ในป่ากว้างนั้นมีสัตว์น้อยใหญ่ ต่างร่วมใจร่วมรู้ร่วมรักษา
ด้วยว่าถูกปลูกฝังร่วมกันมา หากว่ามีปัญหาจักช่วยกัน
แต่ว่ามีเจ้าหมูอยู่ตัวหนึ่ง เป็นหมูซึ่งแสนขี้เกียจไม่ขยัน
บ้านอยู่ห่างโรงเรียนเพียงรั้วกั้น แต่ว่ามาสายทุกวันไม่แน่นอน
เรื่องการบ้านก็พอกไว้ไม่ทำส่ง ครูก็ลงบันทึกไว้และพร่ำสอน
ว่าควรตรงต่อเวลาไม่ขาดตอน อย่านิ่งนอนดูดายไม่ใส่ใจ
แต่เจ้าหมูตัวนั้นก็ไม่สน ยามถูกบ่นถูกว่าก็เฉไฉ
ด้วยตัวเขาคิดว่าไม่เป็นไร มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย
แต่วันหนึ่งในป่ากลับมีเหตุ เกิดอาเพศน้ำแห้งขอดไปเฉยเฉย
เมื่อสิ้นน้ำสัตว์ต่างต่างไม่เสบย ต่างก็เลยคิดว่าจะช่วยกัน
จะร่วมตัวร่วมกันไปภูเขา เพื่อจะเอาน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ในนั้น
ที่มีคนบอกว่าตอนกลางวัน บ่อหินที่สูงชันน้ำจะมา
แต่พอตอนกลางคืนน้ำจะลด ยิ่งดึกยิ่งน้ำหมดยากทดหา
กว่าจะมีน้ำขึ้นอีกเพลา ก็วันเพ็ญเดือนหน้าห่างออกไป
พวกเหล่าสัตว์จึงนัดแนะนัดพบเจอ บอกต่อต่อกันว่าเธอห้ามไถล
เนื่องจากว่าภูเขานั้นมันไกล หากเดินทางช้าไปจักไม่ทัน
ทุกทุกตัวต่างร่วมรู้ร่วมสัญญา ว่าจะมาตรงเวลาอย่างแม่นมั่น
รวมถึงเจ้าหมูขี้เกียจมากตัวนั้น ก็บอกกันบอกว่าจะมาไว
แต่พอถึงคราววันที่นัดพบ สัตว์ต่างต่างมาครบไม่เหลวไหล
แต่เจ้าหมูตัวเดิมมาช้าไป จึงไม่มีสัตว์ตัวไหนที่อยู่รอ
แต่เจ้าหมูไม่สำนึกว่ามันผิด ด้วยมันคิดว่าเดินไปก็เหนื่อยท้อ
อยู่ที่นี่ดีเสียอีกแค่เฝ้ารอ เดี๋ยวน้ำก็ถึงคอเมื่อเพื่อนมา
แต่มันไม่ฉุกคิดว่าจะมี ภัยที่รี่ตรงมาถึงตัวหนา
ภัยจากคนที่บุกมายังพนา เพื่อออกล่าหาสัตว์ไปย่างกิน
เมื่อสัตว์อื่นไม่มีหลงเหลืออยู่ มีแต่หมูที่วิ่งหลบตามก้อนหิน
สุดท้ายแล้วมันก็ต้องสิ้นชีวิน เมื่อไม่มีใครยลยินช่วยเหลือมัน
ดังนั้นจึงอยากฝากไว้ให้แง่คิด ว่าเรื่องเล็กเพียงนิดไม่ใหญ่นั้น
มันอาจเป็นปัญหาได้เหมือนกัน หากไม่รู้เท่าทันหรือปรับตัว...
นิทานกลอน : เมื่อหมูน้อยไม่ตรงต่อเวลา
ด้วยว่าถูกปลูกฝังร่วมกันมา หากว่ามีปัญหาจักช่วยกัน
แต่ว่ามีเจ้าหมูอยู่ตัวหนึ่ง เป็นหมูซึ่งแสนขี้เกียจไม่ขยัน
บ้านอยู่ห่างโรงเรียนเพียงรั้วกั้น แต่ว่ามาสายทุกวันไม่แน่นอน
เรื่องการบ้านก็พอกไว้ไม่ทำส่ง ครูก็ลงบันทึกไว้และพร่ำสอน
ว่าควรตรงต่อเวลาไม่ขาดตอน อย่านิ่งนอนดูดายไม่ใส่ใจ
แต่เจ้าหมูตัวนั้นก็ไม่สน ยามถูกบ่นถูกว่าก็เฉไฉ
ด้วยตัวเขาคิดว่าไม่เป็นไร มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย
แต่วันหนึ่งในป่ากลับมีเหตุ เกิดอาเพศน้ำแห้งขอดไปเฉยเฉย
เมื่อสิ้นน้ำสัตว์ต่างต่างไม่เสบย ต่างก็เลยคิดว่าจะช่วยกัน
จะร่วมตัวร่วมกันไปภูเขา เพื่อจะเอาน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ในนั้น
ที่มีคนบอกว่าตอนกลางวัน บ่อหินที่สูงชันน้ำจะมา
แต่พอตอนกลางคืนน้ำจะลด ยิ่งดึกยิ่งน้ำหมดยากทดหา
กว่าจะมีน้ำขึ้นอีกเพลา ก็วันเพ็ญเดือนหน้าห่างออกไป
พวกเหล่าสัตว์จึงนัดแนะนัดพบเจอ บอกต่อต่อกันว่าเธอห้ามไถล
เนื่องจากว่าภูเขานั้นมันไกล หากเดินทางช้าไปจักไม่ทัน
ทุกทุกตัวต่างร่วมรู้ร่วมสัญญา ว่าจะมาตรงเวลาอย่างแม่นมั่น
รวมถึงเจ้าหมูขี้เกียจมากตัวนั้น ก็บอกกันบอกว่าจะมาไว
แต่พอถึงคราววันที่นัดพบ สัตว์ต่างต่างมาครบไม่เหลวไหล
แต่เจ้าหมูตัวเดิมมาช้าไป จึงไม่มีสัตว์ตัวไหนที่อยู่รอ
แต่เจ้าหมูไม่สำนึกว่ามันผิด ด้วยมันคิดว่าเดินไปก็เหนื่อยท้อ
อยู่ที่นี่ดีเสียอีกแค่เฝ้ารอ เดี๋ยวน้ำก็ถึงคอเมื่อเพื่อนมา
แต่มันไม่ฉุกคิดว่าจะมี ภัยที่รี่ตรงมาถึงตัวหนา
ภัยจากคนที่บุกมายังพนา เพื่อออกล่าหาสัตว์ไปย่างกิน
เมื่อสัตว์อื่นไม่มีหลงเหลืออยู่ มีแต่หมูที่วิ่งหลบตามก้อนหิน
สุดท้ายแล้วมันก็ต้องสิ้นชีวิน เมื่อไม่มีใครยลยินช่วยเหลือมัน
ดังนั้นจึงอยากฝากไว้ให้แง่คิด ว่าเรื่องเล็กเพียงนิดไม่ใหญ่นั้น
มันอาจเป็นปัญหาได้เหมือนกัน หากไม่รู้เท่าทันหรือปรับตัว...