ทรัสต์ LHHOTEL เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรก
มั่นใจศักยภาพทำเลโรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21
ช่วยหนุนอัตราผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน
ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช โฮเทล (LHHOTEL) เดินหน้าเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นวันแรก หลังเสนอขายให้กับนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยในราคา 10 บาทต่อหน่วย มั่นใจเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนรับผลตอบแทนการลงทุนที่ดีและสม่ำเสมอ ตลอดอายุสิทธิการเช่าประมาณ 25 ปี ชูจุดเด่นที่ตั้งโรงแรมอยู่ในย่านอโศก-สุขุมวิท ทำเลจุดเชื่อมต่อธุรกิจการค้าทั้งรถไฟฟ้า BTS และ MRT พร้อมปัจจัยเกื้อหนุนจากภาพรวมธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต ช่วยผลักดันผลการดำเนินงานของโรงแรมให้เติบโตได้เป็นอย่างดีในระยะยาว
นางจันทนา กาญจนาคม กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช โฮเทล (LHHOTEL) เปิดเผยว่า หน่วยลงทุนของทรัสต์ LHHHOTEL เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรกในวันที่ 22 ธันวาคม 2558 หลังจากเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) ก่อนหน้านี้ในราคาหน่วยละ 10 บาท โดยได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยให้ความสนใจจองซื้อเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ทรัสต์ LHHOTEL มีนโยบายลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์และกรรมสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์ของโครงการโรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 ในย่านอโศก-สุขุมวิท เป็นระยะเวลาประมาณ 25 ปี ซึ่งโรงแรมดังกล่าวอยู่ติดจุดเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนของรถไฟฟ้า BTS และ MRT อโศก-สุขุมวิท ที่มีศักยภาพสูง นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ติดศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 แหล่งรวมร้านอาหาร แฟชั่น โรงภาพยนตร์และซุปเปอร์
มาร์เก็ตชั้นนำมากกว่า 500 ร้านค้า จึงทำให้ทำเลดังกล่าวเป็นศูนย์รวมภาคธุรกิจการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว บันเทิงและไลฟ์สไตล์หลากหลายรูปแบบ
“เรามีความเชื่อมั่นว่า หลังจากทรัสต์ LHHOTEL เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะได้รับความสนใจและการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เพราะด้วยศักยภาพของทำเลที่ตั้ง การให้บริการของโรงแรมที่ได้มาตรฐานระดับสากล และมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งใกล้แหล่งช้อปปิ้งชั้นนำและอยู่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ เป็นปัจจัยสนับสนุนให้โรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 ทำผลการดำเนินงานโดดเด่นทั้งอัตราการเข้าพักเมื่อเทียบกับจำนวนห้องพักและรายได้จากค่าห้องพักที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นและสามารถสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับนักลงทุน” นางจันทนา กล่าว
นางสาวกนกวลี วิริยประไพกิจ กรรมการ บริษัท แอล แอนด์ เอช พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ในเครือ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของไทย กล่าวว่า โรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 นับเป็นทรัพย์สินที่มีศักยภาพสูงในการสร้างรายได้ โดยเป็นอาคารสูง 28 ชั้นและชั้นใต้ดิน 2 ชั้น มีพื้นที่รวมประมาณ 47,298 ตารางเมตร ซึ่งมีจุดเด่นด้านห้องพักที่ได้รับการออกแบบและตกแต่งให้รองรับได้ทั้งกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ โดยนับจากเปิดให้บริการมากว่า 3 ปี หรือตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2555 เป็นต้นมา โรงแรมมีอัตราเข้าพักเฉลี่ยต่อปีในช่วงปี 2555 - 2557 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 85 และมีอัตราค่าเช่าห้องพักในปี 2555 - พ.ค.2558 เติบโตเฉลี่ยปีละร้อยละ 13
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานของโรงแรมในอนาคต มองว่าจากปัจจัยเกื้อหนุนของภาพรวมธุรกิจโรงแรมของไทยที่คาดว่าจะขยายตัวได้ดี จากปัจจัยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับกรุงเทพฯ ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากฝั่งเอเชียทั้งญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลี ฯลฯ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของโรงแรม ยังนิยมเข้ามาท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ก่อนใช้จุดเชื่อมต่อเดินทางไปท่องเที่ยวภูมิภาคต่างๆ ของไทย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Credit: http://goo.gl/ytW5jP
LHHOTEL เข้าเทรด
มั่นใจศักยภาพทำเลโรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21
ช่วยหนุนอัตราผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน
ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช โฮเทล (LHHOTEL) เดินหน้าเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นวันแรก หลังเสนอขายให้กับนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยในราคา 10 บาทต่อหน่วย มั่นใจเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนรับผลตอบแทนการลงทุนที่ดีและสม่ำเสมอ ตลอดอายุสิทธิการเช่าประมาณ 25 ปี ชูจุดเด่นที่ตั้งโรงแรมอยู่ในย่านอโศก-สุขุมวิท ทำเลจุดเชื่อมต่อธุรกิจการค้าทั้งรถไฟฟ้า BTS และ MRT พร้อมปัจจัยเกื้อหนุนจากภาพรวมธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต ช่วยผลักดันผลการดำเนินงานของโรงแรมให้เติบโตได้เป็นอย่างดีในระยะยาว
นางจันทนา กาญจนาคม กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช โฮเทล (LHHOTEL) เปิดเผยว่า หน่วยลงทุนของทรัสต์ LHHHOTEL เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรกในวันที่ 22 ธันวาคม 2558 หลังจากเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) ก่อนหน้านี้ในราคาหน่วยละ 10 บาท โดยได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยให้ความสนใจจองซื้อเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ทรัสต์ LHHOTEL มีนโยบายลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์และกรรมสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์ของโครงการโรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 ในย่านอโศก-สุขุมวิท เป็นระยะเวลาประมาณ 25 ปี ซึ่งโรงแรมดังกล่าวอยู่ติดจุดเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนของรถไฟฟ้า BTS และ MRT อโศก-สุขุมวิท ที่มีศักยภาพสูง นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ติดศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 แหล่งรวมร้านอาหาร แฟชั่น โรงภาพยนตร์และซุปเปอร์
มาร์เก็ตชั้นนำมากกว่า 500 ร้านค้า จึงทำให้ทำเลดังกล่าวเป็นศูนย์รวมภาคธุรกิจการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว บันเทิงและไลฟ์สไตล์หลากหลายรูปแบบ
“เรามีความเชื่อมั่นว่า หลังจากทรัสต์ LHHOTEL เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะได้รับความสนใจและการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เพราะด้วยศักยภาพของทำเลที่ตั้ง การให้บริการของโรงแรมที่ได้มาตรฐานระดับสากล และมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งใกล้แหล่งช้อปปิ้งชั้นนำและอยู่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ เป็นปัจจัยสนับสนุนให้โรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 ทำผลการดำเนินงานโดดเด่นทั้งอัตราการเข้าพักเมื่อเทียบกับจำนวนห้องพักและรายได้จากค่าห้องพักที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นและสามารถสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับนักลงทุน” นางจันทนา กล่าว
นางสาวกนกวลี วิริยประไพกิจ กรรมการ บริษัท แอล แอนด์ เอช พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ในเครือ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของไทย กล่าวว่า โรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 นับเป็นทรัพย์สินที่มีศักยภาพสูงในการสร้างรายได้ โดยเป็นอาคารสูง 28 ชั้นและชั้นใต้ดิน 2 ชั้น มีพื้นที่รวมประมาณ 47,298 ตารางเมตร ซึ่งมีจุดเด่นด้านห้องพักที่ได้รับการออกแบบและตกแต่งให้รองรับได้ทั้งกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ โดยนับจากเปิดให้บริการมากว่า 3 ปี หรือตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2555 เป็นต้นมา โรงแรมมีอัตราเข้าพักเฉลี่ยต่อปีในช่วงปี 2555 - 2557 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 85 และมีอัตราค่าเช่าห้องพักในปี 2555 - พ.ค.2558 เติบโตเฉลี่ยปีละร้อยละ 13
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานของโรงแรมในอนาคต มองว่าจากปัจจัยเกื้อหนุนของภาพรวมธุรกิจโรงแรมของไทยที่คาดว่าจะขยายตัวได้ดี จากปัจจัยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับกรุงเทพฯ ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากฝั่งเอเชียทั้งญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลี ฯลฯ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของโรงแรม ยังนิยมเข้ามาท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ก่อนใช้จุดเชื่อมต่อเดินทางไปท่องเที่ยวภูมิภาคต่างๆ ของไทย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้