มันยาวมาก อ่านแล้วอาจจะงง ๆ นะคะ
ช่วงต้นปี ฝนตกหนักมาก มีปัญหาหลังคารั่ว น้ำฝนซึมลงมาที่ฝ้า ได้ยินเสียงน้ำหยดลงฝ้าตลอดเวลาที่ฝนตก ก็เลยรีบหาช่าง แต่ไม่รู้จักช่างที่ไหน ก็เลย search หาจาก internet เจอบริษัทนึงดูเชื่อถือได้ มีนวัตกรรม ได้รางวัลด้วย
ก็โทรติดต่อไป เค้าแนะนำว่าควรพ่นโฟม จะช่วยแก้ไขปัญหาหลังคารั่วได้ บอกราคามาว่าประมาณ 35,000 บาท เค้ายืนยันว่า ถึงราคาจะแพง แต่พ่นโฟมสามารถแก้ไขปัญหาระยะยาว อยู่ให้เป็น 10 ปี เราก็คิดว่า โอเคนะ จ่ายครั้งเดียว จบไป และบริษัทก็ส่งช่างมาดูปัญหาและประเมินราคาในวันนั้นเลย (เราก็ประทับใจ เร็วดีจัง)
วันรุ่งขึ้นบรษัทก็ส่งใบประเมินราคามาให้ทั้งหมด 45,000 บาท เราก็แหมนะเกินไปจากที่บอกตอนแรกตั้งหมื่นนึง แต่ก็ตกลงทำกะเค้านะคะ แต่มีเอ๊ะตอนเห็นรายการในใบสั่งซื้อ/ใบแจ้งหนี้ว่า มันเป็นการพ่นโฟมกันความร้อนตั้ง 35,000 บาท มีค่าวัสดุกันซึม 6,000 บาท เอง ก็เลยรีบโทรกลับไปบริษัท ว่าเราจะแก้ไขปัญหาหลักคือเรื่องหลังคารั่วซึมนะ ไม่ได้มีปัญหาบ้านร้อนแต่อย่างใด ได้รับคำตอบว่า บ้านเราเป็นบ้านเก่า ก่อนจะแก้ปัญหาหลังคารั่วได้ ต้องพ่นโฟมใต้หลังคาก่อน เพราะจะช่วยให้การยึดเกาะของหลังคาดีขึ้น โน้น นี่ นั่น ให้คำมั่นสัญญาว่า สุดท้ายแล้วจะสามารถแก้ไขปัญหาหลังคารั่วได้ เราก็งง ๆ แล้วก็รีบด้วยกลัวฝนตกหนัก ฝ้าจะร่วงลงมา ก็เลยจ่ายตังส์ ตกลงทำไปค่ะ
พอทำเสร็จ ฝนยังไม่ตก ก็ไม่มีปัญหาอะไร ที่รู้สึกได้เลยหลังทำคือ บ้านเย็นขึ้น สามารถเพิ่มอุณหภูมิแอร์ได้อีก 1-2 องศากันเลยทีเดียว แต่ที่ไม่ประทับใจคือ หลังทำเสร็จ ช่างไม่ได้ทำความสะอาดบ้านให้เลย เปื้อนไปทั้งในบ้านและนอกบ้านเลยค่ะ
แล้วหลังจากพ่นโฟมไป สังเกตว่าจะมีเสียงดังตึง ๆ เป็นช่วง ๆ ทิ้งช่วงสัก 20 – 30 นาที ดังมาจากหลังคา ก็โทรไปติดต่อบริษัท เค้าบอกจะส่งช่างมาดูให้ แล้วก็หายไปนานเป็นเดือน ๆ เลยค้า กว่าจะตามให้มาดูอาการได้ ช่างมาดูก็บอกว่า อาจจะเกิดจากแรงดันลม ไปทำให้มีเสียง แก้ไขไม่ได้ เราก็ทำได้ไม่ได้ยอมรับสภาพกันไป
จนเมื่อกลางเดือน ก.ย. ฝนตกเยอะอีกแล้ว แต่บ้านชั้นซ่อมหลังคาแล้วเฟ้ย ไม่รั่วแน่นอน แต่ๆๆๆ ดีใจได้ไม่นาน ปัญหาเดิมกลับมาค้า น้ำซึมลงมาที่ฝ้า คราวนี้หนักเลย คราวก่อนแค่ซึม ครั้งนี้ถึงขนาดหยดดิ๋ง ๆ ลงมาเลย ก็รีบโทรแจ้งบริษัทด่วน เพราะเค้ารับประกันที่ทำไป ประมาณ 2-3 วัน เค้าก็ส่งช่างมาดู บอกว่าปูนที่สันครอบหลังคาหลุด อุดให้แล้วนะ แต่ถ้าไม่หาย แสดงว่าน้ำฝนอาจจะล้นมากจากหลังคาที่ส่วนที่เป็นลอนคู่ เพราะที่ขึ้นไปดูมีที่แตกด้วย เราก็ถามว่า แล้วต้องแก้ไขยังไง ช่างบอกว่าก็รื้อทำส่วนที่เป็นลอนคู่ใหม่ ประเมินราคาเบื้องต้นขั้นต่ำ 25,000 บาท
เงิบเลยค่ะ อ้าว ไอ้ที่พูดตอนพ่นโฟมว่า แก้ไขปัญหาระยะยาวคือไรอ่ะ ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ว่าพ่นโฟมไม่ดี แต่มันอยู่ที่ว่า มันไม่ได้แก้ไขปัญหาให้ลูกค้าอย่างตรงจุด คือ หลังคารั่ว แล้วรอบแรกที่มาประเมิน ถ้าเห็นว่าปัญหาน่าจะมาจากกระเบื้องลอนคู่ มีกระเบื้องบางแผ่นแตก บริษัทควรแนะนำลูกค้าให้แก้ไขปัญหาก่อนที่จะมาขายลูกค้าเรื่องการพ่นโฟมรึเปล่า แอบเซ็ง
แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ให้บริษัทนี้กลับมาแก้ไขนะคะ เพราะไม่เชื่อใจอีกแล้ว ไปหาช่างอื่นที่เพื่อนแนะนำมาให้ แก้ไขโดยการเปลี่ยนหลังคาลอนคู่ เป็นเมทัลชีลไปเลยค่ะ แต่รู้สึกแย่คือ มันต้องรื้อโฟมกะหลังคาเก่าออกไปก่อน เพราะการพ่นโฟมทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนกระเบื้องทีละแผ่นได้เลย เท่ากับว่าเสียเงินพ่นโฟมไปฟรี ๆ เลย
ก็เลยจะแชร์ว่า ก่อนจะทำอะไรกะบ้าน อย่ารีบร้อน ศึกษาข้อมูลดี ๆ ก่อน ขอบคุณมากค้า
แชร์ประสบการณ์ การพ่นโฟมหลังคา เพื่อแก้ไขปัญหาหลังคารั่วซึม
ช่วงต้นปี ฝนตกหนักมาก มีปัญหาหลังคารั่ว น้ำฝนซึมลงมาที่ฝ้า ได้ยินเสียงน้ำหยดลงฝ้าตลอดเวลาที่ฝนตก ก็เลยรีบหาช่าง แต่ไม่รู้จักช่างที่ไหน ก็เลย search หาจาก internet เจอบริษัทนึงดูเชื่อถือได้ มีนวัตกรรม ได้รางวัลด้วย
ก็โทรติดต่อไป เค้าแนะนำว่าควรพ่นโฟม จะช่วยแก้ไขปัญหาหลังคารั่วได้ บอกราคามาว่าประมาณ 35,000 บาท เค้ายืนยันว่า ถึงราคาจะแพง แต่พ่นโฟมสามารถแก้ไขปัญหาระยะยาว อยู่ให้เป็น 10 ปี เราก็คิดว่า โอเคนะ จ่ายครั้งเดียว จบไป และบริษัทก็ส่งช่างมาดูปัญหาและประเมินราคาในวันนั้นเลย (เราก็ประทับใจ เร็วดีจัง)
วันรุ่งขึ้นบรษัทก็ส่งใบประเมินราคามาให้ทั้งหมด 45,000 บาท เราก็แหมนะเกินไปจากที่บอกตอนแรกตั้งหมื่นนึง แต่ก็ตกลงทำกะเค้านะคะ แต่มีเอ๊ะตอนเห็นรายการในใบสั่งซื้อ/ใบแจ้งหนี้ว่า มันเป็นการพ่นโฟมกันความร้อนตั้ง 35,000 บาท มีค่าวัสดุกันซึม 6,000 บาท เอง ก็เลยรีบโทรกลับไปบริษัท ว่าเราจะแก้ไขปัญหาหลักคือเรื่องหลังคารั่วซึมนะ ไม่ได้มีปัญหาบ้านร้อนแต่อย่างใด ได้รับคำตอบว่า บ้านเราเป็นบ้านเก่า ก่อนจะแก้ปัญหาหลังคารั่วได้ ต้องพ่นโฟมใต้หลังคาก่อน เพราะจะช่วยให้การยึดเกาะของหลังคาดีขึ้น โน้น นี่ นั่น ให้คำมั่นสัญญาว่า สุดท้ายแล้วจะสามารถแก้ไขปัญหาหลังคารั่วได้ เราก็งง ๆ แล้วก็รีบด้วยกลัวฝนตกหนัก ฝ้าจะร่วงลงมา ก็เลยจ่ายตังส์ ตกลงทำไปค่ะ
พอทำเสร็จ ฝนยังไม่ตก ก็ไม่มีปัญหาอะไร ที่รู้สึกได้เลยหลังทำคือ บ้านเย็นขึ้น สามารถเพิ่มอุณหภูมิแอร์ได้อีก 1-2 องศากันเลยทีเดียว แต่ที่ไม่ประทับใจคือ หลังทำเสร็จ ช่างไม่ได้ทำความสะอาดบ้านให้เลย เปื้อนไปทั้งในบ้านและนอกบ้านเลยค่ะ
แล้วหลังจากพ่นโฟมไป สังเกตว่าจะมีเสียงดังตึง ๆ เป็นช่วง ๆ ทิ้งช่วงสัก 20 – 30 นาที ดังมาจากหลังคา ก็โทรไปติดต่อบริษัท เค้าบอกจะส่งช่างมาดูให้ แล้วก็หายไปนานเป็นเดือน ๆ เลยค้า กว่าจะตามให้มาดูอาการได้ ช่างมาดูก็บอกว่า อาจจะเกิดจากแรงดันลม ไปทำให้มีเสียง แก้ไขไม่ได้ เราก็ทำได้ไม่ได้ยอมรับสภาพกันไป
จนเมื่อกลางเดือน ก.ย. ฝนตกเยอะอีกแล้ว แต่บ้านชั้นซ่อมหลังคาแล้วเฟ้ย ไม่รั่วแน่นอน แต่ๆๆๆ ดีใจได้ไม่นาน ปัญหาเดิมกลับมาค้า น้ำซึมลงมาที่ฝ้า คราวนี้หนักเลย คราวก่อนแค่ซึม ครั้งนี้ถึงขนาดหยดดิ๋ง ๆ ลงมาเลย ก็รีบโทรแจ้งบริษัทด่วน เพราะเค้ารับประกันที่ทำไป ประมาณ 2-3 วัน เค้าก็ส่งช่างมาดู บอกว่าปูนที่สันครอบหลังคาหลุด อุดให้แล้วนะ แต่ถ้าไม่หาย แสดงว่าน้ำฝนอาจจะล้นมากจากหลังคาที่ส่วนที่เป็นลอนคู่ เพราะที่ขึ้นไปดูมีที่แตกด้วย เราก็ถามว่า แล้วต้องแก้ไขยังไง ช่างบอกว่าก็รื้อทำส่วนที่เป็นลอนคู่ใหม่ ประเมินราคาเบื้องต้นขั้นต่ำ 25,000 บาท
เงิบเลยค่ะ อ้าว ไอ้ที่พูดตอนพ่นโฟมว่า แก้ไขปัญหาระยะยาวคือไรอ่ะ ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ว่าพ่นโฟมไม่ดี แต่มันอยู่ที่ว่า มันไม่ได้แก้ไขปัญหาให้ลูกค้าอย่างตรงจุด คือ หลังคารั่ว แล้วรอบแรกที่มาประเมิน ถ้าเห็นว่าปัญหาน่าจะมาจากกระเบื้องลอนคู่ มีกระเบื้องบางแผ่นแตก บริษัทควรแนะนำลูกค้าให้แก้ไขปัญหาก่อนที่จะมาขายลูกค้าเรื่องการพ่นโฟมรึเปล่า แอบเซ็ง
แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ให้บริษัทนี้กลับมาแก้ไขนะคะ เพราะไม่เชื่อใจอีกแล้ว ไปหาช่างอื่นที่เพื่อนแนะนำมาให้ แก้ไขโดยการเปลี่ยนหลังคาลอนคู่ เป็นเมทัลชีลไปเลยค่ะ แต่รู้สึกแย่คือ มันต้องรื้อโฟมกะหลังคาเก่าออกไปก่อน เพราะการพ่นโฟมทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนกระเบื้องทีละแผ่นได้เลย เท่ากับว่าเสียเงินพ่นโฟมไปฟรี ๆ เลย
ก็เลยจะแชร์ว่า ก่อนจะทำอะไรกะบ้าน อย่ารีบร้อน ศึกษาข้อมูลดี ๆ ก่อน ขอบคุณมากค้า