เก่งจัง แต่ถูกจับ ผีอะไรก็ช่วยไม่ได้

 อาจารย์อึ่ง เลือกส่วนมันสมองและหนังศีรษะนำไปต้ม ทำน้ำมันพรายและขี้ผึ้ง ส่วนตนแบ่งเอาส่วนกะโหลกด้านหลังและกะโหลกหน้าผาก นำไปทำปั้นเหน่ง เพราะตนเรียนวิชา “พรายกระซิบ” จากปั้นเหน่งผีตายโหง เพื่อให้มากระซิบบอกหวย หรือ ดูดวง แม้กระทั้งอยากรู้อะไรจะให้พรายกระซิบมาบอก ทำให้ อาจารย์อึ่ง อยากจะเรียนรู้วิชานี้บ้าง จึงอาสาไปหากะโหลกผีตายโหงและทุบเบ้าลักกะโหลกมาทำพิธี เมื่อได้กะโหลกตามต้องการแล้ว ตนนำกะโหลกหลังห่อด้วยผ้าขาว นำไปวางไว้ที่ป่าละเมาะทางสามเพ่ง บริเวณสะพานบ้านเก่าน้อย-บ้านดอนหวาย อ.เมือง จ.อุดรธานี ให้หลอกหลอนคนที่ผ่านไปมา เพื่อทดสอบความเฮี้ยน หากไม่หลอกแสดงว่าใช้การไม่ได้ ส่วนกะโหลกหน้าผาก หรือ ปั้นเหน่ง ตนได้ให้ น.ส.บังอร ลูกศิษย์สาวทอม ทำพิธีสวดปลุกเสกแต่ยังไม่สำเร็จ ตนจึงต้องรอสวดปลุกเสกในวันอังคาร ขึ้น 3 ค่ำ ตามตำรา เพื่อให้พรายมาเข้า ตนจึงนำปั้นเหน่ง ไปวางไว้ที่ใต้รักซ้อนข้างบ้าน เพื่อให้ผีพรายกระซิบรักตน ตามตำราที่ระบุไว้

อาจารย์อ๋อง ยังเล่าว่า กระทั่งในเวลาต่อมา ทราบว่าญาติเจ้าของหัวกะโหลกที่ไปลักขโมยมานั้น ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ จึงตัดสินใจหลบหนีไปอยู่บ้านญาติที่ อ.คำตากล้า จ.สกลนคร สักพัก ก่อนที่วันนี้จะย้อนกลับมา หวังจะเข้าไปเอาปั้นเหน่งที่สำนัก แต่มาถูกจับกุมได้ก่อน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัว นายอาทิตย์ ไปชี้จุดวางชิ้นส่วนกะโหลกบริเวณสะพานบ้านเก่าน้อย -ดอนหวาย พบผ้าขาวห่อกะโหลกวางอยู่ในพงหญ้าริมทาง พร้อมมีดแหลมพับที่ใช้สำหรับตัดหัวกะโหลก และค้อนที่ใช้ทุบเบ้าที่ทิ้งริมทางรถไฟบ้านเก่าน้อย

จากนั้นได้นำไปตรวจยึด “ปั้นเหน่ง” ที่ซุกซ่อน ในกระถางต้นไม้ ใต้ต้นรักซ้อน ข้างบ้านเช่าหลังหนึ่ง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาด้วง จ.เลย ได้จับกุมตัว นายณรงค์ ภูมิภูชิต หรือ อาจารย์อึ่ง ขณะหนีมาหลบซ่อนตัวที่บ้านภรรยา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวไปที่ สภ.น้ำโสม จ.อุดรธานี เพื่อสอบสวนและดำเนินคกีตามกฎหมายต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่