพื่อนใหม่ๆตลอดทาง เจอใครก็คุยไปเรื่อยๆ ลองชวนคนข้างๆคุณคุยสิแล้วจะติดใจ ^^)
ตอนแรกคิดว่าคงได้รถแบบนี้
แต่เกินคาดได้รถตู้จ้า ถือว่าสมควรกับ 500 บาท (เวียงจันทน์อากาศร้อนมาก)
ที่แรกที่เราจะไปคือ "พระธาตุหลวง"
อันนี้เป็นวัดที่รถตู้มาจอดให้เราเดินทะลุไป
ภายในวัดจะมีพระนอนด้วย
เดินมาทางซ้ายมือจะเป็นพระธาตุหลวง
เข้าไปข้างในกันเถอะ
ค่าเข้าชมพระธาตุหลวงคนละ 25 บาท (5,000 กีบ)
มีขายโปสการ์ดด้วยนะเออ
อย่าลืมจุดธูปเทียนไหว้พระกันนะ
พระธาตุหลวงสวยมากจริงๆ
คนส่วนใหญ่มาก็จะเดินวนรอบพระธาตุ
พระธาตุหลวงเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของลาว และเป็นที่ประดิษฐานพระอุรังคธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย
เดินมาฝั่งตรงข้ามก็จะเจอสมเด็จพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช (พระองค์ทรงได้สร้างวัดสำคัญมากมาย มีการสร้างองค์พระธาตุหลวงขึ้นมาใหม่ให้ใหญ่โตเพื่อเป็นปูชนียสถานคู่แผ่นดินพระราชอาณาจักร และได้สร้างวัดในกำแพงเมืองอีกประมาณ 120 วัด และยังได้สร้างวัดพระแก้ว ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกต ที่นำมาจากเมืองเชียงใหม่อีกด้วย)
ไปกันต่อดีกว่าค่ะ ที่ต่อไปคือ "ประตูชัย"
พอรถจอดเดินเข้าไปก็จะเจอน้ำพุก่อนเลย
แล้วก็เจออาคารแบบนี้ สวยดีนะ แต่เขาเรียกว่าอะไรก็ไม่รู้เราลืมถาม
และนี่คือจุดหมายของเราประตูชัยนั่นเอง วันที่เราไปเป็นวันเสาร์คนเยอะมาก
ขึ้นด้านบนกันดีกว่า ค่าขึ้นคนละ 15 บาท เดินเหนื่อยมากหลายชั้นจริงๆ
เดินไปแวะถ่ายรูปไปตามชั้นต่างๆ พักเหนื่อยไปในตัว
รูปนี้ถ่ายจากชั้นบนสุด เสียดายที่มีธงติดไว้ แล้วยังโดนมัดอีก T^T
มีธงติดทั้งสี่ด้านเลยจ้า
เดินลงมาถ่ายรูปข้างล่างดีกว่าเนาะ
อีกฝั่งนึงจ้า เราไปตอนบ่ายดังนั้นฝั่งที่มีน้ำพุเลยมืดเพราะแสงเข้าอีกฝั่ง ใครอยากไปถ่ายแบบแสงสวยๆมีน้ำพุด้วยคงต้องไปตอนเช้า